เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 992 เสี่ยวเฉิน คุณหมายความว่า...

หลังจากฉีเซี่ยงเจิ้งวางสาย ในใจก็ตื่นเต้นมาก!

บริษัทเซี่ยงเจิ้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ไม่ใช่บริษัทเล็กๆ มีนักแสดง

แนวหน้าหลายคน กระแส ความนิยมและยอดการรับชมก็ไม่ด้อย

กว่าเถียนฮุ่ยเลย งบการเงินก็ดีมาก

ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสัญญาผูกพันกับบริษัทจัดการลงทุน

งานถ่ายคลิระชาสัมพันธ์แบบนี้ดูเหมือนเสียทั้งเงินทั้งเวลา

แต่จะต้องมองการณ์ไกลหน่อย!

เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะมีเส้นสายในกระทรวงสาธารณสุข

คิดได้แบบนี้ จู่ๆ ฉีเซี่ยงเจิ้งก็รู้สึกว่าไอ้ลูกชายโง่เขลาของตนเองก็

ไม่ได้โง่ขนาดนั้น

อย่างน้อยๆ แม้จะก่อเรื่อง แต่ก็นำโชคมาให้ตน!

เฉินชางช่างเ็นผู้มีพระคุณของตน!

ต่อไจะต้องดูแลเขาให้ดีคิดถึงตรงนี้ ฉีเซี่ยงเจิ้งรีบเตรียมความพร้อมและวางแผนเรื่อง

นี้ทันที

……

ตอนนี้เฉินชางคุ้นเคยกับวิทยาลัยการแพทย์ักกิ่งยูเนี่ยนเ็น

อย่างดี ถึงอย่างไรก็มาหลายรอบแล้ว

หลังจากมาถึงแผนกศัลยกรรมทั่วไ ฉินเยว่เห็นเฉินชางก็รีบ

พาเขาไที่ห้องระชุม

“เข้าไเลยค่ะ ฉันไม่เข้าได้วยนะคะ” ฉินเยว่พูดเสียงเบา

เฉินชางชะงัก “ทำไมล่ะครับ”

ฉินเยว่มองบน หยิกเอวเฉินชางทีหนึ่ง ก่อนจะพูดอย่าง

เดือดดาล “คุณจงใจยั่วโมโหฉันเหรอคะ เชอะ กลับบ้านไฉัน

จัดการคุณแน่ รีบเข้าไเถอะค่ะ”

เฉินชางรีบร้องขอชีวิต

ตอนนี้มีคนอยู่ในห้องระชุมแล้วระราย ทุกคนคุยกันอยู่

พอเห็นเฉินชางเข้ามา ทุกคนต่างทักทาย

“หมอเฉินมาแล้วเหรอครับ!”“สวัสดีครับหมอเฉิน”

“นั่งตรงนี้ก่อนครับหมอเฉิน”

……

ทุกคนกระตือรือร้นมาก ทำให้เฉินชางเกรงใจเล็กน้อย คนที่มา

เข้าร่วมการระชุมส่วนใหญ่ล้วนเ็นคนรู้จัก ซึ่งก็คือพวกที่เจอใน

งานอบรมครั้งก่อน

หลังจากเฉินชางนั่งลง ซุนกว่างอวี่ก็ยื่นชาร์ตผู้ช่วยฉบับหนึ่งให้

เฉินชาง “นี่อาการโดยรวมของผู้ช่วยครับ”

เฉินชางพยักหน้า พลิกอ่านโดยไม่ได้พูดอะไรมาก

“ผู้ช่วยเ็นผู้สูงวัย อายุแดสิบห้าี สองเดือนมานี้มีอาการ

คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร พร้อมด้วยอาการวดท้องเ็นระยะๆ

โรคระจำ ตัวคือโรคเบาหวาน ฉีดอินซูลินเ็นระจำ ช่วงสัดาห์

ที่ผ่านมาควบคุมระดับน้ำตาลได้านกลาง…”

เฉินชางอ่านระวัติผู้ช่วยอย่างละเอียด

อาจจะเ็นโรคระบบทางเดินอาหารที่ซับซ้อน

นี่คือความรู้สึกแรกของเฉินชางเนื่องจากการส่องกล้องทางเดินอาหารของผู้ช่วยกติ ผลการ

CT ก็ไม่พบสัญญาณผิดกติ ผลการอัลตราซาวด์ช่องท้อง ตับ

ถุงน้ำดี ตับอ่อน ม้าม และไตกติ

เฉินชางอึ้ง ส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน

(ERCP) และตรวจโดยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าดูท่อน้ำดีและ

ตับอ่อน (MRCP) งั้นหรือ

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ไม่พบความผิดกติที่ชัดเจน ซึ่งถือว่า

แลก

มีระวัติการ่วยเ็นโรคถุงน้ำดีอักเสบ แต่ไม่ได้รับการผ่าตัด

ผู้ช่วยสูบบุหรี่ และมีโรคระบบทางเดินหายใจ คือ โรคอดอุด

กั้น

เรื้อรัง

ทว่า…

ระบบทางเดินหายใจและระบบทางเดินอาหารมีส่วนเกี่ยวข้อง

กันด้วยเหรอ

ถ้าบอกมีความสัมพันธ์กันตามหลักแพทย์แผนจีนที่มองว่า

อดและลำไส้ใหญ่เ็นอวัยวะภายนอกและภายในของกันและกันแต่เฉินชางยังคงรู้สึกถึงความผิดกติ

มีข้อสงสัยมากมายซุกซ่อนอยู่ กรรมการผู้เชี่ยวชาญสิบกว่าคน

ทยอยมาถึง หลังจากทุกคนมากันครบแล้ว ซุนกว่างอวี่ก็ลุกขึ้น

กล่าวว่า “ตอนนี้ทุกคนดูอาการโดยรวมของผู้ช่วยก่อน จากนั้นเรา

ค่อยมาดูภาพเอกซเรย์ และเริ่มการระชุม”

ผ่านไระมาณยี่สิบกว่านาที ทุกคนพอจะเข้าใจสถานการณ์

ของผู้ช่วยแล้ว

ตอนนี้เอง เสียงเคาะระตูดังขึ้น

ชายวัยกลางคนท่าทางน่าเกรงขามคนหนึ่งเดินเข้ามา

ชายวัยกลางคนสวมชุดทหาร ดูเผด็จการมาก และยังมี

เครื่องหมายยศสีทอง รวมถถึงดาวสีทองสองดวงบนไหล่

“สวัสดีครับหัวหน้าทุกท่าน ผมเ็นลูกชายของผู้ช่วย ผมมานั่ง

ฟังอาการด้วย หวังว่าจะไม่เ็นการรบกวนทุกท่านนะครับ”

นอกจากซุนกว่างอวี่ ทุกคนต่างเผยสีหน้าจริงจัง ลูกยังดาว

สองดวง แล้วพ่อจะขนาดไหน

ไม่แลกที่ซุนกว่างอวี่ดำเนินการทุกอย่างอย่างลึกลับขนาดนี้ทุกคนต่างพยักหน้า “ไม่รบกวนครับ”

ซุนกว่างอวี่รีบลุกขึ้น “เชิญนั่งครับ ผู้บังคับบัญชาฉิน”

ฉินเจิ้นหงพยักหน้า ก่อนจะนั่งลงแถวหลัง

เขาเพิ่งกลับจากที่ทำงานก็รีบมาเลย จึงยังไม่ทันได้เลี่ยน

เสื้อผ้า

ซุนกว่างอวี่พลันพูดว่า “นี่คือผลอัลตราซาวด์ชนิดสีบริเวณ

ช่องท้องของผู้ช่วย ทุกคนลองดูนะครับ ผมคิดว่าไม่ได้พบ

ความผิดกติอะไรเลย ส่วนนี่คือผล CT…”

ทุกคนเริ่มหารือกันทีละภาพ

คุยกันตั้งแต่สาเหตุของโรค การตรวจและผลการตรวจ

ทุกคนต่างหารือกันอย่างดุเดือด ไม่มีความผิดกติของอวัยวะ

ที่จะบ่งบอกโรคได้ นี่คือระเด็นที่สำ คัญที่สุด

ในห้องระชุมมีหมอแผนกทางเดินอาหารอยู่หลายคน

การวินิจฉัยเบื้องต้นคือผู้ช่วยเ็นโรคทางเดินอาหารที่ซับซ้อน!

ความจริงก็คือจากการตรวจไม่พบความเสียหายของอวัยวะ

ใดๆ จึงมีความน่าจะเ็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับการทำงานของระบบทางเดินอาหารที่ซับซ้อนหลายโรคเรื้อรังมาเ็นเวลานาน

นี่ไม่ใช่โรคทั่วไ

เบื่ออาหาร วดท้อง คลื่นไส้ เ็นการยากที่จะวินิจฉัยทางใด

ทางหนึ่ง

ทุกคนต่างมีความคิดเห็นของตนเอง เบื้องต้นก็วิเคราะห์จาก

การตรวจคลื่นไฟฟ้าทางเดินอาหาร ถึงขั้นหารือถึงัญหาใหม่ๆ

หลายเรื่อง

แต่เฉินชางกลับจ้องภาพ CT ในโทรศัพท์มือถือแล้วเริ่ม

วิเคราะห์

และตอนนี้เอง หลังจากเฉินชางทยอยดูภาพ CT เหล่านั้น จู่ๆ ก็

ลุกขึ้นพร้อมพูดว่า “ผมอยากไเยี่ยมผู้ช่วยหน่อยครับ ไตรวจ

ด้วยตัวเอง”

ได้ยินคำพูดของเฉินชาง ทุกคนต่างอึ้งงันไ

แม้แต่ฉินเจิ้นหงยังมองชายหนุ่มคนนี้อย่างระหลาดใจ ใน

ใจเกิดความสงสัย เขาเ็นผ

ู้เชี่ยวชาญหรือซุนกว่างอวี่มองเฉินชางแวบหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ “ได้

ครับ ไห้องผู้ช่วยกัน”

ถึงอย่างไร เพียงแค่ข้อมูลก็ยังไม่เพียงพอ ต้องเจอผู้ช่วยก่อน

พอเข้ามา เฉินชางเห็นผู้ช่วยนอนอยู่บนเตียง หลับตาฟังละคร

ระวัติศาสตร์ผ่านวิทยุอยู่

เห็นทุกคนเดินมา ผู้ช่วยก็ลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มและิดวิทยุ ก่อน

จะพยักหน้าทักทายทุกคน

หลังจากเฉินชางเจอผู้ช่วย ก็รู้สึกคุ้นหน้ามาก ตอนเด็กเขา

มักจะเห็นคนคนนี้ในข่าว

ซุนกว่างอวี่พลันพูดว่า “ท่านผู้นำครับ เราขอตรวจหน่อยครับ

ท่านนอนลงนะครับ”

ผู้ช่วยให้ความร่วมมือมาก เขานอนลงและยิ้มพูด “มารักษาตัว

ที่โรงพยาบาล พวกคุณต่างหากที่เ็นผู้นำผม ผมต้องทำตามคำสั่ง

พวกคุณครับ”

เฉินชางเห็นผู้ช่วยว่าง่ายขนาดนี้ก็อดยิ้มไม่ได้ พลันถูมือให้อุ่น

แล้วเริ่มตรวจช่องท้องราบและนุ่ม ไม่พบอาการกดแล้ววด กล้ามเนื้อเกร็ง

…

ลองเคาะแล้วก็ไม่มีความผิดกติใดๆ…

ตอนนี้เอง เฉินชางคลายมือจากท้องผู้ช่วย หยิบภาพเอซเรย์

ขึ้นมาดูอย่างละเอียด

หลังจากเขาดูภาพเอกซเรย์ครบทุกภาพ จู่ๆ ก็พูดว่า “ตรวจวัด

พังผืดของตับด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหน่อยครับ!”

ซุนกว่างอวี่ได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วทันที “เสี่ยวเฉิน คุณ

หมายความว่าอย่างไรครับ”

เฉินชางพลันพูดว่า “ตอนนี้ผมสงสัยว่าเ็นัญหาของตับอ่อน

”

ความจริงเฉินชางไม่เพียงแค่สงสัยว่าเ็นัญหาของตับอ่อน

เขายังสงสัยว่า ผู้ช่วย่วยเ็น ‘ราชาแห่งมะเร็ง’!