A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 24
*กึก กึก กึก …*
เมอร์ลินที่ได้ฝึกฝนท่าออกกำลังกายตามประติมากรรมนูนอันลึกลับ นอกจากเขาจะได้พละกำลังเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้ประสิทธิสัมผัสของเขาดีขึ้นด้วย ดังนั้นแม้แต่เสียงที่เบาเขาก็ได้ยินอย่างชัดเจน
เสียงฝีเท้าที่เดินตรงมาเรื่อย ๆ จู่ ๆ เสียงฝีเท้าก็หยุดลงตรงใกล้ ๆ ประตู
‘เสียงหายไปไหน’
เมอร์ลินขมวดคิ้ว
*บูม!!!!!*
แผ่นไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ เมอร์ลินได้ระเบิดออก เศษไม้ปลิวกระจายไปทั่วบริเวณ จากนั้นตรงรูที่ถูกระเบิดออกก็ได้แสงสีขาวปรากฏออกมา
*วู่มมม*
‘แย่แล้ว ฉันถูกเจอตัวแล้ว’
กริชพุ่งมาหาเขาด้วยความเร็วปานสายฟ้า เขาไม่สามารถป้องได้ เขาจึงจำเป็นต้องกระโดดไปด้านข้างเพิ่มหลบการโจมตี
“บ้าเอ๊ย!!”
เมอร์ลินได้หันไปทิศทางที่ศัตรูกำลังเดินมา เขาไม่มีทางถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว เขาได้ตัดสินพุ่งไปข้างหน้าดั่งเสือดาวที่ดุร้าย เขาได้ใช้พลังกายอันแข็งแกร่งกระแทกประตูไม้เข้าไป
*โครม*
ประตูถูกพังในทันที เขารู้สึกได้ถึงร่างอันนุ่มนิ่มที่อยู่หลังประตู นอกจากนี้ภายในห้องนั้นค่อนข้างมืดเนื่องจากทางกองกำลังป้องกันเมืองได้ปิดตาย เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นเชื้อราที่ลอบอบอวลไปทั่วบริเวณ
หลังจากที่เมอร์ลินได้พุ่งชนบุคคลปริศนาแล้ว เขาได้ถอยกลับหลังอย่างรวดเร็วและถามว่า “คุณเป็นใคร”
บุคคลปริศนาสวมชุดคลุมสีดำ ที่ปกปิดใบหน้าและร่างกายอย่างมิดชิด
ฝ่ายตรงข้ามไม่ตอบอะไรเมอร์ลิน เขากลับถือกริชขึ้นมาพร้อมกับเสื้อคลุมที่กำลังพลิ้วไหวอย่างช้า ๆ รอบบ ๆ ตัว
“หื้ม? ธาตุลมหรือว่าจะเป็นนักดาบธาตุ!!”
ตอนนี้มีเมอร์ลินสามารถตรวจจับพลังธาตุได้แล้วและธาตุลมของบุคคลปริศนาที่อยู่ตรงหน้านั้นแข็งแกร่งมาก เขาคิดว่าบุคคลตรงหน้าน่าจะเป็นนักดาบธาตุระดับ 1
*วู่มม*
ร่างของบุคคลปริศนาได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็สวสูง แม้ว่าเมอร์ลินจะมีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมขึ้นแต่ใช่ว่าจะตามความเร็วของฝ่ายตรงข้ามได้ทัน
เมอร์ลินพยายามทำใจให้สงบและอยู่นิ่งเพื่อที่จะหาจังหวะโจมตี แม้ว่าจะรู้สึกถึงตัวตนของบุคคลปริศนาได้แต่หมัดที่เขาชกไปกลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า นั่นทำให้เขารู้สึกหัวเสียมาก
*ชิ้งง*
ทันใดนั้นเอง เมอร์ลินก็รู้สึกหนาวเย็นตรงลำคอ เขาได้เบี่ยงศีรษะหลบอย่างรวดเร็ว กริชอันแหลมคมได้เฉียดผิวหนังของเขาไป โชคดีที่เขาหลบได้ทันเวลาไม่อย่างนั้นเขาคงตายไปแล้ว
“บ้าเอ๊ย!! มันเร็วเกินไป”
ตอนนี้เมอร์ลินกำลังตกที่นั่งลำบาก เนื่องจากคู่ต่อสู้เป็นนักดาบวายุซึ่งมีความเร็วที่โดดเด่น แค่มองตามก็ยากแล้ว ภายในห้องก็มืดอีกทำให้ความยากเพิ่มขึ้นสองเท่า
ทำให้เมอร์ลินตัดสินใจออกไปด้านนอก
“ฮุฮุ”
บุคคลลึกลับได้เคลื่อนที่มาขว้างหน้าเมอร์ลิน เขาได้ง้างกริชแทงไปที่หน้าอกของเมอร์ลิน
แต่เมอร์ลินกลับเผยยิ้มออกมา
“เสร็จตูล่ะ ลงนรกไปซะ!!!”
เนื่องจากแสงที่ลอดประตูออกมาทำให้เขาเห็นร่างของเงาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
“ลูกไฟ!!!”
*วู่ม*
ลูกไฟได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าและบินตรงไปที่บุคคลลึกลับอย่างรวดเร็ว
ทางบุคคลลึกลับได้หลบไปข้างอย่างกะทันหันแต่ก็ยังได้รับผลการโจมตีจากลูกไฟ
เมอร์ลินไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เขาได้เข้าประชิดตัวบุคคลลึกลับ เขาได้คว้าไปที่เสื้อคลุมยาวและทุ่มลงพื้น
*โครม!!*
ด้วยพละกำลังที่แข็งแกร่งของเมอร์ลินได้ทำให้บุคคลลึกลับมึนงง แต่ถึงกระนั้นบุคคลลึกลับก็ยังเป็นนักดาบธาตุ เขามีร่างกายที่ได้รับการฝึกมาดี ดังนั้นเขาจึงแทงกริชสวนไปที่คอของเมอร์ลิน
“ฮึ่ม”
เมอร์ลินได้เอามือซ้ายคว้ากริชและเอามือขวาจับผมของบุคคลลึกลับ เขาได้เหวี่ยงศรีษะของบุคคลลึกลับชนกำแพงแบบไร้ความปรานี
*ตูมตูมตูม!!*
หลังจากที่เมอร์กระแทกกำแพงไปสามครั้งติดต่อกัน ทำให้บุคคลลึกลับได้แน่นิ่งไม่เคลื่อนไหวใด ๆ นั่นทำให้เมอร์ลินถึงกับชะงักเล็กน้อย
เขาสูดลมหายใจเข้าช้า ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตายเช่นนี้ หากเขาไม่เด็ดขาด มันก็เป็นเขาเองที่จะนอนกองลงไปที่พื้น
เมอร์ลินได้ตระหนักได้ว่าพลังของเขายังน้อยเกินไป เขาเกือบจะตายด้วยน้ำมือของบุคคลลึกลับที่อยู่ตรงหน้า
แม้ว่าคาถาไฟของเขาจะแข็งแกร่งยังไงแต่ถ้าไม่สามารถใช้งานได้ในสถานการณ์จริงมันก็คงไร้ความหมาย
หากเทียบกับชายชราอีธาน เขาสามารถจัดการนักรบศักดิ์ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่นักดาบระดับสองก็ยังไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ นั่นคงเป็นช่องว่างระหว่างพ่อมดกับนักดาบธาตุ
อย่างไรก็ตามเมอร์ลินเกือบจะถูกสังหารโดยนักดาบระดับหนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าเขาขาดประสบการณ์การต่อสู้มากเพียงได้และเขาแทบจะไม่มีโอกาสร่าวเวทย์เลย ฐานะที่เป็นพ่อมดนี่ถือว่าเป็นจุดอ่อนอันร้ายแรง
เมอร์ลินเอามือไปแตะที่คอของเขา เขารู้สึกได้ถึงเลือดที่ไหลออกมาเล็กน้อยและตอนนี้ปากแผลได้ตกสะเก็ดแล้ว
‘นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีจะได้เรียนรู้จากของจริง’
“ถ้าในตอนแรก ฉันร่ายลูกไฟอัดใส่ประตู เขาก็คงไม่สามารถหลบมันได้อย่างแน่นอน”
เมอร์ลินได้สรุปข้อผิดพลาดของเขาเมื่อครู่ ดูเหมือนเขาจะติดการโจมตีของนักดาบธาตุมากเกินเลยใช้กำลังในการเปิดการโจมตีแทนที่เขาจะใช้เวทมนต์เปิดก่อน
เมอร์ลินได้เหลือบมองบุคคลลึกลับที่นอนอยู่บนพื้น คงต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ถึงจะฟื้น
ด้วยเสื้อคลุมที่เปิดขึ้นมาได้เผยเรือนร่างของบุคคลลึกลับ ทำให้เขารู้ว่าคนที่เขาสู้มาตั้งนานนั้นเป็นผู้หญิง
เขาได้ก้มลงอย่างระมัดระวังและเอื้อมมือไปดึงผ้าคลุมส่วนที่เหลือออก
เขาเป็นผมสีบลอนด์ของเธอที่ส่วนหนึ่งถูกไฟไหม้
“น่าเสียดายจริง ๆ เส้นผมที่สวยงามอย่างนี้ต้องถูกไหม้”
จากนั้นเมอร์ลินก็เอาผมที่บังในหน้าของเธอออก
“นี่มัน จีอา”
ปากฎว่าคนที่นอนอยู่บนพื้นนั้นเป็น จีอา อาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์ของเขา
เขาจำได้ว่า แม้แต่กัตต์ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบภูมิหลังของเธอได้ ถึงเขาจะใช้เครือข่ายข้อมูลทรงอิทธิพลของเขามากแค่ไหนก็ตาม
เขาพอจะรู้ว่าอาจารย์คนนี้จะไม่ธรรมดาแต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขนาดนี้
“อือ…”
ในระหว่างที่เมอร์ลินกำลังคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีอากับชายชราอีธานอยู่นั้น เธอก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ดูเหมือนเธอจะได้สติแล้ว
เมอร์ลินได้ถอยออกไปแล้วจ้องมองอย่างระมัดระวัง เขารออยู่สักพักแต่เธอก็ไม่ลืมตาขึ้นมาแต่เขายังได้ยินเสียงหายใจของเธออย่างชัดเจน
เขาจึงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ในเมื่อรู้สึกตัวแล้ว ทำไมไม่ลุกขึ้นมาล่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเมอร์ลิน จีอาได้ลืมตาขึ้นมาทันที เธอมองไปที่เมอร์ลินและพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ
“เมอร์ลิน วิลสัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เธอจะกลายเป็นลูกศิษย์ของคุณอีธานไปซะแล้ว”
ในขณะที่จีอาจะลุกขึ้นมา เมอร์ลินโบกมือเบา ๆ จากนั้นลูกไฟได้ปรากฏขึ้นมาและพุ่งเขาไปทางจีอาอย่างรวดเร็ว
*ตูม!!*
ลูกไฟได้ระเบิดพื้นอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดรูขนาดใหญ่และปล่อยไอร้อนขึ้นมา
“เลิกเล่นลิ้นได้แล้ว ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปฉันจะซัดลูกไฟใส่เธอ” เมอร์ลินเตือนจีอาพร้อมกับชูมือเล็งไปที่เธอ
ภายหลังจากที่เขาฝึกฝนการทำสมาธิอย่างหนักหน่วงในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มันทำให้พลังจิตของเขาเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้เขายังชำนาญการควบคุมลูกไฟมากขึ้นด้วย ดังนั้นเขาไม่มีทางพลาดเป้าแน่นอน