เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 789 สองครอบครัว ครอบครัวเดียว สามครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเสี้ยวยวนขับรถของตนไปตามถนนช้าๆ
เขาเคยไปเมืองจิ้นหยาง ถึงอย่างไรก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในมณฑล
ทั้ง
ยังมักไปร่วมวินิจฉัย ดังนั้นเหล่าฉินจึงไปๆ มาๆ เป็นประจำ
ตลอดทางนี้เขาขับรถได้อย่างราบรื่นดี
และทางครอบครัวเฉินต้าไห่ก็เช่นเดียวกัน ตอนแปดโมงกว่า
เฉินต้าไห่เตรียมอาหารอยู่ในบ้าน
ด้านเฉินชางขับรถไปรับพวกฉินเสี้ยวยวนที่เมืองจิ้นหยางตั้งแต่
เช้า
ถึงอย่างไรก็ยังต้องนั่งรถจากบริเวณเมืองจิ้นหยางไปหมู่บ้าน
หนานซานประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า เหล่าฉินใช่ว่าจะรู้ทางจริง
เสมอไป
ประมาณแปดโมงครึ่ง รถทั้งสองคันเจอกันที่ใต้ทางด่วน!
“พ่อ หยุดรถค่ะ!”ฉินเสี้ยวยวนผงะไป “หยุดทำไม ขับตรงไปก็ได้แล้วไหม”
เพียงเห็นว่าหลังจากเหล่าฉินหยุดรถ ฉินเยว่ก็กอดกระเป๋าใบ
น้อยของตนพลางวิ่งมาหาเฉินชางอย่างดีอกดีใจ
ไม่พบกันวันเดียวเหมือนจากกันสามปี!
นี่ห่างมาปีหนึ่งแล้ว!
ฉินเยว่คิดถึงคุณเฉินที่รักของเธอมากเลย!
เฉินชางเห็นฉินเยว่วิ่งมาทางนี้ก็ลงจากรถทันที
ฉินเยว่เห็นเฉินชางลงมาจากรถ ก็วิ่งมาอย่างเบิกบานยิ่งขึ้น
แล้วกระโจนเข้าสู่อ้อมแขนของเฉินชางทันที!
เฉินชางยิ้มเขินๆ กอดฉินเยว่ที่ใส่เสื้อขนเป็ดสีขาวยกขึ้นหมุน
หนึ่งรอบ!
ฉินเยว่หัวเราะร่าเสียงดัง!
“คุณเฉินที่รัก! คิดถึงจะตายแล้ว!” ฉินเยว่กระเง้ากระงอด
ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็หอมแก้มเฉินชางหนึ่งที!
เหล่าฉินที่มองอยู่ไกลๆ โกรธจนบีบแตรไปหลายครั้ง!
ยายลูกคนนี้ เห็นที่นี่เป็นบ้านแล้วจริงๆ!ส่วนจี้หรูอวิ๋นที่อยู่เบาะข้างคนขับระหว่างที่มองดูฉินเยว่กับเฉิน
ชางก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง!
เธอจึงหันไปจูบเหล่าฉินทีหนึ่ง!
“ดีจังเลยค่ะ ฉันเห็นเยว่เยว่แล้วเหมือนเห็นพวกเราตอนยัง
วัยรุ่น!”
เหล่าฉินถูกจูบทีหนึ่งก็ผงะไปครู่หนึ่ง ใจอ่อนยวบ แต่อดยิ้ม
ไม่ได้ “นั่นสิ คุณตอนสาวๆ สวยกว่ายายลูกคนนี้อีก!”
“ลูกคนนี้ ตัวผลาญเงินแท้ๆ…ทำพ่อผิดหวังเกินไปแล้ว!”
จี้หรูอวิ๋นกลับถอนใจ “ที่น่าเสียดายก็คือ…คุณไม่หล่อเหมือน
เฉินชางเขา! ความดึงดูดใจไม่มาก!”
ประโยคเดียวทำให้เหล่าฉินพูดทั้งที่โมโหไม่ไหว “เฮ้อ
…พวกคุณสองคน ต้องทำให้ผมโมโหตายให้ได้เลยใช้ไหม!”
จี้หรูอวิ๋นหัวเราะ “ล้อเล่นน่า ตอนนั้นคุณก็หล่อ! ไม่สิ ตอนนี้
คุณก็ยังหล่อ แถมยิ่งมีกลิ่นอายชายชาตรีมากกว่าเดิมอีก!”
ฉินเยว่ไม่อยู่ คำพูดเกี้ยวพาราสีของทั้งสองคนก็เริ่มเลี่ยนขึ้น
มาเหล่าฉินได้ยินแล้วในใจก็พลันเบิกบาน
ด้านฉินเยว่ลงมาจากตัวเฉินชางอย่างดีอกดีใจก็ปรี่เข้าไปนั่ง
ที่นั่งคนขับ “คุณเฉินที่รัก ขับรถ นำทาง”
เฉินชาง “ได้ครับ! คุณหนูใหญ่นั่งดีๆ นะครับ!”
ฉินเยว่โทรศัพท์หาจี้หรูอวิ๋น “แม่ พวกแม่ตามพวกเรามาก็พอ
ค่ะ พวกเรานำทางอยู่ข้างหน้า!”
เหล่าฉินผงะไป บ่นพึมพำ “ยายลูกคนนี้ เห็นเฉินชางเข้าแล้ว
สติสตางค์ไปหมดแล้ว!”
พอเขาเห็นรถพานาเมร่าเคลื่อนตัวก็ตามไป
ระหว่างที่ขับอยู่บนทางคดเคี้ยวบนเขา จี้หรูอวิ๋นเห็นว่าบนเขา
ยังมีต้นสนเขียวชะอุ่มจึงอดพูดไม่ได้ “ดูไปที่นี่ไม่เลวจริงๆ!
น่าเสียดายที่พอเข้าหน้าหนาวแล้วอะไรๆ ก็หายไปหมด รอ
อากาศดีแล้ว ก็มาเที่ยวได้จริงๆ”
ฉินเสี้ยวยวนพยักหน้า “อืม! นั่นสิ รอถ้าเกษียณแล้ว ช่วง
หน้าร้อนมาพักตากอากาศในภูเขากัน!”
รถเคลื่อนตัวไปช้าๆ ใช้เวลาสามสิบกว่านาทีก็ถึงหมู่บ้านหมู่บ้านหนานซานยังคงรักษาประเพณีเยี่ยมญาติ ในช่วง
ตรุษจีนรถจึงเพิ่มขึ้นไม่น้อย
รถฉินเสี้ยวยวนก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาให้จับจ้องนัก
หน้าบ้านเฉินชางมีที่ว่างค่อนข้างกว้าง จอดรถซ้อนกันสอง
สามคันไม่มีปัญหาเลยสักนิด
เฉินต้าไห่ หยางจยาฮุ่ย เฉินเจี้ยนซานและเฉินตั๋วรออยู่
ด้านนอกแล้ว
พอเห็นเฉินชางกับฉินเยว่ลงมาจากรถ ทั้งครอบครัวก็เริ่มยิ้ม
ออกมา
ด้านฉินเสี้ยวยวนกับจี้หรูอวิ๋น หลังจากลงมาแล้วก็เห็น
ภูเขาใหญ่ที่อยู่ไกลลิบพอดี อากาศสดชื่นตีกระทบหน้า พลันอดสูด
หายใจลึกๆ หลายเฮือกไม่ได้
ในภูเขา ฤดูหนาว
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือหนาว!
ดีที่ทั้งครอบครัวเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว จึงสวมเสื้อขนเป็ดมา
หลังจากแนะนำแล้วก็รีบเรียกให้เข้าไปในบ้านฉินเยว่เห็นสุนัขตัวนั้นพลันตาเป็นประกายทันที! จึงวิ่งไปหา
เพื่อจะดูมัน
เดิมทีเจ้าหมาต้าหวงตัวนี้เห่าสองสามครั้งอย่างแข็งขันเพื่อ
แสดงให้เห็นว่าตนยังเป็นสุนัขเฝ้าบ้าน
แต่พอเห็นฉินเยว่ มันพลันอดเลี้ยวหนีไม่ได้ หันก้นให้ฉินเยว่
แล้วซุกตัวเข้าไปในบ้านสุนัขอย่างเกียจคร้าน
ฉินเยว่ไม่รู้ว่าทำไมเห็นสุนัขขนทองตัวใหญ่ตัวนี้ทีไรแล้วจึง
อยากเข้าไปหยอกเล่นทุกที เธอนับไก่ที่อยู่ในคอกแล้วอึ้งไปไม่ได้
แม่ไก่หายไปอีกสามตัวแล้ว!
ต้าหวงส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ เจ๊ไก่เอ๋ย ต้องโทษคนพวกนี้ทั้งนั้น
ชาติหน้าอย่าเป็นไก่เลย…
ตอนนี้ในหมู่บ้านใช้แก๊สธรรมชาติกับเครื่องทำความร้อนติด
ผนัง ในบ้านจึงอบอุ่น พอเข้ามาในบ้านแล้วจึงอุ่นสบาย
ตอนนี้ยังไม่ถึงสิบโมง ทุกคนล้อมวงนั่งดื่มชา ขณะนี้ฉินเยว่
กลับกลายเป็นเจ้าบ้าน วิ่งไปวิ่งมาเสิร์ฟชาเทน้ำ!
นี่ทำให้เหล่าฉินตกตะลึงอ้าปากค้าง!นี่ลูกสาวฉันเหรอ นี่ทำไมเปลี่ยนที่แล้วจู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นคนละ
คนล่ะ ตอนลูกอยู่บ้านรู้ความได้สักครึ่งของตอนนี้ก็ได้นี่! นี่จะปลอม
ไปแล้วมั้ง
จี้หรูอวิ๋นยังออกจะทึ่ง…
นี่ฉินเยว่มองที่นี่เป็นบ้านตัวเองไปแล้ว ตัวเองก็คือเจ้าบ้าน!
ผู้สูงวัยทั้งสองสบตากัน เห็นความประหลาดใจในดวงตาของ
อีกฝ่าย!
เฉินเจี้ยนซานหัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า “เยว่เยว่รู้เรื่องรู้ราวดีจัง
ตั๋ว
ตั่ว
เรียนรู้จากพี่สาวลูกให้มากๆ นะ!”
เฉินตั๋วยิ้มละไมเอ่ยว่า “พี่คะ พี่สวยจังเลยค่ะ!”
พอฉินเยว่ได้ยินว่ามีคนชมว่าตนสวยก็ย่อมดีใจมาก
ยังเช้าอยู่ ทุกคนในครอบครัวจึงนั่งคุยกัน
ในบ้านนั่งไม่พอ เฉินต้าไห่จึงรีบออกมา พาฉินเสี้ยวยวนเดินไป
ทั่ว
ข้างบ้านเฉินชางก็คือบ้านเก่าหลังหนึ่ง เป็นบ้านของครอบครัว
เฉินชางเช่นกันจู่ๆ เฉินต้าไห่ก็พูดว่า “เหล่าฉินครับ รอผ่านฤดูหนาวไปก็รื้อ
บ้านนี้ทิ้งแล้วก็สร้างบ้านใหม่ตรงนี้ ต่อไปคุณกับหรูอวิ๋นจะได้มา
ตากอากาศในภูเขาตอนหน้าร้อน”
พอเห็นทิวทัศน์ดีๆ นี้ ทั้งครอบครัวก็ฟุ้งซ่านเล็กน้อย
ฉินเยว่ได้ยินเข้าจึงพูดคล้อยตามทันที “นั่นสิคะ หนูก็คิดว่าที่นี่
เหมาะกับการพักผ่อนวัยเกษียณได้ ของกินน้ำดื่มสะอาดทั้งนั้น”
เฉินเจี้ยนซานพยักหน้ายิ้มให้ “เจ้าสี่ เอาอย่างนี้ไหม รอเดือน
เมษายน ฉันให้คนที่บริษัทมารื้อที่นี่ทิ้ง แล้วสร้างตึกเล็กๆ สักตึก”
ทั้ง
บ้านเห็นพ้องกันดี จึงตัดสินใจทันที
ตอนกลางวัน เหล่าเฉินลงครัวทำอาหารมื้อใหญ่เอง
เหล่าเฉินฝีมือดีจริงๆ
ด้านฉินเสี้ยวยวน วันนี้ก็ลงทุนเอาเหล้าที่ดีที่สุดในกรุสมบัติ
ของตนมาสองสามขวด ชายชราสามคนเริ่มดื่มอย่างเบิกบานใจ
เหล้าพวกนี้ดื่มตอนดีใจถึงจะอร่อย!
ทุกคนพูดคุยกันอย่างเบิกบานใจ เหมือนกับเป็นครอบครัว
เดียวกันแล้วจริงๆพอกินข้าวแล้ว จี้หรูอวิ๋นก็รีบออกมาจะไปล้างจาน หยางจยา
ฮุ่ยชักแม่น้ำทั้งห้ามาปฏิเสธก็ยังเปลี่ยนใจไม่ได้ ทั้งสองจึงเริ่มพูดคุย
กันในห้องครัว