เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 793 กู้ชีพสำเร็จ!
ประโยคเดียว ทำให้ทุกคนที่อยู่รอบๆ อึ้งไปเลย!
พอพยาบาลเห็นเฉินชาง ตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
นี่มันคนหล่อเทพเมื่อตอนนั้นไม่ใช่เหรอ
ทุกคนคิดไม่ถึงว่าจะยังบังเอิญเจอเฉินชางที่นี่เสียอย่างนั้น!
เฉินชางไม่ลังเล ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลามาลังเลด้วย เขารีบพูดว่า “ช่วยกันเถอะครับ!”
เสิ่นซิวหย่วนพยักหน้าเร็วๆ
ทางเฉินชางแนะนำ “นี่คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลอันดับสอง ผู้อำนวยการฉิน นี่คือหมอแผนกฉุกเฉินฉินเยว่ ให้พวกเขาเข้ามาให้หมดเถะ หวังว่าจะช่วยได้!”
เสิ่นซิวหย่วนได้ยินก็ตาเบิกกว้างทันที ผู้อำนวยการฉินเหรอ
เขารีบพยักหน้า “ได้ครับๆ!”
มีคนออกความคิดนี่ก็เป็นเรื่องดี เสิ่นซิวหย่วนรีบร้อนพูดกับนางพยาบาลว่า “โทรหาหัวหน้าจี้ บอกไปว่า…”
พยาบาลพากันพยักหน้า
ฉินเสี้ยวยวนมองเฉินชางอยู่ตลอด ไม่ได้พูดอะไรอีก ถ้าเฉินชางพูดผิดเขาจะเตือน
แต่!
เขาพบว่าทางเลือกที่เฉินชางทำตั้งแต่แรกถูกต้องมากทั้งหมด ถึงกับเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เฉินชางมองพยาบาล รีบเอ่ยว่า “ล้างสารคัดหลั่งบริเวณจมูก เคลียร์ทางเดินหายใจให้โล่งไว้ เตรียมสูดออกซิเจน!”
หลังจากได้รับพิษออร์กาโนฟอสเฟต ตัวเร่งโคลีนเอสเตอเรสจะถูกยับยั้ง สูญเสียฤทธิ์ในการสลายพันธะแอซิติลโคลีน ดังนั้นจึงทำให้แอซิติลโคลีนสะสมตัว!
และตัวรับแอซิติลโคลีนจะจับกลุ่มสารมัสคาริน นิโคตินรวมถึงอาการในระบบประสาทส่วนกลาง
ดังนั้นกระบวนการรักษาที่สำคัญก็คือการรักษาด้วยการยับยั้งการหลั่งกรดและน้ำย่อย
แต่ตอนนี้ในตลาดไม่มียายับยั้งการหลั่งกรดและน้ำย่อยที่ต่อต้านอาการทั้งสามนี้อย่างดีได้ในเวลาเดียวกัน มีเพียงแบบที่มีสรรพคุณในการรักษาเพียงแค่หนึ่งหรือสองอย่าง
ดังนั้นในการกู้ชีพจากการได้รับสารพิษแบบนี้ เฉินชางจะชะล่าใจไม่ได้ นี่ก็เป็นสาเหตุที่เขาไม่ให้เสิ่นซิวหย่วนมารับหน้าที่
เพราะเทียบกันแล้ว เขายอมเชื่อตัวเองดีกว่า!
ตอนนี้ผู้ป่วยเจาะเลือดเสร็จแล้ว
“สวนท่อปัสสาวะ ให้ยาขับปัสสาวะ!”
“ล้างกระเพาะ!”
หลี่ตันในตอนนี้อั้นปัสสาวะไม่ได้แล้ว การขับปัสสาวะทำให้ขับของเสียได้เร็วขึ้นเช่นกัน
พยาบาลสี่ห้าคนวิ่งวุ่นขึ้นมาทันที!
ไม่นานนัก เครื่องติดตามสัญญาณชีพก็ติดตั้งเสร็จ
ตอนที่บนจอเครื่องติดตามสัญญาณชีพเพิ่งทำงาน เสียงเตือนตี๊ดๆๆ ก็เริ่มดังขึ้น!
เฉินชางเงยหน้าขึ้นมามอง อัตราการเต้นหัวใจต่ำลงเรื่อยๆ ระดับออกซิเจนในเลือดก็ลดลง ความดันก็ลดลงด้วยเช่นกัน!
เฉินชางพลันนิ่วหน้า!
รีบพูดขึ้นว่า “เตรียมอะโทรพีน!”
ด้านเสิ่นซิวหย่วนเริ่มเตรียมการแล้ว ใช้อะโทรพีนกับการได้รับสารพิษยาฆ่าแมลงออร์แกโนฟอสเฟตอย่างไดคลอร์วอสเป็นความรู้ทั่วไป เสิ่นซิ่วหย่วนคุ้นเคยดี
แต่!
จู่ๆ เฉินชางก็เอ่ยว่า “สิบหกมิลลิกรัม!”
คำพูดนี้ทำเอาเสิ่นซิ่วหย่วนตกใจสะดุ้งโหยง ขนาดจี้ฉวี่ที่วิ่งเข้ามายังอึ้งไปทันที!
“เท่าไรนะ”
เฉินชางพูดต่อ “สิบหกมิลลิกรัม ฉีดเข้าหลอดเลือดดำครับ!”
คำพูดของเฉินชางเหมือนสายฟ้าฟาดแผนกฉุกเฉิน ทำเอาเสิ่นซิ่วหย่วนกับหัวหน้าแผนกฉุกเฉินจี้ฉวี่ที่เพิ่งเข้ามาตกใจจนงุนงง!
อะโทรพีนสิบหกมิลลิกรัมฉีดเข้าหลอดเลือดดำ!
นี่บ้าไปแล้วมั้ง
สิบหกมิลลิกรัม!
ไม่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ!
แถมไม่ใช่การให้สารละลายผ่านหลอดเลือดดำด้วย!
“จะมากไปหรือเปล่า” จี้ฉวี่นิ่วหน้าเอ่ยถามทันที
เฉินชางพูดเสียงเครียด “ต้องทำแบบนี้ครับ!”
ตอนนี้ฉินเสี้ยวยวนก็พูดขึ้นว่า “ใช้อะโทรพีนครั้งแรกต้องใช้ในปริมาณที่เพียงพอ ทำให้ในเลือดมีความเข้มข้นของยาที่ได้ผล แบบนี้ทั้งหลีกเลี่ยงไม่ให้เอนไซม์ยับยั้งที่มีประสิทธิภาพเสื่อมสภาพ มิหนำซ้ำยังลด หรือถึงกับขจัดอาการจากการได้รับพิษในช่วงสั้นๆ ด้วย!
ในคู่มือใหม่ล่าสุดให้ใช้ได้ถึงยี่สิบมิลลิกรัม ใช้ได้ ไม่มีปัญหา แถมการฉีดเข้าหลอดเลือดดำยังได้ความเข้มข้นของยาที่ได้ผลได้เร็วด้วย!
และตอนนี้ระดับที่ผู้ป่วยได้รับพิษค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นขั้นหนัก!”
พอได้ยินฉินเสี้ยวยวนพูดแบบนี้เข้า จี้ฉวี่ก็ไม่พูดอะไรอีก ฉินเสี้ยวยวนเขาเป็นถึงแพทย์ชื่อดังระดับประเทศ เป็นตัวพ่อศัลยแพทย์
มีความน่าเชื่อถือมาก!
นี่ก็คือแรงกระเพื่อมของชื่อเสียง
นี่ก็เป็นสาเหตุที่ฉินเสี้ยวยวนมาด้วย เขาเป็นห่วงว่าเฉินชางจะรับสถานการณ์ไม่ไหว
ทางนี้เริ่มล้างท้องแล้ว
อะโทรพีนสิบหกมิลลิกรัมก็เริ่มออกฤทธิ์ในชั่วพริบตา!
พยาบาลเห็นจอเครื่องติดตามสัญญาณชีพแล้วดีใจทันที
“อัตราการเต้นหัวใจกลับมาแล้ว ชีพจรก็เต้นเร็วขึ้น ปริมาณออกซิเจนในเลือดเพิ่มสูงขึ้น โดยรวมเป็นปกติค่ะ!”
เฉินชางก้มไปตรวจ ไม่ได้มีตัวบ่งบอกว่ามีอาการจากการใช้อะโทรพีน
เวลาผ่านไปทีละน้อย!
ยังคงกู้ชีพต่อไป
ผ่านไปแล้ว…สามสิบนาที เฉินชางนิ่วหน้า ยังไม่มีปฏิกิริยาของอะโทรพีนเหรอ
“ฉีดอะโทรพีนเข้าหลอดเลือดดำต่อ!”
ด้านเสิ่นซิวหย่วนไม่ได้ลังเล เริ่มเตรียมการต่อไป!
เดิมทีการกู้ชีพแบบนี้ก็ควรใช้ยาในปริมาณที่เพียงพอและให้ซ้ำแต่แรกอยู่แล้ว!
แต่…เขาแค่ไม่รู้ว่าปริมาณที่เพียงพอต้องเท่าไรถึงจะพอกันแน่!
ที่จริง สิ่งที่พวกเขากังวลไม่ใช่การได้รับพิษจากอะโทรพีน
การได้รับพิษก็ค่อนข้างอันตราย
ที่จริงแล้วการักษาฉุกเฉินก็เหมือนเต้นรำบนปลายเข็ม!
เป็นการรักษาที่มีจุดสูงสุดและไร้ขีดจำกัด แพทย์ต้องปรับตัวและจัดการรักษาตามสภาพอาการของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
นี่ก็คือการรับกระบวนท่าด้วยกระบวนท่า ทหารม้าใช้ขุนพลต้านรับที่เขาว่ากัน!
ถ้าบอกว่าการแพทย์ฉุกเฉินเป็นศิลปะที่งดงามที่สุด ก็คงไม่มีใครกังขา
เพราะเดิมทีร่างกายมนุษย์ก็เป็นหนึ่งในผลงานที่มหัศจรรย์ที่สุดของธรรมชาติ
เพราะเอาชีวิตของมนุษย์มาเป็นเครื่องเดิมพัน แต่ละครั้งจึงต้องทุ่มสุดตัว
สำหรับแพทย์ฉุกเฉินแล้ว ความเข้าใจในยาฉุกเฉินแต่ละชนิดสำคัญมาก!
พลาดนิดเดียวผลลัพธ์อาจต่างเป็นพันลี้!
และเฉินชางก็มีความรู้เรื่องการได้รับสารพิษฉุกเฉินอย่างสมบูรณ์แบบ บวกกับเขาเข้าใจยากู้ชีพฉุกเฉินอย่างไม่มีที่ติเช่นกัน!
ด้วยการประเมินสัญญาณอาการของผู้ป่วย เขาก็วินิจฉัยได้ว่าตอนนี้หลี่ตันอยู่ในเกณฑ์ไหน!
บนภาพสี่มิติจำลองตรงหน้าเฉินชาง เขาเหมือนสัมผัสสัญญาณ สารพิษภายในร่าง อะโทรพีน รวมถึงแอซิติลโคลีน...จากอาการของผู้ป่วยในตอนนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา!
ตอนนี้เอง จู่ๆ หลี่ตันก็เริ่มกระตุกเกร็งขึ้นมาอีก!
เฉินชางพลันนิ่งคิดไปครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นทันทีว่า “สโคโปลามีนสองมิลลิกรัม ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ!”
หลักๆ แล้วอะโทรพีนใช้กับตัวรับสาร M หรือก็คือสารมัสคาริน
และหลักๆ แล้วสโคโปลามีนใช้กับตัวรับสาร N หรือก็คือนิโคติน
ทั้งสองอย่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
สโคโปลามีนไม่ได้มีสรรพคุณเด่นกับหลอดเลือดหัวใจ แต่ได้ผลชัดเจนกับระบบประสาท สามารถสลายตัวกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ได้ผลกับอาการกล้ามเนื้อเกร็งกระตุกอย่างเห็นได้ชัด
“พราลิดอกซีม…”
สิ่งนี้เฉินชางไม่ต้องพูด เสิ่นซิวหย่วนก็เข้าใจ
พราลิดอกซีมได้ผลดี ปัจจุบันเป็นยาตัวแรกที่ใช้ในการกู้ชีพพิษยาฆ่าแมลงออร์แกโนฟอสเฟต
มีคำสั่งแพทย์ออกมาไม่หยุด!
อาการของหลี่ตันก็ทุเลาลงเรื่อยๆ ผลของสารพิษก็กำลังดีขึ้นเช่นกัน
แต่ไม่มีใครกล้าชะล่าใจสักคน
เพราะการรักษาอาการได้รับสารพิษยาฆ่าแมลงออร์แกโนฟอสเฟตมีปัญหาเรื่องอาการตีกลับ
และกลไกการตีกลับนี้ยังขาดตัวชี้วัดที่ชัดเจน และตอนนี้ยังไม่มีวิธีคลี่คลายอาการตีกลับที่ได้ผล
พูดง่ายๆ หน่อยก็คือ ถ้ารักษารอบแรกเสร็จแล้วไม่มีอาการตีกลับก็อาจจะปลอดภัย แต่ถ้าตีกลับแล้ว…
ก็บ๊ายบายได้เลย!
หลังจากยุ่งมาทั้งคืน ในที่สุดอาการหลี่ตันก็คงที่
พอเห็นว่าอาการคงที่แล้ว ทุกคนจึงถอนใจโล่งอก
จี้ฉวี่มองเสิ่นซิวหย่วน “หมอเสิ่น คืนนี้ลำบากหน่อยนะ เอ่อ…ผู้อำนวยการฉิน หัวหน้าเฉิน พวกคุณกลับไปพักเถอะ คงไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”
เฉินชางพยักหน้า มองดูเวลาก็หกโมงกว่าแล้ว
ถ้าเป็นฤดูร้อน ฟ้าคงสว่างแล้ว
เวลาผ่านมาถึงตอนนี้โดยพวกเขาไม่ทันรู้ตัว
เฉินชางเห็นสีหน้าฉินเสี้ยวยวนกับฉินเยว่อิดโรย จึงพูดขึ้นอย่างเห็นใจ “คุณอา เยว่เยว่ วันนี้อย่าเพิ่งกลับเลย พักผ่อนอีกวันแล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับดีไหมครับ”
ฉินเยว่ยังหาวออกมา ทุกคนง่วงแล้ว
โดยเฉพาะฉินเสี้ยวยวนที่ขับรถออกมาตั้งแต่เช้าเมื่อวาน เดิมทีก็ไม่ได้พักผ่อนดีๆ อยู่แล้ว วิ่งไปวิ่งมาขนาดนี้จึงค่อนข้างเหนื่อยล้า
ฉินเสี้ยวยวนพยักหน้า ถอนใจโล่งอก
พอออกมาจากห้องฉุกเฉิน พ่อแม่ของหวังฟ่านก็ลุกขึ้นมา สีหน้าร้อนรนกระวนกระวาย หวังฟ่านก็มาตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ เขาดูอกสั่นขวัญหาย
หวังฟ่านรีบวิ่งมา “เฉินชาง! เฉินชาง…ตันตันเป็นไงแล้ว”
พ่อแม่ของหวังฟ่านก็มองเฉินชางอย่างร้อนใจ
เฉินชางถอนใจโล่งอก “ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วครับ ยังต้องดูว่าอาการจะคงที่ได้หรือเปล่า”
เฉินชางบอกตามตรง
เฉินต้าไห่ก็รีบวิ่งเข้ามา เขามารับพวกเฉินชาง พอได้ยินว่าผู้ป่วยไม่เป็นไรก็ถอนใจโล่งอก
“กลับบ้านเถอะ!”