เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 861 กินข้าวให้ตรงเวลา
ช่วงนี้เฉินชางงานยุ่งแต่มีความสุขมาก!
การผ่าตัดทุกเคสล้วนให้ประสบการณ์นับหมื่น อัพเกรดเป็น
มอนสเตอร์ระดับสูงจากการผ่าตัดโดยหัวใจไม่หยุดเต้นห้าสิบเคส
ติดต่อกัน!
ในที่สุดเฉินชางก็ตระหนักได้ว่า โรงพยาบาลใหญ่ๆ เป็นดัน
เจี้ยนระดับสูงอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
[ยาฟื้นฟู x30 ยาบำรุงพลัง x10 ยาคงทน x5 ยาเพิ่มพลัง x5!]
แต่สิ่งที่เฉินชางประหลาดใจคือ ทำไมไม่ให้อุปกรณ์ระเบิดกับ
เขา!
เฉินชางตรวจดูเลเวลของตนเอง [เฉินชาง: เลเวล 49!]
เฉินชางคิดไม่ถึงเลยว่าเวลาสองสัปดาห์จะไต่ขึ้นมาหกเลเวล
ตอนนี้การอัปเลเวลยากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
แต่เฉินชางรับรู้ได้ถึงความแตกต่างอยู่รางๆ!เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นความคิดทางการวินิจฉัยหรือ
ความเข้าใจเกี่ยวกับโรค ล้วนมีการพัฒนาอย่างเงียบๆ ตามความสูง
ของเลเวล!
เรื่องนี้ทำให้เฉินชางดีใจเล็กน้อย
ตอนแรกคิดว่าการอัปเลเวลมีประโยชน์เพียงแค่คะแนนทักษะ
เท่านั้น แต่คะแนนทักษะแค่นี้ ตอนนี้ถึงขั้นดูไม่มีค่าแล้ว
ตอนนี้ดูเหมือนว่าการอัปเลเวลไม่เพียงแต่เปิดโลกทัศน์ให้
กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังยกระดับการรับรู้เกี่ยวกับความรู้การรักษาใหม่
ๆ ในอนาคตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตัดสินเกี่ยวกับการรักษา
ทางการแพทย์
การแพทย์เป็นวิชาชีพที่เกี่ยวโยงกับการพัฒนา มีเพียงแค่
ทักษะการผ่าตัดไม่มีทางเป็นหมอที่ยิ่งใหญ่ได้
วิธีการและทักษะที่ยอดเยี่ยมก็ช่วยชีวิตคนได้!
แต่โลกทัศน์และการปฏิรูปทางการแพทย์ช่วยชีวิตผู้คนได้
หลายสิบล้านคน!เฉินชางหวังว่าวันหนึ่งเมื่อผู้คนใต้หล้าป่วยด้วยโรคร้ายแรง
เขาจะช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่
ทว่าแม้ไม่มีอุปกรณ์ระเบิด แต่ยาเหล่านี้ก็ทำให้เฉินชางดื่มด่ำ
มาก!
ช่างเป็นยาที่โกงมาก
เฉินชางยิ่งดูก็ยิ่งชอบ
การฟื้นฟู การบำรุงพลัง การคงทน การเพิ่มพลังพวกนี้…อืม
ความจริงก็เท่านั้นแหละ ร่างกายของเขาดีมาก ไม่ต้องการหรอก
เขาเขียนคู่มือการผ่าตัดโดยหัวใจไม่หยุดเต้นแล้ว ในระหว่าง
การผ่าตัดหลังจากนี้ เฉินชางจะสอนพวกนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
เฉินชางที่มั่งคั่งใจกว้างใช้ยาฟื้นฟูขวดหนึ่งไปอย่างไม่ลังเล
การผ่าตัดทั้งสี่เคสในช่วงบ่าย เฉินชางไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด
แต่เริ่มสั่งการพวกลูกศิษย์ระดับหัวหน้าเหล่านั้น ให้พวกเขาลงมือ
เอง ไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ ด้วยตัวเอง
……
……หลังจากเด็กชายเตียงสิบเอ็ดและเด็กสาวเตียงสิบเก้ากลับ
มาจากห้องผ่าตัด ไม่นานก็ฟื้น
ตอนที่พวกเขาลืมตาขึ้นมาก็เห็นพ่อแม่ของตนน้ำตาไหลพราก
ลงมาทันที!
แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร!
พวกเขารู้ว่า ในที่สุดพวกเขาก็รอดแล้ว
ตั้ง
แต่จำ ความได้ พวกเขาก็รู้แล้วว่า ตัวเองแตกต่างจากเด็ก
ทั่วไป พวกเขาเหนื่อยไม่ได้ เล่นตามอำเภอใจไม่ได้ ถึงขั้นที่ไปเรียน
กับเพื่อนๆ ไม่ได้
พวกเขารู้ว่าตัวเองจะต้องผ่าตัด!
ถ้าการผ่าตัดสำ เร็จ พวกเขาก็จะใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้
ตอนนี้พวกเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง แม้ภาพตรงหน้าจะไม่ได้
แตกต่างไปจากเดิม แต่พวกเขารู้ว่า ชีวิตหลังจากนี้จะต้องสนุกมาก
“พ่อคะ แม่คะ การผ่าตัดของน้องชายตัวน้อยสำ เร็จไหมคะ”
เด็กสาวถามอย่างประหม่าพ่อแม่ได้ยินแล้วชะงักไปเล็กน้อย พลันนึกถึงเด็กชายเตียง
สิบเอ็ด “สำ เร็จค่ะ! การผ่าตัดของพวกหนูประสบความสำ เร็จทั้งสอง
คนเลย”
เด็กสาวน้ำตาไหลพรูไหลออกมา “หนูจะไปโรงเรียนได้แล้ว
ใช่ไหมคะ มีเพื่อนได้หรือยังคะ”
พ่อแม่สะเทือนใจเล็กน้อย
หลายปีที่ผ่านมาก็เป็นฝันร้ายของพวกเขาเช่นกัน!
ตอนนี้ในที่สุดก็ตื่นจากฝันร้ายแล้ว!
ตอนที่ผู้ปกครองของเด็กที่อยู่ในห้องเดียวกันเห็นเด็กสาวฟื้น
ขึ้นมาก็ดีใจมากเช่นกัน
เพราะนี่หมายความว่า พวกเขาเองก็จะประสบความสำ เร็จ
เช่นกัน!
กลิ่นอายของความหวัง น่าชื่นใจจริงๆ!
พยาบาลเข้ามาตรวจดูสัญญาณชีพ หลังจากจดบันทึกเสร็จก็
เตรียมจะออกไปตอนนี้เอง จู่ๆ เด็กหญิงก็เรียกพยาบาลไว้ “พี่พยาบาลคะ
…อาเฉินชางกินข้าวหรือยังคะ”
ประโยคนี้ทำให้พยาบาลชะงักไป!
เด็กสาวถามต่อว่า “ก่อนหนูหลับไป หนูได้ยินพวกคุณอาหมอ
บอกว่า วันนี้อาเฉินชางผ่าตัดมาทั้งวัน หลังจากผ่าตัดให้หนูเสร็จ ก็
ต้องไปผ่าตัดให้คุณลุงอีกคน…พวกเขาเหนื่อยมาก…จะหิวไหมคะ”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง
พยาบาลได้ยินแล้วประทับใจขึ้นมา
หมอผ่าตัดให้เด็กๆ โดยที่ยังไม่ทันกินข้าวด้วยซ้ำ ใช้เวลาพักใน
การผ่าตัดช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ ในสายตาของคนอื่น อาจจะ
เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว
ทว่าเด็กสาวกลับซาบซึ้งใจมาก
เด็กสาวพูดต่อว่า “พี่พยาบาลคะ ฝากบอกอาเฉินชางและอา
หมอทุกคนกินข้าวด้วยนะคะ…แม่บอกว่าต้องกินข้าวให้ตรงเวลา
ไม่อย่างนั้นจะเป็นโรคกระเพาะค่ะ…”เด็กสาวเพียงแค่แสดงความห่วงใย แต่กลับทำให้พยาบาลอด
รู้สึกอบอุ่นใจไม่ได้!
ทำให้พ่อแม่ของเด็กสาวละอายใจเล็กน้อย!
บางทีทุกคนอาจจะมองว่าการรักษาเป็นเพียงแค่ธุรกิจ
อย่างหนึ่ง!
แต่ความจริงยังเป็นการช่วยเหลือ เป็นการปลอบโยน
ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย
ขอเพียงแค่คำว่า “กินข้าวด้วยนะหมอ!”
……
……
ในห้องผ่าตัด การผ่าตัดทั้งหมดสี่เคส หมอระดับหัวหน้า
สิบสองคน พยาบาลแปดคน วิสัญญีแพทย์สองคน…ยืนหยัดผ่าตัด
จนถึงตีสาม!
วันนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาจับมีดเองตั้งแต่ต้นจนจบ
แม้ดำเนินการภายใต้การสั่งการของเฉินชาง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้
ทุกคนตื่นเต้นทุกสิ่งเริ่มต้นด้วยความยากเสมอ!
พวกเขาเริ่มก้าวแรกไปแล้ว
หลังจากออกจากห้องผ่าตัด อากาศในเดือนมีนาคมอุ่นขึ้น
เล็กน้อยแล้ว แต่ยามเช้าในเมืองหลวง อากาศยังคงหนาวเย็นมาก
ทุกคนออกจากห้องผ่าตัดมาได้กลิ่นอากาศอันเป็นเอกลักษณ์
ของปักกิ่งที่ผสมกับไอเสียรถยนต์และหมอกควันแล้วรู้สึกหอม
เล็กน้อย!
พวกหัวหน้าตื่นเต้นมาก จะเลี้ยงขอบคุณอาจารย์เฉินให้ได้
ความจริงตอนนี้เฉินชางเองก็มีความสุขมาก ถึงอย่างไรการ
ผ่าตัดก็ราบรื่นอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะการผ่าตัดของ
เด็กชายและเด็กหญิง น่ายินดีเป็นที่สุด
นอกจากนี้ พอเห็นลูกศิษย์ที่ตนสอนมากับมือดำเนินการผ่าตัด
โดยหัวใจไม่หยุดเต้นด้วยตัวเองได้ เฉินชางก็ปลื้มปริ่มมาก
ตีสามแล้ว จะไปกินของอร่อยๆ ที่ไหนได้
ต้องยอมรับว่า วงการแพทย์ซับซ้อนมาก เหล่าจูเป็นทายาท
เศรษฐี ที่บ้านเปิดบริษัท ที่มาเรียนหมอก็เพื่อตามหาความฝันเขาแนะนำให้คนขับรถพาพวกเขาไปถนนกงถี่ซี เฉินชางเคย
ได้ยินชื่อนี้มาตั้งนานแล้วแต่ยังไม่เคยไป!
ยามเช้าตรู่มีรถหรู มีสาวงาม มีแสงไฟสวยงาม มีถนนคึกคัก
ทว่าทุกคนต่างหิวแล้ว อยากหาที่กินอาหาร ผลโหวตจึงแพ้ไป
ความหมายของสวีจื่อหมิงคือเปิดโทรศัพท์ค้นหาร้านอาหาร
ใกล้ๆ ที่ยังเปิดอยู่แล้วไปกินให้หายหิวก็พอแล้ว
ตอนนี้เอง จู่ๆ หลิวฉวนก็พูดว่า “ผมพาทุกคนไปร้านพิเศษร้าน
หนึ่ง! ที่นั่นรสชาติใช้ได้ อิ่มแน่นอนครับ!”
หลิวฉวนไม่ใช่คนเมืองหลวง เป็นคนในพื้นที่ส่านเป่ย อยู่
เมืองหลวงมาสิบกว่าปี ยังคงติดสำ เนียงทางตะวันตกเฉียงเหนือ
แต่ทุกคนก็หิวแล้วจริงๆ ได้ยินว่าจะไม่ดื่มเหล้ากันก็ขับรถของ
ตัวเองไปเสียเลย