เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 731 มิเรอร์ซินโดรม
หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ เฉินชางก็วิเคราะห์ความ น่าจะเป็ นจานวนหนึ่งจากข้อมูลพวกนี้!
ภารกิจต่อเนื่องใช ้ความคืบหน้าของภารกิจเดียวกัน!
นี่ก็หมายความว่ าหลังจากภารกิจต่อเนื่องสิ้นสุดลง ความ คืบหน้าถึงร ้อยเปอร ์เซ็นต์จริงๆ แล้วความจริงที่ว่าก็เป็ นเรื่องเดียวกัน อยู่ดี
ตกลงมันเป็ นเรื่องอะไรกันแน่
ตอนนี้เฉินชางไม่อาจรู ้แต่ดูจากของรางวัลระบบ
รางวัลภารกิจตามขั้นยังเหลือเฟือขนาดนี้ รางวัลภารกิจสุดท้าย …ต้องยิ่งน่าพอใจแน่ นี่ก็หมายความว่าระดับความยากต้องค่อนข้าง สูง
จางเค่อฉินอดมองเฉินชางปราดหนึ่งไม่ได้ “หัวหน้าเฉิน…ตกลง คนคนนี้เป็ นโรคประสาทหรือเปล่า”
เฉินชางเห็นการแจ้งเตือนภารกิจรอบที่สองของระบบ
[เงื่อนไขภารกิจ: ช่วยจางเค่อฉินวินิจฉัยโรคของนักโทษหยวน ฮุยได้ส าเร็จ]
ในนั้นมีคาสาคัญอยู่สองคา คาหนึ่งคือ ‘วินิจฉัยโรค’ อีกคาคือ ‘นักโทษ’ ดูคล้ายไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน
แต่ความจริงแล้วเบื้องหลังมีเบาะแสซ่อนอยู่สองอย่าง
นั่นก็คือหยวนฮุยคนนี้ต้องมีอาการป่วย จาเป็ นต้องให้ตนวินิจฉัย
ข้อสองคือหยวนฮุยต้องเป็ นนักโทษ!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร หยวนฮุยคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
เฉินชางคิดไปคิดมาแล้วจึงโทรหาหัวหน้าตู้ที่อยู่แผนกประสาท วิทยากับหัวหน้าหลู่ที่แผนกศัลยกรรมประสาท
ถึงอย่างไรภารกิจก็ไม่ได้บอกว่าต้องท าให้ส าเร็จคนเดียว มี ผู้เชี่ยวชาญพวกนี้เพิ่มเข้ามาต้องสาเร็จเร็วมากแน่
ที่จริงตอนนี้เฉินชางก็ดูออกแล้ว สิ่งที่จางเค่อฉินสงสัยในตอนนี้ ก็คือ หยวนฮุยคนนี้แกล้งทาเป็ นโรคประสาทหรือไม่กันแน่
ในตอนนี้เอง จู่ๆ แผนกฉุกเฉินก็มีผู้ป่วยเข้ามาคนหนึ่ง
พอเข้ามาแล้วก็เริ่มหายใจหอบเสียงดัง มือทั้งสองบีบคอไว้ “หมอ …ช่วยผมด้วยๆ…ผมหายใจไม่ออก!”
เฉินชางหน้าเปลี่ยนสีทันที ไม่ว่าหยวนฮุยจะเป็ นผู้ป่ วยหรือไม่ คนนี้ก็เป็ นผู้ป่วยแน่ๆ
หวังเชียนเห็นเสื้อถูก ‘เจ้าหัวหงอก’ คนนั้นกอดเอาไว้ก็จนใจ พา ชายคนนั้นเข้าห้องฉุกเฉินทันที
หลังจากตรวจดูจึงพบว่าเป็ นผู้ป่วยแพ้กุ้งเครย์ฟิช คอก็เลยบวม
พอรักษาอาการแพ้แล้ว ไม่นานผู้ป่วยก็อาการคงที่
แต่ตอนนี้เอง อู๋กังพลันรีบร ้อนวิ่งเข้ามาในห้องฉุกเฉิน
“หัวหน้าเฉิน! คุณรีบมาดูเร็ว หยวนฮุยคนนั้น…เขา…”
เฉินชางเห็นว่าอู๋กังอึกอักพูดที่มาที่ไปไม่ได้ จึงวกกลับไปใน
แผนกทันที
ทันใดนั้นก็เห็นหยวนฮุยนอนอยู่กับพื้น มือทั้งสองบีบคอไว้
“หมอ! ช่วยผมด้วย! ช่วยผมที…ผมหายใจไม่ออกแล้ว!”
เฉินชางกับหวังเชียนสบตากัน ผงะไปเล็กน้อย
แต่…
คราวนี้ หวังเชียนมองดูเสื้อกาวน์ที่ถูก ‘เจ้าหัวหงอก’ โยนลงไปถู
กับพื้นแล้วเจ็บปวดใจไม่หยุด
ไอ้หมอนี่ จงใจแหงเลยสิ!
แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ส่งไปที่ห้องฉุกเฉินดูก่อนดีกว่า
ถ้าเกิดป่วยจริงขึ้นมาล่ะ
คนเป็ นหมอ จะบอกว่าคุณเป็ นนักโทษเลยไม่รักษาให้ก็ไม่ได้อยู่
ดีใช่ไหม
นี่มันไม่เหมาะสม!
แต่…
เฉินชางกับหวังเชียนแบกชายคนนี้มาตรวจที่ห้องฉุกเฉิน
ความดันปกติ!
ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนปกติ!
หัวใจเต้นปกติ!
หายใจ…หอบถี่…อาจจะแกล้งทา!
เพราะตรวจหาร่องรอยความผิดปกติไม่เจอสักนิดเลยนี่นา…
ขณะนี้เอง หัวหน้าตู้จากแผนกประสาทวิทยาก็เดินเข้ามา ที่
ตามมากับเขายังมีหัวหน้าหลู่ซิ่นจากแผนกศัลยกรรมประสาทด้วย
ตู้เจวียนหงเอ่ยถามทันที “เสี่ยวเฉิน ผู้ป่วยเป็ นอะไรเหรอคะ”
คราวนี้พวกจางเค่อฉินจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในนี้ให้ฟังโดย
ละเอียด!
พวกเขาเป็ นพยานผู้เห็นเหตุการณ์
พอพวกเขาเล่าจบ จู่ๆ หลู่ซิ่นก็ตาเป็ นประกาย “อาการคุ้นจัง!”
หวังเชียนกลับมาที่แผนก เขาโยนเสื้อกาวน์ของตนเข้าเครื่องซัก
ผ้าข้างนอก จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดกาวน์ตัวใหม่เข้ามา
ปากยังบ่นเจ้าหงอกคนนี้ด้วยความขุ่นเคือง หงุดหงิดใจไม่หาย
ตู้เจวียนหงพลันถามขึ้นว่า “ผู้ป่วยล่ะคะ”
เฉินชาง “นอนอยู่…ไม่สิ สลบไปแล้วครับ!”
แต่สัญญาณชีพปกติ ภาพคลื่นไฟฟ้ าหัวใจก็ด้วย สลบไปแบบนี ้
เชื่อเขาเลย
หวังเชียนวาดนิ้วเป็ นรูปปาก “แกล้งทา!”
ทุกคนอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้
แต่ตอนนี้เอง หลู่ซิ่นพลันนิ่วหน้าเอ่ย “พวกคุณรู ้หรือยังว่าเขา
กาลังเลียนแบบอาการป่วยของคนที่เขาพบเห็น”
ตู้เจวียนหงส่ายหัว “ไม่ๆๆ ที่เขาเลียนแบบไม่ใช่แค่อาการ กระทั่ง
อาชีพ นิสัย รวมถึงพฤติกรรมเด่นของคนอื่นยังสวมบทบาทตาม!”
พอจางเค่อฉินได้ยินก็นิ่วหน้าขึ้นมา “ถ้างั้น…หัวหน้าตู้ เขาแกล้ง
ท าเหรอ”
จู่ๆ หลู่ซิ่นก็นึกอะไรขึ้นได้ จึงพูดเสียงดังว่า “มิเรอร ์ซินโดรม
เหรอ”
ตอนนี้หวังเชียนก็รู ้เรื่อง “หัวหน้าหลู่…ที่คุณพูดใช่มิเรอร ์ซินโด
รมที่อยู่ในซีรีส์เรื่องเฮาส์[1] หรือเปล่า”
หลู่ซิ่นรู ้สึกเข้าใจแจ่มแจ้ง “ใช่แล้ว จะบอกให้ว่าทาไมถึงสงสัย
แบบนี้ ผู้ชายคนนี้เลียนแบบทุกพฤติกรรม นิสัย รวมถึงการ
เคลื่อนไหวที่พบเห็น นี่เป็ นมิเรอร ์ซินโดรมที่อยู่ในซีรีส์เรื่องเฮาส์นั่น
แหละ!”
พวกจางเค่อฉินได้ยินแล้วตาเบิกกว้างทันที เอ่ยด้วยสีหน้า
เหลือเชื่อ
“มิเรอร ์ซินโดรมเหรอ”
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนเรียวปากของตู้เจวียนหง เธอส่ายหน้าแล้ว
หัวเราะพลางพูดว่า “ที่หัวหน้าหลู่พูดคือ Giovannini’s Mirror
Syndrome ค่ะ หมายความว่าผู้ป่ วยสูญเสียความทรงจ าหลังจาก
ได้รับบาดเจ็บ จะเลียนแบบคนที่เขาได้พบตอนนั้นตามสัญชาตญาณ
ทั้งอาชีพ นิสัย ลักษณะท่าทาง เมื่อพบกับคนจานวนมากจะมี
แนวโน้มเลียนแบบคนที่โดดเด่นกว่าคนอื่น”
ทุกคนได้ยินแล้วอึ้งไปทันที!เหมือนจะเป็ นอย่างนี้จริงๆ
จางเค่อฉินพลันเอ่ยถามอย่างสงสัย “ถ้างั้น…หัวหน้าตู้ ผู้ป่วยคนนี้ป่วยจริงใช่ไหม เขาไม่ได้แกล้งทาเหรอ”
ตอนนี้ตู้เจวียนหงอดพูดไม่ได้ “ที่จริงแล้วในชีวิตจริงไม่มีโรคนี้
ค่ะ! ขนาดในบทความทบทวนงานวิจัยกับบันทึกข้อมูลโรคฉันยังหามาแล้ว
“ความจริงแล้วมันเป็ นสิ่งที่คนเขียนบทสมมติขึ้นค่ะ!
“นั่นมันก็แค่ซีรีส์เรื่องหนึ่ง ยังไงก็เอามาดูเป็ นเรื่องวิชาการไม่ได้หรอก
“แต่มิเรอร ์ซินโดรมมีจริงไหม ในชีวิตจริงก็มีจริงค่ะ!
“หมายถึงภาวะบวมน้าในร่างกายแม่ที่เกิดขึ้นจากรกกับเด็กในท้องบวมน้า พอภาวะบวมน้าของรกกับเด็กในท้องดีขึ้น อาการที่เกิดกับร่างกายแม่ก็จะหายไป ชื่อกลุ่มอาการนี้มีที่มาจากอาการกับความผิดปกติของร่างกายแม่สะท้อนกับสภาพของรกกับเด็กในท้องเหมือนกระจก“ตอนนั้นหลังจากฉันดูซีรีส์เรื่องเฮาส์ ฉันยังตั้งใจไปหาข้อมูลต่อมาจึงพบว่าโรคนี้จินตนาการขึ้นมาอยู่แล้ว คนเขียนบทแปลงมาจากบทละคร คิดไม่ถึงว่าความจริงแล้วยังมีอยู่จริง!”
พอตู้เจวี้ยนหงพูดออกมาแล้ว ทุกคนก็อดอยากหัวเราะไม่ได้ยังมีคนเชื่อเรื่องนี้จริงๆ เหรอแต่ถ้าผู้ป่วยเอาแต่แกล้งสลบอยู่บนเตียงไม่ฟื้นขึ้นมาจะทายังไง
จางเค่อฉินอดพูดไม่ได้ “ตื่นเถอะ ยังแกล้งทาอยู่อีกเหรอ หมอเขาพูดแล้ว นี่คุณติดซีรีส์หรือไง ดูจบแล้วก็เลยออกมาท าตามเหรอ”
แต่ชายคนนั้นยังไม่ขยับ!ตอนนี้เฉินชางมองดูความคืบหน้าที่พุ่งขึ้นไปถึงสี่สิบห้าเปอร ์เซ็นต์ในคราวเดียว!ยังไม่จบ!
ผู้ป่วยยังซ่อนอะไรไว้จริงๆ
[1] เฮาส์ (House) ซีรีส์การแพทย์อเมริกันเรื่องหนึ่ง