Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1143
มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จักรพรรดินีจะรู้ว่าหลิงฮันมีอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นอะไรนั้นนางไม่ทราบ
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนั้นช่วยไม่ได้ที่นางจะสับสน
ในร่างนี้นางไม่สามารถแสดงพลังทั้งหมดออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่มีพลังที่คอยปกปิดการแสดงออกทางสีหน้าของนาง ทำให้หลิงฮันสามารถมองเห็นสีหน้าของนางได้อย่างชัดเจน และช่วยไม่ได้ที่เขาจะประหยาดใจ จักรพรรดินีกำลังแสดงท่าทางเขินอาย?
หรือว่าดวงอาทิตย์จะขึ้นในทางทิศตะวันตก?
“เจ้ากำลังมองอะไร?” จักรพรรดินีโกรธเล็กน้อย
หลิงฮันยิ้มถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถยั่วยุนางได้อยู่ดี
“เข้า!” เขาและจักรพรรดินีเข้าไปในหอคอยทมิฬ
“มันเป็นไปได้ยังไง!” จักรพรรดินีแสดงสีหน้าตกตะลึง พื้นที่มิติของอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์นี้กว้างใหญ่เกินไป
“ยังมีอีกหลายอย่างที่ท่านเห็นต้องตกตะลึง!” หลิงฮันพูดด้วยความภาคภูมิใจเล็กน้อย เพราะเขาสามารถทำให้จักรพรรดินีตกตะลึงได้
จักรพรรดินีเริ่มเดินสำรวจ และนั่นก็ทำให้นางรู้สึกตกตะลึงมากยิ่งขึ้น
เพราะมีสมุนไพรมากมายปลูกไว้ที่นี่ รวมถึงสมุนไพรหายากที่ต้องใช้เวลาปลูกนานหลายปี
นี่ทำให้นางทึ่ง หลิงฮันเพิ่งขึ้นมาจากการเปิดสวรรค์ เขาสามารถปลูกสมุนไพรมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?
มันไม่สมเหตุผล!
“ข้าจะพาท่านไปดูอะไรบางอย่าง” หลิงฮันจับมือของจักรพรรดินีและวิ่งไปข้างหน้า
จักรพรรดินีจะไม่โกรธได้อย่างไร? เขาหลอกจำมือนาง? นางพยายามปล่อยมือออกจากหลิงฮัน แต่ก็พบว่านางไม่มีพลังที่จะขัดขืนเขาได้ นี่ทำให้นางรู้สึกตกตะลึงอีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้โดนปิดผนึกพลัง แต่ทำไมถึงขัดขืนจอมยุทธระดับภูผาวารีไม่ได้? เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?
“เจ้า-” นางตกใจ
“ยินดีต้อนรับสู่โลกของข้า!” หลิงฮันหัวเราะ “ที่แห่งนี้ไม่มีใครสามารถขัดขืนข้าได้!”
“หึ่ม!” หอคอยน้อยโผล่ออกมาและทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ
ปากของหลิงฮันกระตุก เขาถอนหายใจและพูดว่า “แน่นอนยังมีจิตวิญญาณของอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เห็นเจ้านายอยู่ในสายตา”
“ข้าขอโทษ” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่จริงใจจ
จักรพรรดินีดูตกตะลึงอีกครั้ง นี่เป็นอุปกรณ์มิติอะไรกันถึงทำให้ความแข็งแกร่งของหลิงฮันเหนือกว่านางมาก! ยิ่งไปกว่านั้น จิตวิญญาณอุปกรณ์มิตินี้เหมือนกับมนุษย์ มันแตกต่างจากจิตวิญญาณอุปกรณ์มิติทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
ด้วยการนำทางของหลิงฮัน ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงต้นสังสารวัฎ
“เจ้า!” เมื่อเซียนหวู่เซียงเห็นทั้งสองคน เขาจ้องมองไปที่จักรพรรดินีและเผยสีหน้าสับสน “เจ้าคือหญิงสาวเมื่อตอนนั้น แต่นี่ไม่ใช่ร่างของเจ้า!”
“นายน้อยฮัน!” กลุ่มของชางเย่ทั้งสี่คนเดินเข้ามาทักทายหลิงฮัน
หลิงฮันโบกมือและพูดว่า “ไม่เป็นไร พวกเจ้ากลับไปฝึกฝนต่อเถอะ และพยายามทะลวงผ่านระดับภูผาวารีให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้”
“ครับ!” ทั้งสี่คนเดินกลับไปที่ต้นสังสารวัฎและฝึกฝนบ่มเพาะพลังต่อ
จักรพรรดินีมองดูต้นสังสารวัฎและดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นในไม่ช้า นางก็อุทานออกมาว่า “นี่มันต้นสังสารวัฎ!”
หลิงฮันพยักหน้าและพูดว่า “ถูกต้อง!”
จักรพรรดินีคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “มันคือต้นสังสารวัฎที่เจ้าซื้อมาจากงานประมูลใช่หรือไม่?”
“ท่านฉลาดมาก!” หลิงฮันยกนิ้วให้
แน่นอนจักรพรรดินีไม่สนใจคำพูดชื่นชมของหลิงฮัน แต่ครุ่นคิดมากขึ้นและพูดว่า “เจ้าเพิ่งขึ้นมาบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่กี่ปี ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตามมันก็ไม่มีทางที่ทำให้เจ้ามีสมุนไพรมากมายขนาดนี้ บวกกับต้นสังสารวัฎ ถ้างั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือ…”
ดวงตาของนางส่องประกาย “เจ้ามีความสามารถเร่งการเจริญเติบโตของสมุนไพร!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลิงฮันหัวเราะ “แล้วท่านต้องการฝึกฝนอยู่ที่นี่หรือไม่? หากท่านฝึกฝนใต้ต้นสังสารวัฎหนึ่งวันจะเท่ากับหนึ่งปีของโลกภายนอก!”
จักรพรรดินีเผยสีหน้าประหลาดใจ ขณะเดียวกันหัวใจของนางก็เต้นรัว สำหรับคนที่แข็งแกร่งอย่างนางการสะสมพลังปราณเพื่อทะลวงผ่านขั้นถัดไปนั้นใช้เวลานานมาก แต่ถ้าได้ฝึกฝนใต้ต้นสังสารวัฎมันก็จะทำให้นางประหยัดความเวลาได้อย่างมหาศาล
นอกจากนั้น ในจักรภาพนี้มีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น นี่แสดงให้เห็นว่าการทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์นั้นยากขนาดไหน
“เงื่อนไขของเจ้าคืออะไร?” จักรพรรดินีจ้องมองหลิงฮันทันที การที่เขาเปิดเผยการมีอยู่ของต้นสังสารวัฎจะต้องมีอะไรมากแลกเปลี่ยนแน่นอน เพราะตราบใดที่ความลับของหลิงฮันที่ครอบครองต้นสังสารวัฎรั่วไหล เขาจะต้องถูกจอมยุทธและเซียนนับไม่ถ้วนตามล่า
หลิงฮันกล่าว “เงื่อนไขของข้านั้นง่ายมาก ในเมื่อข้าได้บอกความลับที่ยิ่งใหญ่ของข้าให้ท่านฟังแล้ว ท่านก็ต้องบอกความลับของท่านให้ข้าฟังด้วย”
จักรพรรดินีแสดงสีหน้าไม่พอใจ นี่เจ้าคิดว่าเล่นต่อคำกันหรือไง? เจ้าพูดคำหนึ่งข้าพูดคำหนึ่ง ถึงอย่างนั้นนางก็ยอมรับว่าหลิงฮันคงจะเชื่อใจนางมาก มิฉะนั้นเขาคงไม่บอกความลับของเขาให้นางฟังก่อน
“เจ้าอยากรู้เรื่องอะไร?” จักรพรรดินีถาม
“ท่านมีความสัมพันธ์ยังไงกับร่างกายนี้?” หลิงฮันถาม นี่เป็นร่างกายของหูเฟยหยิน แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นร่างกายของจักรพรรดินี แม้ว่านางจะไม่สามารถใช้พลังได้ทั้งหมด แต่พลังของนางก็ยังอยู่ในระดับดาราอยู่ดี
“ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องนั้นข้ารู้!” เซียนหวู่เซียงยังไม่จากไปไหนและตะโกนอุทานออกมาจากด้านข้าง
“ผู้อาวุโส ท่านรู้อย่างนั้นหรือ?” หลิงฮันถาม
“แน่นอน!” เซียนหวู่เซียงกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “เรื่องนั้นง่ายมาก นางเป็นคนของเผ่าเก้าอสรพิษ!”
หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจ หรือว่ามันจะเกี่ยวข้องกับภูมิหลังเผ่าของนาง?
เมื่อเห็นเช่นนั้นจักรพรรดินีก็ไม่อาจปกปิดความลับได้อีกต่อไปและเริ่มพูดว่า “เผ่าเก้าอสรพิษมีความสามารถสร้างร่างแยกขึ้นมาได้เก้าร่าง”
หลิงฮันตกตะลึง เมื่อสติของเขากลับมา เขาก็พูดว่า “นี่เป็นส่วนหนึ่งของร่างของท่านอย่างนั้นรึ? ราชินีที่เก้า หรือว่าราชินีที่เก้าจะเป็นร่างที่เก้าของท่าน?”
“ไม่เลว!” จักรพรรดินีพยักหน้า
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเซียนหวู่เซียงถึงพูดว่าพลังของจักรพรรดินีน่าจะอยู่ที่ระดับดาราเก้าดาว เหตุผลที่ไม่เป็นเช่นนั้นเพราะนางแบ่งพลังออกเป็นเก้าส่วน
เมื่อเห็นว่าหลิงฮันยังสงสัย จักรพรรดินีจึงพูดต่อว่า “ข้าได้ฝึกฝนทักษะเก้าสวรรค์และสร้างร่างแยกขึ้นมาเก้าร่าง ตราบใดที่ทุกร่างบรรลุจุดสูงสุดของระดับดารา และกลับมารวมร่างกันอีกครั้ง มันก็จะทำให้ข้าทะลวงผ่านจุดสมบูรณ์แบบของระดับดารา!”
“ในความเป็นจริง ท่านสามารถทะลวงผ่านระดับวารีนิรันดร์ได้แต่ทำไมท่านถึงไม่ทะลวงผ่าน?” หลิงฮันถาม
“เจ้าคิดเช่นไรล่ะ?” จักรพรรดินีถามอย่างภาคภูมิใจ
หลิงฮันเงียบ แต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมจักรพรรดินีเป็นอย่างมาก
สมแล้วที่เป็นจักรพรรดินี นางมีพรสวรรค์ที่สูงส่งมาก เพื่อที่จะทะลวงผ่านจุดสมบูรณ์แบบของระดับดารา นางไม่ลังเลเลยที่จะสร้างร่างแยกขึ้นมาเก้าร่างเพื่อให้บรรลุจุดสมบูรณ์แบบของระดับดารา