เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 74 ผู้หญิงหน้าตาดีขนาดนี้แต่กลับพูดจาเหลวไหล!
ปกติดูผิวเผินเฉินปิ่งเซิงเป็นคนใจกว้างอบอุ่น เป็นสุภาพบุรุษที่เปล่งประกายดุจแสงอาทิตย์คล้ายไม่มีเรื่องกังวลใจใดๆ การงานเป็นไปอย่างราบรื่น ครอบครัวอบอุ่น มีภรรยาดีบุตรกตัญญู พ่อแม่สุขภาพแข็งแรง มีชีวิตดังผู้ชนะ
คิดไม่ถึงว่าพอดื่มเหล้ามากๆ เข้าจะกลายเป็นพวกปากรั่วไปในพริบตา กลายเป็นหญิงชราที่มีแต่เรื่องไม่พอใจ!
เหล่าเฉินไม่ได้ก่อเรื่องมากมาย ทำเพียงนั่งอยู่บนพื้น พิงกำแพง ส่งเสียงกรนออกมาโดยไม่รู้ตัว เฉินชางดึงเขาขึ้นมาเตรียมจะเปิดประตูออกไป
คิดไม่ถึงว่าโทรศัพท์จะดังขึ้นเสียก่อน
เมื่อควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พบว่าเป็นเบอร์ที่ลงท้ายด้วย 9999
เบอร์โทรศัพท์นี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่นที่ร่ำรวยถึงจะมีได้ แต่โทรมาหาตนตอนกลางคืนแบบนี้ หรือสาวสวยร่ำรวยจะโทรมาหาตน? บางทีชื่อเสียงเรื่องความหน้าตาดีของตนอาจขจรขจายไปไกลแล้วก็เป็นได้?
หลังจากลังเลครู่หนึ่ง เฉินชางก็กระแอมออกมาสองครั้งให้คอโล่ง เพื่อให้เสียงของตนมีเสน่ห์มากขึ้น “ฮัลโหล สวัสดีครับ?”
อีกด้านหนึ่งเป็นเสียงของหญิงมีอายุจริงๆ เพียงแต่เสียงค่อนข้างร้อนรนชัดเจน “เสี่ยวเฉินหรือคะ ฉันคือภรรยาของเฉินปิ่งเซิง เหล่าเฉินอยู่กับคุณหรือเปล่าคะ? เขาดื่มไปเยอะไหม? ตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหน เดี๋ยวฉันจะไปรับเขา”
เฉินชางชะงักไปเล็กน้อย “พี่สะใภ้เองหรือครับ? เอ่อ ใช่ครับ อาจารย์เฉินอยู่กับผม”
“คือ…พี่สะใภ้คุณไม่ต้องมารับเขาหรอก เดี๋ยวผมเรียกรถไปส่งเขาก็ใช้ได้แล้วครับ”
อีกฝ่ายลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดขึ้นมาว่า “วีแชทของคุณใช้เบอร์โทรศัพท์ใช่หรือเปล่าคะ เดี๋ยวฉันจะเพิ่มเพื่อนแล้วจะส่งโลเคชั่นไปให้นะคะ ถ้างั้นก็รบกวนคุณแล้ว”
เฉินชางทำได้เพียงแบกเหล่าเฉินขึ้นหลัง แล้วกดแอพฯ เรียกรถ
ตอนที่เหล่าเฉินลืมตาขึ้นพบว่าตนเองอยู่บนรถแล้ว ทันใดนั้นสีหน้าพลันเปลี่ยนไป สายตาเช่นนั้นทำเอาเฉินชางตกใจจนแทบร้อง
ในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสับสน การกล่าวโทษ ไม่พอใจ เสียดาย เจ็บปวด เสียใจ โกลาหล อยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด…
เฉินชางพูดขึ้นว่า “หัวหน้า ภรรยาของคุณบอกให้ผมไปส่งคุณ ผม…ไม่ได้ทำตามอำเภอใจนะครับ”
เฉินปิ่งเซิงถูหน้าตัวเอง ท่าทางดูน่าสงสาร สูดหายใจลึกๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเยือกเย็นอันไร้ที่สิ้นสุด “เสี่ยวเฉิน ผมจะบอกอะไรคุณให้ ถ้าจะหาภรรยาอย่าหาคนที่เก่งเกินไปนัก ไม่งั้นภายหลังคุณจะเสียเปรียบ! แต่ผมดูจากหน้าตาคุณแล้ว เป็นหน้าตาฟ้าประทานจริงๆ!”
รถแล่นมาถึงตำแหน่งที่อีกฝ่ายส่งโลเคชั่นมาให้ เฉินชางมองไปยังผู้หญิงในชุดนอนตัวบางที่ยืนรออยู่บริเวณประตู ด้านข้างคือป้อมยาม
นี่คือเขตที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่บริษัทว่านเคอพัฒนาขึ้นในเมืองอันหยาง ทั้งเขตมีพื้นที่กว้างใหญ่ บ้านชุดหนึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง เฉินชางคิดไม่ถึงว่าเหล่าเฉินจะมีเงินขนาดนี้
เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นรถหยุดลงจึงเดินเข้ามา มองไปยังเฉินชางครู่หนึ่ง “เสี่ยวเฉิน ลำบากคุณแล้ว”
เฉินชางรีบยิ้มตอบ “เกรงใจไปแล้วครับพี่สะใภ้”
หลังจากเหล่าเฉินลงจากรถ ดูเหมือนจะไม่ได้เดินโซเซขนาดนั้นแล้ว กลับเดินอย่างกระฉับกระเฉงด้วยซ้ำ…
หรือเมื่อครู่คุณจงใจแสร้งทำเป็นเมาต่อหน้าผม?
เป็นความคิดที่น่ากลัวจริงๆ!
……
หลังจากเสร็จเรื่องก็เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว บนถนนไม่มีคนเดินไปมา เห็นแต่ผีสุราคนหนึ่งกำลังเดินโซเซกลับบ้านโดยบังเอิญ
เมื่อคนคนนั้นไปถึงประตูบ้านก็ถูกแม่ด่าไปยกหนึ่ง จากนั้นก็ประคองเขาเข้าไปอย่างระมัดระวัง
เฉินชางเห็นดังนั้น ในใจพลันรู้สึกอิจฉา คิดว่านั่นเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
กลับมาถึงบ้านก็อาบน้ำนอนลงบนเตียง แต่เฉินชางกลับไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่
วันนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป ทำให้เฉินชางรับไม่ทัน
การบรรจุถูกกำหนดไว้แล้ว นับว่าทำความปรารถนาสำเร็จไปได้อย่างหนึ่ง
ความจริงในสายตาของใครหลายคน อาจคิดว่าการบรรจุไม่นับเป็นอะไรได้ แต่ในสายตาของพ่อแม่ตน นี่เป็นเรื่องของความมั่นคง
ชั่วชีวิตของพ่อแม่เขาไม่ได้รับการศึกษา ไม่เคยเข้าเรียน จึงอิจฉา “บุคลากรอย่างเป็นทางการ” มาก
ตนเองหยั่งรากได้อย่างมั่นคง นับว่าทำตามความปรารถนาในใจพ่อแม่สำเร็จไปเรื่องหนึ่งแล้ว
ถ้าพรุ่งนี้มีเวลาค่อยบอกเรื่องมงคลนี้กับครอบครัวแล้วกัน
การถูกบรรจุ สำหรับใครหลายคนอาจไม่นับเป็นอะไรได้ แต่สำหรับเฉินชาง เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย ดูอย่างฉินเยว่เถอะ เพิ่งเรียนจบก็เข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลและได้รับการบรรจุทันที ปีแรกไม่มีโบนัส ดังนั้นหนึ่งเดือนจะได้เงินแค่ประมาณสามพันกว่าหยวน แต่มีสวัสดิการห้าอย่างครบถ้วน มีเงินค่าขยัน ค่าเข้าประชุม และสวัสดิการต่างๆ ปีหน้าคงมีรายได้ไม่ต่ำกว่าหกเจ็ดหมื่น
ปีต่อมาจะได้รับโบนัส เงินประจำปีจะพุ่งขึ้นเป็นตัวเลขหกหลักทันที
ส่วนเงินเดือนของเฉินชางอยู่ที่สองพันสองร้อยหยวนอย่างมั่นคง ไม่มีอะไรทั้งนั้น
ตอนนี้ดีแล้ว ตนได้ทุกอย่างแล้ว
ความจริงสำหรับผู้ชายคนหนึ่ง งานและกระเป๋าตังค์เรียกได้ว่าเป็นความกล้าหาญของบุรุษเลยทีเดียว
เรื่องต่อมาก็คือภารกิจกราบอาจารย์!
ความโปรดปรานของเฉียนเลี่ยง เรียกได้ว่าเป็นทางลัดสำหรับเฉินชางที่เพิ่งเข้าสู่วงการอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เฉียนเลี่ยงเป็นคนใหญ่คนโตในวงการศัลยแพทย์ทางด้านตับและถุงน้ำดีแห่งมณฑลตงหยาง มักจะเป็นเจ้าภาพและเข้าร่วมการประชุมด้านศัลยศาสตร์แต่ละประเภทบ่อยๆ ถ้าเฉินชางอยากสัมผัสกับงานระดับสูงยิ่งขึ้น ย่อมต้องการเวทีที่จะแสดงออก ซึ่งเฉียนเลี่ยงก็เป็นเวทีที่เหมาะสมที่สุด
หากคิดจะพัฒนาตัวเองก็จำเป็นต้องมีอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงคอยชี้แนะ และทำให้ประสบความสำเร็จทางวิชาการอีกครั้ง!
โรงพยาบาลในปัจจุบันนี้ไม่เหมือนกับตอนแรกนานแล้ว ทำการผ่าตัดได้ดียังไม่สู้เขียนบทความได้ดี เขียนบทความได้ดียังไม่สู้มีงานวิจัยมาก บทความและงานวิจัยกลายเป็นมาตรฐานในการเพิ่มพูนชื่อเสียงไปแล้ว
หากความรู้ของคุณอยู่ในระดับสูง ก็จะมีชื่อเสียงในวงการ หรือกระทั่งในระดับประเทศ ย่อมได้สัมผัสโลกที่แตกต่างกันออกไป
เฉียนเลี่ยงให้เวลาตนสามเดือนเพื่อขัดเกลาความรู้ออกมาเป็นวิทยานิพนธ์ฉบับหนึ่ง บางทีตนอาจใช้การผ่าตัดที่โรงพยาบาลประชาชนมาเป็นข้อมูลทางคลินิกเพื่อดำเนินการทดสอบการผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบด้วยแผลเล็กและวิเคราะห์ออกมาอีกครั้ง
แต่ว่า…เฉินชางไม่เชี่ยวชาญการวิเคราะห์ทางสถิติ ดูท่าทางต้องหาคนช่วย
การวิจัยทางวิชาแพทย์ในองค์ความรู้ใหม่ล่าสุดบ่งชี้ว่าหากนอนดึก เมื่อตื่นนอนวันต่อมาจะรู้สึกลำบากเหมือนกับหมูถูกเชือด
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าการวิจัยทางวิทยาศาสตร์แม่นยำมาก!
ทว่าพลังของเงินตราเป็นแรงขับเคลื่อนของมวลมนุษยชาติ แรงขับเคลื่อนนี้ก็อยู่ในตัวเฉินชางเช่นกัน!
ยิ่งไปกว่านั้น เถ้าแก่จางบอกว่าวันนี้จะให้ตนเป็นคนเย็บตาสองชั้น เมื่อคิดเช่นนี้ก็รู้สึกคาดหวังเล็กน้อย เฉินชางคิดว่าวันนี้ตนจะลองดูสักหน่อย ไม่แน่ว่าอาจได้เรียน “การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีด” ด้วยก็เป็นได้
เมื่อรวมเข้ากับ [ดวงตาแห่งความงาม] ของตนย่อมทำให้ทักษะดีขึ้นมาก
เมื่อมาถึงคลินิกศัลยกรรม พบว่ายังเป็นเวลาไม่ถึงแปดโมง แต่ตอนนี้บุคลากรประจำตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พยาบาลสามคนที่ถูกเถ้าแก่จางเปลี่ยนให้เป็นพี่สาวสุดสวยสวมชุดทำงานเรียบร้อยแล้ว “สินค้า” ถูกจัดเรียงไว้หน้าเคาน์เตอร์ มองดูจากที่ไกลๆ ยังรู้สึกดวงตาแวววาว เมื่อการออกแบบชุดทำงานอันยอดเยี่ยมผสานกับฝีมือสุดพิสดารของเถ้าแก่จาง เรียกได้ว่าเป็นสิ่งเติมเต็มความฝันของผู้ชายและเป็นความอิจฉาของผู้หญิง
เฉินชางเพิ่งจะเดินเข้าประตูมา หลายคนก็พากันโค้งตัวทักทาย
“สวัสดีค่ะหมอเสี่ยวเฉิน!”
เฉินชางรีบพยักหน้าตอบกลับไปตามมารยาท “สวัสดีครับทุกคน!”
ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาคิดว่า “หมอเสี่ยวเฉิน (หมอเฉินเล็ก)” เป็นคำเรียกที่ทำให้เขาไม่พอใจ!
เรียกว่า “หมอเฉิน” หรือ “ต้าเฉิน (เฉินใหญ่)” ไม่ได้หรือ?
สวีหรงเดินมาจากด้านข้าง พูดยิ้มๆ ว่า “หมอเฉิน คุณมาแล้วหรือคะ วันนั้นฉันคิดว่าเสื้อกาวน์ที่คุณสวมเล็กไปหน่อย ฉันเลยไปเปลี่ยนเป็นเบอร์ใหญ่ให้คุณ เป็นเบอร์ 185 คุณลองสวมดูสิคะ”
สวีหรงเป็นคนละเอียดละออ ช่างสังเกตและใจดี เธอเป็นผู้จัดการแผนกต้อนรับลูกค้าของคลินิกศัลยกรรมแห่งนี้ ปกติจะรับผิดชอบการโฆษณาและงานประเภทดึงดูดลูกค้า ตอนว่างๆ ชอบมาต้อนรับลูกค้าอยู่ที่คลินิก
เฉินชางรีบกล่าวขอบคุณ “รบกวนคุณแล้วครับผู้จัดการสวี เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบคุณนะครับ ต่อไปเรียกผมว่าเฉินชางก็พอแล้ว อืม…หมอเฉินก็ได้ ถึงอย่างไรก็อายุมากแล้ว ยี่สิบห้ายี่สิบหกปีแล้วนะครับ”
สวีหรงยิ้มจนตาหยี
จางจื้อซินมาถึงตรงเวลา เมื่อจอดรถเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ทันเดินเข้าประตู เห็นเฉินชางจึงพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “เสี่ยวเฉิน! ยินดีด้วยนะครับที่ได้บรรจุเป็นบุคลากร ไม่เลวเลย!”
เขาพูดจบก็หันไปยิ้มพูดกับทุกคนว่า “ทุกคนดูให้ดี นี่เป็นคนที่มีศักยภาพน่าลงทุนด้วย ต้องรีบคว้าไว้ให้ดีนะครับ เด็กคนนี้ดูถูกไม่ได้เลยจริงๆ!”
สวีหรงยิ้มจนรู้สึกราวกับมีดอกท้อปรากฏในดวงตา ทำให้ผู้พบเห็นอดรู้สึกหวั่นไหวไม่ได้ “วันแรกที่ฉันเห็นหมอเสี่ยวเฉินก็รู้แล้วว่าต้องเป็นคนที่ทำเรื่องยิ่งใหญ่ได้แน่นอน!”
เฉินชางรีบร้อนปฏิเสธ ในใจคิดว่า ผู้หญิงคนนี้ หน้าตาดีขนาดนี้ ทำไมถึงพูดจาเหลวไหลได้นะ!
ใครจะทำเรื่องยิ่งใหญ่กัน!
อีกอย่างผมก็ไม่รู้จักเรื่องยิ่งใหญ่อะไรนั่นด้วย