เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 999 เปลี่ยนแปลงไปตามกาล
พอหลูเชารู้ว่าเฉินชางจะมาก็ดีใจขึ้นมาทันที
หลังจากวางสาย เขามองกลุ่มคนในห้องและเอ่ยขึ้นอย่าง
มีความสุข “วันนี้ผมเชิญผู้เขียนเทคนิคและแนวทางการใช้กล้องส่อง
มาหาทุกคน!
เขาเก่งเรื่องวิจัยด้านโรคจากการศัลยกรรมทั่วไปมาก!
ผมคิดว่า การประชุมที่ศูนย์การแพทย์มาโยจัดปีนี้ อย่างน้อย
หมอเฉินต้องได้ตำแหน่งกรรมการบริหารแน่นอน!”
แผนกศัลยกรรมทั่วไปและแผนกศัลยกรรมตับและถุงน้ำดีของ
โรงพยาบาล 301 เองก็เป็นผู้นำระดับประเทศเหมือนกัน พวกเขา
บางคนจะต้องเข้าร่วมการประชุมปีนี้ที่ประเทศอเมริกาด้วย
“หัวหน้าหลู มีเกณฑ์การคัดเลือกยังไงบ้างครับ” หัวหน้าหลี่
ถาม
หลูเชาพยักหน้า “เรื่องผู้สมัครคณะกรรมการบริหารสมาคม
จริงๆ มันเป็นระบบการแนะนำ ทุกองค์กรที่เป็นสมาชิกสมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลกจะแนะนำผู้สมัครได้ ไม่ได้ติดขัด
อะไร แต่ต้องจำ กัดจำ นวนคน
กรรมการบริหารจะได้รับเลือกมาจากคณะกรรมการบริหาร
สมาคม จากนั้นรองประธานจะเสนอรายชื่อโดยพิจารณาจาก
ชื่อเสียงในวงการ ความสามารถในการวิจัย ฝีมือในการผ่าตัด
เป็นต้น จากนั้นกรรมการบริหารจะทำการเลือกตั้ง
ประธานกรรมการและเลขาก็ได้รับเลือกมาจากรองประธาน
และคณะกรรมการบริหารสมาคม!”
พูดจบ หลูเชาก็พูดขึ้น “อันที่จริง ผู้สมัครในการประชุมครั้งแรก
และตำแหน่งรองประธานสมัยแรกมักจะคัดเลือกผ่านชื่อเสียงใน
วงการเป็นหลัก
หมอเฉินชั่วโมงบินน้อยไปหน่อย ไม่งั้นคงได้รับการเสนอชื่อ
เป็นรองประธานไปแล้ว!”
หลังจากครุ่นคิดมาถึงตรงนี้ หลูเชาก็ตะลึงงันไปทันที!
เขาฉุกคิดถึงเรื่องที่สำ คัญมากเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้หนังสือของเฉินชางต้องเขียนเสร็จก่อนการประชุมอย่าง
แน่นอน
ถ้าอย่างนั้น…
ขอแค่มีคนได้เห็น…ได้ใช้มันเป็นจำ นวนมาก! ชื่อเสียงของเฉิน
ชางก็จะพุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
ถึงเวลานั้น เฉินชางจะต้องทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน
ลำพังแค่ ‘เทคนิคและแนวทางการใช้กล้องส่อง’ เล่มเดียวก็
เป็นประโยชน์มหาศาลต่อวงการศัลยกรรมทางเดินอาหารอย่างไม่
มีใครเทียบเคียงได้ อย่างไรก็ยกระดับฐานะในวงการของเฉินชางได้
อย่างแน่นอน
ถ้าหากช่วงนี้เฉินชางได้ตีพิมพ์บทความระดับแนวหน้าของ
วงการสักสองสามชิ้นละก็!
มั่นใจได้เลยว่า…เขาต้องทรงอิทธิพลอย่างแน่นอน
ส่วนมากในแวดวงวิชาการมักจะเห็นอิทธิพลในวงการวิชาการ
เป็นสำ คัญ
แถมยังเป็นการประชุมสมัยแรก จะประมาทไม่ได้เด็ดขาดในตอนนี้เอง หลูเชาก็สูดหายใจเข้าลึก เขาตระหนักขึ้นมาได้ว่า
หมอเฉินอาจจะกำลังมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายนี้อยู่!
คิดมาถึงตรงนี้ หลูเชาก็ตกตะลึงทันที
เขาอึ้งงันไปชั่วขณะหนึ่ง รู้สึกว่าหมอเฉินที่ดูสบายๆ เข้าถึงง่าย
นั้น
อาจจะเก่งกาจและล้ำหน้ากว่าที่ทุกคนจินตนาการ!
ขณะที่รอ หลูเชาหันไปมองคนอื่นๆ “อีกเดี๋ยวหมอเฉินก็จะ
มาแล้ว ผมไม่ได้ผ่าตัดเอง หัวหน้าหวัง หัวหน้าจ้าว หัวหน้าหลี่
พวกคุณเองก็มาเรียนรู้เทคนิคการใช้กล้องส่องจากหมอเฉินด้วยนะ
ครับ”
พุดจบ หลูเชาก็หันไปมองแพทย์ฝึกงาน “พวกคุณมาฝึกงานได้
ถูกเวลาจริงๆ ไม่งั้นไม่มีทางได้เห็นการผ่าตัดที่เยี่ยมยอดแบบนี้
หรอก!”
ทุกคนพยักหน้าด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณครับ/ค่ะ หัวหน้า
หลู”
เนื่องจากเทคนิคการผ่าตัดนี้ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำ คัญ หรือ
แม้แต่เป็นความลับก็ว่าได้ ปกติแล้วไม่อนุญาตให้แพทย์ฝึกงานเข้าร่วมการผ่าตัดแบบนี้ด้วย
แต่หัวหน้าหลูคิดว่าแพทย์พื้นที่มาถึงที่นี่เพื่อเรียนรู้ ดังนั้นเมื่อ
มีโอกาสดีๆ ก็มักจะเปิดให้ศึกษาดูงานเสมอ
คนที่มาฝึกงานที่โรงพยาบาล 301 ได้มีแต่แพทย์อาวุโส
…
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล 301 แล้ว เฉินชางก็โทรศัพท์หา
หลูเชา
หลูเชารีบลงมาต้อนรับด้วยตนเอง พอได้เห็นเฉินชางและ
เออร์สเต็ดก็ดีใจขึ้นมาทันที
“ยินดีต้อนรับๆ ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าคุณหมอเออร์สเต็ด
จะมาด้วย”
เออร์สเต็ดกล่าวอย่างสุภาพ “ผมมาเป็นผู้ช่วยของคุณหมอเฉิน
ครับ”
หลูเชาผงะไปชั่วครู่ ดูจากท่าทางของเออร์สเต็ดไม่น่าจะ
ล้อเล่นเขามั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเฉินชางจะได้เป็น
รองประธานกรรมการ
พวกเขาเดินมาถึงห้องผ่าตัด เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้าไปในห้องผ่าตัด
รอเริ่มการผ่าตัด
ข้างในห้องมีคนอยู่หลายคน ทั้งห้องผ่าตัดมีอยู่ประมาณเกือบ
สิบคน แต่กลับไม่ดูแออัดแต่อย่างใด
หลังจากรู้ว่าเออร์สเต็ดมาที่นี่เช่นกัน ทุกคนก็ตื่นเต้นกัน
ยกใหญ่
เพราะทุกคนในที่นี้ต่างรู้กันดีว่าเออร์สเต็ดผู้สร้างแนวทางคนนี้
คือผู้นำด้านศัลยกรรมระบบทางเดินอาหารในยุโรป
เนื่องจากเออร์สเต็ดอยู่ด้วย การรายงานเคสจึงต้องใช้
ภาษาอังกฤษ สำ หรับหัวหน้าโรงพยาบาล 301 แล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่
อะไร
แต่ในสายตาของแพทย์ฝึกงานกลับดูสูงส่งไม่น้อย
“ว้าว เมืองหลวงนี่สมกับเป็นเมืองหลวงจริงๆ แตกต่างกัน
ลิบลับเลย ผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมามีแต่คนระดับโลกทั้งนั้น!””นั่นสิ สมแล้วที่เป็นมหานครระดับนานาชาติ มีแต่คนเก่งๆ
ทั้ง
นั้น
!”
“มิน่าล่ะ ถึงได้เก่งขนาดนี้ นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากจริงๆ สูสีกับ
ผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติเลย!”
แพทย์ฝึกหัดสามสี่คนทอดถอนใจ แต่มีคนหนึ่งที่ไม่พูดอะไร
เลย
“เหล่าต้วน ปกติคุณพูดมากจะตาย ทำไมวันนี้ถึงไม่พูดไม่จา
เลยล่ะ” แพทย์คนหนึ่งกระซิบถามอย่างอดไม่ได้
ต้วนปัวมองเฉินชางที่อยู่เบื้องหน้า แล้วถอนหายใจออกมา!
ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหมอเฉินที่หัวหน้าหลู แผนกศัลยกรรม
ทั่วไปโรงพยาบาล 301 พูดถึงนั้น คือเฉินชางนั่นเอง
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็รู้สึกทอดถอนใจขึ้นมา!
เขายังจำ ตอนที่ตนเองกลั่นแกล้งแผนกฉุกเฉิน และจงใจยุเฉิน
ชางให้ผ่าตัดถุงน้ำดีได้อยู่เลย
ก่อนหน้านี้เพียงไม่นาน ชายหนุ่มที่ไม่มีค่าในสายตาของเขา
ตอนนี้เติบโตจนเก่งกาจถึงขั้นนี้แล้วถ้าไม่ได้มาเห็นกับตา เขาคงไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็น
เรื่องจริง
ต้วนปัวอดยิ้มอย่างกล้ำกลืนไม่ได้เมื่อคิดว่าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
เขายังสงสัยว่าเฉินชางจะทำการผ่าตัดถุงน้ำดีได้หรือไม่
ถ้า…ถ้าหากว่าตอนนั้นเขาไม่ได้ยุยง แต่เป็นฝ่ายเข้าไป
ช่วยเหลือเอง จะเป็นอย่างไร
ขณะที่แพทย์ฝึกงานคนอื่นๆ โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อ
สังเกตการณ์การผ่าตัดที่กำลังจะเริ่มขึ้น ต้วนปัวกลับถอยหลัง
ออกมาหนึ่งก้าว ไม่อยากให้เฉินชางสังเกตเห็น
ในสายตาของเฉินชาง อาจจะมองตัวเขาในตอนนี้เหมือนที่เขา
เคยมองเฉินชางเมื่อก่อนก็ได้
ไม่สิ!
อาจจะดูถูกกันยิ่งกว่าเดิมก็ได้!
ในเมื่อตอนนี้เขาคือหมอเฉิน หัวหน้าใหญ่แผนกศัลยกรรม
ทั่วไปโรงพยาบาล 301 คนที่อาจจะกลายเป็นกรรมการบริหาร
สมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลก…เขาอยู่สูงเกินเอื้อม!
ในตอนนี้เองก็มีเสียงหนึ่งแว่วมา
“หัวหน้าต้วน มาช่วยผมทีครับ!”
ทุกคนตกตะลึงกับเสียงนี้
เมื่อมองตามเสียงไปก็พบว่าเฉินชางเป็นคนพูด
ทุกคนเกิดความอยากรู้ขึ้นมาทันที หัวหน้าต้วนเป็นใคร
หลูเชาเองก็มองเฉินชางด้วยความสงสัย “หมอเฉิน ที่คุณพูด
คือ…”
เฉินชางยิ้ม “หัวหน้าต้วนปัวท่านนั้นมาจากแผนกศัลยกรรม
ทั่วไปในโรงพยาบาลของผม ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอคนรู้จักที่นี่ด้วย”
หลูเชาชะงัก “ใครคือต้วนปัวนะครับ”
ในฐานะหัวหน้า การที่เขาไม่รู้จักแพทย์ฝึกงานถือเป็นเรื่องปกติ
ทว่าในตอนนี้เอง แพทย์ฝึกงานที่ได้ยินดังนั้นก็ผงะไปทันที
แล้วค่อยๆ หันไปมองต้วนปัว
ต้วนปัวเองก็จ้องมองเฉินชางด้วยสายตาเหลือเชื่อ
เมื่อได้เห็นรอยยิ้มจริงใจของเฉินชาง เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันท