Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1008
“ข้า?” หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในหมอกดำ เขากับสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็เข้าไปหลบในหอคอยทมิฬทันที การต่อสู้ที่เกิดขึ้นภายนอกมันจะเป็นฝีมือของเขาได้อย่างไร?
แต่เขาไม่สามารถพูดถึงเรื่องนั้นได้ เขาเพียงแค่ส่ายหน้าและพูดว่า “ข้าไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องลอบสังหารเขา”
หลังจากที่พูดแบบนั้นออกมา หลิงฮันก็เกิดความอยากรู้อยากเห็น เพราะคนที่มาที่นี่มีเป้าหมายคือเขา แล้วทำไมเจียงอันหยุนถึงถูกแทงด้วยดาบ? เมื่อดูจากบาดแผลแล้ว มันถือว่าลึกทีเดียว เหมือนกับต้องการฆ่าอีกฝ่ายให้ตายทันที
นี่จะต้องเป็นการลอบสังหารที่วางแผลล่วงหน้าเอาไว้แล้วไม่ผิดแน่
“นอกจากเจ้าแล้วจะเป็นใครได้!” ชายชราเคราขาวกล่าว “เขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของเจียงจือ แม้เขาจะทำตัวไร้ค่า แต่เขาก็ต้องแบกรับภาระหน้าที่อันหนักอึ้งเพื่อความสำเร็จของตระกูลเจียง และตอนนี้ความหวังของตระกูลเจียงถูกฆ่าไปแล้ว เจียงจือจะต้องโกรธจนบ้าคลั่งเป็นแน่”
“ใช่แล้ว ทุกคนรู้ดีว่าเจียงอันหยุนมีความบาดหมางกับเจ้าก่อนจะออกเรือซะอีก หากไม่ใช่ฝีมือของเจ้าแล้วจะเป็นใคร?” หลัวอู่กล่าวเสริม ใบหน้าของเขามีรอยฝ่ามือ ซึ่งเขายังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร
ทันใดนั้นเอง หยางเทียนเฉิงก็หันไปจ้องมองหลิงฮันทันทีด้วยจิตสังหาร
อันที่จริงแล้ว หลิงฮันไม่หวาดกลัวเขาเลย ถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ แต่เขามีกายหยาบที่น่าทึ่ง เขาแน่ใจว่าสามารถหลบหนีได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีหอคอยทมิฬอยู่มิใช่หรือ?
แต่ถ้าไม่มีความจำเป็น ทำไมเขาจะต้องต่อสู้กับคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย นี่อาจเป็นแผนการของใครบางคนก็เป็นได้
หลิงฮันดูนิ่งเฉยและพูดว่า “ข้าจะพูดอีกครั้ง ข้าไม่ได้เป็นคนทำ หากข้าเป็นคนทำจริง ข้าคงไม่แทงเขา แต่ตัดหัวเขาไปแล้ว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ายอมรับแล้วว่ามีแรงจูงใจ!” จั่วเซียวกล่าว
“นี่เจ้าปัญญาอ่อนหรือไง?” หลิงฮันจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียดหยาม
“พี่หยาง ชายคนนี้มีความบาดหมางกับเจียงอันหยุน และตอนนี้เขาก็เพิ่งยอมรับว่าต้องการฆ่าอีกฝ่าย” หลัวอวี่กล่าวกับหยางเทียนเฉิง
“หลิงฮัน หากเจ้าพูดว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ เจ้ามีหลักฐานหรือไม่?”ฟานหยงกล่าว
“ถูกต้อง หากเจ้าไม่ได้เป็นคนทำก็แสดงหลักฐานออกมา!” หลัวอู้ตระโกน พวกเขาทุกคนต้องการกดดันหลิงฮัน
หลิงฮันแสยะยิ้มและพูดว่า “กลุ่มคนโง่เขลา ในเมื่อพวกเจ้าต้องการกล่าวหาว่าข้าเป็นคนทำ แล้วจะเรียกร้องหาหลักฐานไปทำไม เพราะข้าไม่ได้เป็นคนทำ! แล้วเมื่อพวกเจ้ายังแอบดูข้าอาบน้ำ ถ้าพวกเจ้าจะพูดว่าไม่ได้ทำ ถ้างั้นพวกเจ้าก็หาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพวกเจ้าบ้างสิ!”
เขาชี้หน้าด่าทีละคนทีละคน
ทุกคนรู้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่จะกล่าวหาหลิงฮันอย่างไร้หลักฐาน ถ้าพวกเขาต้องการใส่ร้ายให้หลิงฮันเป็นคนทำจริง พวกเขาก็ควรมีหลักฐานเพื่อให้คนอื่นคล้อยตาม
ทันใดนั้นเอง ทุกคนก็นิ่งเงียบไป
สถานการณ์ในตอนนี้วุ่ยวายมาก ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนลงมือฆ่าเจียงอันหยุน แต่เมื่อมีคนโยนความผิดให้กับหลิงฮัน พวกเขาเลยคล้อยตามและยินดีที่จะช่วย นั่นเป็นเพราะจุดประสงค์หลักของการมาที่นี่คือการฆ่าหลิงฮันอยู่แล้ว
หยางเทียนเฉิงขมวดคิ้ว ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนบนเรือซับซ้อนมาก เขาไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครเป็นคนทำ ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “ข้าจะตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้น และทุกคนโปรดให้ความร่วมมือด้วย!”
“แน่นอน!” ทุกคนตอบกลับ
ทุกคนที่อยู่บนดาดฟ้าเรือให้ความร่วมมือกับหยางเทียนเฉิงในการสืบสวนหาคนทำ
มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาคนลงมือทำได้ นั่นเป็นเพราะทุกคนต่างมีอุปการณ์มิติเป็นของตนเอง และซ่อนอาวุธไว้ด้านใน แล้วใครจะหาเจอ? หรือบางทีอาจโยนทิ้งลงไปในทะเลแล้วก็ได้ ถ้าวนเรือกลับไปที่หมอกดำนั่นอีกครั้ง มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่จะหาเจอ
การสืบสวนเริ่มต้นขึ้น ทุกคนจะถูกซักถามทีละคน
ชายหนุ่มถือดาบมีชื่อว่าจินจื้อฮุย ชายชราชุดเทามีชื่อว่าโจวเกาหยาง ชายหนุ่มชุดสกปรกมีชื่อว่าฟู่เทียน และหญิงสาวชุดขาวมีชื่อว่าหยินหยวนเซียง และอีกเจ็ดคนจากกลุ่มห้าทมิฬ
หยางเทียนเฉิงต้องแบกความรับผิดชอบเมื่อมีการตายเกิดขึ้นบนเรือ แต่ประเด็นสำคัญคือใครเป็นคนทำ มันไม่มีร่องรอยที่จะสืบหาตัวคนร้ายได้เลย เหมือนกับอีกฝ่ายเป็นนักฆ่ามืออาชีพ
“นักฆ่ามืออาชีพ!” คนอื่นคิดแบบนั้นเหมือนกัน ถึงแม้อยากจะใส่ร้ายหลิงฮัน แต่ถ้ามีนักฆ่ามืออาชีพอยู่บนเรือ พวกเขาทุกคนก็จะตกอยู่ในอันตราย
บางทีคนที่อาจถูกฆ่าคนต่อไปก็อาจเป็นพวกเขาก็ได้ ซึ่งทุกคนอาจเป็นฆาตกรได้ทุกคน
“ข้าว่าพวกเราเข้าไปในหมอกดำอีกครั้งดีกว่า!” หลิงฮันพูดแนะนำ
ทุกคนดูแปลกใจ นี่เขาบ้าหรือเปล่า? ในหมอกดำวิสัยทัศน์จะเป็นศูนย์ แม้แต่สัมผัสสวรรค์ยังถูกยับยั้ง คงไม่มีใครยอมเข้าไปในสภาพแวดล้อมแบบนั้นอีกรอบ
“บางทีพวกเราอาจหาตัวฆาตกรเจอก็ได้” หลิงฮันกล่าวอีกครั้ง
นั่นเป็นเพราะเป้าหมายของเขาคือโจรสลัด ไม่สำคัญว่าการเดินทางจะล่าช้าหรือไม่
“ข้าคิดว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดี” หลัวยวี่กล่าวเห็นด้วยเป็นครั้งแรก และจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาอาฆาต
ก่อนหน้านี้เขาหาตัวหลิงฮันไม่พบ ซึ่งทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจ แต่ครั้งนี้เขาจะไม่พลาดอย่างแน่นอน!
“ข้าเองก็เห็นด้วย!” เหลี่ยวหยิงเองก็กล่าวเห็นด้วย
ฟานหยงและจั่วเซียวมองหน้ากันและพยักหน้าเห็นด้วย
จินจื้อฮุย โจวเกาหยางและหยินหยวนเซียงไม่แสดงความคิดเห็นอะไรว่าเห็นด้วยหรือไม่
เมื่อเห็นว่าหลายคนเห็นด้วยที่จะเข้าไปในหมอกดำ หยางเทียนเฉิงจึงตะโกนพูดว่า “ตกลง พวกเราจะกลับเข้าไปในหมอกดำอีกครั้ง” เขาเองก็อยากจะหาฆาตกรให้พบ อีกฝ่ายกล้ามากที่ลงมือต่อหน้าเขา
เรือวกกลับอย่างช้าๆ และแล่นเข้าไปในหมอกดำ
ทุกคนหยุดพูดคุยกัน ราวกับเตรียมพร้อมที่จะเข้าไปแล้ว ในไม่ช้าหมอกดำก็เริ่มบดบังดวงอาทิตย์ทีละเล็กน้อย จนกระทั่งมืดสนิท
ในขณะนั้นเอง เสียงต่อสู้ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“อ๊าก!” “โอ๊ย!”
“เกิดอะไรขึ้น!”
เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นไม่หยุด บางคนถูกซัดจนกระเด็นไปที่ห้องโดยสาร บางคนถูกต่อยจนใบหน้าบวม บางคนถูกดาบฟันจนเลือดอาบ
พวกเขาทุกคนต่างคิดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นฝีมือของหลิงฮัน