Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1069
หลิงฮันชะงัก จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์เป็นถึงหนึ่งในสามผู้แข็งแกร่งที่สุดของดาวดวงนี้ถูกทำให้แขนขาด!
เท่านี้ก็ยืนยันความแข็งแกร่งของดาวเก้าอสุรกายได้แล้ว
ถ้าจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ได้ครอบครองดาบนั่นจริงๆ จักรพรรดินีแห่งดาราจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้รึไม่? บางทีจักรพรรดินีอาจจะต้องกลายเป็นสตรีของเขา!
เมื่อคิดเช่นนี้หลิงฮันก็อดรู้สึกปวดใจไม่ได้
เขาดีว่าเขาหลงเสน่ห์ของจักรพรรดินีแล้ว หลิงฮันเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่พอใจ เขาไม่ต้องการให้จักรพรรดินีตกไปอยู่ในอ้อมแขนของชายอื่น
“ฮ่าๆๆ!” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หัวเราะลั่นกลางอากาศ แสงสว่างจ้าบนท้องฟ้าค่อยๆจางหายไป เขายังคงยืนอยู่อย่างองอาจแม้จะเหลือแขนซ้ายที่ถือดาบอยู่เพียงข้างเดียว
ดาบอสุรกายตกอยู่ในมือเขาแล้ว!
ด้วยสายโลหิตในร่างและพลังที่แข็งแกร่งมากพอของเขา หลังจากยอมเสียแขนไปหนึ่งข้างเขาก็ได้กลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของดาบเก้าอสุรกาย
ขนาดอยู่ในหอคอยทมิฬหลิงฮันก็ยังคงสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของดาบนั่น เขารู้สึเราวกับจิตใจกำลังถูกเจาะทะลวง
ดาบเก้าอสุรกายคืออุปกรณ์ระดับวารีนิรันดร์หรืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสิบสามเป็นอย่างน้อย!
ต่อให้ตอนนี้ดาบจะหักไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังทรงพลังอยู่ดี ขนาดจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ที่มีสายเลือดเดียวกันยังต้องยอมจ่ายแขนข้างหนึ่งเพื่อครอบครองมัน!
ถ้าหากอีกสามส่วนที่เหลือถูกนำมาผสานจนสมบูรณ์มันจะน่าสะพรึงกลัวขนาดไหน?
“ท่านพี่ เป็นอะไรมากรึไม่?” ราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์เข้ามาหาจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ เนื่องจากดาบเก้าอสุรกายถูกครอบครองแล้ว ปราณชั่วร้ายจึงสลายหายไป
“ไม่สาหัสมาก แค่แขนขาดครึ่งปีก็รักษาได้แล้ว” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ไม่สนใจบาดแผลของตัวเอง สำหรับเขาบาดแผลแค่นี้เป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพลังที่เขาได้รับมา
“ชิ้นส่วนที่เหลือข้ามอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าเช่นเดิม ข้าต้องควบคุมด้ามจับนี้อย่างสมบูรณ์ให้ได้ก่อน แล้วการรวบรวมอีกดาบสามส่วนที่เหลือจะง่ายขึ้น” จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์กล่าว
“ขอรับ!” ราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์ตอบรับ การรวบรวมดาบอีกสามส่วนเขายังจำเป็นต้องสร้างแท่นบูชาเพื่อกำจัดปราณชั่วร้ายเพื่อครอบครองพวกมันอยู่ดี ต่อให้จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์มีด้ามจับอยู่แล้วก็ยังเป็นเรื่องยาก
จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์หันหลังและจากไป
แววตาของราชาสวรรค์เก้าเพลิงสวรรค์จ้องลงไปที่พื้นดินด้วยจิตสังหาร
เขารู้ว่าก่อนหน้านี้หลิงฮันซ่อนตัวอยู่ในเงามืด โดยที่เขาก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใช้วิธีอะไรในการซ่อนกลิ่นอายของตัวเอง ขนาดการโจมตีของเขาก็ไม่สามารถบีบบังคับให้อีกฝ่ายปรากฏตัวออกมา แต่ตอนนี้เขาไม่มั่นใจว่าหลิงฮันยังอยู่ที่นี่อยู่รึเปล่า
เขาเกลียดผู้บุกรุกคนนี้มากเนื่องจากเกือบจะทำให้การบูชายันล้มเหลว เขาต้องการเป็นคนจัดการหลิงฮันด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะไปยุ่งกับหลิงฮันแล้ว นอกจากนี้จักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์ก็ครอบครองดาบเก้าอสุรกายได้สำเร็จ พลังต่อสู้ของจักรพรรดิเพิ่มขึ้นเป็นระดับวารีนิรันดร์ไปโดนปริยาย ต่อให้ข่าวเรื่องการบูชายันรั่วไหลก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
เขากวาดสายตามองวนไปมาก่อนจะหันหลังจากไป เขามีภารกิจสำคัญต้องทำต่อ
หลังจากอีกฝ่ายจากไปนานพอสมควรหลิงฮันถึงปรากฏตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะแอบลอบสังหารเขา ถึงแม้ความคิดนั้นจะเป็นไปได้น้อยก็ตามที่ปรมาจารย์ระดับดาราจะมาแอบลอบสังหารรุ่นเยาว์ตัวน้อยๆเช่นเขา
หลิงฮันแยกทางกับลูกสุนัข เขานำอุปกรณ์บินออกมาและมุ่งหน้าไปยังค่ายพักแรมของแคว้นพิรุณบูรพา
เนื่องจากไม่ปราณชั่วร้ายหลงเหลือแล้วเขาจึงไปถึงแม่น้ำคลื่นพิโรธอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันควบควนอุปกรณ์บินให้ร่อนลงพื้น
“ใครกัน!” เขาถูกล้อมด้วยกองทหารทันที
“ศิษย์สำนักนภาสีชาด หลิงฮัน!” เขาแจ้งสถานะของตนเองออกไป
เหล่าทหารไม่กล้าเชื่อคำกล่าวของเขาและรีบไปตรวจสอบสถานะของเขาว่าเป็นเรื่องจริงรึไม่
“หลิงฮัน!” จ้าวหลุนเป็นคนแรกที่มาถึง เมื่อเห็นหลิงฮันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างช่วยไม่ได้
ภารกิจลอบโจมตีแคว้นราชสีห์ทองคำล้มเหลว ซึ่งเรื่องนี้เขาก็เสียชื่อมากพอแล้ว เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นถึงการนำทัพครั้งแรกของเขาที่เป็นบุตรชายของจอมพลจ้าว
แต่เขาก็ยังปลอมใจตัวเองให้ไม่หดหู่ได้เพราะกองทัพที่เขานำไปถูกลอบโจมตีโดยจอมยุทธระดับสุริยันจันทรานับร้อย ซึ่งหลิงฮันก็ต้องตกตายด้วยเงื้อมมือของแคว้นราชสีห์ทองคำอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เมื่อเห็นหลิงฮันยังมีชีวิตอยู่ด้วยสภาพปกติดี ใบหน้าของเขาจึงเปลี่ยนเป็นมืดมน
“เจ้ารอดกลับมาได้อย่างไร?” จ้าวหลุนเค้นเสียงกล่าว “เจ้าต้องถูกศัตรูส่งกลับมาเพื่อเป็นสายลับไม่ผิดแน่!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ทหารทุกคนก็มีท่าทางเอะอะทันที
สำหรับกองทัพทหารแล้ว สิ่งที่พวกเขาเกลียดที่สุดคือคนทรยศ
หลิงฮันยิ้มเล็กน้อย “ทายาทจ้าว เจ้าใช้สายตาข้างไหนมองเห็นว่าข้าถูกศัตรูจับตัวไป? ถ้าเจ้าไม่รู้อะไรจริงก็ไม่ควรพูดจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นถึงแม้เจ้าจะเป็นบุตรชายของจอมพลจ้าว ข้าก็จำนะเรื่องนี้ไปแจ้งกับองค์จักรพรรดิให้มอบความเป็นธรรมแก่ข้า!”
“ฮึ่ม พวกเราถูกลอบโจมตี ข้ามีเกราะสมบัติอยู่จึงรอดมาได้ แล้วเจ้าล่ะมีอะไรคุ้มครอง? นอกจากนั้นที่เจ้ากลับมาหลายวันหลังจากการลอบโจมตีก็เพราะเจ้าถูกกับกุมตัวไปไม่ใช่รึไง?” จ้าวหลุนกล่าวอย่างเย็นชา
ในเมื่อเขาสังหารหลิงฮันในสนามรบไม่สำเร็จ เขาก็จะสร้างความผิดให้หลิงฮันแทน ตราบใดที่โทษความผิดร้ายแรงพอก็ไม่จำเป็นต้องพาตัวกลับไปเมืองจักรพรรดิและใช้กฎของกองทัพสังหารได้ทันที!
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ทายาทจ้าวเล่าเรื่องได้เก่งนัก! สถานการณ์ในช่วงเวลานั้นโกลาหลเป็นอย่างมาก ข้าไม่ใช่แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราหรือมีเกราะสมบัติเช่นเจ้า ดังนั้นจึงทำได้เพียงเลือกหนทางหลบหนีอ้อมไปในระยะทางที่ห่างไกลแล้วค่อยวนกลับมาที่นี่ ดังนั้นข้าจึงใช้เวลานานกว่าทายาทจ้าว”
“ช่างแต่งเรื่องเก่ง!” จ้าวหลุนกล่าวพาดพิงใส่หลิงฮัน
หลิงฮันยักไหล่และกล่าว “ทายาทจ้าว ทุกเรื่องที่พูดควรมีหลักฐาน ไม่เช่นนัน้ข้าจะแจ้งเจ้าโทษฐานใส่ร้ายข้า”
จ้าวหลุนใช้สายตาอาฆาตจ้องมาที่เขาชั่วครู่ก่อนจะกล่าว “ข้าจะหาหลักฐานให้ดูเอง!” เขากล่าวและสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
ดื้อด้านและจิตใจคับแคบ
หลิงฮันคิดในใจและมุ่งหน้าไปหาราชินีที่เก้าทันที เหตุการณ์เรื่องดาบเก้าอสุรกายเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินไปต้องรีบรายงานโดยด่วน ไม่เช่นนั้นหากจักรพรรดิสวรรค์นิรันดร์รวบรวมดาบเก้าอสุรกายได้ครบ เขาคงปกคลุมท้องฟ้าได้ด้วยฝ่ามือเดียว
“หลิงฮัน!” สุ่ยเยี่ยนยวี่กล่าวทักทาย เมื่อนางเห็นเขาน้ำตาก็ไหลออกมา
กองทัพลอบโจมตีทำภารกิจไม่สำเร็จและมีเพียงจ้าวหลุนที่หนีรอดกลับมาได้ เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนคิดว่าคงไม่มีใครอื่นรอดกลับมาอีกแล้ว
สุ่ยเยี่ยนยวี่นั้นถึงแม้นางจะมั่นใจในตัวหลิงฮัน แต่การที่หลิงฮันไม่กลับมาเป็นเวลาสองสามวันนางก็อดรู้สึกเป็นกังวลไม่ได้ ดังนั้นตอนนี้เมื่อนางหลิงฮันปรากฏตัวนางจึงรู้โล่งใจและรู้สึกราวกับจะหมดแรงล้มไปนั่งกับพื้น