A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 21
ยืนยันคำเริ่มต้น เดอะเมทริกซ์ สแกนข้อมูลประจำตัวของโฮสต์ สร้างโฟลเดอร์ใหม่ ยืนยันข้อมูลร่างโฮสต์ คุณต้องการผูกบัญชีหรือไม่?
จู่ ๆ ก็มีเสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นในหัวของเมอร์ลิน
“ใช่” เมอร์ลินตอบอย่างไม่ลังเล
เขารู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ใช้เดอะเมทริกซ์ มันเป็นเครื่องคำนวณขั้นสูง มันได้ถูกฉีดเข้าในเส้นเลือดในรูปแบบของโลหะเหลว มันได้ผสานเข้ากับร่างกายอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถทำลายมันได้
เก็บตัวอย่างเลือดสำเร็จ กำลังเปิดโฟลเดอร์ เปิดโฟลเดอร์ล้มเหลว สร้างโฟลเดอร์ใหม่…กรุณาตั้งชื่อโฟลเดอร์ใหม่
“ชื่อโฟลเดอร์ใหม่งั้นเหรอ?” เมอร์ลินได้ครุ่นคิด จากนั้นแววตาของเขาได้เปล่งประกาย เขาได้กล่าวขึ้นว่า “ตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่าเมอร์ลิน”
ตั้งชื่อโฟลเดอร์สำเร็จ ยินดีต้อนรับคุณเมอร์ลินสำหรับการใช้งานเดอะเมทริกซ์ เครื่องคำนวณควอนตัม
ตอนนี้เสียงของเดอะเมทริกซ์ได้เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานที่ฟังดูผ่อนคลาย
เมอร์ลินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้อย่างเงียบ ๆ แม้ว่าภายนอกเขาจะดูสงบแต่แววตาของเขาสะท้านความตื่นเต้นอันเปี่ยมล้นออกมา
สำหรับพ่อมดแล้วการสร้างโครงสร้างเวทมนต์นั้นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบกว่าปีเป็นอย่างน้อยในการสร้างขึ้นมาในแต่ละอัน นี่ยังไม่รวมการคำนวณรายละเอียดปลีกย่อยอีก ถึงจะใช้เวลามากขนาดนั้นแต่ผลลัพธ์ก็ใช่ว่าจะถูกใจเหล่าพ่อมดที่เพียรพยายามมาแรมปี
แต่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างเดอะเมทริกซ์ มันจะไม่ทำให้เขาต้องเสียเวลาในการสร้างโครงสร้างเวทมนต์เลย
“เรามาดูกันสิว่า เดอะเมทริซ์จะมีประโยชน์ในเรื่องนี้มั้ย?”
แม้ว่าเขาจะตื่นเต้นแต่ก็ไม่ตระหนก เขาต้องทดสอบก่อนว่าเดอะเมทริซ์จะสามารถปรับปรุงโครงสร้างเวทมนต์เหล่านี้ได้มั้ย
“เดอะเมทริซ์สร้างฐานข้อมูล คาถาลูกไฟ”
จากนั้นเดอะเมทริซ์เริ่มทำการสแกนและบันทึกโครงสร้างเวทมนต์คาถาลูกไฟทั้งหมดที่ชายชราอีธานศึกษามาหลานเอามาลงในฐานข้อมูล
สร้างฐานข้อมูลสำเร็จแล้ว
“วิเคราะห์โครงสร้างเวทมนต์เหล่านี้ที”
สิ้นเสียงคำสั่งเมอร์ลิน เดอะเมทริซ์ก็เริ่มทำงาน มันได้ใช้ความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงพริบตาเดอะเมทริซ์ก็ได้สร้างโครงสร้างเวทมนต์ได้มากถึงหมื่นแบบทันที โดยใช้โครงสร้างเวทมนต์จากต้นแบบของโครงสร้างเวทมนต์ที่ชายชราสร้างขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นจำนวนโครงสร้างเวทมนต์ยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
วิเคราะห์เสร็จสิ้น จากฐานข้อมูลที่ได้รับมาสามารถสร้างรูปแบบได้ทั้งสิ้น 186,519รูปแบบ
เมอร์ลินถึงกัตกตะลึงกับจำนวนที่เดอะเมทริซ์คำนวณออกมา โดยที่พวกมันสร้างจากโครงสร้างเวทมนต์เพียงไม่กี่แบบเท่านั้น
นี่คือพลังการคำนวณของเดอะเมทริซ์ เขาไม่รู้ว่าคนธรรมดาจะสามารถทำได้ถึงขนาดนี้มั้ย
ขั้นต่อไปเมอร์ลินต้องการกรองโครงสร้างเวทมนต์พวกนี้ เพื่อให้ได้อันที่เขาต้องการ โดยเขาจะเลือกจากความเสถียรก่อนเป็นอันดับแรก
หากได้รากฐานที่มั่นคง เขาก็สามารถนำมันไปต่อยอดได้
เมอร์ลินหลับตาลงและเอามือขวาเคาะโต๊ะเบา ๆ นี่เป็นนิสัยของเมอร์ลิน ที่เขาต้องการจะใช้ความคิดเพื่อตัดสินใจบางอย่าง เขามักจะทำอย่างนี้โดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลืมตาขึ้นและกล่าวว่า
“เดอะเมทริซ์เลือกโครงสร้างเวทมนต์จากฐานข้อมูลที่มีทั้งหมด คัดกรองอันที่มีความเสถียรมากกว่า โครงสร้างเวทมนต์หมายเลข 1”
โดยหมายเลข 1 นั้นเป็นโครงสร้างเวทมนต์ที่มีความเสถียรมากที่สุดของชายชราอีธานซึ่งเป็นคาถาที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุด
การคัดกรองเริ่มต้น…สามารถจำแนกรูปแบบได้ทั้งสิ้น 138รูปแบบ
ด้วยการคัดกรองที่ว่องไวปานฟ้าผ่า มันอดไม่ได้ที่เมอร์ลินจะประหลาดใจอีกครั้ง
‘แค่แปปเดียวฉันก็ได้โครงสร้างเวทมนต์ที่เสถียรซึ่งมันมากกว่าที่อาจารย์อีธานใช้เวลาหลายปีในการสร้างหลายเท่า’
เมอร์ลินยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เขายังอยากได้ข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม
“จากโครงสร้างเวทมนต์เหล่านี้ คัดกรองอันที่มีความรุนมากกว่า โครงสร้างเวทมนต์หมายเลข 13”
ส่วนหมายเลข 13 นั้นเป็นคาถาที่รุนแรงที่สุดของชายชราอีธาน อย่างไรก็ตามโครงสร้างเวทมนต์ของมันไม่เสถียรมาก ในตำราได้เขียนไว้ว่าหลังจากชายชราได้ใช้คาถาเขาได้รับอันตรายที่ร้ายแรง เขาจึงเตือนไว้ว่าทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงใช้โครงสร้างเวทมนต์อันนี้
ผลการคัดกรองสำเร็จ ไม่มีรูปแบบใดตรงตามเกณฑ์
เมอร์ลินถึงกับขมวดคิ้ว ด้วยโครงสร้างเวทมนต์ถึง 138อัน กลับไม่มีอันไหนแข็งแกร่งกว่า หมายเลข 13
อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เข้าใจ เนื่องจากโครงสร้างเวทมนต์ที่มั่งคงและทรงพลังนั้นไม่หาได้ง่าย ๆ หากจะเลือกก็ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเลือกสองอันพร้อมกันไม่ได้
หลังจากที่เมอร์ลินเข้าใจในประเด็นนี้แล้ว เขาก็ได้ออกคำสั่งต่อไป
“เปลี่ยนเกณฑ์การคัดกรอง ค้นหาโครงสร้างเวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา 138อันนี้”
ในไม่ช้าก็มีโครงสร้างเวทมนต์อันซับซ้อนผุดขึ้นมาในหัวของเมอร์ลิน มันเป็นโครงสร้างเวทมนต์ที่ตรงกับเกณฑ์การคัดเลือกของเขา
เมอร์ลินได้มองโครงสร้างเวทมนต์อันนี้และพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามออกไปว่า
“เมื่อเทียบกับหมายเลข 13 โครงสร้างเวทมนต์อันนี้แข็งแกร่งมากแค่ไหน”
จากการอ้างอิงจากฐานข้อมมูล โครงสร้างเวทมนต์นี้มีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 70% ของหมายเลย 13
“แค่ 70% ก็ดีมากแล้ว เผลอ ๆ มันอาจจะดีกว่า หมายเลข 1 ของอาจารย์ซะอีก”
เมอร์ลินถอนหายใจอย่างโล่งอกกับผลลัพธ์ที่ได้มา จากนั้นเมอร์ลินก็ได้หลับตาลงและเริ่มทำการศึกษาโครงสร้างเวทมนต์นี้อย่างละเอียด
จากโครงสร้างเวทมนต์ที่มีทั้งหมด 186,519แบบ นี่เป็นโครงสร้างเวทมนต์ที่เหมาะกับเขามากที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น มันค่อนข้างสมดุลระหว่างความเสถียรกับความทรงพลัง โดยที่พ่อมดบางคนต้องใช้เวลาสิบ ๆ ในการสร้างแต่สำหรับเมอร์ลิน เขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ทำมันสำเร็จ
หลังจากที่เลือกโครงสร้างเวทมนต์ได้แล้วขั้นตอนต่อไปก็จำลองขึ้นมาในจิตใต้สำนึกด้วยพลังจิตซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานานที่สุดและผิดพลาดง่ายที่สุด
หากเขามีพลังจิตที่อ่อนแอ เขาคงจะไม่สามารถก้าวผ่านขั้นตอนนี้ได้ แต่ชายชราได้ทิ้งข้อความไว้ว่า เมอร์ลินเป็นคนที่มีพลังจิตอันแข็งแกร่งที่สามารถจะกลายเป็นพ่อมดได้
ดังนั้นเมอร์ลินจึงตั้งสมาธิและเริ่มจำลองโครงสร้างเวทมนต์ของคาถาระดับศูนย์ ลูกไฟ
โดยโครงสร้างเวทมนต์ที่ถูกแก้ไขโดยเดอะเมทริกซ์นี้มีความซับซ้อนกว่าของชายชราอีธานมาก จึงเป็นเรื่องยากที่เขาจะร่างมันขึ้นมา
เมื่อเผชิญกับโครงสร้างเวทมนต์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก
หนึ่งชั่งโมงผ่านไป… สองชั่วโมงผ่านไป…
จู่ ๆ ด้านนอกหิมะก็ได้ตกลงมา ทำให้อุณหภูมิในห้องลดลง
เมอร์ลินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ขาของเขาเริ่มชาจากความหนาวเย็นแต่เขาไม่รู้สึกถึงความหนาวนั่นเลยเนื่องจากเขาเพ่งสมาธิไปที่โครงสร้างเวทมนต์ในหัวของเขา
หลังจากที่เมอร์ลินได้จำลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดเขาก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
ณ ห้วงลึกของจิตใต้สำนึก โครงสร้างเวทมนต์ที่เมอร์ลินได้จำลองขึ้นมาด้วยพลังจิตมันได้ก่อตัวขึ้นจากความว่างลเปล่า
“สำเร็จแล้ว!!”
เมอร์ลินลืมตาขึ้นมาพร้อมพูดด้วยความตื่นเต้น หลังจากที่เขาได้ใช้เวลาไปกว่า 3ชั่วโมง เขาก็จำลองคาถาลูกไฟด้วยพลังจิตของเขาได้สำเร็จ
ทันทีที่โครงสร้างเวทมนต์ก่อร่างขึ้น เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไป
แม้ว่าเขามือเท้าของเขาจะเย็นลงแต่ตอนนี้เขารู้สึกถึงความร้อนที่อยู่รอบตัวเขา
เขารู้สึกได้ถึงประกายธาตุไฟเล็ก ๆ ได้ถูกดูดเข้าไปในโครงสร้างเวทมนต์จากภายนอก
‘ประกายไฟนั่นหรือว่าจะเป็นพลังธาตุไฟ!!’
ก่อนหน้านี้เมอร์ลินได้ถามเมซี่ส์ว่าพลังธาตุไฟนั้นให้ความรู้สึกยังไง เมซี่ส์ก็ได้อธิบายออกมาแต่เมอร์ลินที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับพลังธาตุ เขาจึงไม่สามารถดูดซับธาตุไฟได้จึงทำให้ไม่อาจเป็นนักดาบธาตุได้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขามีโครงสร้างเวทมนต์ของคาถาลูกไฟ ทำให้เขรู้สึกถึงพลังธาตุไฟที่ไม่สิ้นสุดเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าโครงสร้างเวทมนต์เป็นดั่งหลุมดำที่ดูดกลืนพลังธาตุไฟอย่างที่ไม่มีจุดสิ้นสุด