A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 25
เพลิงร้อนที่แผดเผารอบ ๆ บริเวณที่ลูกไฟกระแทกกับพื้น จีอาไม่กล้าขยับไปไหน เธอทำเพียงมองดูเขาเงียบ ๆ
เมอร์ลินได้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดด้วยเสียงเย็น “ฉันมีบางอย่างที่จะถามเธอ”
“เมอร์ลิน ในเมื่อนายเป็นลูกศิษย์ของคุณอีธาน ดังนั้นเราจึงไม่ใช่ศัตรูกัน…”
ก่อนที่จีอาจะพูดจบ เมอร์ลินเสกลูกไฟพุ่งยังจีอาที่ยังนอนอยู่ที่พื้น ด้วยความตกใจ เธอรีบยกกริชมาป้องกันเธอจะลูกไฟนี้
*ตูม!!!*
แม้ว่าลูกไฟจะมีขนาดเท่ากำปั้นแต่มันก็มีอุณหภูมิที่สูงมากพอจะหลอกเหล็กให้ละลายได้
*พึ่บ*
ใขณะเดียวกันได้มีลูกไฟอีกลูกลอยมาหาเธอ เธอได้ปัดมันด้วยแขนทำให้มันชนเข้ากับกำแพง
แขนเสื้อของเธอลุกไหม้เป็นจุล นอกจากนี้ผิวของเธอก็ถูกเผาเช่นกัน ส่งผลให้กลิ่นไหม้ลอยไปทั่ว
ด้วยความเจ็บปวดนี้ทำให้มองเมอร์ลินด้วยแววตาที่หวาดกลัว
“ทีนี้เธอพร้อมที่จะตอบคำถามของฉันรึยัง”
จีอาพยักหน้าพร้อมกับกัดฟัน เธอไม่กล้าพูดอะไรอีก
“เธอมีความสัมพันธ์อะไรกับอาจายร์อีธาน”
เมอร์ลินเริ่มถามคำถาม
จีอาได้ดึงร่างกายของเธอขึ้นมาพิงกำแพง จากนั้นก็ตอบว่า “คุณอีธานเป็นเจ้านายของฉัน พวกเราถูกส่งมาที่นี่โดยอาณาจักรแบล็กมูน”
เมอร์ลินพยักหนีรับอย่างเงียบ ๆ ทั้งสองมาจากอาณาจักรแบล๊กมูนจึงไม่แปลกใจเลยที่กัตต์จะไม่พบข้อมูลภูมิหลังของจีอา
“อาจารย์อีธานถูกพบตัวโดยคนจากโบสถ์ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่เจอเธอ”
พวกเราแทบจะไม่เจอกันเลย พวกเราแลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยรหัสลับมาโดยตลอดที่คุณธานถูกพบว่าเป็นพ่อมด ตอนนั้นคุณอีธานได้เดินทางไปเมืองหลวงและถูกพบโดยบังเอิญโดยโบสถ์เทพแห่งแสง ไม่ว่าคุณอีธานจะเป็นใครแต่ถ้าเป็นพ่อมด ทางโบสถ์จะต้องกำจัดทันที”
“ถ้าอย่างนั้นทางโบสถ์เทพแห่งแสงก็ไม่รู้สินะว่าเขาถูกส่งมาโดยอาณาจักรแบล็กมูนแต่ถูกกำจัดเพราะว่าเป็นพ่อมด”
“ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รอดหรอก”
เมอร์ลินจ้องมองจีอาอย่างเงียบ ๆ เขาตรองคำตอบของเธอและไม่พบเรื่องผิดปกติอะไร ดังนั้นมันอาจจะเป็นเรื่องจริง
นอกจากนี้เรื่องที่มีสายลับส่งมาจากอาณาจักรแบล็กมูนนั้นเป็นเรื่องใหญ่มากและทางโบสถ์เทพแห่งแสงก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้
บรรกาศในห้องเริ่มหนักอึ้ง ความเงียบของเมอร์ลินทำให้จีอารู้สึกไม่สบายใจแต่เธอรู้จักกับเขามาก่อน ดังนั้นมันน่าจะช่วยให้เธฮเอาชีวิตรอดไปได้
“นอกจากเธอแล้ว ยังมีใครรู้ตัวตนของอาจารย์อีธานมั้ย?”
เขาถามด้วยเสียงเข้ม หากมีคนรู้ตัวตนที่แท้จริงของอีธานก็หมายความว่ารู้ตัวจริงของเขาเช่นกัน เมอร์ลินไม่อยากเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอาณาจักรแบล็กมูนกับอาณาจักรแห่งแสง
ดังนั้นคนที่รู้เรื่องเขาไม่มีทางปล่อยให้มีชีวิตอยู่ได้
ดูเหมือนจีอาจะรู้ความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำถามของเมอร์ลิน เธอได้ลนลานและพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของคุณอีธานแน่นอน ฉันยังมีประโยชน์ ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!!
ถึงพ่อมดจะถูกมองว่าเป็นคนนอกรีตในอาณาจักรแห่งแสงแต่สำหรับอาณาจักรแบล็กมูน พ่อมดถือว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ ฉันสามารถช่วยคุณหลบหนีออกจากอาณาจักรแห่งแสงได้นะ”
สภาพที่น่าสงสารของเธอประจวบกับใบหน้าที่สวยงามนั่น มันช่างดึงดูดและเย้ายวนมาก
“ลุกขึ้น”
เมอร์ลินพูดอย่างเรียบ ๆ ลูกไฟตรงหน้าเขาได้สลายไปเป็นควันไฟ
“ฟู่…”
จีอาลุกยืนขึ้นขณะพิงกำแพง เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอจับแขนที่บาดเจ็บด้วยความกระวนกระวายใจ
หลังจากที่เธอลุกขึ้นยืนแล้ว เธอไม่ได้ออกไปทันที เธอได้เริ่มถอดเสื้อผ้าแทน เธอถอดเสื้อคลุมสีดำออกเผยให้เห็นเสื้อคลุมขนสัตว์หนา
แม้ว่าเธอจะดูซีดเซียวและเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่อาจซุกซ่อนเรือนร่างที่น่าดึงดูดนี้ได้
“ได้โปรด จัดการมันให้ฉันด้วย”
จีอาชี้ไปที่เสื้อผ้าที่เธอโยนลงพื้น มันมีคราบเลือดอยู่บนนั้น หากปล่อยไว้ มันจะเป็นเบาะแสที่สาวมาถึงเธอ
“ฉันจะออกไปก่อน ก่อนที่กองกำลังป้องกันเมืองจะมาที่นี่”
หลังจากที่จีอาพูดจบ เธอก็กดแผลและออกจากบ้านไป
เมอร์ลินจับตามองเธอ ก่อนที่ร่างของเธอจะหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติแล้ว เขาก็เดินสำรวจภายในบ้านของอีธาน
ทุกอย่างที่นี่ถูกรื้อค้นและถูกขนไปทั้งหมด ทำให้เพียงห้องที่ว่างเปล่า
เมื่อเห็นว่าที่นี่ไม่มีอะไรเหลือแล้ว เขาเลยตั้งใจจะออกจากบ้านหลัง หากอยู่นานเกินเขาเกรงว่ากองกำลังป้องกันเมืองจะโผล่มาที่นี่
…
หลังจากที่จีอาได้เคลื่อนที่ออกจากบ้านไม้อยู่พักหนึ่งเธอก็ได้หยุดพักเนื่องจากอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมา
เธอกัดฟันข่มความเจ็บปวด เธอมองไปที่แขนของเธอที่ถูกฟันไว้ด้วยผ้าซึ่งตอนนี้เลือดได้ไหลจนย้อมเป็นสีแดง เธอหันกลับไปมองทิศทางของบ้านไม้ขอชายชราอีธาน เธอสบถออกมา “ไอ้โง่เอ๊ย!! แกจะเสียใจที่ทำอย่างนี้กับฉัน”
หลังจากที่อาการบาดเจ็บของเธอเริ่มทุเลา เธอได้ฝืนลากสังขารไปยังลานกว้างแห่งหนึ่ง
ภายนอกลานกว้างรอบล้อมไปด้วยรั้วสูง ส่วนภายในมีคฤหาสน์แบบคลาสสิกตั้งอยู่
แม้สวนโดยรอบจะดูสวยงามแต่กลับไม่มีวี่แววของคนเลยสักคนเดียว
จีอาจับแขนของเธอขณะเดินเข้าไปในสวน ตอนนี้ผ้าที่พันแผลไม่สามารถห้ามเลือดได้อีกต่อไป หยดเลือดได้ไหลลงตามพื้น ช่างเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก
จีอาได้มาหยุดบ้านหลังหนึ่ง เธอไม่ได้เคาะประตูแต่พูดด้วยเสียงเบา ๆ ด้วยความเคารพ
“นายท่านโรลิน”
“จีอา เธอบาดเจ็บเหรอ เกิดอะไรขึ้น” เสียงแหบแห้งดังขึ้นมาจากในบ้าน
“นายท่านโรลิน ก่อนหน้านี้ฉันได้ไปที่บ้านของอาจารย์อีธาน ฉันได้เจอกับเมอร์ลิน วิลสัน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณอีธานจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ ตอนนี้เขาเป็นพ่อมดแล้วและฉันได้รับบาดเจ็บจากเขา” จีอาอธิบายเหตุการณ์อย่างคร่าว ๆ
คนในบ้านได้เงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดอย่างช้า ๆ ว่า “พวกพ่อมดนั้นมักจะฟั่นเฟือนสติไม่ดี พวกเขาไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่ออาณาจักรของเราเลย แถมตาเฒ่าอีธานนั่นยังกล้าไปที่เมืองหลวงโดยไม่มีใบอนุญาตในการพกพาอุปกรณ์เวทย์อีก จนทำให้ทางโบสถ์พบตัวในที่สุด ต้องขอบคุณพระเจ้าที่มันชิงฆ่าตัวตายไปซะก่อนไม่อย่างนั้นความพยายามของเราในหลายปีที่ผ่านมาต้องสูญเปล่าแน่นอน”
‘นายท่านโรลิน’ ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบใจพวกพ่อมดเท่าไหร่โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายชราอีธาน
จีอาได้เงียบ ๆ และไม่แสดงความเห็นใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นชายชราอีธานหรือนายท่านโรลิน พวกเขาต่างมีสถานะที่สูงกว่าเธอมาก
หลังจากที่นายท่านโรลินแสดงความไม่พอใจต่อชายชราอีธานเสร็จ เขาได้หันไปถามจีอาด้วยเสียงเข้มว่า “แล้วเมอร์ลินที่ว่า เขารู้เรื่องพวกเรามั้ย?”
สีหน้าของจีอาเปลี่ยนไปเล็กน้อยและรีบอธิบายอย่างรวดเร็ว “ดูเหมือนคุณอีธานจะสอนศาสตร์พ่อมดให้กับเมอร์ลินเท่านั้นค่ะ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องพวกเราให้เขาฟังแน่นอน ไม่เช่นฉันคงไม่สามารถกลับมาหาท่านได้”
“ดูเหมือนเขาจะเป็นภัยคุกคามของพวกเรา ต้องรีบกำจัดเขาซะ!! เนื่องจากเขาปล่อยเธอมา แสดงว่าเขาคงเชื่อใจเธอในระดับหนึ่ง ดังนั้นเธอต้องหาวิธีล่อเขาอออกมา จากนั้นฉันจะจัดการเขาเอง” โรลินกล่าวพร้อมแผงเจตนาในการฆ่า
“แต่นายท่าน ตอนนี้เมอร์ลินได้กลายเป็นพ่อมดไปแล้ว ฉันเกรงว่าจะจัดการเขาได้ยาก” จีอากล่าวด้วยความกังวล
“ไม่ต้องห่วง เขาเพิ่งจะเป็นพ่อมดได้ไม่นาน ฉันสามารถจัดการเขาได้ง่าย ๆ ยังไงพวกพ่อมดก็ไม่ต่างจากคนทั่วไป”
โรลินกล่าวอย่างมั่นใจ ส่วนจีอาได้แต่พยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้ามืดหม่น
“จีอานี่ก็เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้วสินะที่เธอถูกส่งมาที่อาณาแห่งแสง ไว้เธอกลับไปเมื่อไหร่ฉันจะขอตำแหน่งสูงให้กับเธอ”
แม้ว่าจะเป็นเสียงที่เบา แต่หลังจากจีอาได้ยิน สีหน้าของเธอก็ดีขึ้นทันที ใบหน้าที่ซีดเซียวจากการเสียเลือด ดูเหมือนจะดีขึ้นเนื่องจากความตื่นเต้นของเธอ
“ขอบคุณค่ะนายท่านโรลิน” เมื่อจีอากล่าวเสร็จ เธอก็ออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
…
ปราสาทวิลสัน
เมอร์ได้กลับมาและตรงไปที่ห้องของเขาทันที เขาได้ถอดผ้าพันคอออกเบา ๆ มันมีคราบเลือดเปื้อนติดอยู่บนผ้าพันคอ
เขายืนอยู่หน้ากระจกและมองดูอาการบาดเจ็บที่คอของเขา ตอนนี้บาดแผลได้ตกสะเก็ดแล้ว รอยแผลมันดูคล้ายกับเขาโดนกิ่งไม้ข่วน
โดยบาดแผลเช่นนี้จะหายไปในไม่กี่วันและไม่ทิ้งรอยแผลเป็นด้วย
เมอร์ลินโยนผ้าพันคอที่เปื้อนเลือดลงในอ่างขนาดใหญ่แล้วโยนลูกไฟลงไป จากนั้นผ้าพันคอก็ค่อย ๆ ไหม้จนกลายเป็นขี้เถ้า
จากนั้นเขาก็เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ เมื่อกลิ่นจางหายไปแล้วเขาจึงเปิดประตูและลงไปชั้นล่าง
เมอร์ลินเห็นพ่อบ้านสั่งการคนรับใช้ในปราสาทโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ในสวนและย้ายพวกมันออกไปจากปราสาท สาเหตุที่ทำแบบนี้เนื่องจากมีหิมะเกาะตามต้นไม้จำนวนมาก หากเกิดลมพายุพัดเข้ามา อาจส่งผลให้ต้นไม้หักโค่นล้มทับปราสาทได้
ในขณะที่เขากำลังมองดูเหล่าคนรับใช้ทำงาน ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงม้าดังมาจากนอกปราสาท ดูเหมือนรถม้าที่มอสส์ไปรับเมซี่ส์ได้กลับมาแล้ว
เมอร์ลินรีบลุกยืนขึ้น เหตุผลที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมารอการกลับมาของเมซี่ส์