เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 810 ฉัน คนแซ่เฉิน! มาหาเงิน!
วันรุ่งขึ้นประมาณแปดโมงเช้า
หลังจากส่งเวรแล้ว อวี๋หย่งกังมองทุกคนแล้วพูดว่า “ทุกคน
เงียบหน่อย ผมมีเรื่องจะพูดเรื่องหนึ่ง! เฉินชางมาแผนกเราได้ครึ่ง
เดือนแล้ว ช่วงนี้แสดงความสามารถได้ดี เทคนิคก็ดี มีความรู้ความ
สามารถที่แพทย์ฉุกเฉินคนหนึ่งควรมี!
ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉินชางจะเข้ามาในรายชื่อเข้าเวร
อย่างเป็นทางการ
หม่าเยว่ฮุย เฉินชางเข้าร่วมทีมยอดศัลยแพทย์อย่าง
เป็นทางการ คุณมาดูแลจัดการหน่อย ให้เฉินชางเข้าร่วมการกู้ชีพ
การผ่าตัด รวมถึงการเข้าเวรด้วย ปฏิบัติกับเฉินชางเป็นสมาชิกทีม
ยอดศัลยแพทย์”
พอได้ยินคำพูดนี้ของอวี๋หย่งกัง ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็งงไปทันทีแพทย์ฝึกหัดเข้าร่วมทีมยอดศัลยแพทย์อย่างเป็นทางการ เรื่อง
นี้เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อสำ หรับทุกคน
ทีมยอดศัลยแพทย์นี้ก็เหมือนสมบัติพิเศษของอวี๋หย่งกัง เขา
ไม่ยอมยกให้คนอื่นอยู่แล้ว มีแต่ตอนที่เข้าร่วมภารกิจกู้ชีพ
ขนาดใหญ่ถึงจะออกปฏิบัติงานทั้งหมด นี่จึงเป็นสมบัติก้นกรุของ
แผนกฉุกเฉินทีมที่หก!
ในช่วงนี้เฉินชางจึงรู้การจัดการคนและการจัดเวรของแผนก
ฉุกเฉินทีมที่หกดี
ทั้ง
แผนกฉุกเฉินทีมที่หกมีทีมกู้ชีพหกทีม แต่ละทีมมีสมาชิกห้า
ถึงหกคน นี่ก็เป็นทีมกู้ชีพสำ คัญของแผนกฉุกเฉินทีมที่หกเช่นกัน
และแต่ละทีมก็จะมีผู้รับผิดชอบคนหนึ่ง หรือก็คือหัวหน้าทีม
ส่วนใหญ่จะดำเนินงานกู้ชีพเป็นทีม และรูปแบบหลักของแผนก
ฉุกเฉินก็คือแบ่งทีมกู้ชีพเป็นหน่วย มีพยาบาลสิบกว่าคน แพทย์
ประจำ วอร์ดห้าคน แพทย์เครื่องอัลตร้าซาวด์ B-mode หนึ่งคน
…ห้องผ่าตัดสองห้องทั้ง
หมดนี้เท่ากับกำลังคนของทั้งแผนกฉุกเฉินสมัยเฉินชางอยู่
โรงพยาบาลอันดับสองแล้ว แต่ที่นี่เป็นแค่ทีมเดียวเท่านั้น
แต่เพราะการทำงานเข้มข้นมาก ดังนั้นหลักๆ แล้วที่นี่จึง
ใช้ระบบเข้าเวร ถ้าไม่มีอะไรพิเศษ จะไม่เกิดกรณีทำงานจนล้า
ทันใดนั้น พอเฉินชางได้ยินอวี๋หย่งกังประกาศตำแหน่งแล้ว
เสียงเตือนระบบก็ดังขึ้นทันที
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณพิสูจน์ตัวเองในการผ่าตัด ได้รับการยอมรับ
จากอวี๋หย่งกัง เข้าร่วมทีมยอดศัลยแพทย์ได้สำ เร็จ ได้รับรางวัล
พิเศษ: ทักษะผ่าตัดศัลยกรรมประสาท: การผ่าตัดกำจัดภาวะเลือด
ออกใต้เยื่อหุ้มสมอง: ระดับปรมาจารย์!]
ตอนที่เฉินชางเห็นเสียงเตือนระบบก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
แม่งเอ๊ย!
ผ่าตัดศัลยกรรมประสาท!
ฉันจะผ่าเปิดสมองแล้วเหรอ
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ดีใจทันที เพราะผู้ป่วยที่เสียชีวิตจาก
การบาดเจ็บที่สมองเป็นสัดส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่เสียชีวิตในแผนกฉุกเฉิน
และสำ หรับศัลยแพทย์แล้ว การผ่าตัดสมองก็เป็นการผ่าตัดที่
หายากอย่างหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย
สำ หรับการศัลยกรรมแล้ว การผ่าตัดสมองเป็นการผ่าตัดที่สูง
…สูงทั้งค่าใช้จ่าย ความยาก อัตราการตาย อัตราการพิการ!
ต่อให้ในประเทศจะออกตัวค่อนข้างช้า แต่ก็ขะมักเขม้นไล่ตาม
ไปพร้อมๆ กับการพัฒนาทางเทคโนโลยี!
เฉินชางรู้สึกว่าสาเหตุที่ตามหลังต่างประเทศอาจจะเพราะ
เกี่ยวกับปรมาจารย์แพทย์ชาวจีนอย่างฮว่าถัว[1]แล้วก็โจโฉ พอ
นึกถึงฮว่าถัว เขาก็ถอนใจอย่างอดไม่ได้ ต่อจากนี้ไปถ้าต้องไปผ่าตัด
ให้คนชั้นสูง จะต้องระวังรอบคอบ รีบให้เซ็นหนังซื้อแจ้งความเสี่ยง
ของโรค
อวี๋หย่งกังเห็นเฉินชางก้มหน้าก้มตา ความตื่นเต้นดีใจก็ฉาย
วาบอยู่ในดวงตาเต็มไปหมด พลันอดยิ้มไม่ได้
ยังเด็กเกินไปจริงๆ สิน่า! เข้าทีมก็ตื่นเต้นขนาดนี้แล้ว…ถ้าคุณ
ได้ยินข่าวต่อไปนี่จะรู้สึกยังไงนะพอคิดถึงตรงนี้ เขาก็มองหัวหน้าพยาบาลแล้วเอ่ยว่า “หัวหน้า
พยาบาล วันนี้คุณตกลงเรื่องงานกับเฉินชางหน่อยนะ ช่วงที่เฉิน
ชางทำงานที่นี่ ให้คิดค่าตอบแทนหกสิบเปอร์เซ็นต์จากสมาชิกทีม
ยอดศัลยแพทย์ตัวจริง การผ่าตัดและกู้ชีพทุกอย่างให้คิดรวมไว้ใน
นั้น
ด้วย!”
ตามคาด พออวี๋หย่งกังพูดแบบนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึง
อ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างพูดอะไรไม่ออก
เพราะเดิมทีการผ่าตัดของทีมยอดศัลยแพทย์ก็ได้รับรายได้
ระดับสูงของโรงพยาบาลแล้ว
แต่…
เฉินชางเป็นแพทย์ฝึกหัดคนหนึ่ง ถึงกับได้ค่าตอบแทนหกสิบ
เปอร์เซ็นต์!
หลังจากก่อตั้งโรงพยาบาลแล้วเหมือนไม่เคยให้เงินเดือน
แพทย์ฝึกหัดมาก่อนเลยสักนิด เพราะเดิมทีแพทย์ฝึกหัดก็เป็น
บุคลากรที่มาร่วมทำงาน พวกเขารับรายได้พื้นฐานจากหน่วยงานออกมาฝึกงาน มิหนำซ้ำ แพทย์ฝึกงานบางคนถึงกับต้องจ่ายเงินด้วย
ถึงอย่างไรก็ออกมาเรียน จะทั้งหาเงินทั้งไปเรียนได้อย่างไร
เฉินชางพูดได้ว่าเป็นกรณีแรกของแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาล
ศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง!
ทุกคนมองอวี๋หย่งกัง เห็นเพียงว่าเขาสีหน้าจริงจังไม่เหมือน
ล้อเล่นจริงๆ ดูท่าหัวหน้าจะเอาจริง
หัวหน้าพยาบาลรีบพยักหน้าตอบรับ
“ได้ค่ะ!”
ทางนี้อวี๋หย่งกังมองหม่าเยว่ฮุยครั้งหนึ่งแล้วมองเฉิน
ชางอีกครั้ง “เฉินชาง ต่อไปให้คุณผ่าตัดในนามของหม่าเยว่ฮุย”
พอได้ยินคำนี้เข้า หม่าเยว่ฮุยพลันอึ้งไป เกือบจะร้องไห้แล้ว!
ลูกพี่ แค้นกันก็ไม่เห็นต้องแก้แค้นแบบนี้ก็ได้มั้ง เกิดไอ้หนูนี่
ก่อเรื่องขึ้นมา ผมก็ต้องรับความซวยด้วยสิ! นี่มันให้ผมมาเป็นพี่เลี้ยง
ให้เฉินชางชัดๆ
พอคิดถึงตรงนี้ หม่าเยว่ฮุยก็หนาวสะท้านในใจอวี๋หย่งกังมีทักษะในการจัดการแผนก ให้รางวัลและทำโทษ
อย่างชัดเจน มิหนำซ้ำ ยังเข้มงวดเรื่องระเบียบวินัยอีกด้วย
การประชุมจบลง
หม่าเยว่ฮุยรีบเรียกรวมตัวสมาชิกในทีมมาประชุม
หลังจากแบ่งภาระงานในวันนี้เสร็จ หม่าเยว่ฮุยมองดูเฉินชาง
ในแววตาฉายแววซับซ้อน ชั่วขณะเดียวถึงกับไม่รู้ว่าจะพูดอะไร!
“เสี่ยวเฉิน…คุณอย่าเหลิงนะ! จะต้องรอบคอบ ถ้าเจอการ
ผ่าตัดที่ไม่ถนัดหรือผู้ป่วยที่ไม่แน่ใจ จะต้องขอคำแนะนำให้มาก
ต้องระมัดระวังนะรู้ไหม”
หม่าเยว่ฮุยสีหน้าเหลอหลา ทำให้สมาชิกคนอื่นในทีมอยาก
หัวเราะเล็กน้อย
เฉินชางพยักหน้า ตนย่อมไม่ก่อเรื่องให้หม่าเยว่ฮุย
ที่จริงเขาก็คิดไม่ถึงสักนิดว่าหัวหน้าอวี๋จะให้ค่าตอบแทนตน
ด้วย ต่อให้เป็นแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่เฉินชางเห็นแววตาของคนอื่น
ในใจก็คาดเดาได้ไม่น้อย!“วางใจเถอะครับ หัวหน้าหม่า ผม…จะตั้งใจทำงาน ไม่สร้าง
ความวุ่นวายให้คุณครับ!”
หม่าเยว่ฮุยได้ยินเข้าก็ส่ายหน้าทันที “ไม่ๆๆ คุณอย่าแค่ตั้งใจ
ทำงานเลย ต้องแน่ใจว่าถูกต้อง เอาอย่างนี้เถอะ ตอนที่ต้องผ่าตัด
…คุณโทรหาผมแล้วกัน”
เฉินชางพยักหน้ารับปาก
หลังจากส่งเวรกันสั้นๆ ห้องฉุกเฉินก็ขะมักเขม้นทำงานอย่าง
รวดเร็ว
ด้านเฉินชางถูกหม่าเยว่ฮุ่ยรั้งไว้ในห้องฉุกเฉิน ให้เขาระวังแล้ว
ระวังอีก
ขณะนี้ความกระตือร้นในการทำงานของเหล่าหม่าเพิ่มสูงขึ้น
มากโดยพลัน อย่างกับมามีไฟใหม่เอาตอนแก่!
ตอนสิบเอ็ดโมง ผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กวิ่งเข้ามาในห้องผู้ป่วย
อย่างรีบร้อน “หมอ! ช่วยด้วยค่ะ!”
เฉินชางมองไปรอบๆ เอ๊ะ? ไม่มีคน! ในที่สุดก็ถึงตาเราลงมือ
แล้วเหรอพอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางรีบลุกขึ้นแล้วเดินออกไปด้านนอก
อย่างร้อนรน
พอออกมาเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มเด็กวิ่งเข้ามาทันที ด้าน
เด็กคนนั้นใบหน้าคล้ำเขียว ริมฝีปากคล้ำ หายใจหอบถี่ แล้วยัง
ไม่ค่อยมีสติรู้ตัวด้วย!
ทันใดนั้นเฉินชางรีบบอกพยาบาลว่า “พี่หยาง เข็นเตียงออกไป
ครับ!”
ช่วยไม่ได้ อยู่ใต้ชายคาบ้านคนอื่นก็จำ เป็นต้องก้มหัวให้ ตอนนี้
หัวหน้าเฉินเจอพยาบาลยังต้องเรียกพี่เลย!
[1]ฮว่าถัว (华佗) คือแพทย์ชาวจีนมีชีวิตอยู่ในช่วงปลาย
ราชวงศ์ฮั่นตะวันออก มีบันทึกในจดหมายเหตุสามก๊กและ
พงศาวดารฮั่นยุดหลังว่าเป็นแพทย์คนแรกในประเทศจีนที่ใช้ยาชา
ในระหว่างผ่าตัด