เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 811 การโทษตัวเองของผู้เป็นแม่ (1)
ผู้หญิงคนนี้อายุเพียงยี่สิบกว่าปี เข้ามาแล้วก็เริ่มร้องไห้
คร่ำครวญ!
“ช่วยลูก ฉันขอร้องล่ะค่ะ”
ณ ตอนนี้ เห็นท่าทางเช่นนี้ของเด็กน้อยแล้วน่ากลัวจริงๆ
สีหน้าขาวซีดไร้ชีวิตชีวา ไม่มีเลือดฝาดเลยสักนิด ริมฝีปากคล้ำ
หายใจหอบถี่ และที่สำ คัญที่สุดคือหมดสติไปแล้ว!
ผู้หญิงคนนี้ตกใจไปหมด ตอนแรกยังพาลูกไปเล่นที่สวนสนุกดี
ๆ อยู่เลย พอกลับมาแล้วก็กลายเป็นอย่างนี้เสียแล้ว
พอคิดถึงตรงนี้ ฉินฟางก็หวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง!
ฉินฟางไม่ใช่คนเมืองหลวง แต่มาทำงานที่เมืองหลวงกับสามี
เธอมารับจ้างทำงานบ้าน ส่วนสามีขับรถแท็กซี่ หลังจากดิ้นรนมา
สามสี่ปี ในที่สุดก็หาเงินได้ก้อนหนึ่ง จึงซ่อมบ้านที่บ้านเกิดพวกเขาทิ้งลูกไว้ให้ปู่ย่าที่อยู่ในหมู่บ้านชนบทในมณฑลเป่าเหอ
ดูแลมาตลอด
ครอบครัวลักษณะนี้มีอยู่มากมายทั่วประเทศ ไม่ถึงกับ
เป็นเรื่องหายาก แต่เพราะพ่อแม่กับลูกไม่ได้เจอหน้ากันนาน
จึงทำให้ลูกถึงกับค่อนข้างไม่คุ้นเคยกับพ่อแม่
นี่ทำให้ฉินฟางกับสามีต่างห่อเหี่ยวใจ
พวกเขาสองคนไม่ได้มีการศึกษาสูง จึงอยากหาเงินเพิ่มเพื่อ
มอบอนาคตที่ดีหน่อยให้ลูก
แต่ปีนี้หลังจากกลับบ้านช่วงตรุษจีน ฉินฟางก็พบว่าพอลูกเห็น
พวกเขาทั้งสองคนก็ถึงกับเริ่มหลบหน้า รู้สึกไม่คุ้นเคยและเหินห่าง
กันมากขึ้น
เรื่องนี้กระทบจิตใจฉินฟางผู้เป็นแม่อย่างหนักหน่วงโดยไม่ต้อง
สงสัย
ช่วงนั้นสองสามีภรรยาทบทวนอยู่นาน คิดไปคิดมาก็เป็น
เพราะมีเวลาอยู่กับลูกน้อยเกินไป ทั้งยังไม่รู้จักลูกดีพอ ดังนั้นพอ
พวกเขาไตร่ตรองดูแล้วจึงตัดสินใจลองเอาลูกมาอยู่ใกล้ตัว เช่าบ้านหลังใหญ่ขึ้นหน่อยสักหลัง ใช้เงินมากหน่อยก็ไม่เป็นไร อย่างมากสุด
ก็ลำบากขึ้นอีกหน่อย ไม่อยากให้ลูกกลายเป็นเด็กที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง!
พูดตรงๆ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็หวังดีกับลูกทั้งนั้น!
พอมาเมืองหลวงได้ครึ่งเดือน ทั้งสองคนเห็นลูกยิ้มเก่งขึ้น
จึงเริ่มดีใจอย่างอดไม่ได้ ดีที่ไม่ได้ลำบากไปเปล่าๆ
ด้านลูกวัยห้าขวบย้ายจากหมู่บ้านเล็กๆ มาอยู่ในเมืองใหญ่ที่
มีความเป็นสากล ดวงตาเปี่ยมจึงเปี่ยมไปด้วยความตื่นตะลึงและ
สงสัย วันนี้สองสามีภรรยาหาเวลาได้หนึ่งวัน จึงพาลูกไปสวนสนุก
เพื่อดูว่าสวนสนุกที่อยู่ในโทรทัศน์จริงๆ แล้วเป็นอย่างไรกันแน่! ทั้ง
ยังได้เห็นชิงช้าสวรรค์ นั่งรถไฟเหาะด้วย…
แต่จากเดิมที่เป็นเรื่องน่าดีใจ หลังจากลูกลงมาจากม้าหมุน
แล้ว จู่ๆ ฉินฟางก็พบว่าลูกหายใจหอบขึ้นเรื่อยๆ ลูกกุมหน้าอกพูดว่า
“แม่ครับ ผมรู้สึกไม่ดี ไม่สบายมากๆ เลย!”
คราวนี้ทำเอาสองสามีภรรยาตกใจสะดุ้งโหยง!
ทั้ง
สองคนจะยังมีกะจิตกะใจมาเล่นสนุกได้อย่างไร จึงรีบร้อน
พาลูกมาที่โรงพยาบาล ระหว่างทางลูกหน้าซีดลงเรื่อยๆ ทำเอาฉินฟางกังวลใจแทบตาย พอเห็นว่ากำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้ว จู่ๆ ลูก
ก็หมดสติไป!
คราวนี้ทำเอาฉินฟางร้องไห้เสียแล้ว!
ผู้หญิงอายุยี่สิบกว่าปีคนหนึ่งเคยประสบกับเรื่องเช่นนี้เสีย
ที่ไหน! เธอทำอะไรไม่ถูก กังวลใจไม่หยุดในทันที ตลอดทางก็เอาแต่
ตำหนิตัวเองว่าปกติไม่ได้สนใจลูก ในตอนนี้เอง ผู้ชายอายุราวสาม
สิบปีรีบปรี่เข้ามาหา
“หมอ! ขอร้องละครับ ช่วยลูกด้วย!”
“จะใช้เงินเท่าไรก็ต้องช่วยนะครับ!”
เฉินชางพยักหน้าแล้วพูดกับฉินฟางว่า “พวกคุณวางใจได้ครับ
พวกเราต้องพยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ เอ่อ…คุณเข้ามาเถอะครับ
ผมขอถามสักสองสามคำถาม!”
พอพูดจบฉินฟางก็ตามเฉินชางเข้าไปในห้องฉุกเฉินอย่าง
กระวนกระวาย
ด้านนอกห้องพอสามีทำเรื่องเสร็จแล้วก็รออย่างร้อนรนเฉินชางเห็นอาการของเด็กชายในตอนนี้ ชัดเจนว่าเกิดจากการ
ขาดเลือดและออกซิเจน! และสิ่งที่ทำให้เกิดอาการนี้ก็มีอยู่ไม่กี่โรค
แต่…เด็กเพิ่งอายุเท่าไรเอง หรือจะเป็นแต่กำเนิด
“พี่หยาง ช่วยตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจให้น้องทีครับ!” เฉินชางพูด
กับพยาบาล
แล้วจากนั้นก็ถามฉินฟาง “ทำไมน้องเกิดอาการเหรอครับ
มีเหตุกระตุ้นอะไรไหม”
ฉินฟางน้ำตานองหน้า พูดปนสะอื้นว่า “ฉันพาเขาไปสวนสนุก
เล่นพวกรถไฟเหาะ พอลงมาแล้วจู่ๆ ลูกก็บอกฉันว่าตัวเองเจ็บ
หน้าอก ไม่สบาย แล้วก็เริ่มนั่งหอบหนักอยู่บนม้านั่ง…”
พอเฉินชางได้ฟังคำฉินฟาง เขาก็จับคำสำ คัญสองสามคำได้
อย่างฉับไว
เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อยนอนราบไม่ได้ หายใจลำบาก
หรือจะหัวใจล้มเหลว
ตอนนี้ผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจยังไม่ออก เฉินชางรีบดูมือเท้ากับตา
ของเด็ก ไม่มีเค้าว่าจะบวมพอเฉินชางวางมือลงบนจุดที่ชีพจรยอดหัวใจเต้นแรงที่สุด
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าชีพจรเต้นแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
มิหนำซ้ำ นี่มัน…ชีพจรดันฝ่ามือขึ้นเหรอ
เบาะแสนี้ทำให้เฉินชางตาเป็นประกายทันที!
ต่อมาเขาก็รีบวางมือลงไปเบาๆ รู้สึกว่าตอนช่วงที่หัวใจบีบตัว
มีความรู้สึกสั่นสะเทือน!
ทันใดนั้นเฉินชางก็นึกถึงโรคโรคหนึ่ง “ลิ้นหัวใจไมทรัลรั่ว!”
แต่เด็กเพิ่งอายุเท่านี้เอง โอกาสเป็นโรคหัวใจรูห์มาติคน้อยสุด
ๆ อาจจะเป็นโรคหัวใจโดยกำเนิด
เฉินชางจึงหยิบเครื่องฟังเสียงหัวใจออกมาฟังเสียงบริเวณ
หัวใจส่วนหน้า!
เป็นไปตามคาด เฉินชางได้ยินเสียง S3 ที่ดังก้อง เนื้อเสียงค่อน
ข้างหน้ามีโทนสูง ระยะบีบตัวเต็มที่ของหัวใจค่อนข้างยาว มีเสียง
เสียดสีเหมือนลมพัดปะปนและเพิ่มสูงขึ้น!
นี่เป็นสัญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ของลิ้นหัวใจไมทรัลรั่ว!ในเมื่อลิ้นหัวใจไมทรัลรั่ว ผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็อาจไม่ได้สำ คัญ
มากแล้ว
แต่ในตอนนี้เอง ผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็ออกพอดี เฉินชางรับมาดู
ที่จริงเขารู้สึกว่าคงเป็นผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ปกติดีภาพหนึ่ง เพราะ
ปกติผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ป่วยลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วหลายคนก็ปกติ!
แต่ตอนที่เฉินชางรับผลมาดูก็หน้าเปลี่ยนสีทันที!
นี่ไม่ใช่แค่ผลคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ แต่ผิดปกติอย่างแรง
ต่างหาก!
ตอนนี้สิ่งที่เฉินชางเห็นกลับเป็นเค้าลางหัวใจห้องบนซ้ายโต
หัวใจห้องล่างซ้ายหนาอ้วน!
เฉินชางอดนิ่วหน้าขึ้นมาไม่ได้!
นี่หมายความว่าลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วขั้นหนักแล้ว และบวกกับ
อาการของเด็กในตอนนี้ทนต่ออาการได้น้อยมาก อาจจำ เป็นต้อง
ผ่าตัดให้เสร็จเร็วที่สุด
แต่…เฉินชางมีคำถาม ถ้าหัวใจห้องบนซ้ายกับล่างซ้ายหนาขึ้นขนาด
นี้ อาการของเด็กต้องไม่ได้กำเริบแค่ครั้งสองครั้งใช่ไหมนะ หรือที่
บ้านดันไม่รู้เรื่อง
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็พูดกับหยางเจี๋ยว่า “ไปเรียกหมอซิน
มาหน่อยครับ ให้เขามาตรวจยูซีจีสี่มิติ (ตรวจเอคโคหัวใจ) ให้น้อง
หน่อยครับ!”
ตอนนี้เทียบกับการตรวจอย่างอื่นแล้ว ตรวจเอคโคหัวใจสี่มิติ
จะเห็นได้ชัดที่สุด ถึงขนาดวินิจฉัยระดับออกมาได้เลย!
หยางเจี๋ยพยักหน้าแล้วรีบลุกขึ้น
ด้านเฉินชางมองฉินฟางแล้วอดพูดไม่ได้ว่า “เคสน้องค่อนข้าง
ร้ายแรงครับ น้องเป็นโรคลิ้นหัวใจไมทรัลรั่ว อีกอย่างดูจากสภาพใน
ตอนนี้แล้วอาจจะมีหัวใจล้มเหลวร่วมด้วย
แต่ว่า! ถ้าน้องมีอาการแบบนี้ต้องไม่ใช่ครั้งแรกแน่ๆ ถึงกับ
มักจะกำเริบอยู่เป็นประจำ พวกคุณได้คอยดูมาก่อนหรือเปล่าครับ”
พอฉินฟางได้ยินคำของเฉินชางก็นั่งอึ้งไม่ขยับตัว งุนงงไปเลย!
“ฉะ…ฉันไม่รู้ค่ะ…” ในใจฉินฟางเต็มไปด้วยความละอายใจเฉินชางอดส่ายหัวไม่ได้ “น้องไม่เคยบาดเจ็บภายนอกหรือ
อะไรใช่ไหมครับ เมื่อก่อนเคยป่วยอะไรไหมครับ”
ฉินฟางผงะไป!
จู่ๆ เธอก็พบว่าตนดันไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับลูกเลย ขนาด
คำถามพื้นฐานแบบนี้ยังตอบกลับไปยาก
อาการป่วยของลูก ลูกเคยบาดเจ็บหรือเปล่า ลูกได้เจอเรื่อง
อะไรมากันแน่ เธอที่เป็นแม่ดันไม่รู้อะไรเลย…
น้ำตาของการโทษตัวเองไหลออกมาจากดวงตาไม่หยุด ใน
ใจเต็มไปด้วยความเสียใจและสงสาร
ตนเป็นแม่ที่ผ่านเกณฑ์หรือเปล่า
พอเห็นฉินฟางร้องไห้แบบนี้ เฉินชางก็อดถอนหายใจไม่ได้…
อดทนรอหมอซินมาตรวจให้เลย
ภาพเอคโคหัวใจสี่มิติจะสังเกตโครงสร้างและการเคลื่อนไหว
ของลิ้นหัวใจไมทรัลได้สามมิติ ทั้งยังสังเกตจุดเริ่มต้น ทิศทางและ
ลักษณะของการไหลกลับได้ตรงไปตรงมากว่า มีส่วนช่วยใน
การวินิจฉัยได้ค่อนข้างมาก!พอฉีดสารทึบรังสีเสร็จก็เริ่มตรวจ
แต่หมอซินยิ่งตรวจก็ยิ่งมุ่นคิ้วแน่น เหงื่อเย็นๆ เริ่มซึมออกมา!
“หมอเฉิน สถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีเลยค่ะ!”
พอได้ยินคำของหมอซิน เฉินชางก็ผงะไป “เกิดอะไรขึ้นครับ”
ซินหรงเป็นแพทย์หญิงวัยสามสิบปีคนหนึ่ง ขณะที่เธอดูผลใน
ตอนนี้ก็ค่อนข้างกระวนกระวาย!
“คุณดูสิ สารทึบรังสีของกระแสไหลย้อนในช่วงที่หัวใจบีบตัว
อันไปถึงหัวใจห้องบนซ้าย แถมในหลอดเลือดดำปอดยังเห็นว่ามีสาร
ทึบรังสีด้วย…นี่ไหลย้อนระดับ 4/4 แล้ว มิน่าถึงทำให้หมดสติ!”
เฉินชางได้ยินแล้วยังหน้าเปลี่ยนสี!
ไหลย้อนระดับสี่เหรอ
ร้ายแรงขนาดนี้เลย!
จำ เป็นต้องรีบผ่าตัดให้เร็วที่สุดนะ!
และตอนนี้ซินหรงพิมพ์รายงานออกมาแล้ว “คอนเฟิร์มแล้ว
เป็นลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วแต่กำเนิดอีกอย่างลิ้นหัวใจไมทรัลอาจจะทั้งรั่วแล้วก็ตีบด้วย แต่
การเคลื่อนไหวของลิ้นหัวใจโดยรวมยังดีอยู่ กลีบหน้าเฉลี่ยเท่าๆ กัน
ความยืดหยุ่นดี!”
พอเห็นรายงานแล้ว เฉินชางก็ดีใจทันที ดูท่าไม่จำ เป็นต้อง
เปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียม
ถ้าเด็กอายุเท่านี้เปลี่ยนลิ้นหัวใจเทียมจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก
เฉินชางมองฉินฟางแล้วพูดว่า “อาการน้องค่อนข้างวิกฤตครับ
จำ เป็นต้องผ่าตัดทันที พวกคุณรีบเซ็นชื่อเถอะ”
ฉินฟางได้ยินแล้วรีบพยักหน้า “ได้ค่ะๆ เซ็นชื่อ หมอคะ ฉันเชื่อ
หมอนะ คุณพูดอะไรมาก็ได้หมด ขอล่ะ ช่วยลูกที”
ตอนนี้ฉินฟางแทบสิ้นหวังแล้ว
ลูกป่วยร้ายแรงขนาดนี้ ตนเป็นแม่แต่ดันไม่รู้อะไรเลย นี่มัน
บกพร่องในหน้าที่เกินไปแล้ว!
พอคิดถึงตรงนี้ ฉินฟางสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เต็มไปด้วย
ความรู้สึกเสียใจ
ด้านเฉินชางรีบพูดกับพยาบาลว่า“เจาะเลือดตรวจแล็บ”
“ฉีดดิจอกซินกระตุ้นหัวใจ!”
“ฉีดอีนาลาพริลลดการไหลย้อน!”
……
“แจ้งห้องผ่าตัดให้เตรียมพร้อม!”
ทางนี้เริ่มเตรียมพร้อมอย่างรีบร้อน ส่วนเฉินชางขณะที่อ่าน
รายงานเอคโคหัวใจสี่มิติก็อดตกอยู่ในภวังค์ความคิดไม่ได้
ผู้ป่วยเด็กคนนี้…
อาจจะเป็นเคสที่ค่อนข้างพิเศษ
อายุน้อยขนาดนี้ก็หัวใจล้มเหลวรุนแรงขนาดนี้ ห้องหัวใจล่าง
อ้วนหนา ห้องหัวใจบนขยายใหญ่ ถ้าทำบายพาสอาจจะไม่ดีกับ
การพัฒนาในอนาคต ไม่อย่างนั้น…ใช้การผ่าตัดตกแต่งลิ้นหัวใจ
ไมทรัลทั้งที่หัวใจยังเต้นอยู่ดีไหมนะ
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็อยากลองดู!
และตอนนี้เอง จู่ๆ หม่าเยว่ฮุยที่กำลังไปกู้ชีพผู้ป่วยอยู่ข้างนอก
ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาระลอกหนึ่ง ตัวสั่นอย่างอดไม่ได้หม่าเยว่ฮุยพลันส่ายหน้า เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ
“ให้ตายสิ ช่วงนี้ดันซวยขนาดนี้เลยเหรอ”