A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 37
การที่เมอร์ลินจะสามารถเสกคาถาลูกไฟยักษ์ได้นั้น เขาจำเป็นตั้งเสกคาถาลูกไฟถึง 3ครั้ง เสียก่อนเพื่อทำให้ขอบสีเทาในจิตใต้สำนึกได้เปลี่ยนขอบสีแดง
ดังนั้นเมอร์ลินจึงเสกลูกไฟ 3ลูก อย่างรสดเร็ว เมื่อขอบเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว เมอร์ลินได้ใจพลังจิตห่อหุ้มจึ้เอาไว้
“ลูกไฟยักษ์!!”
ขอบสีแดงได้ถูกกระตุ้น ลูกไฟยักษ์ได้ถูกปล่อยออกมา
เมอร์ลินรู้สึกได้ถึงไอร้อนของลูกไฟยักษ์ โชคดีที่เขาเล็งไว้ที่จี้จึงทำให้ลูกไฟยักษ์ถูกดูดเข้าไปแทบจะทันทีที่ถูกปล่อยออกมา
จากนั้นเขารีบตรวจสอบจี้ทันที เขาพบว่าลูกไฟยักษ์ได้ถูกเก็บเข้าไปในช่อง ๆ หนึ่งของจี้อย่างแน่นหนา
“สำเร็จ!! จี้มันสามารถทนพลังของลูกไฟยักษ์ได้”
เมอร์ลินถอนหายในอย่างโล่งอก เขาจ้อมองไปที่จี้ ตัวจี้นั้นมีช่องที่สมบูรณ์สามารถใส่ได้ทั้งหมด 18ช่อง ดังนั้นเมอร์ลินก็สามารถปล่อนลูกไฟยักษ์ 18ครั้ง อย่างต่อเนื่อง นั่นคือพลังอันมหาศาลที่แม้แต่เขาเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้
“เยี่ยมไปเลย!! จี้อันนี้สามารถเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ของฉันได้เยอะมาก!!”
จากนั้นเมอร์ลินก็ได้เสกลูกไฟออกมาซ้ำ ๆ เพื่อที่เรียกลูกไฟยักษ์ออกมาเก็บใส่ในจี้ห้อยคอของเบลล์
แม้ว่ากระบวนการนี้จะยุ่งยากและใช้พลังเวทย์ไปมากแต่เมอร์ลินก็มีเวลทั้งคืน ดังงั้นเขาจึงสามารถเติมลูกไฟยักษ์ลงไปในช่องทั้ง 18 ของจี้ได้ทั้งหมด
…
ห่างออกไปไม่ไกลที่นั่นเป็นที่ตั้งของฟาร์มปศุสัตว์ที่ถูกทิ้งร้าง ที่นั่นมีชายสองสามคนใส่ชุดคลุมสีขาวและเกราะสีเงินพวกเขานั่งอยู๋รอบกองไฟและดูเหมือนกำลังพูดคุยกันอยู่
ชายทั้งามคนนี้มีรูปร่างผอม ทุกคนสวมหน้ากากสีทองผิดบังใบหน้า ชายร่างเตี้ยคนหนึ่งโยนฟืนลงไปในกองไฟและพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน
“หึ! ในที่สุดเวลานี้ก็มาถึง ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่านักดาบเพลิงระดับสองอย่างเลห์แมน วิลสันจะสามารถรับมือพวกเราทั้งสามคนได้มั้ย”
“แน่นอนอยู่แล้วเควีโร่ ถึงไม่ต้องใช้พวกเราสามคนก็สามารถจัดการเขาได้อย่างสบาย ๆ ยังไงก็เถอะเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับทางโบสถ์ดังนั้นพวกเราต้องไม่ประมาท”
“ลีโล แองกัสปล่อยให้จัดการวิลสันเอง ฉันอยากจะรู้ว่าขุนนางจากเมืองแบล็กวอเตอร์จะแน่สักแค่ไหน”
“เอาล่ะ พวกนายทั้งสองคนฟังฉันนะ ทางโบสถ์เขาไม่สนใจเมืองแบล็กวอเตอร์เท่าไหร่นัก นับประสาอะไรกับตระกูลวิลสัน แต่ถึงอย่างนั้นเมืองนี้ก็เหมาะสำหรับที่จะเป็นแนวป้องกันให้กับเมืองหลวงกับเมืองรูท ดังนั้นที่จึงเป้นวิธีใช้งบประมาณน้อยที่สุดในการรับมือการบุกรุกของอาณาจักรแบล็กมูนที่อาจจะเกิดขึ้น”
ชายคนสุดท้ายผู้ซึ่งดูเหมือนจะมีอำนาจมากที่สุด ทั้งสองคนได้ตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูด
“แองกัส ท่านบิชอปได้สั่งให้คุณเป็นผู้นำของพวกเรา ฉันจึงอยากรู้ว่าพวกเราควรทำอย่างไรต่อไป”
แองกัสเงยหน้าขึ้นมาและพูดว่า
“ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีและอยู่ในการควบคุมของท่านเจสันแล้ว หน้าที่ของพวกเราก็คืออยู่ด้านนอกและทำให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไร ส่วนพวกเมืองเล็กที่อยู่รอบ ๆ นั้นไม่ต้องสนใจ พวกเขาอ่อนเกินว่าจะต่อกรกับพวกเราได้ ที่พวกเขาต้องกังวลก็คือกลุ่มอัศวินชุดเกราะเหล็กของวิลสัน การให้พวกเขาเข้ามาในเมืองแบล็กวอเตอร์ ฉันเกรงว่ามันจะไม่ส่งผลดีต่อแผนของของท่านเจสัน
นั่นคือเหตุผลที่ต้องทำให้บารอนวิลสันตรงอยู่ที่ดินแดนของเขาต่อไป เราต้องทุ่มทุกอย่างที่มีและทำมันให้สำเร็จ ขอให้เทพแห่งแสง ช่วยคุ้มครองพวกเราด้วย” แองกัสอย่างด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาในตอนนี้พร้อมที่จะออกไปฆ่าแล้ว
“ขอให้เทพแห่งแสง ช่วยคุ้มครองพวกเราด้วย”
ชายอีกสองคนได้ลุกยืนขึ้น พวกเขากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
…
ยามรุ่งสาง ได้มีคนมาเคาะที่ประตูห้องของเมอร์ลิน
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
“คุณชายเมอร์ลิน ท่านบารอนได้สั่งให้เตรียมออกเดินทางไปยังเมืองแบล็กวอเตอร์ค่ะ” สาวใช้ชุดสีเทากล่าวออกมาเบา ๆ
“ได้เลย”
อีกฟากหนึ่งของประตู เมอ์ลินดูอ่อนเพลียใบหน้าซืดเผือดราวกับกระดาษ แต่ถึงอย่างนั้นแววตาของเขากลับเปล่งประกายอย่างตื่นเต้น
นั่นเป็นช่วงเวลาทั้งคืน เมอร์ลินได้เวลาทั้งหมดในการร่ายคาถาลูกไฟขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ถึงแม้พลังเวทย์จะหมดแต่เขาก็ยังนั่งรอและร่ายมันต่อไป
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ช่องทุกช่องของจี้เต็มไปด้วยลูกไฟยักษที่พร้อมจะใช้งานก่อนรุ่งสาง
ด้วยจี้นี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังเวทย์ใด ๆ เขาทำใช้เพียงพลังจิตกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานลูกไฟยักษ์ได้ถึง 18ครั้งแล้ว
เมอร์ลินได้ลุกขึ้นยืนและไปหยิบเชือกลินินเส้นบาง ๆ เขาเอามันมาร้อยจี้และทำเป็นสร้อยมาคล้องคอเขา ทีนี้เขาก็สามารถใช้ได้อย่างสะดวกโดยไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไป
“นี่ไม่เช้าไปหน่อยเหรอที่จะออกเดินทาง”
เมอร์ลินได้แต่งตัวและออกจากห้อง เขาลงไปที่ชั้นล่าง เขาสังเกตเห็นอัศวินจำนวยมากรออยู่ด้านนอกของปราสาท ในหอัศวินทั้งหมดมีพวกอัศวินชุดเหราะหนัก 200นาย ที่โดยเด่นและต่างจากอัศวินคนอื่น ๆ พวกเราได้รับการฝึกฝนอย่างดีจากเลห์แมน ด้วยความเพียรพยายามอย่างหนักจึงทำให้ความสามารถในการต่อสู่ของพวกเขาเหนือล้ำกว่าอัศวินทั่วไปมาก
ตอนนี้เลห์แมนซึ่งสวมชุดเกราะสีดำยืนอยู่ตรงบันได้ด้านนอกของปราสาม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเมอร์ลินมาถึง
“เกิดอะไรขึ้น เมื่อคืนลูกนอนไม่พองั้นหรือ?”
เมอร์ลินส่ายหัวและยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ผมแค่ไม่คุ้นเคยกับต่างที่ก็เท่านั้น ท่านพ่อจะนำอัศวินทั้งหมดออกจากดินแดนเหรอครับ”
“พ่อไม่ได้เอาไปทั้งหมด พ่อพากลับไปแค่อัศวินชุดเกราะเหล็กไปด้วยเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะอยู่ที่นี่เพื่อคอยปกป้องดินแดนจากรุกรานของพวกโจร”
เลห์แมนส่ายหัวเล็กน้อย เขาไม่ได้วางแผนที่จะเอากองกำลังทั้งหมดออกจากดินแดนแห่งนี้
“หื้ม? นั่นเสียงอะไร?”
ในขณะที่เลห์แมนกำลังจะสั่งให้ออกเดินทาง เขาก็ได้เสียงม้าวิ่งเข้ามาพร้อมกับกลุ่มฝุ่นที่กระจายไปทั่วอากาศ
“ไม่ดีแล้ว นั่นพวกโจร ทุกคนเตรียมสู้กับพวกมัน!!!”
ทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่ง อัศวินทุกนายได้ชักดาบออกมาทันทีและเคลื่อนขบวนเป็นแนวป้องกันเพื่อรับมือกลุ่มโจรที่กำลังวิ่งเข้ามาจากเบื้องหน้า