เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 996 ความจริงปรากฏ!
เมื่อคืนเฉินชางเข้านอนและฝันว่าตนเองกลายเ็นนักเขียนบท
และผู้กำกับชื่อดัง…ฮ่าๆๆ…
หลังจากตื่นขึ้นมา เขาก็แอบเลี่ยนกางเกงในแล้วซักให้สะอาด
ตอนที่ยัยฉินขี้ระจบไม่รู้ตัว
จากนั้นเขาก็รีบบึ่งไโรงพยาบาล
เขามาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า พยาบาลกะดึกเมื่อคืนเข้ามาหา
เฉินชาง “หมอเฉินคะ เมื่อวานช่วงบ่ายเชอหลิงกับเชอเจ๋อฮว่า
ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะคะ”
เฉินชางได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึง
“หา? ทำไมออกจากโรงพยาบาลเร็วขนาดนี้ล่ะ”
พยาบาลยิ้มออกมา “เชอเจ๋อฮว่านอนโรงพยาบาลมาครึ่งเดือน
แล้วนะคะ เชอหลิงก็อยู่ใน ICU มาสัดาห์กว่าแล้ว ออกจาก
โรงพยาบาลเมื่อวานตอนบ่ายค่ะ”
เฉินชางเพิ่งรู้ตัวว่าเวลาผ่านไเร็วจริงๆ!”วันนี้วันอะไรครับ”
พยาบาลยิ้ม “หมอเฉินคงจะยุ่งจนหัวหมุนเลยสิท่า วันนี้วันพุธ
ค่ะ”
เฉินชางร้องอ๋อ ยังพูดอยู่เลยว่าจะไเยี่ยมยัยหนูคนนั้น ไม่คิด
เลยว่าจะออกจากโรงพยาบาลแล้ว
เฉินชางสั่นศีรษะถอนหายใจ ก่อนจะหันไทางห้องทำงาน
พยาบาลพูดขึ้น “เดี๋ยวค่ะหมอเฉิน เชอหลิงมีของฝากให้หมอ
ด้วยนะคะ”
สีหน้าของเฉินชางดีใจขึ้นมาทันที “หืม? ของฝากอะไรเหรอ
ครับ”
พยาบาลหยิบโหลแก้วออกมาตอนนี้เอง “อะ นี่ค่ะ แล้วก็
จดหมายฉบับหนึ่ง”
เฉินชางรับโหลแก้วและจดหมายมา กลับเข้าไในห้องทำงาน
เมื่อเิดโหลแก้ว ข้างในมีดาวกระดาษพับเองดวงเล็กๆ
กระดาษที่ใช้เ็นกระดาษเหลือบทองหลากสีสัน เฉินชางได้กลิ่นหอม
จากกระดาษจึงหยิบขึ้นมาดมอย่างตั้งใจ!
นี่มันกลิ่นช็อกโกแลตไม่ใช่เหรอ
เฉินชางมีฏิกิริยาตอบสนองทันที นี่เ็นกระดาษห่อ
ช็อกโกแลต
มิน่าล่ะ ทุกครั้งที่ไราวน์วอร์ด ICU มักจะเห็นเธอทำตัวลับๆ
ล่อๆ เวลากินช็อกโกแลตเสร็จจะเก็บห่อไ รีดมันให้แบนแล้วทับด้วย
หนังสือ
เห็นดาวกระดาษที่พับจากห่อช็อกโกแลตในขวดโหล เฉินชางก็
รู้สึกว่าวันนี้อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ในตอนนี้เอง เขาถึงได้เห็นข้อความ
สั้นๆ ลายมือขยุกขยิกที่เขียนด้วยากกาสีบนฝา
“โหลแห่งความหวัง”
เฉินชางอ่านชื่อแล้วก็ยิ้มออกมา
เขาเิดซองจดหมาย ข้างในเขียนด้วยถ้วยคำอันอบอุ่น
“คุณอาเฉินชาง หนูได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ!
หนูดีใจมาก แต่ก็ไม่อยากไเลย เพราะคุณลุงคุณ้าที่นี่ใจดี
ทุกคนเลยค่ะแต่แม่บอกว่า ถ้าหนูอยู่ต่ออีกวันต้องจ่ายเงินเยอะมากๆ เงิน
พวกนี้คุณอาช่วยออกให้ก่อนได้ไหมคะ…
ถ้าหนูโตขึ้นมาหาเงินได้แล้ว หนูจะบริจาคเงินเยอะๆ เอา
มาสร้างโรงพยาบาลใหญ่ๆ ให้เด็กๆ ที่ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาได้รักษา
ฟรี…
ลาก่อนนะคะ อาเฉินชาง คุณอาเ็นหมอที่ดีที่สุดของที่สุดของ
ที่สุดที่หนูเคยเจอมาเลย โหลแห่งความหวังนี้เ็นความหวังของหนู
ข้างในเต็มได้วยดวงดาว คุณอาเองก็เ็นเหมือนกับดาวที่
ส่องสว่างในค่ำคืนมืดมิด ขอบคุณคุณอานะคะที่ช่วยพ่อของหนูไว้
บ๊ายบายค่ะ คุณอาเฉินชาง หนูจะคิดถึงคุณอานะคะ”
จดหมายถูกเขียนด้วยตัวอักษรโย้เย้และตัวพินอิน
เฉินชางอ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ เขาพับมันสอดไว้ในหนังสือเล่ม
หนึ่ง จากนั้นนำขวดโหลกลับไเก็บไว้ที่ห้องเวร
ตอนเช้า ดร.เสี่ยวจูมาหา
“อาจารย์เฉิน นี่เ็นข้อมูลของผม ส่วนนี่เอกสารระกอบ”
จูเทาเ็นคนจริงใจ เขาแบกกระเ๋าเ้มา พอเิดออกแล้วก็หยิบสำ เนาใบระกาศนียบัตรและใบวุฒิการศึกษาออกมา
เฉินชางชะงักไทันที เขาถามขึ้นด้วยความสงสัย “ดร.เสี่ยวจู
คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้าง อยากจะเรียนต่อด้านไหน หรืออยาก
จะเข้ามาทำงานที่เมืองอันหยาง”
จูเทานึกย้อนไถึงคำพูดของอาจารย์เมื่อวาน เขาพยักหน้า
อย่างมุ่งมั่นแล้วกล่าว “ตอนนี้ผมอยากเรียนต่อครับ แต่…หลังจากที่
ผมเรียนจบแล้ว ผมจะเลี่ยนศูนย์ฟื้นฟูเส้นเอ็นให้กลายเ็นมือหนึ่ง
ด้านการศัลยกรรมครับ”
เฉินชางได้ยินเช่นนี้ ก็ตะลึงงันโดยไม่รู้ตัว
แม้แต่เขาก็ยังไม่เคยคิดเช่นนี้มาก่อน…
ยังไม่ทันรู้ตัว เขาก็กลายเ็นที่รึกษาและผู้นำให้กับใครหลาย
ๆ คนไแล้ว
ศาสตราจารย์ทังจินอแนะนำนักศึกษาของตัวเองเข้ามา
นักศึกษาของกู้หงเหมยก็ติดตามมาด้วย และอาจจะมีใครอื่นๆ อีก…
ทันใดนั้นเฉินชางก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังแบกอนาคตของใคร
หลายคนไว้บนบ่า!คนหลายคนยินดีที่จะเดินตามรอยของเขา!
คิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ก้มหยิบากกาขึ้นมา เขียนจดหมาย
แนะนำและเซ็นชื่อตัวเอง “คุณไหาหัวหน้าอันเยี่ยนจวินนะ บอกว่า
ผมให้มาหา ไอยู่กับหัวหน้าอันแล้วก็ตั้งใจทำงานล่ะ”
ดร.เสี่ยวจูได้ฟังคำพูดของเฉินชางก็พยักหน้าด้วย
ความตื่นเต้น “ขอบคุณครับอาจารย์เฉิน ไว้กลับมาจากฝึกงานแล้ว
ผมจะเรียนรู้วิชาเฉินให้ได้เลยครับ!”
เฉินชางยิ้ม เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “สู้ๆ นะ!”
จากนั้นเฉินชางจึงต่อสายถึงอันเยี่ยนจวิน เนื่องจากจูเทายัง
เรียนไม่จบ แค่ไเรียนรู้งานเท่านั้น จึงไม่มีัญหาอะไรมาก
…
หลังจากเสร็จสิ้นการผ่าตัดในช่วงเช้า เฉินชางยังมีเวลาไ
เยี่ยมผู้่วยที่ผ่าตัดเมื่อวาน
ขณะที่เขากำลังราวน์วอร์ดเพื่อไเยี่ยมจางเหลียนฮวา เฉิน
ชางก็แวะที่แผนกพยาบาล “ขอแฟ้มระวัติคนไข้จางเหลียนฮวาให้
ผมหน่อยครับ”พยาบาลคนหนึ่งได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งเข้ามา “หมอเฉินคะ
เมื่อเช้ามีคนจากรัฐบาลมาขอดูแฟ้มระวัติและรายงานของหลัว
หมิง บอกว่ามาจากกรมโฆษณากลาง แผนกระชาสัมพันธ์ของเรา
เ็นคนพามาค่ะ”
เฉินชางชะงักไครู่หนึ่ง “หา? กรมโฆษณากลางเหรอ…ตั้งแต่กี่
โมงครับ”
พยาบาลตอบ “น่าจะระมาณเก้าโมงเช้าค่ะ ตอนนั้นคุณอยู่ใน
ห้องผ่าตัด ฉันเลยไม่ได้แจ้ง”
เฉินชางเพิ่งนึกขึ้นได้ น่าจะเ็นฉินเซียวหรานละมั้ง
แต่เฉินชางก็อดทอดถอนใจไม่ได้ ทำงานเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
คงจะมาตรวจสอบเรื่องแม่ของหลัวหมิงว่าเ็นเรื่องจริง
หรือเล่า
คิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็ถอนหายใจโล่งอก หยิบระวัติ
การรักษาเข้าไในห้องผู้่วย
หลัวหมิงเองก็อยู่ด้วย “คุณหมอเฉิน สวัสดีครับ”
เฉินชางพยักหน้ายิ้มๆ “คุณ้าครับ รู้สึกเ็นยังไงบ้างครับ”จางเหลียนฮวาหัวเราะ “รู้สึกดีมากเลยค่ะ แต่ไม่สบายเท่าอยู่ที่
บ้าน คุณหมอคะ ฉันจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรคะ”
เฉินชางยิ้ม “บ่ายวันนี้ก็กลับได้แล้วครับ แต่ว่าอย่าเพิ่งขยับตัว
มาก พักผ่อนไก่อนสักพักหนึ่งนะครับ”
ทันทีที่จางเหลียนฮวาได้ยินว่าเธอออกจากโรงพยาบาลได้
แล้วก็ดีใจเหมือนกับเด็กๆ
จากนั้น เฉินชางก็เรียกหลัวหมิงเข้ามา “เรื่องข่าวในโต่วอิน อีก
สักพักน่าจะ…”
พูดยังไม่ทันขาดคำ พยาบาลที่เพิ่งให้ชาร์ตผู้่วยกับเฉินชางก
รีบวิ่งเข้ามา พูดขึ้นอย่างดีใจ “หมอเฉินคะ พี่หลัวคะ มาดูนี่สิ วันนี้
มีคนโพสต์บทความเกี่ยวกับพี่หลัวบนเว่ย๋อ แล้วก็ชื่นชมคุณหมอ
ด้วยค่ะ”
“มาดูสิคะ เดี๋ยวฉันส่งลิงก์ให้นะ!
“ริงสิ ผู้ชายในโต่วอินคนนั้นโดนแท็กแล้วค่ะ แถมยังโดน
เรียกร้องให้ออกมาขอโทษต่อสาธารณะและลบวิดีโอออกด้วยสุดยอดเลย! ฉันบอกแล้วไงว่าความยุติธรรมอาจจะมาช้า แต่
ไม่มีทางหายไแน่นอน!
พี่หลัว ในที่สุดพี่ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว ไม่ต้องไแคร์สายตา
ของคนอื่นแล้วนะคะ!”
หลัวหมิงหยิบโทรศัพท์ไดู ที่แท้ก็เ็นโพสต์ข่าวของยุวชน
พรรคคอมมิวนิสต์ แถมยังแท็กชื่อของตนอีกด้วย…
ทันใดนั้น หลัวหมิงก็น้ำตาไหล!
จะบอกว่าไม่สนใจเลยก็เ็นไไม่ได้!
ตอนนี้จะไม่มีใครเหยียดหยามเขาอีกต่อไแล้ว…
บริษัทก็กล่าวโทษเขาด้วยเรื่องนี้อีกไม่ได้เช่นกัน
จู่ๆ เขาก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ จึงหันไมองเฉินชางด้วยแววตา
ตื้นตัน