เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 987 ปล่อยวางเรื่องราวไม่จีรังในโลกนี้
คำพูดของชายหนุ่มนิ่งสงบมาก ถึงขั้นเกรงใจเล็กน้อย
แต่ทุกคนได้ยินคำพูดนี้แล้ว กลับรู้สึกสะเทือนใจอย่างหาที่
เปรียบไม่ได้
เขานิ่งมากแค่ไหน คนอื่นก็ตะลึงมากเท่านั้น
ชายหนุ่มสกุลหลัว ชื่อว่าหลัวหมิง ปีนี้อายุสามสิบหกปี
วางแผนกลยุทธ์โฆษณาให้กับบริษัทอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่งใน
เมืองหลวง
พ่อเสียไปเมื่อสามปีก่อน ทำให้จิตใจแม่ได้รับ
ความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ตอนนั้นหลัวหมิงเองก็งานยุ่ง
เพิ่งแต่งงาน หน้าที่การงานก็เพิ่งเริ่มเข้าที่เข้าทาง ภรรยาเพิ่ง
คลอดลูก อยู่ในช่วงอยู่ไฟ ภาระทั้งหมดตกมาอยู่ที่หลัวหมิงคนเดียว
จางเหลียนฮวาเองก็เข้าใจลูกมาก ทุกครั้งที่หลัวหมิงมาเยี่ยม
เธอ ก็มักปลอบใจลูกพร้อมรอยยิ้ม
และมักบอกเขาว่า ผู้หญิงอยู่ไฟเป็นเรื่องที่สำ คัญมาก ต้องดูแลให้ดีตอนนั้นหลัวหมิงตัดสินใจรับแม่ไปอยู่ด้วย แต่จางเหลียนฮวา
ปฏิเสธ
“แม่ไปอยู่ด้วยคงไม่สะดวก ช่วงอยู่ไฟ สิ่งที่สำ คัญที่สุดคือ
สภาพจิตใจ ไม่อย่างนั้นจะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด ถ้าแม่ไปอยู่
ด้วย แม่ว่าอะไรเธอ หรือว่าเธอว่าอะไรแม่ คนกลางอย่างลูก
จะลำบากใจเปล่าๆ เอาอย่างนี้ แม่ให้เงินไปจ้างคนช่วยแม่ยายของ
ลูกดูแลภรรยาช่วงอยู่ไฟ จะได้สะดวก”
ความจริง จางเหลียนฮวาจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีมาก ทุกอย่าง
ที่ทำ ทำให้ครอบครัวของภรรยาหลัวหมิงดีใจมาก
แต่ตอนนี้เองจางเหลียนฮวากลับค่อยๆ เป็นอัลไซมอร์
เรื่องนี้ทำให้จางเหลียนฮวาตกใจมาก จู่ๆ ก็จำ เรื่องราวหลาย
เรื่องไม่ได้ ทำให้นักบัญชีที่ฉลาดหลักแหลมมาทั้งชีวิตอย่าง
จางเหลียนฮวาตระหนักได้ว่าตนป่วยในทันที
เธอรีบไปตรวจที่แผนกฉุกเฉินเอง สุดท้ายได้รู้ว่านี่เป็นอาการ
เริ่มแรกของอัลไซมอร์
ตอนนั้นจางเหลียนฮวาตกใจจริงๆพอกลับไปถึงบ้าน เธอเองก็ไม่ได้บอกลูก แต่เริ่มเก็บบ้านให้ดูดี
เขียนลิสต์เรื่องต่างๆ ไว้ในสมุดบันทึกตอนที่ตนยังจำ ได้อยู่
ไม่อย่างนั้น ถ้าเธอลืมทุกอย่างไปจริงๆ จะทำอย่างไร
หลังจากจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จ จางเหลียนฮวาก็เริ่มเตรียม
รูปภาพ อัดรูปในอดีตออกมาทั้งหมด แล้วใส่เข้าไปในอัลบั้ม
เธอลิสต์รายการสิ่งต่างๆ ไว้ให้ตัวเอง เพื่อที่ตื่นเช้ามาจะได้ดู
และชื่อแรกในลิสต์ก็คือ “ลูกชายฉันชื่อหลัวหมิง”
เธอเก็บรูปถ่ายของลูกชายไว้บนโต๊ะหัวเตียง ให้มองเห็นเป็นสิ่ง
แรกหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเพื่อไม่ให้ตนลืม
ความจริง สิ่งที่เธออาลัยอาวรณ์ที่สุดในชีวิต ก็คือลูกชาย
หลัวหมิงเองก็ค่อยๆ ค้นพบว่า แม่ค่อยๆ เปลี่ยนไป ลืมเรื่องราว
มากมายไปแล้ว
ทุกครั้งที่เขาไปหาเธอก็จะทำหมูตู๋นที่เขาชอบที่สุด แต่…เธอ
ลืมไปว่าหลังจากตนถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน ก็น้อยมากที่จะกินของ
มัน
และสิ่งที่แม่ลืมก็มากขึ้นเรื่อยๆลืมการจากไปของพ่อ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี อย่างน้อยแม่ก็ไม่ต้อง
เสียใจทุกวัน แต่บอกหลัวหมิงว่าพ่อเขาไปทำงานต่างแดนตลอด
ทั้ง
ปี
เธอลืมอายุของตนเอง ถึงขั้นเริ่มลืมเพื่อนบ้านที่เพิ่งรู้จัก…
……
และตอนนี้เธอก็ค่อยๆ ลืมลูกชาย!
หลัวหมิงจึงค้นพบว่า อาการอัลไซเมอร์ของแม่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
แล้ว
หลังจากเขารู้ว่าแม่ยังจำ เขาสมัยเรียนมัธยมตอนปลายได้ เขา
ก็ดีใจมาก ไปซื้อชุดนักเรียนในเว็บไซต์ใส่กลับบ้าน
เขาค้นพบว่า แม่จำ เขาได้จริงๆ
เธอหยิบอัลบั้มรูปมาให้เขาดู “ลูกดู นี่ลูกตอนอายุสิบสามปี
…รูปนี้ตอนอายุสิบห้าปี…และรูปนี้ตอนลูกอายุสิบเจ็ดปี…”
เขาค้นพบว่า เขาในช่วงวัยรุ่นที่มักต่อต้าน หลังจากจบ
มัธยมศึกษาตอนปลาย รูปถ่ายก็เก็บไว้ใน QQ ทั้งหมด ไม่ได้อยู่ใน
อัลบั้มเล่มหนาของแม่เขาเสียใจมากขึ้นมาทันที
เขาจึงเริ่มหาเวลามาเยี่ยมแม่บ่อยๆ
จางเหลียนฮวามีโทรศัพท์มือถือสองเครื่อง เครื่องหนึ่งเป็น
สมาร์ทโฟน อีกเครื่องเป็นโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า
เพราะอาการอัลไซเมอร์ เวลาเธอถือสมาร์ทโฟนออกจากบ้าน
มักถูกพวกโจรจับจ้อง จึงเก็บไว้ที่บ้าน เอาไว้วิดีโอคอลกับลูกชาย
ตอนออกนอกบ้านก็จะพกโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่า และใน
โทรศัพท์มือถือก็มีเบอร์โทรบันทึกอยู่
ทุกครั้งที่หลัวหมิงวิดีโอคอลกับแม่ ก็จะสวมชุดนักเรียน
ตอนแรกๆ เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
แต่เขาค่อยๆ ค้นพบว่า เขากลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของ
แม่
และเขาก็ไม่กล้าหนีอีกต่อไป!
และรู้ว่าหนีไม่ได้!
เขาเริ่มค่อยๆ คุ้นชินและปรับตัวกับสภาพแบบนี้ แม้โดน
หัวเราะเยาะก็ไม่เป็นไรเพราะสำ หรับเขา เสียงหัวเราะเยาะของคนแปลกหน้า ไม่ได้
มีความหมายอะไรเลย
เขาค่อยๆ ยอมรับมัน
นึกถึงมือของแม่ หลัวหมิงเป็นห่วงมาก
จากเรื่องที่แม่บาดเจ็บวันนี้ หลัวหมิงก็ยิ่งยืนหยัดความคิดของ
ตนเอง เขาจะดูแลแม่ให้ดี ไม่รู้ว่าเธอเหลือเวลาอีกนานแค่ไหน แต่
…หลัวหมิงกลัวมากว่าวันหนึ่งแม่จะจำ ตนเองตอนมัธยมตอนปลาย
ไม่ได้ด้วย
“หมอเฉิน มือของแม่ผม จะหายไหมครับ” ครู่ใหญ่ หลัวหมิง
อดถามไม่ได้ ในใจเป็นห่วงมาก
กล่าวตามตรง เรื่องราวของหลัวหมิงทำให้เฉินชางซาบซึ้งใจ
มาก
คนอื่นอาจจะไม่เท่าไร เพราะไม่ได้เห็นภาพของหลัวหมิงบนรถ
ไฟฟ้ากับตา
แต่เฉินชางเห็นมากับตา เขาเห็นชายวัยกลางคนคนนี้แม้เผชิญ
กับรอยยิ้มแหยๆ และความประหลาดใจของทุกคน ก็ยังคงคุยกับแม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้
พูดเรื่องราวที่คนอื่นฟังแล้วรู้สึกเหลวไหลมาก!
ไหนจะบอกว่าสอบได้ที่หนึ่ง ครูชมว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ชิงหัวได้
เฉินชางนับถือผู้ชายคนนี้มากจริงๆ ที่ไม่สนใจสายตาที่มอง
มาอย่างแปลกประหลาดของคนรอบข้าง
ลูกผู้ชายคืออะไร
บางทีอาจจะเป็นแบบนี้แหละ!
ต้นไม้หวังอยู่นิ่ง แต่ลมกลับไม่หยุดพัด ลูกๆ อยากเลี้ยงดู
พ่อแม่ แต่พ่อแม่กลับจากไปเสียแล้ว
หลัวหมิงไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เขารู้ตัวดีว่าตนทำอะไร
อยู่
เฉินชางพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ผมจะรักษามือของแม่คุณ
ให้หายครับ!”
หลัวหมิงรีบจับมือเฉินชางอย่างซาบซึ้งใจ “ขอบคุณครับหมอ
เฉิน!”เฉินชางส่ายหน้า ในใจมีประโยคหนึ่งที่ไม่ได้พูดออกมา:
ขอบคุณครับ
ตอนแรกเรื่องที่ลูกทั้งสี่คนแบ่งมรดกกันเมื่อสองวันก่อนสร้าง
ความรำคาญใจให้เฉินชางเล็กน้อย แต่การปรากฏตัวของหลัวหมิง
ทำให้เขาเชื่อว่า บนโลกนี้ คนดีเยอะมาก และพลังบวกก็เยอะมาก
เช่นกัน!
หลัวหมิงที่ใส่ชุดนักเรียนเดินเข้าห้องคนไข้ ส่วนเฉินชางจัดการ
อารมณ์ตัวเอง รอผลตรวจเพื่อจะเริ่มการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด
จากนั้นเฉินชางเริ่มจัดทีมผ่าตัด
……
ตอนนี้ในห้องทำงานแผนกศัลยกรรมด้านมือ หัวหน้าหวง
เฮ่ากำลังเปลี่ยนเวร ช่วงบ่ายมีราวน์วอร์ดครั้งใหญ่ ค่อนข้างยุ่ง
ตอนนี้เอง พยาบาลที่อยู่ข้างนอกก็วิ่งเข้ามา “หัวหน้าหวง
แผนกฉุกเฉินที่หกมีคนไข้โดนแท่งเหล็กแทงทะลุหลังมือต้องผ่าตัด
ด่วน”หวงเฮ่าได้ยินแล้วขมวดคิ้ว พร้อมพยักหน้าพูดว่า “วันนี้ใคร
เข้าเวรครับ”
หมอหนุ่มคนหนึ่งลุกขึ้นพร้อมพูดว่า “หัวหน้าหวง ผมเข้าเวร
ครับ ผมไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ชายหนุ่มพูดจบก็เตรียมจะลุกขึ้น
แผนกฉุกเฉินได้เตรียมความพร้อมสำ หรับการขอปรึกษาเคส
และการผ่าตัดตั้งแต่ก่อนที่เฉินชางจะเคลื่อนย้ายคนไข้กลับมาแล้ว
แต่เฉินชางตอบกลับมาว่า ตนจัดการเองได้
ตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พยาบาลเข้ามาก็พูดว่า
“หัวหน้าหวงคะ แผนกฉุกเฉินบอกว่าไม่จำ เป็นต้องปรึกษาเคสผ่าตัด
ค่ะ หมอเฉินจัดการเองได้”
ได้ยินว่าเป็นเฉินชาง ทุกคนในห้องก็เงียบไปทันที!
ถ้าเป็นที่อื่น ชื่อของเฉินชางอาจจะไม่ได้โด่งดังขนาดนั้น
แต่สำ หรับหัวหน้าหวงเฮ่าแห่งแผนกศัลยกรรมมือ ชื่อของเฉิน
ชางเป็นเหมือนตำนานโดยเฉพาะหลังจากข่าวก่อตั้งศูนย์ฟื้นฟูเส้นเอ็นเผยแพร่
ออกมา หวงเฮ่าได้เจอกับพวกกู้หงเหมย แน่นอนว่าเคยได้ยิน
เรื่องราวของเฉินชาง
ทว่าหวงเฮ่าหาเหตุผลที่ฟังขึ้นในการไปหาเฉินชางไม่ได้เลย
จริงๆ
ตอนนี้ได้จังหวะพอดี!
หวงเฮ่ารีบพูดว่า “ครับ เรื่องของคนไข้สำ คัญที่สุด เช้านี้
ไม่ราวน์วอร์ดแล้ว พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน ผมไปผ่าตัดก่อนนะครับ!”
พยาบาลที่อยู่ข้างๆ พลันพูดเสียงเบา “หัวหน้าคะ…พรุ่งนี้
คุณหมอประจำ แผนกผู้ป่วยนอก…”
หวงเฮ่าชะงักไป “อ้อ…งั้นราวน์วอร์ดวันมะรืนครับ!”
เขาพูดจบก็ลุกขึ้นเดินลงไป
เทียบกับการสานสัมพันธ์กับเฉินชาง ราวน์วอร์ดไม่ได้มีคาม
สำ คัญอะไรเลย
……หวงเฮ่ารีบลงจากแผนก หลังจากมาถึงแผนกฉุกเฉินก็ตรงไป
ห้องทำงาน
ตอนนี้แผนกฉุกเฉินเองก็เพิ่งเปลี่ยนเวร เห็นหวงเฮ่าเดินเข้ามา
อวี๋หย่งกังอึ้งงันไปทันที
อยู่วงการเดียวกันก็มักมีเรื่องบาดหมางกันบ้าง อวี๋หย่งกังและ
หวงเฮ่าก็เคยมีอดีต
หลังจากอวี๋หย่งกังมาปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ฉุกเฉิน ความจริง
แผนกที่อยากประจำ ที่สุดคือแผนกกระดูก หวงเฮ่าเองก็อยู่แผนก
กระดูก แต่ความรู้เฉพาะทางของอวี๋หย่งกังยังด้อยกว่าเล็กน้อย
หวงเฮ่าที่มีความสามารถมากกว่าจึงได้เป็นหัวหน้าแผนก
กระดูก!
ภายหลังโรงพยาบาลพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ หวงเฮ่าได้จัดทีม
ศัลยกรรมด้านมือขึ้นมา รวมทั้งรับหน้าที่รองผู้อำนวยการ
โรงพยาบาล
เพราะฉะนั้น ทั้งสองก็นับว่ามีเรื่องแค้นเคืองกันมาตั้งนานแล้ว
แต่ก็มักจะผ่าตัดด้วยกัน เรื่องนี้ก็เป็นแค่เรื่องของผลประโยชน์“สวัสดีครับหัวหน้าหวง” อวี๋หย่งกังยิ้ม
หวงเฮ่าพยักหน้า “ครับ ผมได้ยินว่ามีคนไข้คนหนึ่งจะผ่าตัด
จึงลงมาดูสักหน่อย”
อวี๋หย่งกังได้ยินแล้วขานรับว่าอ้อ…
“เสี่ยวเฉิน คุณมานี่หน่อย” อวี๋หย่งกังสะใจขึ้นมา
“ผมขอแนะนำหน่อยครับ ท่านนี้คือหัวหน้าของแผนก
ศัลยกรรมมือ หัวหน้าหวง เดี๋ยวตอนผ่าตัด ฝากสอนหัวหน้าหวง
หน่อยนะครับ ผมไม่เข้าด้วยแล้ว พวกคุณตั้งใจผ่าตัดนะครับ”
เฉินชางเห็นท่าทางของทั้งสองก็เข้าใจขึ้นมาทันที อดกระแอม
ไม่ได้ “ผมต่างหากที่ต้องเรียนรู้จากหัวหน้าหวง”
อวี๋หย่งกังคิดๆ แล้วก็ขานรับว่าอืม “ก็ถูก หัวหน้าหวงเป็นหมอ
ระดับอาวุโส เป็นไปไม่ได้ที่จะสู้หมอหนุ่มอย่างคุณไม่ได้ ตั้งใจเรียนรู้
กับหัวหน้าหวงนะครับ”
หวงเฮ่าเห็นท่าทางของอวี๋หย่งกังก็อดจนคำพูดไม่ได้
อวี๋หย่งกังเจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆ เลย!
ฉวยโอกาสพูดจาถากถางชัดๆหวงเฮ่าอดส่ายหน้าไม่ได้ “หัวหน้าอวี๋ ผมอิจฉาคุณจริงๆ เลย
ที่ได้คนเก่งแบบนี้มาอยู่ในทีม! ตอนนี้ผมเองยังรู้สึกเสียดาย ถ้ารู้
แบบนี้ ตอนนั้นให้คุณเป็นหัวหน้าแผนกกระดูก ผมเป็นหัวหน้าแผนก
ฉุกเฉินคงดี!”
คำพูดนี้ทำให้อวี๋หย่งกังสะใจขึ้นมาทันที สิ่งที่อัดอั้นอยู่ใน
ใจมาตลอดสิบกว่าปีได้รับการปลดปล่อยในชั่วขณะนี้
ความจริงอวี๋หย่งกังและหวงเฮ่าก็ไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกัน
ขนาดนั้น พวกเขามักจะเข้าผ่าตัดด้วยกัน และเถียงกันบ้างก็เท่านั้น
เรื่องราวตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน ทุกคนลืมไปตั้งนานแล้ว
ตอนนี้พูดถึงก็เห็นเป็นเรื่องตลกเท่านั้น
ได้ยินหวงเฮ่าพูดแบบนี้ อวี๋หย่งกังดีใจมาก
เขาตบไหล่เฉินชางพร้อมพูดอย่างจริงจัง “หัวหน้าหวงมีความ
สามารถด้านกระดูกเป็นอย่างสูง ตั้งใจเรียนรู้นะครับ!”
พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปอย่างดีใจ
หวงเฮ่าอดตำหนิในใจไม่ได้ โธ่ พวกทหารก็แบบนี้แหละ ทำตัว
เป็นเด็กๆ พูดอวยสักหน่อยก็เอาอยู่แล้ว!หวงเฮ่ารีบยิ้มพูด “เออ เสี่ยวเฉิน ผมกับพวกหัวหน้าฉางหงเหล่
ยพูดถึงวิชาเฉินของคุณอยู่บ่อยๆ ในที่สุดวันนี้ก็ได้เจอคุณแล้ว!”
เฉินชางได้ยินแล้วเผยรอยยิ้มทันที “หัวหน้าหวงชมเกินไปแล้ว
ครับ เรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันดีกว่าครับ ทุกคนล้วนมีความถนัด
ของตนเอง”
ตอนนี้เอง ผลตรวจทั้งหมดออกมาแล้ว ห้องผ่าตัดก็โทรมาบอ
กว่าพร้อมแล้ว
หลัวหมิงรีบเข็นแม่ออกมา
จางเหลียนฮวามีลูกชายคอยอยู่เคียงข้างก็ดีใจมาก ต้องบอ
กว่า…ความรักเป็นยาแก้ปวดที่ดีที่สุด
“แม่ ไม่ต้องกลัวนะครับ หมอดึงแท่งเหล็กออกก็หายแล้ว”
จางเหลียนฮวาเองก็ไม่อยากให้ลูกชายเป็นห่วง จึงอดพูดไม่ได้
“แม่ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง ลูกตั้งใจอ่านหนังสือ เดี๋ยวแม่หายแล้
วจะทำหมูตุ๋นให้กิน”
หลังจากเห็นฉากนี้ หวงเฮ่าเองก็อึ้งงันไป มองอย่าง
ประหลาดใจแวบหนึ่ง ก่อนจะถามเสียงเบา “อัลไซเมอร์เหรอ”เฉินชางพยักหน้า “เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ”
พยาบาลหยางเจี๋ยเข็นคนไข้เข้าห้องผ่าตัด และตอนที่เดินอยู่
หลัวหมิงหยิบเงินออกจากกระเป๋า น่าจะประมาณสองพันกว่า จะยัด
เข้ากระเป๋าของเฉินชาง
เฉินชางรีบพูดว่า “พี่หลัวอย่าทำแบบนี้ครับ ผมเคารพพี่ การ
ผ่าตัดครั้งนี้เราจะทำอย่างสุดความสามารถ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ!
เก็บเงินนี้ไว้ซื้อของอร่อยๆ ให้คุณป้ากินนะครับ”
พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องผ่าตัดไปพร้อมกับหวงเฮ่า
พอไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เฉินชางก็เล่าเรื่องของหลัวหมิงให้
หวงเฮ่าฟัง
หลังจากฟังจบ หวงเฮ่าก็อึ้งงันไป
ทำให้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งทำตัวเป็นเด็กน่าขำแบบนี้ได้ ถือ
ว่ายากมากจริงๆ
หวงเฮ่าอดพูดไม่ได้ “เฮ้อ…ตั้งใจผ่าตัดเถอะครับ! สังคมเดี๋ยวนี้
พลังบวกเยอะมาก! บางทีโรงพยาบาลก็เป็นที่ที่มหัศจรรย์มากจริงๆมีความจริงที่โหดร้าย แต่สิ่งที่มากกว่าคือเรื่องราวที่น่าประทับใจ!
คุณรู้ไหมว่าทำไมตอนประทับใจถึงต้องร้องไห้” หวงเฮ่ายิ้มถาม
เฉินชางอึ้งงันไป “เพราะอะไรครับ”
หวงเฮ่ายิ้มพูด “เพราะดวงตาก็เหมือนกับจิตวิญญาณที่ต้อง
ล้างมลทิน!
มีคำพูดหนึ่งเขาว่ายังไงนะ พวกเราต้องละทิ้งเรื่องทางโลกและ
ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เห็นความมั่งคั่งและลาภยศ ก็อย่าตามืดบอด
นี่คือเหตุผลที่ทำไมคนถึงใช้น้ำตาแห้งความซาบซึ้งมาชะล้างดวงตา
ครับ”
คำพูดของหวงเฮ่ามีเหตุผลมาก เฉินชางพยักหน้าเหมือนคิด
อะไรอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่งพลันอดถอนหายใจไม่ได้ “หัวหน้าหวงสุดยอด
มากครับ”
หวงเฮ่ายิ้ม “อยู่ธุรการนานไป คุณจะได้เรียนรู้เรื่องนี้ หมอ
ทหารอย่างอวี๋หย่งกังไม่มีคำพูดซึ้งๆ แบบนี้หรอก”
ทั้ง
สองสบตากัน พลันหัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมาเหล่าอวี๋ที่เตรียมออกจากแผนกฉุกเฉินจู่ๆ ก็จาม พลันพึมพำที
หนึ่ง อากาศเปลี่ยนแปลงเหรอ ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว…
หวงเฮ่าอดพูดไม่ได้ “ความจริง อยู่กับเหล่าอวี๋จะได้เรียนรู้
อะไรมากมาย ผมติดตามผลงานคุณมานานแล้ว แต่…ผมรู้ว่าใจคุณ
ไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณสนใจแผนกฉุกเฉิน ตั้งใจเรียนรู้กับเหล่าอวี๋นะครับ”
เฉินชางพยักหน้า “ครับ ขอบคุณหัวหน้าหวงนะครับ”
ทั้ง
สองเดินเข้าห้องผ่าตัดไปพร้อมรอยยิ้ม