เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 784 วันตรุษจีน (1)
เฉินชางรู ้สึกว่า กลิ่นอายตรุษจีนที่บ้านเกิดเข้มข้นกว่าในเมือง แน่นอนว่าอาจจะเพราะไม่มีคนฉลองตรุษจีนเป็ นเพื่อน พวกเขาต่างหัวเราะฮ่าๆ อยู่หน้าโทรทัศน์เหมือนกัน ความรู ้สึก ตอนหัวเราะกลับไม่เหมือนกัน เฉินต้าไห่ไม่เคยมองว่าการทาอาหารที่บ้านยุ่งยาก ไส้เกี๊ยวเป็ น สิ่งที่เขาถนัดมาก เฉินชางชอบกินตั้งแต่เด็ก ตรุษจีนปีนี้เฉินต้าไห่ทาไส้สามอย่าง มีไส้เนื้อวัว แพะและหมู เฉินชางนึกถึงไส้กุยช่ายไข่ของบ้านเหล่าฉินแล้วอดตกอยู่ใน ภวังค์ความคิดไม่ได้ หรือตนไม่ควรเอาโก่วฉีพวกนี้กลับมา
ช่างเถอะ ช่างเถอะ! ผู้อานวยการฉินไม่ขาดของแบบนี้หรอก…มั้ง
เพราะหมู่บ้านหนานซานอยู่ใกล้ภูเขา ทางการไม่ให้จุดพลุจุด ประทัดมาหลายปีแล้ว แต่ละบ้านจะตั้งกองไฟบนลานหน้าบ้านในคืน ก่อนวันตรุษจีน โดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็ นฟืน เรียกกันว่ากองเพลิง ตรุษจีน
เช ้าตรู่วันตรุษจีนตื่นมาจุดไฟ หมายถึงการกาจัดความชั่วร ้าย ของปีที่แล้ว เพื่อให้ปีใหม่มีแต่ความโชติช่วงชัชวาล
เฉินชางมองทั้งหมดนี้แล้วรู ้สึกทั้งคุ้นเคยและแปลกใหม่ในเวลา เดียวกัน
ตอนที่ดูรายการเคาท์ดาวน์ เฉินชางพบว่าปี นี้สิงอวี่ได้ออก รายการเคาท์ดาวน์ด้วย
หยางจยาฮุ่ยที่อยู่ข้างๆ จุ๊ปากชื่นชม “ดูสิ เขาเล่นเปี ยโนได้ ไพเราะแค่ไหน ต่อไปให้ลูกเรียนเปียโนด้วย”
เฉินต้าไห่คลี่ยิ้ม “มีดทาอาหารของเหล่าเฉินจะขาดการสืบทอด แล้ว…”
ทุกคนอดหัวเราะฮ่าๆ ไม่ได้
คุณปู่ ของเฉินชางเป็ นพ่อครัว และถือว่ามีชื่อเสียงในพื้นที่นี้ ใช ้ ฝีมือการทาอาหารเลี้ยงเฉินต้าไห่และพี่น้องทั้งสี่คนมา
พื้นเพเฉินต้าไห่เป็ นคนหมู่บ้านหนานซานที่โตมาในหมู่บ้าน หยางจยาฮุ่ยอยู่หมู่บ้านข้างๆ ห่างกันไม่ไกลนัก
ครอบครัวของเฉินต้าไห่มีพี่น้องทั้งหมดห้าคน มีพี่สาวสองคน น้องสาวหนึ่งคนและพี่ชายคนโตอีกหนึ่งคน
พี่ชายคนโตถือว่าประสบความสาเร็จ ทาธุรกิจอยู่ที่มณฑลตงห ยาง นับว่าเป็ นบุคคลที่มีชื่อเสียงของหมู่บ้านหนานซาน
พี่สาวสองคนแต่งงานกับผู้ชายที่อยู่ในโอวาท สถานการณ์ ตอนนี้ไม่ต่างกับเฉินต้าไห่ ส่วนน้องสาวเพียงคนเดียวท าธุรกิจกับ พี่ชาย แต่งงานไปอยู่ในครอบครัวที่ดี
ตอนที่พ่อของเฉินต้าไห่ยังอยู่ ตอนตรุษจีนทุกคนก็ยังกลับมาที่ บ้านเกิด
เมื่อห้าปีก่อน คนแก่ต่างจากไป ก็น้อยมากที่ทุกคนจะกลับบ้าน เกิด มีเพียงแค่วันไหว้บรรพบุรุษของทุกปีที่จะกลับมา
ทว่า สิ่งที่พี่ชายของเฉินต้าไห่ทาก็น่าสนใจมาก ในทุกปีจะต้อง จัดงานเลี้ยงเพื่อมารวมตัวกันสองครั้ง นัดพวกน้องๆ และเฉินชางไป พักที่เมืองจิ้นหยางด้วยกัน
ทุกๆ วันที่สองของปีตามปฏิทินจีน ครอบครัวของเฉินชางจะไป เที่ยวบ้านคุณลุงที่เมืองจิ้นหยาง
นี่เป็ นเรื่องที่มีความสุขที่สุดตอนที่เฉินชางและเฉินหลัวยังเด็ก เพราะบ้านคุณลุงใหญ่มาก ตอนกลางวันยังได้ไปกินข้าวที่ ร ้านอาหาร และได้เงินอั่งเป่ าหลายร ้อยทุกปี และตอนกลับก็ได้ขนม ผลไม้มามากมาย
ญาติกันก็ใช่ว่าเจอกันยิ่งบ่อยแล้วความสัมพันธ ์ยิ่งแน่นแฟ้ น ห่าง กันหน่อย เจอกันตามเทศกาล ความสัมพันธ ์จึงจะดี
เมื่อก่อนเฉินชางไม่เข้าใจ ตอนนี้เพิ่งจะรู ้
ห่อเกี๊ยวเสร็จ เฉินชางเล่าเรื่องที่น่าสนใจของโรงพยาบาลให้พ่อ แม่ฟัง แต่หยางจยาฮุ่ยไม่สนใจเรื่องสนุกพวกนี้เลยสักนิด กลับสนใจ เรื่องของฉินเยว่มากกว่า
เฉินชางจึงต้องเล่าเรื่องของฉินเยว่
แม้เป็ นเรื่องเล็กในชีวิตประจาวัน แต่หยางจยาฮุ่ยฟังแล้วก็มี ความสุขมาก!
โดยเฉพาะเฉินต้าไห่ หลังจากรู ้ว่าฉินเยว่ชอบกินหม้อไฟก็ลุกไป หาตาราของคุณปู่เฉินชางทันที ในนั้นมีสูตรหม้อไฟ
นี่ทาให้เฉินชางหัวเราะไม่ได้ร ้องไห้ไม่ออก!
ห่อเกี๊ยวเสร็จแล้ว พร ้อมรับประทานพรุ่งนี้เช ้า
นี่คือประเพณีธรรมเนียมของตระกูลเฉิน หมายความถึงการ เหลือกินเหลือใช ้ทุกปี และเป็ นสัญญาณของความเจริญรุ่งเรืองใน ชีวิต
เช ้าวันถัดไป หลังจากตื่นนอน เฉินชางจุดไฟฉลองตรุษจีน ด้าน ล่างสุดเป็ นต้นถั่ว ตรงกลางปูด้วยฝักข้าวโพด ภายนอกเป็ นกิ่งก้าน และไม้ล าต้น ขอเพียงแค่จุดไฟบนต้นถั่วตรงกลาง ไม่นานไฟก็ลุก โชนขึ้นมา
โดยทั่วไปมักจะเพิ่มกิ่งหม่อนในไฟตรุษจีน ความหมายถึงการ เผาเรื่องราวที่ไม่ดีของปีที่แล้ว
ไม่ถึงกับเป็ นเรื่องงมงาย เป็ นความหวังที่ประชาชนมีต่อชีวิตก็ เท่านั้น
หลังจากหยางจยาฮุ่ยตื่นนอนก็เริ่มจุดธูป ‘ไหว้บรรพบุรุษ’ ‘บูชา เทพเจ้าแห่งขุนเขา’…วิ่งวุ่นทั้งเช ้า
กินข้าวเช ้าเสร็จ เฉินชางเปลี่ยนเป็ นชุดที่สะอาดสะอ้าน
แม้ไม่ได้กลับบ้านมาฉลองตรุษจีนสองปีแล้ว แต่เพิ่งผ่านช่วงเช ้า ไป เพื่อนร่วมชั้นในหมู่บ้านตอนเฉินชางยังเด็กก็มาหาเขาที่บ้านแล้ว
มนุษยสัมพันธ ์ของเฉินชางถือว่าใช ้ได้ และช่วงนี้คนในหมู่บ้าน ต่างรู ้ว่าเฉินชางประสบความส าเร็จไม่น้อย
พราโดที่พ่อขับก็หลายแสน เฉินชางยิ่งขับปอร ์เช่
เฉินชางจึงตามเพื่อนในหมู่บ้านไปนั่งคุยกันที่บ้านเพื่อน
ทว่า ด้วยอายุเท่านี้ยังไม่ได้อยากได้อยากมีขนาดนั้น แม้มีบ้างก็ ได้แต่เก็บไว้ในใจไม่ได้พูดออกมา
ส่วนใหญ่ก็แค่มองรถของเฉินชางแล้วจิปากชื่นชม
ล้วนเป็ นชายหนุ่มอายุยี่สิบเจ็ดแปด เป็ นช่วงอายุที่ชื่นชอบของ พวกนี้
คุยกันแต่เรื่องแต่งงานซื้อบ้านซื้อรถ
ตอนนี้ไม่ว่าในหมู่บ้าน หรือว่าในเมือง ซื้อบ้านแต่งงานก็เป็ น หัวข้อที่คนหนุ่มสาวให้ความสาคัญ
เฉินชางเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมาก
กลางวัน เฉินชางกินข้าวที่บ้าน ช่วงบ่ายขับรถไปเที่ยวในเมือง จิ้นหยางกับเพื่อนๆ
เที่ยวกินกันอย่างมีความสุข
หนุ่มสาวประมาณสิบกว่าคน เฉินชางไม่ได้ดื่ม เพราะต้องขับรถ ทุกคนร ้องเพลงกันอย่างมีความสุข กลางคืนก็หาร ้านอาหาร เฉินชาง ไม่ได้สนใจราคา สั่งเยอะไว้ก่อน
พอดื่มมากๆ เข้าก็มีพวกที่อิจฉาคุมปากตัวเองไม่อยู่
ตอนนี้ในหมู่บ้านพวกที่ชอบนินทาก็ไม่น้อย
บ้างว่าเฉินชางแต่งเข้าบ้านผู้หญิง ไม่อย่างนั้นจะมีเงินซื้อรถที่ หรูหราขนาดนี้ได้อย่างไร
และยังเล่ากันว่าครอบครัวของฝ่ายหญิงร่ารวย
บ้างก็บอกว่าเฉินชางรับเงินใต้โต๊ะ เป็ นหมอขับรถหรูก็เพราะรับ เงินจากการติดสินบนมา
ทว่าคนหนุ่มสาวคิดคาพูดพวกนี้ไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ก็มีบางคนที่ไม่ชอบใจ
“เหล่าเฉิน พวกเราเนี่ยไม่ได้เรื่องเลย ไม่เหมือนนาย ผ่าตัด ทีเดียวนายได้ตั้งหลายหมื่น สบายเกินไปแล้ว!” เพื่อนที่เปิ ด ร ้านอาหารอยู่นอกหมู่บ้านคนหนึ่งอดพูดไม่ได้
เฉินชางเพียงแค่เผยยิ้ม พยักหน้าไม่ได้พูดอะไร ไม่ใช่แค่หลัก หมื่นนะ…
บางคนก็ถามด้วยความประหลาดใจ “เหล่าเฉิน ฉันว่าทะเบียน รถของนายคงแพงกว่ารถแล้วมั้ง!”
ถึงอย่างไรป้ ายทะเบียนรถที่มีเลขหกห้าตัว ก็มีหนึ่งเดียวใน มณฑลตงหยาง ขับไปไหนก็สะดุดตา
“เหล่าเฉิน นายได้เงินเดือนเดือนละเท่าไร ถึงได้ซื้อรถที่หรูหรา ขนาดนี้!”
เฉินชางเพียงแค่ยิ้ม “รถคันนี้ไม่ใช่ของฉันจริงๆ เป็ นของเพื่อน เขาจอดทิ้งไว้ไม่ได้ขับ ฉันเลยขับออกมาโชว์สักหน่อย ฉันจะไปเอา เลขทะเบียนแบบนี้มาจากไหนได้ มีเงินก็ซื้อไม่ได้หรอก!”
เพื่อนๆ ได้ยินแบบนี้ จึงยอมรับอย่างพอใจ
ราวกับว่าคาตอบนี้ทาให้สบายใจมากกว่า
คาโกหกมักจะเป็ นสิ่งที่ทุกคนชอบฟัง เพราะไม่ได้ยอมรับได้ยาก ขนาดนั้น
จากนั้นทุกคนคุยกันเรื่องแต่งงาน ต่างถามเฉินชางว่าได้แฟน เป็ นลูกคนรวย หรือว่าลูกผู้นาที่ไหนหรือเปล่า
เฉินชางนึกถึงฉินเสี้ยวยวนพ่อของยัยฉินขี้ประจบแล้วอดขา ไม่ได้!
เหล่าฉินกาลังจะได้เป็ นรองอธิบดีแล้ว จี้หรูอวิ๋นเองก็เป็ นระดับ ผู้อ านวยการ ฉินเยว่…นับว่าเป็ นลูกผู้น าแล้วใช่ไหม
จากรายได้ของเหล่าฉิน…ก็นับได้ว่าฉินเยว่เป็ นลูกคนรวย!
แต่นึกถึงท่าทางของยัยฉินขี้ประจบ ไม่เหมือนเป็ นลูกคนรวยหรือ ผู้น าเลย!
เฉินชางพูดพร ้อมหัวเราะฮ่าๆ “เป็ นทั้งหมดครับ เป็ นทั้งหมด!”
ทุกคนอิจฉาริษยาขึ้นมาทันที
ทว่า เมื่อเทียบกับพวกในโรงพยาบาล พวกนี้ยังนับว่าไม่ได้เจ้า แผนการ
แต่เฉินชางเองก็ไม่ได้สนใจ งานเลี้ยงก็คืองานเลี้ยง หลังจากแยก ย้ายกันก็ทาหน้าที่ของตน และได้รู ้ว่าคนประเภทไหนคบได้ คบไม่ได้
ความจริงเขาก็ไม่ได้อยู่ในวงสังคมเดียวกับคนพวกนี้แล้ว
ที่รวมตัวกันวันนี้เพราะเพื่อนในหมู่บ้านพวกนี้ นอกจากวันนี้ ต่อไปไม่แน่ว่าจะได้มีปฏิสัมพันธ ์กันอีกไหม
คนเราก็แบบนี้แหละ หลังจากหล่อหลอมเข้าไปอยู่ในสังคมใหม่ ก็มักรู ้สึกว่าบางสังคมไม่เข้ากับตนเองแล้ว