Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1104
หลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่พลอดรักกัน ถ้ามีจักรพรรดิจอมอสูรมาเกะกะสายตา เขาก็จะพามันเข้าไปในหอคอยทมิฬ แต่จักรพรรดิจอมอสูรนั้นดูไร้หนทาง ต้องทราบก่อนว่ามันเป็นแค่กลุ่มก้อนพลังปราณปีศาจ ไม่ใช่มนุษย์ การกอดที่มันเห็นไม่แตกต่างจากสุนัขสองตัวกำลังถูไถกัน
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพูด หากพูดอาจถูกหลิงฮันฆ่าตายได้
พวกเขาเดินบนที่ราบอันกว้างใหญ่ราวกับว่าไม่มีที่สิ้นสุด ฉากที่เห็นทำให้หลายคนหมดความอดทนและยอมแพ้ไปในท้ายที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไป ระดับบ่มพลังของหลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็ก้าวหน้าขึ้น ด้วยความเชื่อเหลือจากเม็ดยาและต้นสังสารวัฎ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะมีความก้าวหน้า
ครึ่งเดือนต่อมา ระดับพลังของสุ่ยเยี่ยนยวี่ก็ทะลวงผ่านระดับภูผาวารีขั้นกลางช่วงปลาย นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก
หลิงฮันยังอยู่ห่างจากระดับภูผาวารีขั้นสูงชั้นสูงสุด นั่นเป็นเพราะเขาอยู่ในระดับสูงแล้ว ความก้าวหน้าจึงช้าลง
ในที่สุดก็มีทะเลปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขาแทนที่จะเป็นทุ่งราบอันกว้างใหญ่
แต่ทะเลนี่มันเป็นแปลกมาก!
ด้านล่างของทะเลเชื่อมต่อกับพื้นที่ราบ อาจพูดได้ว่าที่ราบนี้เป็นส่วนหนึ่งของทะเล แต่มีน้ำทะเลอยู่บนบก
ทันใดนั้น ด้านหน้าพวกเขาก็มีกำแพงวารีที่สูงถึงท้องฟ้า
และด้านล่างของทะเลไม่มีอะไรเลย นอกจากป่า
ป่าแห่งท้องทะเล
ต้นไม้แต่ละต้นหยั่งรากลึกถึงใต้ท้องทะเลเพื่อรองรับลำต้นที่สูงหลายพันฟุต แต่ลำต้นของพวกมันนิ่มมากเหมือนต้นไม้น้ำ
ใบไม้ของพวกมันมีขนาดใหญ่กว่าบ้าน ถ้ามนุษย์ซ่อนอยู่ด้านหลังคงเป็นเรื่องยากที่จะสังเกตเห็น
น้ำทะเลมีผลกระทบต่อสัมผัสสวรรค์และทัศนวิสัยอย่างมากทำให้ไม่สามารถมองทะลุผ่านใบไม้เหล่านี้ได้ แต่ไม่ถึงกับตาบอด แค่สัมผัสสวรรค์ลดลงไปมากเท่านั้น
“ระวังสมาคมราตรีนิรันดร์ด้วย!” สุ่ยเยี่ยนยวี่รีบกล่าวเตือนทันที
ก่อนหน้านี้ เพราะวิธีการบางอย่างทำให้ถูกแบ่งระดับของจอมยุทธโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว แต่ตอนที่เดินทางทางมาที่นี่ พวกเขาเคยเห็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรามาแล้ว ดังนั้นพวกเขาอาจมาบรรจบกันโดยที่ไม่รู้ตัวอีกก็เป็นได้
สมาคมราตรีนิรันดร์รู้แล้วว่าไม่สามารถฆ่าหลิงฮันได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้าพวกมันต้องการฆ่าเขา นักฆ่าที่ถูกส่งมาจะต้องเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา
ก่อนหน้านี้มันเป็นไปไม่ได้ แต่ตอนนี้…เป็นเรื่องยากที่จะพูด!
บางทีพวกมันอาจแฝงตัวอยู่ในป่าแห่งท้องทะเล
หลิงฮันพยักหน้าอย่างมั่นใจ แต่ไม่มั่นใจกับความแข็งแกร่งของตัวเองในปัจจุบัน เพราะจอมยุทธระดับสุริยันจันทราสามารถฆ่าเขาได้ แม้จะมีกายาเทียบเท่ากับเหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสี่ก็ไร้ประโยชน์
เพื่อที่จะต่อสู้กับจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา แม้จะเป็นจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นต้น อย่างน้อยเขาจะต้องมีพลังต่อสู้สิบดาว
และเพื่อไปให้ถึงระดับภูผาวารีสิบดาว อย่างแรกเขาจะต้องสร้างภูผาวารีสายที่ห้าขึ้นมาให้ได้ก่อนและจะบรรลุจุดสมบูรณ์แบบ
หลิงฮันอยู่ห่างจากขั้นตอนนี้เล็กน้อย
“นายท่านอย่าได้เป็นห่วง ข้าจะทำให้ดีที่สุด ตราบใดที่มีข้าจักรพรรดิน้อยอยู่ที่นี่ ข้าจะเป็นคนรับประกันความปลอดภัยของนายท่านเอง!” จักรพรรดิจอมอสูรพูดและตบหน้าอกด้วยความมั่นใจ
“เข้าไปกันเลย!”
พวกเขาเข้าไปในป่าแห่งท้องทะเล อย่างน้อยก็เป็นเรื่องดีที่มีการเปลี่ยนแปลง มันหมายความว่าพวกเขาเดินมาในทิศทางที่ถูกต้อง มิฉะนั้นพวกเขาคงจะเดินวนเวียนอยู่ในที่ราบ แล้วจุดสิ้นสุดมันจะอยู่ตรงไหน?
โชคดีที่น้ำทะเลลดสัมผัสสวรรค์ลงหลายเท่า มันไม่เหมือนกับทะเลห้วงดาราที่มีอำนาจกฎเกณฑ์ยับยั้ง ถ้าต่ออยู่กันในทะเลจะทำให้ความแข็งแกร่งของจอมยุทธลดลงไปมาก
มันไม่ได้เป็นแค่ป่าใต้ทะเลอันกว้างใหญ่ แต่ยังมีปลายักษ์ว่ายอยู่ในน้ำด้วย
มันเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่มาก ลำตัวของมันยาวถึงหนึ่งหมื่นฟุต เพียงแค่แกว่งหางก็สามารถสร้างคลื่นอันรุนแรง แม้แต่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราก็ยังถูกพลัดปลิวไปไกลตามกระแสน้ำ
แม้ว่าปลายักษ์เช่นนี้จะไม่ใช่สัตว์อสูร แต่มันก็มีร่างกายที่แข็งแกร่งมาก ดังนั้นความแข็งแกร่งเป็นส่วนหนึ่งของพลังต่อสู้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ปลายักษ์ไม่ใช่สัตว์อสูร แต่พลังต่อสู้ของมันก็เทียบได้กับจอมยุทธระดับสุริยันจันทรา
ส่วนพืชที่อยู่ในป่าแห่งท้องทะเลนั้นจะมีความเหนียวเป็นพิเศษ มิฉะนั้นพวกมันคงถูกปลายักษ์ทำลายได้อย่างง่ายดาย
หลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่เดินเข้าไปป่าแห่งท้องทะเล มันทำให้เขารู้เหมือนเป็นมดตัวเล็กๆ
แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะมีขนาดใหญ่ หลิงฮันเห็น “ปลาตัวเล็ก” หลายตัว แต่ปลาตัวเล็กพวกนั้นก็ยังมีความยาวหลายสิบฟุต แต่เมื่อเทียบขนาดตัวกับปลายักษ์แล้ว มันเป็นได้แค่ปลาตัวเล็กๆเท่านั้น
ทว่าปลายักษ์กลับไม่ดุร้าย แต่เป็นปลาตัวเล็กต่างหากที่ดุร้าย
ปลายักษ์นั้นไม่กลัวจอมยุทธ แต่ปลาตัวเล็กนั้นจะดุร้ายมากเมื่อเผชิญหน้ากับจอมยุทธและจะเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน
ปลาตัวเล็กพวกนั้นแปลกประหลาดมาก มันมีเกล็ดที่เหมือนกับเหล็กและมีฟันที่แหลมคมเหมือนกับดาบ
ปลาตัวเล็กพวกนั้นจัดการได้ยากมาก มันมีทั้งเกล็ดที่แข็งแกร่งและฟันที่แหลมคม ถ้าเป็นจอมยุทธระดับเดียวกันกับพวกมันและไม่มีพลังต่อสู้เหนือกว่าก็จะเป็นฝ่ายสูญเสีย
หลิงฮันไม่แปลกใจ แต่รู้สึกยินดี
เขาต้องการแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสองเพื่อยกระดับพลังของดาบอสูรนิรันดร์ นี่มันเหมือนกับการส่งวัตถุดิบมาหาเขาถึงที่ใช่ไหม?
คลืน!
ปลากระดิกหางเพื่อสร้างคลื่นที่ทรงพลังเพื่อห่าหลิงฮันและสุ่ยเยี่ยนยวี่ที่ยืนอยู่บนพื้น
หลิงฮันปลดปล่อยพลังออกมาจากร่างกาย ทันใดนั้นเขาก็พุ่งออกไปเหมือนลูกศรเพื่อสังหารปลาตัวนั้น
ความแข็งแกร่งของปลาตัวนั้นเทียบเท่ากับระดับภูผาวารีขั้นกลางชั้นสูง แน่นอนว่ามันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน แต่เมื่อเขาขูดเกล็ดของมันออกจนหมดก็ปล่อยมันไป
“ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” หลิงฮันยิ้มและโยนปลาออกไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ปลาตัวนั้นก็ว่ายกลับมาหาหลิงฮันอีกครั้ง พร้อมกับพวกของมันอย่างน้อยหลายร้อยตัว
– เจ้ากล้าขูดเกล็ดของข้าออก แล้วคิดว่าจะรอดงั้นรึ
“เจ้ารู้สึกอย่างไรที่ถูกมันอาฆาตแค้น?” สุ่ยเยี่ยนยวี่ถาม
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ข้ารู้สึกเหมือนได้รับของขวัญ”
ใช่แล้ว ปลาหลายร้อยตัวตรงหน้าเขาเพียงพอที่จะยกระดับดาบอสูรนิรันดร์อยู่บ้าง
เขานำดาบอสูรนิรันดร์ออกมาและฟาดฟันใส่พวกมัน เกล็ดปลาที่ถูกตัดก็ถูกดูดสาระสำคัญเข้าไปในดาบอสูรนิรันดร์เพื่อยกระดับให้มันกลายเป็นแร่เหล็กศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม
แต่อย่าได้ดูถูกปลาเหล็กหลายร้อยตัวเชียว ถึงแม้จะเรียกว่าปลาเล็ก แต่ขนาดลำตัวของมันนั้นยาวหลายสิบฟุต ทำให้เขาได้รับแร่เหล็กมาจำนวนมาก
เมื่อหลิงฮันฆ่าปลาพวกนั้นไปเกือบหมด ทันใดนั้นดาบอสูรนิรันดร์ก็เปล่งแสงและเกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ในขั้นตอน หลิงฮันปลดปล่อยเจตจำนงของเขาเข้าไปด้วย ทำให้เกิดอักขระศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมายี่สิบสามแถว
ครั้งก่อนหลิงฮันเตรียมตัวไม่ทัน ดังนั้นเขาจึงใส่อักขระศักดิ์สิทธิ์ได้แค่เจ็ดแถวเท่านั้น แต่คราวนี้เขาเตรียมตัวมาดี ทำให้สร้างอักขระศักดิ์สิทธิ์ได้มากกว่าเดิมสองเท่า
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม!”
หลิงฮันรู้สึกมีความสุขมาก และเมื่อปลดปล่อยรัศมีดาบ รัศมีดาบของเขามีความยาวหนึ่งพันฟุต เมื่อตัดผ่านทำให้ปลาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งถูกตัดออกเป็นสองส่วนด้วยรัศมีดาบ