เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 752 รอบสุดท้าย!
คืนวันพฤหัส เวรดึกของเฉินชาง
มีชายชราคนหนึ่งเดินกะเผลกเข้ามา “หมอ ผมอยากซื้อยา”
เฉินชางผงะไปทันที รีบลุกขึ้น “ยาอะไรครับ”
ชายชราหอบเล็กน้อยขณะที่พูด หายใจค่อนข้างถี่
“ยะ…ยาเม็ดเคลือบ…แอสไพริน!”
ชายชราคิดอยู่นานจึงพูดคานี้ออกมาได้ พอพูดจบเขาก็พูดต่อ “จริงด้วย ผมยังอยากตรวจคลื่นไฟฟ้ าหัวใจด้วย ช่วงนี้กระวนกระวาย ใจไม่ไหว”
เฉินชางมองหน้าชายชราแล้วอึ้งไปทันที!
เขาตัวสูง แต่ค่อนข้างอ้วน เดินมาแล้วดูทรงตัวไม่ค่อยดี ขยับแต่ ละก้าวค่อนข้างยาก
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่สาคัญที่สุด ที่สาคัญที่สุดสีหน้าของชายชรา เหลืองและบวม แก้มแดงคล้า!
ในสายตาคนอื่น นี่ไม่ถือว่าเป็ นอาการที่พบบ่อย
แต่เฉินชางเห็นชายชราพูดหอบถี่ พอคิดเชื่อมโยงกับที่เขาบอก ว่าอยากตรวจคลื่นหายใจก็นิ่วหน้าขึ้นมาทันที!
พอดูอีกทีก็เห็นเขาริมฝีปากม่วงคล้า ลิ้นสีเข้มหม่น…
ชื่อหนึ่งเกือบออกมาจากปาก!
RHD!
หรือก็คือโรคหัวใจรูห์มาติค หน้าของชายชรานี้แสดงอาการลิ้น หัวใจไมทรัลมีปัญหาที่พบได้บ่อย เรียกอีกอย่างว่าเป็ นใบหน้า โรคหัวใจรูห์มาติค
เฉินชางรีบทักเสี่ยวหลิน “เสี่ยวหลิน มาประคองคุณตาเข้าไป ด้วยกันกับผม”
เสี่ยวหลินหยุดทาสิ่งที่ทาอยู่ พยักหน้าไวๆ แล้วประคองชายชรา เข้าห้องฉุกเฉิน
ชายชรานอนอยู่บนเตียงจึงถอนใจโล่งอก
เฉินชางอดถามไม่ได้ “คุณตาครับ ก่อนหน้านี้เคยป่วยอะไรไหม ครับ”
ชายชราหอบหายใจสองสามครั้ง เสี่ยวหลินตาดีมาก รีบใส่ ออกซิเจนให้
จากนั้นเขาจึงเอ่ยว่า “ผะ…ผมเป็ นโรคหัวใจ โรคหัวใจรูห์มาติค เป็ นมาหลายปีแล้ว”
เฉินชางได้ยินแล้วก็คิดว่า เป็ นแบบนี ้จริงๆ
ต่อมาเฉินชางก็รีบเอาเครื่องฟังหัวใจมาแตะที่บริเวณยอดหัวใจ ของชายชราเพื่อฟังจังหวะหัวใจ ได้ยินเสียงหัวใจเต้นเดี๋ยวเร็วเดี๋ยว ช ้า เสียงหัวใจดังค่อยไม่เป็ นจังหวะ
เฉินชางเริ่มนิ่วหน้าทันที คุณตาอาจจะมีภาวะหัวใจห้องบนสั่น พลิ้ว
ไม่ใช่แค่ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ที่บริเวณยอดหัวใจ เฉินชาง ยังได้ยินเสียงครืนๆ เพิ่มขึ้นช ้าๆ ในช่วงท้ายของการคลายกล้ามเนื้อ นี่เป็ นเสียงที่แสดงอาการโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ ในตอนนี้เอง เสี่ยวหลินก็เข็นเครื่องตรวจคลื่นหัวใจเข้ามา ภาพคลื่นหัวใจภาพหนึ่งเคลื่อนออกมา เฉินชางมองดูภาพคลื่นหัวใจแล้วขมวดคิ้วทันที
เคสแบบนี้ไม่ค่อยดีเลย ปัญหาเรื่องโรคหัวใจรูห์มาติคค่อยว่ากัน ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วนี่อาจจะเกิดอาการรุนแรง หรือท าให้เกิด ภาวะแทรกซ ้อนเมื่อไรก็ได้
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางรีบพูดกับชายชราว่า “เป็ นโรคพวก ความดัน คอเลสเตอรอลสูงไหมครับ…”
ชายชราพยักหน้า “เป็ นสิ เป็ นหมดเลย…แต่กินยาอยู่ตลอดนะ ครับ คุมอาการยังใช ้ได้ด้วย เคยเข้าโรงพยาบาลช่วงฤดูใบไม้ร่วง
เป็ นโรคหลอดเลือดสมองตีบ หลังออกจากโรงพยาบาลก็กินยารักษา อาการมาตลอด แอสไพรินอะไรนั่น…”
ชายชรายังรู ้สึกตัวดี ต่อให้ตอนที่พูดจะพูดช ้า แต่ยังพูดเป็ น ล าดับ
นี่เป็ นเรื่องดี!
วัดความดันโลหิตแล้วปกติ แต่เฉินชางรู ้สึกว่ายังควรเตือนชาย ชรา แต่พอเขาซื้อยาแล้ว ก็ตัดสินใจแน่วแน่ โซเซกลับบ้านไปเลย เฉินชางมองดูชายชราแล้วกังวลใจมาก
ด้านเสี่ยวหลินยังพูดกับเฉินชางด้วยสีหน้าเป็ นห่วงว่า “หมอเฉิน …เขาจะไม่เป็ นไรใช่ไหมคะ”
เฉินชางนิ่วหน้า “ไม่แน่ใจครับ” ประมาณสามทุ่ม จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ฉุกเฉินก็ดังขึ้น “ชุมชนบ้านเอื้ออาทร 9012 มีชายชราคนหนึ่งพูดติดขัด เคลื่อนไหวไม่สะดวกกะทันหัน ต้องกู้ชีพทันที” เฉินชางพยักหน้าไวๆ เสี่ยวหลินก็ไม่ชะงักเลยสักนิด รีบลุกขึ้น ออกไปทันที บุคลากรเข้าเวรแนวหลังก็รีบมาดูเวรแทนเฉินชาง
พอเชื่อมโยงอาการผู้ป่วยแล้ว เฉินชางก็วินิจฉัยว่าน่าจะเป็ นโรค หลอดเลือดสมองตีบ แต่ก็ตัดอาการเลือดออกออกไปไม่ได้ โรค หลอดเลือดสมองตีบขอแค่ไม่ใช่การอุดตันที่หลอดเลือดใหญ่บริเวณ ก้านสมอง ปกติจะไม่เป็ นอันตรายถึงชีวิต แต่ถ้าเลือดออกก็ไม่แน่
หลังจากรถมาถึง เฉินชาง เสี่ยวหลินและคนขับรถเหล่าหยางก็ ขึ้นรถไปด้วยกัน
พอเฉินชางกับเสี่ยวหลินเห็นชายชราเข้าก็อึ้งไปทันที!
นี่มัน…คุณตาที่มาซื้อยาที่ห้องฉุกเฉินเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ!
ภรรยาของคุณตาตกใจท าอะไรไม่ถูก เฉินชางปลอบแล้วก็ รุดหน้ากลับโรงพยาบาล
ทันทีที่ส่งถึงโรงพยาบาล จู่ๆ เฉินชางก็ได้ยินเสียงเตือนระบบดัง ขึ้น
[ติ๊ง! ภารกิจต่อเนื่อง – กระตุ้นความจริง! รอบสุดท้าย: ช่วยชีวิต ชายชรา หาสาเหตุการป่ วย ภารกิจส าเร็จแล้วจะได้รับรางวัลอย่าง งาม!]
เฉินชางได้ยินเข้าก็อึ้งไปทันที
นี่ก็คือภารกิจรอบสุดท้ายแล้วเหรอ
ถึงตอนนี้ สิ่งที่เฉินชางคิดถึงไม่ได้มีแค่รางวัลดันเจี้ยนมหาศาล แต่ยังรวมถึงว่าความจริงคืออะไรกันแน่ด้วย!
หรือยาแก้ไอ VOLB จะเป็ นสาเหตุส าคัญของอาการป่วย
คราวนี้เบาะแสตรงไปตรงมามาก ความเป็ นไปได้ที่ผู้ป่ วยจะเป็ น โรคหลอดเลือดสมองตีบมีอยู่เจ็ดแปดสิบเปอร ์เซ็นต์ มิหนาซ้ายังมี อาการดั้งเดิมหลายอย่าง…ทั้งความดันโลหิตสูง โรคหัวใจรูห์มาติค ความเป็ นไปได้มากเกินไปแล้ว
ด้วยเหตุนี้เองจึงกลับชี้ชัดได้ยากขึ้น เพราะต่อให้ไม่มียาแก้ไอ ชายชราก็มีความเป็ นไปได้สูงที่จะป่วย
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสับสน พอเฉินชางรีบร ้อนส่งชายชรา กลับมาโรงพยาบาลแล้วก็ส่งไปตรวจเอ็มอาร ์ไอทันที
ผลลัพธ ์แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยมีภาวะสมองขาดเลือดหลายจุด แต่ จุดที่มีอาการเหล่านี้เป็ นมานานแล้ว ทว่ากลีบสมองด้านขวากลับมี อาการโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลันใหม่อยู่!
ปกติแล้วถ้าสงสัยว่าเป็ นโรคหลอดเลือดสมองตีบจะตรวจเอ็มอาร ์ ไอเป็ นอย่างแรก ถ้าสงสัยว่าเลือดออกก็จะท าซีทีสแกนก่อน การ ตรวจเหล่านี้เจาะจงการวินิจฉัยโรคได้มากขึ้น
เฉินชางเรียกหมออันจากแผนกประสาทวิทยามาปรึกษาเคส ใน ขณะเดียวกันยังต้องหาสาเหตุของอาการไปพร ้อมกับรักษาด้วย
พอรู ้ว่าชายชราเป็ นโรคหัวใจรูห์มาติคกับโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ หมออันก็ขมวดคิ้วแล้วบอกภรรยาของผู้ป่ วยชราทันที “ปกติแล้ว เลือดในหัวใจไหลเวียนคล่อง แต่ตอนที่เป็ นโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ
พลาสมาจะไหลจากห้องหัวใจบนซ ้ายไปห้องหัวใจล่างขวาด้วย ความเร็วตามปกติไม่ได้ พลาสมาจะตกตะกอน ไหลวนอยู่ในห้อง หัวใจล่างซ ้าย ความเร็วในการไหลเวียนลดลง อาจจะท าให้เกิดเป็ น ลิ่มเลือดเรียวเล็ก จึงทาให้โรคแฝงอยู่ในอาการของโรคหลอดเลือด สมอง
แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเป็ นโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบนานๆ จะทา ให้โครงสร ้างหัวใจเปลี่ยนแปลงไป เช่นห้องหัวใจล่างซ ้ายขยายขึ้น และการขยายตัวของห้องหัวใจล่างซ ้ายก็เกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจห้อง บนสั่นพลิ้วเป็ นอย่างยิ่ง ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้วยังเป็ นสาเหตุของ โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันที่พบได้บ่อยที่สุดด้วย”
ตอนนี้ความจริงคล้ายจะเปิดเผยแล้ว
เดิมทีผู้ป่วยก็มีปฏิกิริยาอย่างพลาสมาข้นอยู่แล้ว พอเป็ นโรคลิ้น หัวใจไมทรัลตีบจึงเกิดลิ่มเลือดได้ง่าย และพอภาวะหัวใจห้องบนสั่น พลิ้วกาเริบ ก็ทาให้ลิ่มเลือดมีที่ไป
ทั้งหมดนี้เป็ นการอธิบายที่สมเหตุสมผล!
และในตอนนี้เอง จู่ๆ หมออันก็มองเฉินชางพลางเอ่ยว่า “หัวหน้า เฉิน ตอนนี้สิ่งที่ต้องพิจารณาคงไม่ใช่โรคหลอดเลือดสมองตีบ เฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมองตีบขอแค่แก้ไขระบบไหลเวียนเลือด ในบริเวณที่ขาดเลือดก็พอแล้ว จะต้านการแข็งตัวกับสลายลิ่มเลือด ไปพร ้อมกันก็ได้”
“แต่…สิ่งที่สาคัญที่สุดคือปัญหาโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ”
“ผู้ป่ วยไม่ได้รักษาโรคลิ้นหัวใจไมทรัลตีบ โรคที่มีอยู่เดิมไม่ ควบคุม แถมโรคหลอดเลือดสมองตีบนี่ยังกาเริบ มิหนาซ้ายังไม่ได้ กาเริบแค่ครั้งสองครั้งด้วย”
เฉินชางได้ยินแล้วพยักหน้า ก็จริง จากที่คุณตาบอกมา ตั้งแต่ ฤดูใบไม้ร่วงจนตอนนี้เป็ นโรคหลอดเลือดสมองตีบมาสองรอบแล้ว