Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1135
“เจ้านับว่ากล้าหาญไม่เบาที่กล้าสังหารคนของนิกายสวรรค์เยือกแข็ง!” ฉางตงกล่าวด้วยน้ำเสียงโหดเหี้ยม
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ผิดแล้ว! เจ้าเป็นเพียงลิ่วล้อ ส่วนพวกที่ข้าเพิ่งสังหารไปเป็นสุนัขรับใช้! เช่นนั้นแล้วพวกเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องอันใดกับนิกายสวรรค์เยือกแข็ง?”
ฉางตงชะงักไปชั่วขณะ เมื่อครู่ลิ่วล้อของเขาเป็นคนกล่าวเองว่าพวกเขาไม่ได้เป็นศิษย์ของนิกายสวรรค์เยือกแข็งดังนั้นกฎของนิกายจึงไม่สามารถใช้กับพวกเขาได้
ตอนนี้หลิงฮันใช้คำพูดที่ว่าย้อนกลับมาหาเขา คำพูดที่อีกฝ่ายกล่าวมีทั้ง ‘ลิ่วล้อ’ และ ‘สุนัขรับใช้’
เขาจ้องไปยังหลิงฮันและกล่าว “ถูกของเจ้า ขอแค่มีพลังที่มากพอ ใครจะทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนาเป็นลิ่วล้อของข้าเองที่อ่อนแอ เพียงแต่ว่าหากข้าคิดจะลงมือ เจ้าคิดว่าจะรับการโจมตีของข้าได้กี่กระบวนท่ากันเชียว?”
“โอ้? เจ้าแข็งแกร่งเช่นนั้นเลยรึ?” หลิงฮันกล่าวด้วยท่าทีผ่อนคลายอย่างมาก
ฉางตงเค้นเสียงกล่าว “ข้าบ่มเพาะพลังจนบรรลุจุดสูงสุดของระดับภูผาวารีและมีพลังต่อสู้ติดตัวห้าดาว… พลังต่อสู้เมื่อใช้ทักษะของข้าอาจจะเพิ่มเป็นเจ็ดดาวด้วยซ้ำ!”
“ว่าไงนะ?!”
ผู้คนโดยรอบเอามือกุมหัวด้วยความตะลึง
เรื่องแบบนี้เป็นไปได้ด้วยรึ?
ขนาดอัจฉริยะห้าดาวก็ยังกล่าวกันว่ามีอยู่เพียงในตำนาน แต่ฉางตงกลับอ้างว่าตนเองมีพลังต่อสู้ที่มากกว่าห้าดาวหรืออาจจะเจ็ดดาว! ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะก็ทำไมเขายังเลือกทีจะเป็นผู้ติดตามด้วย? ศักยภาพของเขานั้นเพียงพอจะกลายเป็นศิษย์เมล็ดพันธุ์!
“พลังต่อสู้ติดตัวห้าดาว?” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ พลังต่อสู้ห้าดาวนับว่าทรงพลังอย่างแท้จริง เพียงแต่ว่าก่อนที่จะสร้างภูผาวารีสายที่ห้าสำเร็จ พลังต่อสู้ติดตัวของเขาก็มากกว่าห้าดาวอยู่แล้ว โดยเฉพาะตอนนี้พลังต่อสู้ติดตัวของเขาย่อมอยู่ที่เจ็ดดาวอย่างแน่นอน
“ทีนี้เจ้าหวาดกลัวแล้วรึยัง?” ฉางตงยิ้มอย่างชั่วร้าย “จงคุกเข่าลงและอ้อนวอนขอร้องให้ข้าเป็นเจ้านายของเจ้าซะ เห็นแก่ที่ว่าการบ่มเพาะพลังเป็นเรื่องยากลำบาก ข้าจะเห็นใจรับเจ้าเป็นข้ารับใช้ก็ได้”
หลิงฮันส่ายหัว “เจ้ามั่นใจตัวเองก็ไปหน่อย! เอาเถอะ เจ้าจะโจมตีมาเลยก็ได้ ข้าเบื่อจะพูดคุยไร้สาระกับขยะเช่นเจ้าแล้ว ข้าต้องรีบจัดการกับเจ้าให้เร็วที่สุด ธุระของข้าจะได้ไม่ล่าช้า”
พรวด!
ผู้คนรอบข้างตกใจจนลิ้นแทบจะปลิ้นออกมา ‘เจ้าอยู่ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ยังกล้าปากเสียอยู่อีก?’
‘อีกฝ่ายเป็นอัจฉริยะเจ็ดดาวเชียวนะ! เขาไร้เทียมทานที่สุดในหมู่จอมยุทธระดับภูผาวารี! ขนาดคนเช่นนี้ยังเป็นเพียงผู้ติดตาม… เช่นนั้นแล้วหยางฮ่าวล่ะ? เขาคืออัจฉริยะแปดดาว? เก้าดาว? หรืออาจจะสิบดาวเลยรึเปล่า?’
“เจ้าแส่หาความตายเสียแล้ว!!” ในที่สุดฉางตงก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขายกมือขวาขึ้นและโจมตีใส่หลิงฮัน
เขาโจมตีโดยการปล่อยหมัดไปลวกๆเพราะมั่นใจในพลังของตนเองมาก เขามั่นใจว่าหมัดนี้จะสามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบสิ้น
หลิงฮันดีดนิ้วอีกครั้ง
พรึบ!
คลื่นปราณดาบพุ่งตรงออกไปก่อให้เกิดเป็นแสงสว่างจ้าราวกับสรวงสวรรค์
“อ้ากก!” ฉางตงรั้งหมัดกลับไป โลหิตหยดจากนิ้วของเขาลงสู่พื้นดิน
ผู้คนรอบข้างตกใจจนลิ้นแถบจะถลนออกมาอีกครั้ง พวกเขาตะลึงจนไม่รู้จะกล้าอะไรออกมา
ฉางตงเป็นอัจฉริยะเจ็ดดาวและบ่มเพาะพลังจนบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด แต่เขากลับถูกทำให้บาดเจ็ดโดนการนิ้วง่ายๆของคู่ต่อสู้ เรื่องแบบนี้จะให้พวกเขายอมรับได้อย่างไร?
“จะ เจ้า!” ฉางตงตกตะลึง
เขายกมือขึ้นมาดูและพบเห็นรูบาดแผล รูบาดแผลที่มีโลหิตไหลออกมานี้ทำให้ความรู้สึกเย็นยะเยือกไหลแผ่ไปทั่วร่างของเขา
แม้เขาจะโจมตีออกไปลวกๆ แต่การโจมตีของหลิงฮันก็ลวกๆเหมือนกัน ไม่ว่าจะดูอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ได้ใช้ทักษะโจมตีใดๆเลย เพียงแต่ว่าอำนาจของการโจมตีของหลิงฮันกลับทรงพลังมากกว่าเขาถึงเพียงนี้
‘เหตุใดจอมยุทธที่ทรงพลังเช่นนี้ถึงมาปรากฏตัวในวันนี้?’
‘ไม่ใช่ว่าอัจฉริยะเช่นเขาสมควรจะถูกรับเข้าเป็นศิษย์แล้วรึไง’
จริงอยู่ที่ฉางตงเป็นคนที่หยิงยโสและทะนงตน แต่เขาไม่ใช่คนโง่
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าวันนี้จะไม่มีสุดยอดอัจฉริยะคนได้ปรากฏตัว เพราะงั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสที่เขาจะโอ้อวดตนเองอย่างเต็มที่ เขาที่เคยเป็นศิษย์หลักและมีพลังบ่มเพาะที่ระดับภูผาวารีขั้นสูงสุด มีคำกล่าวว่าแม้แต่ศิษย์เม็ดพันธุ์บางคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา… ซึ่งนั่นก็เป็นในกรณีที่เขากับศิษย์เมล็ดพันธุ์มีพลังบ่มเพาะที่ต่างกันมาก
แต่วันนี้เขากลับดันมาเจอกับคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเสียได้
“มาจงมาเจ้าอะไร? นี่ยังไม่สำนึกอีกงั้นรึ?” เสียงของหลิงฮันเย็นชา “ที่จริงเจ้าไม่ต้องสำนึกอะไรก็ได้ เพราะเจ้าจะไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อแล้ว!”
“บัดซบ!” ฉางตงคำรามพร้อมกับตบหน้าอกตัวเอง ทันใดนั้นแสงสลัวสีเขียวก็ปรากฏออกมา ภายในแสงสลัวสีเขียวมีหม้อต้มขนาดเล็กอยู่ แต่ภายในพริบตาหม้อต้มขนาดเล็กก็หมุนและขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดราวๆสามสิบเมตรในที่สุด
“จัดการ!” ฉางตงคำราม เส้นใยพลังปราณสีเขียวนับหมื่นไหลออกมาจากหม้อต้มและพุ่งเข้าใส่หลิงฮัน
เส้นใยพลังปราณแต่ละเส้นผสานเข้าหากันเปลี่ยนสภาพกลายเป็นงูขนาดใหญ่ยักษ์ราวกับภูเขา แม้มันจะยังพุ่งไม่ถึงตัวหลิงฮัน แต่พลังที่น่าสะพรึงจนไม่อาจบรรยายได้ก็ทะลักออกมาจนทำให้พื้นดินสั่นไหว
หม้อต้มนั่นคืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลังมาก
“หม้อต้มภูผามรกต!” ใครบางคนอุทาน “สะ สิ่งนี้คือสมบัติล้ำค่าของหยางฮ่าว! นี่เขามอบมันให้กับฉางตงงั้นรึ?”
“ว่าไงนะ? หม้อต้มภูผามรกต? มันคืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เทียบเท่าระดับสุริยันจันทราเลยไม่ใช่รึไง! มีข่าวลือว่ามันเป็นอุปกรณ์ศักิ์สิทธิ์ระดับแปด ต่อให้เทียบกับอุปกรณ์มิติระดับสุริยันจันทราชิ้นอื่นมันก็นับว่าล้ำค่ากว่ามาก!”
“ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่หม้อต้มภูผามรกต แต่เป็นเพียงของเลียนแบบ ไม่เช่นนั้นพวกเราจะยังมีโอกาสยืนอยู่ที่นี่เพื่อดูการต่อสู้ได้รึยังไง?”
“ถูกของเจ้า ถ้าเป็นหม้อต้มภูผามรกตของจริง แค่กลิ่นอายที่มันปล่อยออกมาก็เพียงพอจะกำจัดพวกเราทุกคนแล้ว”
“ต่อให้มันเป็นเพียงของเลียนแบบก็ยังน่าสะพรึงกลัวอยู่ดี มันสามารถจัดอยู่ในอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับภูผาวารีอันดับต้นๆเลย”
“ฮึ่ม เจ้าไม่เห็นรึไงว่าฉางตงถึงขนาดต้องใช้โลหิตของตัวเองในการหล่อเลี้ยงหม้อต้ม? นี่หมายความว่าเขาไม่ได้ควบคุมโดยใช้พลังของตัวเอง แต่เขาต้องป้อนโลหิตเพื่อทำให้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ยอมเป็นส่วนหนึ่งของเขาและยอมให้เขาใช้งานมัน”
“เขา… จะต้องรับผลตามมาที่สาหัสแน่นอน!”
ตูม!
งูยักษ์พุ่งลงมาจากด้านบนพร้อมกับประกายแสงสีเขียว ประแสงเหล่านั้นราวกับเป็นดวงดางที่ถูกบดขยี้ร่วงหล่นจากท้องฟ้า พื้นดินสั่นสะเทือนอย่ารุงแรง ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นน่าหวั่นเกรงมาก
ฉางตงยิ้มอย่างเย็นชา เจ้าหนูนี่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เขาถึงต้องถูกบังคับให้กระตุ้นใช้งานหม้อต้มภูผามรกต
เพียงแต่ว่าทุกอย่างจบลงแล้ว พลังทำลายจากการผสานพลังกันของเขากับหม้อต้มภูผามรกตเลียนแบบไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธระดับภูผาวารีจะต้านทานได้
“อะไรกัน?!”
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที นั่นเป็นเพราะหม้อต้มภูผามรกตเลียนแบบของเขากำลังสั่นไหว
‘ไม่จริง… แม้แต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถจัดการเจ้าหนูนั่นได้?’
ปัง!
พลังปราณสีเขียวถูกดันกลับขึ้นไปด้านบน หมัดของหลิงฮันซัดขึ้นสู่ท้องฟ้าจนหม้อต้มขนาดใหญ่สี่เขียวสั่นไหว หลังจากนั้นเส้นปราณสีที่เคยถูกปล่อยออกมาจากหม้อต้มก็ไม่ถูกปล่อยออกมาอีก
“อั่ก!” ฉางตงกระอักโลหิต ร่างของเขาผสานเข้ากับหม้อต้มภูผามรกตเลียนแบบ นั่นหมายถึงเขาจะได้รับบาดเจ็บเช่นกันหากหม้อต้มถูกทำให้เสียหาย ร่างของเขาร้อนรุ่มราวกับจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
ผู้คนรอบข้างชะงักตะลึง