เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 719 หมอที่ไม่เคยประจำแผนกผู้ป่วยนอกไม่ใช่หมอที่สมบูรณ์แบบ!
- Home
- เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
- บทที่ 719 หมอที่ไม่เคยประจำแผนกผู้ป่วยนอกไม่ใช่หมอที่สมบูรณ์แบบ!
ช่วงบ่ายมีคนไข้ทยอยมาอีกหลายคน
คนหนึ่งคือเด็กหนุ่มมัธยมปลายที่มาระบายอารมณ์
คนหนึ่งคือคนแก่ที่ไม่มีที่นั่งจึงเข้ามานั่งรอ
คนหนึ่งเป็นคุณป้าที่รอเข้าแถวไม่ไหว มาให้เฉินชางออกใบรับรองแพทย์
และมีพี่สาวที่เห็นเฉินชางหล่อเลยอยากยั่วยวนเขา
……
เฉินชางพบว่า แผนกผู้ป่วยนอกไม่ได้สนุกเหมือนแผนกฉุกเฉิน
ตอนที่การประจำแผนกผู้ป่วยนอกอันยาวนานนี้กำลังจะจบลง ในที่สุดก็มีคนไข้ที่เข้าท่าเข้ามาคนหนึ่ง! อย่างน้อยก็มีคนที่ไม่สบายจริงๆ แล้ว
คุณป้าคนหนึ่ง อายุเกือบหกสิบปี
หลังจากประสบการณ์ในช่วงบ่าย เฉินชางสงบลงไปตั้งนานแล้ว แม้เคยได้ยินว่าแผนกผู้ป่วยนอกแปลกประหลาดมาก แต่ในที่สุดวันนี้ก็ได้เห็นแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่มีคำพูดว่า หมอที่ไม่เคยประจำแผนกผู้ป่วยนอกไม่ใช่หมอที่สมบูรณ์แบบ
หลังจากรูดบัตรประจำตัวผู้ป่วย บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปรากฏข้อมูลของคุณป้า
ในมือคุณป้าถือถุงใสที่ขนาดไม่เล็ก ข้างในเต็มไปด้วยผลตรวจและหนังสือการรักษาต่างๆ
หลังจากคุณป้านั่งลง ก็ยังคงไออย่างกลั้นไม่อยู่ ผ่านไปครู่หนึ่งจึงบรรเทาลง!
หลังจากคุณป้าไอเสร็จ ก็ดูเกรงใจมาก!
“คุณหมอคะ ขอโทษจริงๆ ฉันกลั้นไม่ไหวจริงๆ!”
เฉินชางยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ถ้าคุณสบายดี ก็คงไม่มาโรงพยาบาลหรอก คุณป้าไม่สบายตรงไหนครับ”
คุณป้ารูปร่างผอมบาง มีมารยาทมาก ได้ยินคำพูดของเฉินชางก็อดยิ้มไม่ได้ “ช่วงนี้ฉันไอแห้งตลอดเลยค่ะ เป็นมาเดือนกว่าแล้ว”
เฉินชางพยักหน้า ดูข้อมูลของคุณป้าคนนี้ เป็นคุณครูท่านหนึ่งของมณฑลตงหยางเขตว่านอัน
เขตว่านอันห่างจากพอสมควร แม้ขับรถก็ต้องใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง เป็นเขตยากไร้
ฤดูหนาวของมณฑลตงหยางโดยทั่วไปค่อนข้างหนาวแห้ง มีอาการไอเป็นหวัดก็เป็นเรื่องปกติ เฉินชางจึงไม่ได้ใส่ใจ
ระหว่างที่คุยกัน คุณป้าหยิบผลตรวจและหนังสือประวัติการรักษาออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้เฉินชาง
“คุณหมอลองดูค่ะ เอกสารพวกนี้เป็นผลตรวจจากแผนกผู้ป่วยนอกของฉันเอง อันนี้คือเอกซเรย์ทรวงอก อันนี้คือ CT ปอด และพวกใบผลตรวจ”
เฉินชางเห็นฟิล์มเอกซเรย์กองใหญ่ขนาดนี้ก็อึ้งไป “ตรวจมาเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ ทำไมคุณไม่ทำเรื่องแอดมิทตรวจอย่างละเอียดสักหน่อย”
การพัฒนาด้านเศรษฐกิจของมณฑลตงหยางอยู่ในระดับปานกลาง สำหรับค่าประกันสุขภาพเบิกได้เพียงแค่ผู้ป่วยในเท่านั้น ส่วนผู้ป่วยนอกโดยทั่วไปต้องรับผิดชอบเอง
เพราะฉะนั้นตอนที่เฉินชางเห็นผลตรวจมากมายขนาดนี้ก็รู้ว่าคุณป้าจะต้องเสียเงินไปไม่น้อยแน่ เขาจึงเตือนด้วยความหวังดี
คุณป้ายิ้ม “ฉันเป็นครูห้องพิเศษ พวกนักเรียนกำลังจะเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ฉันไม่กล้าลาเลยค่ะ หาเวลาว่างวันเสาร์อาทิตย์รีบมาหาหมอ แต่หาหมอที่เขตว่านอันมาตั้งนานก็ไม่ดีขึ้น จนตอนนี้ยังไม่เจอสาเหตุ ฉันเลยต้องมาหาหมอในมณฑล
วันนี้วันศุกร์ ช่วงบ่ายไม่มีสอน ฉันเลยให้ลูกชายพาฉันมาหาหมอในมณฑล แต่ฉันเห็นว่าคิวผู้เชี่ยวชาญของผู้อำนวยการฉินเต็มแล้ว ลงทะเบียนตอนนี้ไม่ทันแล้ว ฉันคิดว่ารอตอนลงทะเทียนพรุ่งนี้เช้า จะมาลงทะเบียนแต่เช้า ลูกชายฉันกตัญญู คืนนี้เขาจะรอเข้าคิวอยู่ที่นี่”
เฉินชางพยักหน้า
ฉินเสี้ยวยวนเป็นผู้อาวุโสในแผนกอายุรศาสตร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานราชการ ชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ!
แผนกอายุรศาสตร์ของโรงพยาบาลอันดับสองถือว่าพัฒนามากในระดับมณฑล โดยเฉพาะอายุรศาสตร์อย่างแผนกเนื้องอกวิทยา แผนกระบบทางเดินอาหาร
คิวของฉินเสี้ยวยวนแน่นมาก คิวหนึ่งอาจจะแค่ห้าสิบหยวน แต่จำกัดเพียงแค่หนึ่งร้อยคิว คนทั่วไปยากจะได้คิว
อีกอย่าง กล่าวตามตรง การลงทะเบียนของโรงพยาบาลซับซ้อนอยู่แล้ว อย่างเช่นหนึ่งร้อยคิวของฉินเสี้ยวยวน ในอินเตอร์เน็ตเปิดให้ลงทะเบียนประมาณสามสิบคน หลังจากนั้นเปิดคิวอีกประมาณห้าสิบคิว ส่วนอีกยี่สิบคิว ฝ่ายลงทะเบียนเป็นฝ่ายจัดการเอง
เรื่องพวกนี้แพทย์แทรกแซงไม่ได้เลย ฉินเสี้ยวยวนเองก็ช่วยไม่ได้ เพราะมีนโยบายและมาตรการของโรงพยาบาล
ได้แต่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
อย่างน้อยแค่รับประกันว่าประชาชนลงทะเบียนได้แปดสิบกว่าคนก็พอแล้ว
สำหรับยี่สิบกว่าคิวนั้นก็ไม่ได้ยกให้พวกค้ากำไรเกินควรทั้งหมด ยังรวมถึงคิวที่ให้พนักงานในบริษัทไปใช้เพื่อติดหนี้บุญคุณ
เรื่องพวกนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของคนเป็นแพทย์
แม้แต่ฉินเสี้ยวยวนก็พูดอะไรไม่ได้ เขาทำได้เพียงเพิ่มจำนวนคิวทุกๆ วัน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งร้อยยี่สิบคิว
เพราะฉะนั้น คนไข้ที่มาจากต่างถิ่นมากมาย โดยทั่วไปจะต้องรอเอาคิวในห้องทะเบียนของโถงแผนกฉุกเฉินทั้งคืน
สถานการณ์แบบนี้พบได้บ่อยกว่าในทุกโรงพยาบาลเฉพาะทาง
ถือว่าฉินเสี้ยวยวนเก่ง วันหนึ่งรักษาคนไข้หนึ่งร้อยกว่าคน หมอที่มีชื่อเสียงและผู้เชี่ยวชาญมากมายวันหนึ่งจำกัดแค่ยี่สิบคิวเท่านั้น คุณไม่มีทางลงทะเบียนทัน
ไม่อย่างนั้นจะกล่าวว่าลำบากหรือ
ได้ยินคำพูดของคุณป้า เฉินชางไม่ได้พูดว่าจะลงทะเบียนให้แต่อย่างใด ถึงอย่างไรโรงพยาบาลก็มีกฏของโรงพยาบาล เฉินชางดูแลทุกคนหมดไม่ได้
เฉินชางหยิบเอกซเรย์ทรวงอกและ CT ทรวงอกขึ้นมาดู
โชคดีที่เฉินชางค่อนข้างเชี่ยวชาญในการตีความผลลัพธ์ของภาพเอกซเรย์ทรวงอก
หลังจากดูเอกซเรย์และ CT ทรวงอก เฉินชางก็โล่งอกไปที ทุกอย่างปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเลย
โดยพื้นฐานแล้วตัดความเป็นไปได้ของโรคปอด อย่างเช่น โรคปอดบวมและมะเร็งปอดออกได้
เฉินชางดูผลตรวจมารอบหนึ่งแล้ว ยิ่งดูยิ่งตกใจ
ปกติ!
ปกติ!
ปกติทุกอย่าง!
แบบนี้ไม่สมเหตุผลหรือเปล่า
คนที่ปกติทุกอย่างจะไอได้อย่างไร
ถึงว่าคนในพื้นที่วินิจฉัยไม่ออก
เปิดประวัติการรักษาไปหลายหน้า เฉินชางยิ่งประหลาดใจขึ้นมา
ความคิดเห็นการวินิจฉัยทั้งหมดล้วนเขียนว่า: รอตรวจ ยังไม่ชัดเจน!
ทว่าตอนที่เขาเห็นประวัติการป่วยว่ามีความดันโลหิตสูง จู่ๆ เฉินชางก็ถามเหมือนคิดอะไรอยู่ “คุณป้าเคยความดันสูงเหรอครับ”
คุณป้าพยักหน้า “ค่ะ ความดันสูงมาสิบกว่าปีแล้ว กินแอมโลดิปีนลดความดันมาโดยตลอด”
เฉินชางได้ยินว่าเป็นแอมโลดิปีนก็ขมวดคิ้วทันที
ตอนนี้หลักการชัดเจนมาก!
ผู้ป่วยไม่มีประวัติเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคกรดไหลย้อน แน่นท้อง และไม่ได้ใช้ยาลดความดันโลหิตที่อาจทำให้เกิดอาการไอแห้ง สาเหตุของอาการไอแห้งยังไม่ชัดเจน
เกิดอะไรขึ้นกันแน่
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางพลันพูดว่า “ผมฟังปอดให้นะครับ”
ว่าแล้วเฉินชางหยิบเครื่องฟังขึ้นมา ฟังปอดส่วนหน้า ส่วนหลังและเสียงลมหายใจ
ตอนที่เฉินชางเข้าไปใกล้นี้เอง เขาจึงค้นพบว่ามีตำแหน่งหนึ่งผิดปกติ จึงถามว่า “คุณป้าครับ เคยไทรอยด์เป็นพิษไหมครับ หรือเคยเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ไหมครับ”
คุณป้าก็นับว่ามีการศึกษา พอจะรู้เรื่องพวกนี้ หลังจากได้ยินคำถามของเฉินชางก็ส่ายหน้าทันที “ไม่น่าจะมีนะคะ!”
เฉินชางได้ยินแบบนี้ พลันพูดว่า “ผมคลำต่อมไทรอยด์ให้นะครับ!”
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางเริ่มใช้สองมือตรวจต่อมไทรอยด์
พอตรวจแล้วเฉินชางขมวดคิ้วทันที!
“ต่อมไทรอยด์บวม ด้านซ้ายบวมระดับหนึ่ง ด้านขวาบวมระดับสาม คลำได้หลายก้อน และด้านขวาคลำได้ก้อนแข็งประมาณสองเซนติเมตร”
คราวนี้ เฉินชางก็เข้าใจกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันที!
บางทีอาจจะเจอสาเหตุแล้ว “คุณป้าครับ ผมแนะนำให้คุณป้าไปทำอัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์ชนิดสี ตอนนี้ยังไม่เลิกงาน รีบไปทำสักหน่อย ต่อมไทรอยด์ของคุณป้าบวม และยังคลำเจอก้อน ผมสงสัยว่าที่ไอแห้งเพราะก้อนพวกนี้ไปรบกวนประสาทครับ!”
มีประโยคหนึ่งที่เฉินชางไม่ได้พูดออกมา เขาสงสัยว่าผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์!