เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 978 ใช่ฝีมือเฉินชางหรือเปล่า

หนทางการแก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง ไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากการ ผ่าตัดแค่ครั้งสองครั้งเท่านั้น

แต่วิธีคิดที่เฉินชางเสนอขึ้นมา ทำ ให้พวกเขาตระหนักถึงความ สำ คัญของเรื่องนี้

การปรับปรุงวิธีการผ่าตัดเป็นเรื่องยาก ต้องอาศัยการผ่าตัด หลายร้อยหลายพันเคส

อาจจะต้องอาศัยความพยายามของคนหนึ่งช่วงอายุคนเลย ก็ได้

อย่างไรก็ดี แค่ค้นพบปัญหาและหาสาเหตุได้ ก็มีคุณค่า สำ หรับการศึกษามากพอแล้ว

หลังจากการผ่าตัดเสร็จสิ้น ทุกคนต่างประสบความสำ เร็จครั้ง ใหญ่

ส่วนปัญหาเรื่องท่อน้ำ ดีตีบ คงต้องพยายามค้นหาสาเหตุกัน ต่อไป

เมื่อปัญหานี้ได้รับการแก้ไข มันจะกลายเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์

ปัจจุบันรูปแบบการผ่าตัดที่เรียกว่า ‘การผ่าตัดอย่างแม่นยำ ’ กำ ลังได้รับความนิยมในวงการมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งถ้าพูดไปมันก็คือ ปัญหานี้

วิธีปรับปรุงความแม่นยำ ในการผ่าตัดและลดการบาดเจ็บที่ไม่ จำ เป็น

การอยู่ในห้องผ่าตัดไม่ใช่เรื่องน่าสนุกสำ หรับเฉินชางอีกต่อไป

แต่ถึงกระนั้น เออร์สเต็ดและหม่าเยว่ฮุยกลับเข้ากันเป็นปี่เป็น ขลุ่ย ทั้งสองคนรู้สึกว่าพวกเขามีความเห็นตรงกันเรื่องที่ทั้งคู่ค้นพบ ปัญหานี้

แถมหม่าเยว่ฮุยก็เลิกอายกับภาษาอังกฤษสำ เนียงปักกิ่งอัน เป็นเอกลักษณ์แล้ว ทั้งคู่รู้สึกเสียใจที่เจอกันช้าไป

ตอนนี้เหอจื้อเชียนกลายเป็นผู้ช่วยมืออาชีพ ที่คอยบริการทั้ง สองคนอย่างสุดใจ

เหล่าหม่าพูดยิ้มๆ “ผมนี่แหละมีออาชีพเรื่องความอ่อนหัด!”

แน่นอนว่าเหล่าหม่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ในฐานะขุนศึกอันดับ หนึ่งของแผนกฉุกเฉินที่หก ความเป็นมืออาชีพของเหล่าหม่าไม่เป็น ข้อกังขา

เฉินชางไม่ได้อยู่ในห้องผ่าตัดตลอดเวลา เขาลุกขึ้นเดินจากไป

เขาต้องพักผ่อนช่วงกลางวัน เพราะกลัวว่าจะอยู่กะดึกไม่ไหว

แทนที่จะกลับบ้าน เขาสั่งอาหารที่โรงพยาบาล และซื้อไปฝาก ทั้งสามคนที่กำ ลังทำ งานอย่างหนักในแผนกฉุกเฉินด้วย

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เฉินชางก็ผล็อยหลับที่ห้อง แผนกฉุกเฉินไปเลย

ช่วงนี้เขาค่อนข้างเหนื่อยล้า เพราะต้องเขียน ‘คู่มือเทคนิคการ ใช้กล้องส่อง’ ทุกวัน โต้รุ่งทุกคืน ยัยฉินขี้ประจบไม่พูดอะไร แต่ไล่ เฉินชางให้ไปนอนในห้องนอน

อันที่จริง นี่เป็นชีวิตที่หัวหน้าในโรงพยาบาลระดับตติยะภูมิ ต่างต้องประสบพบเจอ

แต่เฉินชางที่พลิกชีวิตจากเด็กฝึกงานมาเป็นหัวหน้านั้น พูด แล้วก็รู้สึกภูมิใจไม่หยอก

…

ในเวลาเดียวกัน ถนนวงเวียนที่สามฝั่งตะวันตก

ในอาคารหลังเล็กอันเงียบสงบ วันนี้ก็มีผู้คนพลุกพล่านเช่นเคย

กำ แพงมีหู ประตูมีช่อง แถมยังมีลูกหมูที่ชอบมากินผักกาด แถวๆ กำ แพงบ้านตัวเองอีก

ฉีเซี่ยงเจิ้งโมโหเลือดขึ้นหน้า

ข่าวการบาดเจ็บของเถียนฮุ่ยแพร่กระจายไปทั่วในหมู่ผู้บริหาร คนสำ คัญของบริษัท

ในเมื่อเป็นถึงคนในวงการบันเทิง มีหรือที่จะไม่มีข่าวซุบซิบ ตลอดทั้งสัปดาห์?

หลังจากถูกผู้บริหารถามซ้ำ ไปซ้ำ มา ฉีเซี่ยงเจิ้งก็เก็บเป็นความ ลับไม่ได้อีกต่อไป จึงต้องบอกความจริงไป

หลังจากที่ได้ยินข่าว ทั้งบอร์ดผู้บริหารก็ต้องสั่นสะเทือน!

อย่างไรเสียเถียนฮุ่ยก็เป็นบ่อเงินบ่อทองของคนจำ นวนมาก ถ้า เกิดอะไรขึ้นกับเถียนฮุ่ย ทุกคนที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยกันต้องซวยกัน หมดอย่างแน่นอน

หลายคนเกิดความกังวลขึ้นมาฉับพลัน ต่างอยากรู้ว่าเกิดอะไร ขึ้น!

ฉีเซี่ยงเจิ้งไม่มีทางเลือก จึงต้องเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอน นั้น

เมื่อทุกคนรู้ว่าเหล่าฉีทุ่มเงินกว่า ยี่สิบล้านในการเย็บแผล พวก เขาต่างสะดุ้งเฮือก

หนึ่งแผล ยี่สิบล้าน มันน่าช้ำ ใจนัก!

แต่เมื่อเทียบกับฉีเซี่ยงเจิ้งแล้ว ทุกคนอยากรู้สถานการณ์ของ เถียนฮุ่ยมากกว่า

ในตอนนี้เอง ผู้บริหารคนหนึ่งก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “จริงสิ ผมรู้จักตัวท็อปของวงหารศัลยกรรมตกแต่งอยู่คนหนึ่ง เขาเป็น

ศัลยแพทย์ตกแต่งชาวญี่ปุ่น ตอนนี้ประจำ การอยู่ที่เมืองหลวง เดี๋ยว ผมจะเชิญเขามา!”

เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเขาต่างพยักหน้า!

“แต่ว่าเหล่าฉีจ่ายเงินไปตั้ง ยี่สิบล้านเชียวนะ จะปล่อยให้เสีย เปล่าไม่ได้ ถ้าเจ้าหมอนั่นมันขูดรีดจริง เราจะปล่อยให้มันเหิมเกริม

แบบนี้ไม่ได้”

“จริงด้วย ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องนี้เลย ถ้าสมมติว่าเถียนฮุ่ย ไม่ดีขึ้น ค่อยหาวิธีรักษากันใหม่!”

หลังจากการหารือ พวกเขาก็ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญตัวท็อปของ วงการศัลยกรรมตกแต่งจากญี่ปุ่นมา

จังหวะเดียวกับที่กงไต้เจินรับโทรศัพท์ และได้รับแจ้งว่า เถียนฮุ่ยฟื้นตัวอย่างดี ถอดไหมเย็บแผลได้แล้ว

ได้ยินข่าวนี้แล้ว ฉีเซี่ยงเจิ้งก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

แต่…เมื่อไปถึงและพบกับแผลเป็นของเถียนฮุ่ย นี่สิซวยของจริง

หันไปมองผู้เชี่ยวชาญวงการศัลยกรรมตกแต่งจากญี่ปุ่นที่ ประธานหยางพูดถึง ฉีเซี่ยงเจิ้งก็ถอนหายใจโล่งอก อาจารย์ท่านนี้ดู มีอายุ น่าเชื่อถือกว่าเฉินชางมาก

ดังนั้นทุกคนจึงเดินเป็นกลุ่มไปยังออฟฟิศของกงไต้เจิน

ขณะเดียวกัน กงไต้เจินที่เห็นคนมาหาหลายคนก็ไม่ได้แปลก ใจแต่อย่างใด

“คุณฉีมาแล้ว คุณเถียนกำ ลังเตรียมตัวจะถอดไหม ให้เชิญ คุณหมอเฉินมาด้วยไหมคะ”

ฉีเซี่ยงเจิ้งนึกถึงเฉินชางแล้วก็ส่ายหน้า ถ้าเจ้าเด็กนั่นมาต้อง เสียเงินอีกไม่น้อย ตอนนี้เขาถูกเฉินชางเล่นงานจนกระทบกระเทือน จิตใจไปหมดแล้ว

เขาพูดขึ้นตรงไปตรงมา “ไม่ต้องหรอกครับ ท่านนี้คือคุณหมอ มิยาเกะ ทาคุโตะ เป็นผู้นำ อุตสาหกรรมศัลยกรรมตกแต่งในญี่ปุ่น ครับ”

เนื่องจากอยู่ในวงการเดียวกัน กงไต้เจินย่อมรู้จักมิยาเกะ ทาคุ โตะเป็นธรรมดา

เขากล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม

ประธานหยางที่อยู่ข้างๆ มองมิยาเกะ ทาคุโตะ แล้วพูดขึ้น อย่างอดไม่ได้ “คุณหมอมิยาเกะ ตอนที่ถอดไหมช่วยดูให้ทีได้ไหม ครับว่าบาดแผลนี้มันคุ้มค่ากับเงิน ยี่สิบล้านหยวนหรือเปล่า”

มิยาเกะพยักหน้า

เขาตามกงไต้เจินเข้าไปในห้องผ่าตัด เตรียมถอดไหมให้กับ เถียนฮุ่ย

ตอนนี้เถียนฮุ่ยเองก็กังวลใจไม่น้อย ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เธอใช้ ชีวิตแต่ละวันด้วยความกลัวและวิตกกังวล

คนอื่นกำ ลังเดิมพันด้วยเงิน แต่เธอกำ ลังเดิมพันด้วยอนาคต ของเธอ

ถึงจะดูหรูหราสวยงาม แต่ก็เป็นแค่ของเล่นนายทุนเท่านั้น ไม่ อย่างนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรือ

กงไต้เจินเตรียมถอดไหม เธอหยิบกรรไกรขึ้นมาแล้วตกตะลึง ทันที!

ตอนนี้เธอค้นพบเรื่องที่ประหลาดอย่างยิ่ง ตอนที่เฉินชางเย็บ แผลเพื่อที่จะรักษาบาดแผล การทำ มุมของเข็มและไหมเย็บแผลดู ซับซ้อนอย่างยิ่ง…ทีแรกเธอก็ไม่สังเกต แต่หลังจากที่แผลหายดีแล้ว ลักษณะของการเดินไหมยิ่งดูยิ่งแปลกขึ้นเรื่อยๆ

ทำ ให้กงไต้เจินที่ถือกรรไกรในมือลังเลขึ้นมากะทันหัน!

ในตอนนี้เองมิยาเกะ ทาคุโตะก็เบิกตาโพลง!

เขาหันไปมองกงไต้เจินแล้วพูด “นี่เป็น…ฝีมือการเย็บแผลของ หมอเฉินใช่ไหมครับ”

ทันทีที่พูดออกมา กงไต้เจินก็ได้แต่มองตาค้าง

“คุณมิยาเกะ…คุณรู้ได้ยังไงคะ คุณฉีบอกคุณเหรอ”

มิยาเกะสูดหายใจเข้าลึก แล้วส่ายหน้า “คนที่ทำ แผลแบบนี้ ผมรู้จักแค่คนเดียว!

นั่นคือคุณเฉินชาง!”

พูดมาถึงตรงนี้ มิยาเกะก็ยิ้มออกมา แล้วหันไปพูดกับกงไต้เจิน “หัวหน้าไต้ครับ คุณไม่ต้องถอดไหมแล้วล่ะ ตอนนั้นผมก็คิดจะถอด ไหมให้เหมือนกัน แต่พอรู้ว่าเป็นแผลที่หมอเฉินเย็บให้ ปล่อยให้เขา ถอดไหมเองดีที่สุดครับ

ในการแข่งขันศัลยกรรมตกแต่งประจำ ปีเมื่อปีที่แล้ว หมอเฉิน ได้เย็บแผลให้กับคนไข้หลายราย หลังจากนั้นตอนที่ถอดไหม พวก เราเป็นคนถอดเอง ถึงได้ค้นพบว่าคนไข้ฟื้นตัวได้ดีมากอย่างน่า ประหลาดใจ!

แต่เพราะว่าไม่ระวังเรื่องลำ ดับการถอดไหม จึงทำ ให้เกิดการ บาดเจ็บเล็กน้อย เพราะฉะนั้น…ไปเชิญหมอเฉินมาดีกว่าครับ!”