A Wizard’s Secret ความลับของพ่อมด - ตอนที่ 45
ทีรอธได้นำกำลังพลของเขาบุกเข้ามาที่ปราสาทวิลสัน
เดิมทีปราสาทได้มีอัศวินชุดเกราะเหล็กคุ้มครองแต่เนื่องด้วยพวกเขาต้องออกไปคุ้มกันเลห์แมนที่ไปทำธุระที่ดินแดน นอกจากนี้แพรตต์ก็ได้ออกจากเมืองไปพร้อมกับอัศวินจำนวนหนึ่งด้วย ฉะนั้นจึงทำให้ปราสาทวิลสันอยู่สถานะที่อ่อนแอที่สุดจึงทำให้กองกำลังของทีรอธบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
“ฆ่าพวกมันให้หมด!!”
ทีรอธจ้องมองปราสาทด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ทหารหลายได้กรูเข้ามาพวกเขาง้างดาบขึ้นและฟันใส่ทหารยามและคนรับใช้ พวกเขาตายไปโดยไม่มีโอกาสจะร้องขอชีวิต
กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งในอากาศ เมซี่ส์กับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องโถงก็สามารถได้กลิ่นคาวเลือด
เมซี่ส์ได้จ้องมองทางเข้าด้วยสายตาที่เดือดดาล ส่วนกัตต์หน้าซีดราวกับกระดาษ
“ฉันไม่คิดว่าทีรอธจะเหี้ยมโหดขนาดนี้ เขาต้องการจะฆ่ายกครัวตระกูลวิลสัน!!” กัตต์กล่าว
“คุณหนูเมซี่ส์ คุณชายกัตต์ รีบตามผมมาเร็วเข้า ก่อนที่ทีรอธจะเจอพวกเรา” พ่อบ้านกล่าว
ตอนนี้ปราสามวิลสันไม่มีกองกำลังเหลืออยู่เลย ถ้าหากพวกเขาไม่ซ่อนตัว พวกเขาก็จะตายด้วยนำมือของทีรอธ
ดังนั้นพ่อบ้านจึงพากัตต์ เมซี่ส์และมาดามหน้าอกใหญ่ เข้าไปที่ห้องของเลห์แมนและกดกลไกในห้องอย่างรวดเร็ว
*ครึ่ก ครึ่ก*
ทางเดินรูปวงรีก็ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา
“นี่คือห้องใต้ดินที่ท่านบารอนได้สร้างไว้ โดยมันจะปลอดภัยพอสมควร มันจะช่วยถ่วงเวลาไม่ให้ทีรอธหาพวกเราเจอ พวกเราจะซ่อนตัวจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง” พ่อบ้านกล่าว
เมซี่ส์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ตัวเธออยู่ที่ปราสาทมาเป็นเวลาหลายปแล้วแต่เธอเพิ่งจะรู้ว่าห้องใต้ดินอยู่ที่นี่
กัตต์ได้เดินนำเข้าไป ก่อนจะตามด้วยเมซี่ส์ มาดามหน้าอกใหญ่และพ่อบ้าน หลังจากที่ทุกคนเข้าไปแล้วพ่อบ้านก็ปิดทางเข้า
ปราสาทวิลสันในตอนนี้ไม่ต่างจากนรกบนดิน เลือดสาดกระเซ็นไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เหล่าคนรับใช้นับร้อยได้ถูกจับตัวไว้รวมกันที่ห้องโถง
ทีรอธได้เดินเข้ามาข้างใน เขาไม่พบบุคคลที่เขาตามหาในนั้น
“แม้ว่าเมอร์ลินจะไม่อยู่ในปราสาทแต่เมซี่ส์อยู่ที่นี่แน่นอน ออกไปค้นหาให้ละเอียด” ทีรอธสั่งลูกน้องให้ตามหาเมซี่ส์
จากนั้นพวกอัศวินได้ค้นหาทั่วทั้งปราสาทอย่างละเอียด
…
*พึ่บ*
เมอร์ลินได้ลืมตาตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขาดึงม่านกั้นออกและพบว่าท้องฟ้าได้สว่างแล้ว
“มอสส์ ตอนนี้พวกเราอยู่ไหน” เมอร์ลินถาม
มอสส์ส่ายหัวไปรอบ ๆ สีหน้าของเขาค่อนข้างซีด ดวงตาแดงก่ำ เขาดูอ่อนเพลีบมาก เขาได้บังคับม้าตามพวกอัศวินตลอดทั้งคืน ตอนนี้เขาใกล้จะหมดแรงแล้ว
“คุณชายเมอร์ลิน อีกไม่กี่ชั่วโมงเราจะถึงเมืองแบล็กวอเตอร์แล้ว” มอสส์กล่าว
“อีกหนึ่งชั่วโมง?” เมอร์ลินขมวดคิ้วเล็กน้อย วันนี้เป็นวันนี้ที่บารอนคาสเทลแลนได้สั่งการขุนนางทั้งหมดไปที่ปราสาทของเขา หากพวกศาสนจักรเริ่มทำแผนการและควบคุมสถานการณ์ได้ เขาเกรงว่าจะไปช้าเกินไป
เมอร์ลินรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของปราสาทวิลสัน แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นความเร็วที่เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ถึงเขาจะกังวลก็ไม่มีประโยชน์
เมอร์ลินจึงนั่งอย่างเงียบและตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงฝนจิตใต้สำนึกของเขา
หลังจากที่ผ่านไปหนึ่งคืน ตอนนี้โครงสร้างเวทมนต์ของคาถาแช่แข็งสามารถร่ายได้ถึงสามครั้งตามที่เขาคาดการณ์เอาไว้
“เยี่ยม สามครั้งก็เกินพอแล้ว!”
คาถาแช่แข็งของเขานั้น เขาต้องการเอาไว้ใช้ตรึงคู่ต่อสู้ เขายังจำเป็นต้องพึ่งพลังโจมตีจากคาถาลูกไฟเป็นส่วนใหญ่และตอนนี้เขาสามารถร่ายคาถาลูกไฟได้ต่อเนื่องถึง 20ครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังสามารถปล่อยลูกไฟยักษ์ได้ถึง 18ลูก นี่คือเป็นไพ่ตายของเขา เขาจะใช้มันเมื่อจำเป็นจริง ๆ
และที่สำคัญที่สุด เขาได้พักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งคืน ทำให้เขาในตอนนี้พร้อมที่จะออกไปต่อสู้แล้ว
“หวังว่าเมซี่ส์จะไม่เป็นอะไร…” เมอร์ลินพึมพำเบา ๆ ภายใต้แววตาอันสงบได้มีประกายอันแหลมคมในดวงตาของเขา
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เมอร์ลินก็ได้เห็นกำแพงของเมืองแบล็กวอเตอร์ เขายังเห็นนักธนูอยู่บนกำแพงอย่างแน่นหนาด้วย
“แย่แล้ว พวกศาสนจักรเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว!!”
เลห์แมนได้ยกมือขึ้น ทำให้อัศวินที่ตามหยุดอย่างกะทันหัน เขาจ้องมองไปที่ประตูเมืองที่ถูกปิดอยู่ตอนนี้
โดยปกติประตูเมืองจะปิดเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น แสดงว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาเมืองอย่างแน่นอน
เลห์แมนได้มองขึ้นไปยังกำแพง เขาเห็นเครื่องแต่งกายของพวกเขาน่าจะเป็นกองกำลังป้องกันเมือง
“ท่านบารอน เราควรทำอย่างไรต่อดี”
นายพลแพรตต์เดินเข้ามาจากด้านหลัง เขาได้เห็นสถานการณ์เบื้องหน้าเช่นกันแต่เขาก็ไม่รู้จะจัดการยังไง
“เราช้าไปหนึ่งก้าว…”
เลห์แมนกำหมัดแน่น ดวงตาของเขา เขาคับแค้นใจอย่างมาก เขาอยากจะบุกเข้าไปแต่ว่าประตูเมืองนั้นแข็งแรงมากจนยากที่จะทะลุทะลวงเข้าไปได้
‘ถ้าหากมีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งอยู่ที่นี่ล่ะก็ พวกเขาสามารถทำลายประตูได้อย่างสบาย ๆ จริงสิ!!’
“แพรตต์ไปตามเมอร์ลินมาเร็วเข้า” เลห์แมนนึกถึงได้เมอร์ลิน ลูกชายของเขาที่กลายเป็นนักเวทย์ไปแล้ว
จากนั้นแพรตต์ก็ได้นำตัวเมอร์ลินมา เลห์แมนได้ชี้ไปที่ประตูเมืองและพูดว่า
“เมอร์ลิน ลูกสามารถทำลายประตูเมืองได้หรือไม่ ถ้าเกิดลูกทำไม่ได้ พ่อจะถอยกลับไปที่ดินแดนทันที แต่…พ่อกังวลถึงความปลอดภัยของเมซี่ส์และคนอื่น ๆ”
เลห์แมนจ้องมองไปที่เมอร์ลินอย่างคาดหวัง
เมอร์ลินหรี่ตาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบา ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบว่า “ผมจะลองดู”
แม้ว่าเมอร์ลินจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่นักแต่เขาจะต้องระเบิดและพังประตูเมืองให้ได้