Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1245
“เจ้าเฒ่า ตอนนี้รู้ถึงชะตากรรมของตัวเองรึยัง?” หลิงฮันยิ้ม
ชายชราจากนิกายดาบสวรรค์จ้องมองหลิงฮัน ปราณก่อเกิดค่อยๆถูกปล่อยออกมาจากแขนข้างที่ขาดของเขาและก่อตัวเป็นรูปร่างมือ สำหรับจอมยุทธระดับพระเจ้าแล้วการสูญเสียแขนหรือขาไม่ได้ส่งผลให้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปอย่างสมบูรณ์
แต่ตอนนี้ชายชราไม่มีกระจิตกระใจจะสู้แล้ว เขาต้องรีบกลับไปยังนิกายดาบสวรรค์เพื่อรายงานให้เบื้องบนรู้ว่าหลิงฮันมาที่นี่แล้ว
เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์น่ากลัวราวกับสัตว์ประหลาด ถ้าปล่อยหลิงฮันเอาไว้อีกสิบยี่สิบปีเขาจะไม่บรรลุระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสุดหรือระดับดาราเลยรึ? เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้ห้านิกายโบราณร่วมมือกันก็คงหยุดหลิงฮันไม่ได้
แต่ว่าตอนนี้ห้านิกายโบราณยังมีปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งอยู่มากพอสมควร คนที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังต่อสู้ถึงสี่ดาวด้วยซ้ำ เขาต้องรีบให้ปรมาจารย์เหล่านั้นลงมือสังหารเจ้าหนูนี่บัดเดี๋ยวนี้
‘ข้าต้องนำเรื่องนี้ไปรายงาน จะมาตายที่นี่ไม่ได้’
ชายชรากล่าวกับตัวเอง เขาไม่ยอมรับว่าที่จริงแล้วเขาหวาดกลัวความตายแต่หลอกตัวเองว่าเขาต้องทำภารกิจสำคัญให้ลุล่วง
ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บจนแขนขาดทำให้พลังต่อสู้ลดลงจากปรกติ ถึงแม้เขาจะเป็นผู้อาวุโสของนิกายดาบสวรรค์แต่ตำแหน่งในนิกายของเขาก็ถูกจำกัดเอาไว้ทำให้ไม่มีไพ่ลับใดๆติดตัว
สมบัติที่ใช้ปกป้องชีวิตของเขาคืออุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด แต่โชคร้ายที่มันไม่สามารถใช้ต่อกรหลิงฮันได้
ชายชราสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่ง แต่ตราบใดที่เขาสามารถหลบหนีไปถึงเมืองเขี้ยวหมาป่าได้ หลิงฮันก็จะลงมือกับเขาไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะมีความบาดหมางอันใดกันเมืองเขี้ยวหมาป่าก็มีข้อห้ามไม่ให้สังหารกันเอง
เผ่นให้ไว!
หลิงฮันแสยะยิ้ม เฒ่าชรานี่คิดจะหนีจากเงื้อมมือของเขา?
หลิงฮันสะบั้นดาบอสูรนิรันดร์ปลดปล่อยคลื่นแสงนับพันออกไป คลื่นดาบนับพันนั้นไม่ใช่ทักษะสามพันดาบลึกลับแต่เป็นคลื่นดาบที่เกิดจากพลังของดาบอสูรนิรันดร์เอง นี่คืออำนาจของดาบที่ในอนาคตจะได้กลายเป็นโลหะระดับนิรันดร์
‘ครืนน’ ปราณดาบส่องสว่างทั่วท้องฟ้าอย่างน่าสะพรึงกลัว
ชายชราใช้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็บในมือตอบโต้เพื่อสร้างโอกาสหลบหนี
หลิงฮันสะบัดดาบอสูรนิรันดร์อีกครั้งโดยตัวเขาได้ใช้ทักษะศรฆ่ามังกรทะลวงดาราออกไปพร้อมๆกัน ‘พรึบ’ ลูกศรถูกยิ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
ฉัวะ!
หลังของชายชราถูกยิงทะลุทันที ร่างของเขาล้มลงกับพื้นและร้องโอดครวญ ลูกศรที่ถูกยิงมาทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมาก
คลื่นดาบที่เกิดจากดาบอสูรนิรันดร์ก็กำราบอุปกรณ์ระดับเจ็ดของชราชราได้อย่างราบคาบ นับว่าเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการได้เลยที่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าจะเหนือกว่าอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด เรื่องแบบนี้มันทำลายตรรกะของวิถียุทธไปอย่างสิ้นเชิง
ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะวัสดุที่ใช้สร้างดาบอสูรนิรันดร์นั้นทรงพลังเกินไป
ร่างของหลิงฮันยืดตรงราบกับเป็นใบดาบและใช้นิ้วปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามออกไป
กายหยาบของเขาเทียบได้กับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับหก ดังนั้นการโจมตีด้วยนิ้วของเขาจึงไม่อาจดูถูกได้ นิ้วของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก
ชายชราพยายามเอาชีวิตรอดจนถึงที่สุด แต่สุดท้ายเขาก็ถูกคลื่นดาบนับพันผ่าออกเป็นสองซีก เพียงแต่ว่าจอมยุทธระดับพระเจ้าไม่มีทางตายง่าย วิญญาณของเขาลอยออกจากร่างและบินหนี
โดยปรกติแล้วหากไม่มีกายหยาบ วิญญาณก็จะไม่มีที่ยึดเหนี่ยวและสุดท้ายก็จะสลายหายไป แต่ยิ่งเป็นวิญญาณที่แข็งแกร่งจะเสื่อมสลายก็จะช้าลงไป วิญญาณของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราขั้นสูงสามารถคงสภาพอยู่หลายเดือนเพียงพอให้หาร่างใหม่หรือสิงเข้าร่างคนอื่น
“ฮึ่ม!” นิ้วของหลิงฮันตั้งตรงและปล่อยปราณดาบไล่ตาม ‘ฉัวะ’ วิญญาณของชายชราถูกสะบั้นขาดและสลายไปทันที
ดาบอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ของชายชราสั่นสะท้านทันที มันพยายามลอยหนีแต่ก็ถูกดาบอสูรนิรันดร์โจมตีจนเจตจำนงพังทลายและกลายสภาพเป็นเพียงดาบธรรมดา
หากไร้ซึ่งเจตจำนง อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ใช่อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป พวกมันเป็นพียงอาวุธธรรมดา
หลิงฮันเก็บดาบขึ้นมา ดาบเล่มนี้สามารถนำไปให้ดาบอสูรนิรันดร์กลืนกินได้ เขาไม่คิดจะทิ้งมันไปอย่างเสียเปล่า
“ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะพบกับห้านิกายโบราณในสถานการณ์เช่นนี้ เพียงแต่ว่าทั้งๆที่พวกมันสูญเสียแผนที่สมบัติไปแล้วแต่ก็ยังส่งคนมาตามหา นั่นแสดงว่าแผนที่สมบัติย่อมไม่ธรรมดา!” หลิงฮันนำแผนที่สมบัติออกมาดูอีกครั้ง แต่ความรู้เกี่ยวกับดาวหยุนติ่งของเขานั้นน้อยนิดเกินไปทำให้ไม่รู้ว่าแผนที่ชี้ไปยังสถานที่แห่งใด
“หรือบางทีแม้แต่ห้านิกายโบราณก็อาจจะไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ไหน ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงไม่มัวเสียเวลาพกแผนที่เดินไปมาแต่คงไปตามหาสมบัติแล้ว”
หลิงฮันเดินกลับไปจุดพักของเขาที่เดิมเพื่อรอคอยให้กองทัพจันทราม่วงเคลื่อนไหว เขานำไข่ออกมารับแสงแดดเพื่อดูว่าไข่จะฟักรึไม่
ผ่านไปหลายวันเจ้ากระต่ายกับโสมเฒ่าก็กลับมา สภาพของพวกมันยับเยิบมาก ดูเหมือนว่าพวกมันจะพบเจอกับสิ่งมีชีวิตใต้พิภพที่แข็งแกร่งมา ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันรวดเร็วจนหนีรอดมาได้พวกมันคงกลายเป็นซุปโสมกระต่ายไปแล้ว
“ฮันน้อย รีบไปกับนายท่านกระต่ายเร็ว เจ้าต้องแก้แค้นเอาคืนให้ข้า!” เจ้ากระต่ายดึงแขนหลิงฮัน
“ใช่แล้วๆ นายท่านโสมไม่เคยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน ข้าไม่มีทางลืมความแค้นครั้งนี้เด็ดขาด! ดาบมังกรตาเดียวนั่นเกือบจะคร่าชีวิตของนายท่านโสมไปแล้ว” โสมเฒ่านำชุดชั้นในสีชมพูออกมาสูดดมก่อนจะกลับมาสดชื่นอีกครั้ง
‘ตุบ’ หลิงฮันเตะโสมเฒ่า เหตุใดสวรรค์และปฐพีถึงได้ให้กำเนิดจิตวิญญาณห้าธาตุที่ลามกเช่นนี้?
“ข้าไม่มีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระเช่นนั้น!” หลิงฮันปฏิเสธ “พวกเจ้านั่นแหละช่วยข้าตรวจสอบซะว่าเมื่อไหร่กองทัพจันทราม่วงจะเคลื่อนไหว”
“เจ้าหนู นายท่านโสมคิดว่าตัวเองเป็นที่สุดแล้วนะ” โสมเฒ่าทำท่าทีราวกับเลื่อมใสหลิงฮัน “แต่ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะยิ่งกว่านายท่านโสมเสียอีก เจ้าคิดถึงขนาดจะทำมิดีไม่ร้ายกับพวกนางทั้งกองทัพ นายท่านโสมไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรแล้วจริงๆ”
หลิงฮันยิ้มและเตะอีกครั้ง ‘อ้ากก’ โสมเฒ่ากรีดร้องพร้อมกับลอยกระเด็นขึ้นฟ้ากลายเป็นดวงดาวบนท้องฟ้า
“หืม!”
หลิงฮันลุกขึ้นยืน ในระยะร้อยไมล์ข้างหน้าเขามองเห็นกลุ่มคนของกองทัพจันทราม่วง
ด้วยสายตายของเขา แม้จะเป็นระยะที่เกินกว่าร้อยไมล์เขาก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่เพราะกองทัพจันทราม่วงมีปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์อยู่เขาจึงไม่กล้ามองลึกไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์อาจจะนึกว่าเขาจงใจสอดแนมกองทัพก็ได้ หากเป็นเช่นเขาคงไม่พ้นถูกอีกฝ่ายไล่สังหาร
ถึงแม้ทุกคนที่นี่จะอยู่ในข้อตกลงห้ามสังหารกัน แต่ถ้าหากตัวตนระดับวารีนิรันดร์ลงมือ ใครจะกล้าต่อต้านเอาผิดพวกเขา?
ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่ โลกนี้ก็ยังยึดตามกฎที่ว่าผู้แข็งแกร่งคือราชา!
ในที่สุดกองทัพจันทราม่วงเคลื่อนไหวแล้ว แม้ว่าจะเป็นเพียงกองกำลังเล็กๆก็ตาม
หลิงฮันโคจรเนตรแห่งสัจธรรมทำให้มองเห็นทุกคนในกองทัพเล็กได้อย่างชัดเจน
กองกำลังนี้มีคนเพียงหนึ่งร้อยคน หลิงฮันมองตั้งแต่หัวแถวจนถึงท้ายแถว เมื่อสายตาของเขากวาดผ่านไปราวๆหนึ่งในสามของจำนวนคนทั้งหมด สายตาของเขาก็ชะงักหยุดอยู่ที่คนคนหนึ่งพร้อมกับแสดงท่าทีตื่นเต้นทันที
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์!