เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 991 คลิปประชาสัมพันธ์การกุศล
เลขาเหอเคาะประตูทำงานของเสี้ยวรุ่นฟางก่อนจะเดินเข้าไป
“หัวหน้าคะ เมื่อครู่นี้เฉินชางโทรมา บอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับการ
คลิปประชาสัมพันธ์การกุศลจะคุยด้วยค่ะ”
เสี้ยวรุ่นฟางอดยิ้มไม่ได้ “คลิปประชาสัมพันธ์อะไรเหรอคะ”
ความจริงเรื่องนี้ไม่จำ เป็นต้องให้เสี้ยวรุ่นฟางตัดสินใจก็ได้
เพียงแต่เฉินชางอยากให้ทุกคนให้ความสำ คัญกับเรื่องนี้
เลขาเหอยิ้มพูด “คลิปประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันและ
รักษาโรคอัลไซเมอร์ค่ะ”
เสี้ยวรุ่นฟางฟังแล้วอดประหลาดใจไม่ได้
ทำไมจู่ๆ เฉินชางถึงอยากทำคลิปประชาสัมพันธ์แบบนี้
ความจริง ช่วงนี้เสี้ยวรุ่นฟางติดตามเรื่องราวของเฉินชา
งมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงอย่างไรอายุเพียงเท่านี้ก็ทำโครงการใหญ่สำ เร็จมาสอง
โครงการแล้ว และโครงการทั้งสองยังเป็นการรักษาแนวหน้าระดับสากลอีกด้วย
จะไม่ให้เสี้ยวรุ่นฟางที่ดูแลเกี่ยวกับสาธารณสุขให้ความสนใจ
ได้อย่างไร
ที่สำ คัญคือเสี้ยวรุ่นฟางมาจากสถาบันแพทย์แผนจีน
มีความสนใจด้านการวิจัยอยู่แล้ว
ตอนนี้จู่ๆ มาได้ยินเฉินชางบอกว่าจะทำคลิปประชาสัมพันธ์
ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นตามสัญชาตญาณ…
หรือเฉินชางจะหาวิธีรักษาโรคอัลไซเมอร์ได้แล้ว
แต่…ซุนกว่างอวี่บอกว่าช่วงนี้เฉินชางเตรียมเข้าร่วมสมาคม
ศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลกของเมโยไม่ใช่หรือ
ทำไมจู่ๆ ถึงมาประชาสัมพันธ์โรคอัลไซเมอร์
คิดถึงตรงนี้ เสี้ยวรุ่นฟางพลันโทรหาเฉินชางด้วยความสงสัย
เฉินชางเห็นว่าเป็นสายจากเสี้ยวรุ่นฟางก็รับสายทันที
“สวัสดีครับ ท่านรัฐมนตรี!”
เสี้ยวรุ่นฟางขานรับ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “คุณวิจัย
โรคอัลไซเมอร์อยู่เหรอคะ”เฉินชากระแอมทีหนึ่งพร้อมส่ายหน้า “เปล่าครับ”
เสี้ยวรุ่นฟางได้ยินแบบนี้ก็ถามอย่างสงสัย “ทำไมคุณถึงสนใจ
จะทำคลิปประชาสัมพันธ์นี้คะ และยังแจ้งให้ฉันทราบด้วย”
เฉินชางอดพูดไม่ได้ “ผมอยากให้ทุกคนได้เห็นคลิปประชา
สัมพันธ์การกุศลนี้ครับ ผมคิดว่าจะช่วยกระตุ้นความรักในส่วนลึก
ของหัวใจมนุษย์ได้…และทำให้ทุกคนให้ความสำ คัญกับโรค
อัลไซเมอร์ด้วย”
เสี้ยวรุ่นฟางอดตกใจไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ”
เฉินชางถอนหายใจ ก่อนจะเล่าเรื่องของหลัวหมิงให้เสี้ยวรุ่น
ฟางฟัง พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่มีคนเอาคลิปไปเผยแพร่ในติ๊กต็อก
จากนั้นจึงพูดว่า “ผมอยากสร้างคลิปประชาสัมพันธ์การกุศล
จากเรื่องราวของหลัวหมิง เพื่อเตือนสติทุกคนให้ดูแลคนใน
ครอบครัว ในขณะเดียวกันก็เป็นการทำให้ทุกคนตระหนักถึงโรค
อัลไซเมอร์ด้วย”
หลังจากเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างชัดเจนแล้ว เสี้ยวรุ่นฟางเอง
ก็เงียบไป“ได้ค่ะ! เอาอย่างนี้ เรื่องนี้ฉันจะประสานกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแล
เรื่องการประชาสัมพันธ์ให้เร่งถ่ายทำโดยเร็วที่สุด หวังว่าจะได้
เผยแพร่ออกมาทันวันพ่อและวันแม่ เพื่อเป็นคลิปประชาสัมพันธ์
การกุศล จริงสิ คุณมาเป็นผู้ประพันธ์เรื่องนี้ดีไหมคะ”
เฉินชางได้ยินแล้วดีใจขึ้นมาทันที “ได้ครับ ขอบคุณครับ!”
ความจริงเฉินชางหาคนมาทำคลิปสั้นนี้เองได้
แต่จะไม่มีอิทธิพลเท่ากับการที่ทางการเป็นคนเผยแพร่
รัฐมนตรีเสี้ยวออกคำสั่งด้วยตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ควรออกอากาศ
ทางสถานีกลางและสถานีท้องถิ่น รวมถึงโปรโมตทางอินเทอร์เน็ต
แบบนี้แน่นอนว่ามีอิทธิพลมากกว่า
ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของหลัวหมิงคนเดียวแล้ว ยัง
เป็นความยึดมั่นในใจของเฉินชาง
แก๊งลูกๆ ทั้งสี่ที่มาแบ่งสมบัติกันทำให้เฉินชางรู้สึกไม่สบายใจ
แต่การปรากฏตัวของหลัวหมิงได้กอบกู้ความรู้สึกของเฉินชางกลับ
มาเฉินชางคิดว่าสังคมควรได้รับการกระตุ้นให้ใส่ใจพ่อแม่และ
ปลุกความรักในหัวใจของทุกคน
เขารู้ว่าบนโลกนี้ คนส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนดี!
เหมือนอย่างที่หวงเฮ่าพูด
ตอนประมาณสิบเอ็ดโมง เฉินชางเพิ่งเสร็จงาน โทรศัพท์มือถือ
ก็ดังขึ้น
เป็นสายจากหานอีหลิน หัวหน้าแผนกงานประชาสัมพันธ์ของ
กระทรวงสาธารณสุข เธอเป็นผู้หญิงอายุสี่สิบปีที่เป็นถึงระดับนัก
บริหารกลางแล้ว
หลังจากทำความเข้าใจรายละเอียดจากเฉินชางก็ถามว่า
“หมอเฉิน ด้านบทประพันธ์ คุณจะเขียนใช่ไหมคะ เรื่องนักแสดงคุณ
มีคนที่เหมาะส มหรือบริษัทบันเทิงที่ร่วมงานอยู่ไหมคะ”
เฉินชางชะงักไป เขาอยากให้หลัวหมิงเป็นคนแสดง แต่ต้อง
ถามความสมัครใจของเขาก่อน
หลังจากวางสาย เฉินชางเล่าเรื่องทั้งหมดให้หลัวหมิงฟัง หลัว
หมิงอึ้งงันไปทันที!“หมอเฉิน แบบนี้…จะเหมาะสมเหรอครับ”
เฉินชางยิ้ม “เหมาะสิครับ ผมคิดว่าคุณแสดงได้ดีกว่าพวก
ดาราอย่างแน่นอนครับ”
หลัวหมิงลังเลครู่ใหญ่ เขาเองก็อยากพิสูจน์ตัวเองมาก
ทว่า…
เขาปฏิเสธ!
เขาไม่อยากให้แม่รู้เรื่องนี้ และไม่อยากให้คนอื่นรบกวนชีวิต
ของเขาและครอบครัว
ยิ่งไม่อยากให้ทุกคนมองเขาและแม่ด้วยสายตาเวทนา
สำ หรับเขา นี่เป็นเพียงแค่สิ่งที่เขาควรทำเท่านั้น
ในเมื่อเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ทำไมต้องประชาสัมพันธ์ให้
คนอื่นรู้
เพราะฉะนั้น หลัวหมิงคิดไปคิดมาก็ปฏิเสธอย่างอ้อมค้อม
“หมอเฉินครับ ความหวังดีของคุณผมขอน้อมรับเอาไว้ แต่ผม
ไม่อยากมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ผมเป็นห่วงแม่ เป็นห่วงครอบครัวไม่อยากให้ส่งผลกระทบที่ไม่จำ เป็น…ความจริง ผมก็เป็นแค่
คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น”
หลัวหมิงยิ้ม หลังจากขอบคุณแล้วขอบคุณอีก ก็ได้ยิน
แม่เรียกหาตน จึงยิ้มอย่างรู้สึกผิด “หมอเฉินครับ ผมเข้าไปก่อนนะ
ครับ”
เฉินชางได้ยินหลัวหมิงพูดแบบนี้ก็เข้าใจ
ช่างเถอะ ตนก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ เรื่องแบบนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่
ของพวกผู้เชี่ยวชาญเถอะ
จู่ๆ เฉินชางก็นึกถึงฉีเซี่ยงเจิ้ง
เขาเป็นประธานคณะกรรมการของบริษัทเซี่ยงเจิ้งเอ็นเตอร์เทน
เม้นท์ อาจจะคุ้นเคยกับวงการบันเทิง
ฉีเซี่ยงเจิ้งเห็นว่าเป็นสายจากเฉินชางก็ลังเลครู่หนึ่งก่อน
จะรับสาย
“หมอเฉิน มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ
”จากนั้นเฉินชางได้เล่าเรื่องคลิปประชาสัมพันธ์ให้ฉีเซี่ยงเจิ้งฟัง
หลังจากเล่าจบ ฉีเซี่ยงเจิ้งก็อึ้งไป
นี่…ผลประโยชน์ขนาดนี้มาตกที่เขาได้อย่างไร
ตื่นเต้นจริงๆ
อย่าลืมว่า การถ่ายคลิปประชาสัมพันธ์ให้กับทางการดูเหมือน
ไม่ได้สิ้นเปลือง แต่ความจริงคลิปประชาสัมพันธ์ก็คือคลิปโฆษณา
โปรเจกต์ใหญ่!
ทำให้คนคนหนึ่งชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย
ทว่าตอนนี้เอง เฉินชางอดพูดไม่ได้ “ท่านประธานฉีครับ ผม
หวังว่าคุณจะไม่คิดหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ นี่เป็นการประชา
สัมพันธ์การกุศล หวังว่าจะได้รับผลลัพธ์อย่างที่ผมหวังเอาไว้”
ฉีเซี่ยงเจิ้งรีบรับประกัน “หมอเฉิน พูดจากใจจริงเลยนะครับ
งานนี้แม้ไม่ได้เงินแม้แต่หยวนเดียวผมก็จะถ่ายทำออกมาให้ดีที่สุด
ผมจะหานักแสดงที่เก่งที่สุด หวงปั๋วหังดีไหมครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้
เหมาะกับเขานะครับ! ผมจะไปหาเขาด้วยตัวเอง หวงเล่ยก็ได้นะครับ
จริงสิ ซุนหงเหลยก็ดีนะครับ คุณว่าใครเหมาะกว่าครับ แม้ด้านการแพทย์ผมจะสู้คุณไม่ได้ แต่ผมมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง คุณ
อุตส่าห์นึกถึงผม ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ต่อไปมีเรื่องอะไร บอก
ได้เลยนะครับ!”
หลังจากทั้งสองคุยรายละเอียดกันเสร็จ เฉินชางตัดสินใจหา
เวลาให้หานอีหลินจากกระทรวงสาธารณสุขไปคุยกับฉีเซี่ยงเจิ้ง
ด้วยตัวเอง
ถึงอย่างไรคณะกรรมการสาธารณสุขก็มีความคิดของตนเอง
ไม่แน่ว่าอาจจะมีแผนอยู่แล้ว
ช่วงบ่าย เฉินชางก็ไปที่วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน