Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1285
กองทัพดินของแดนใต้พิภพนับล้านตนเคลื่อนไหวและนำโดยจอมยุทธระดับดารา จำนวนดังกล่าวเพียงพอที่จะข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม
กระทั่งจอมยุทธระดับดารายังเคลื่อนไหว แล้วถ้ามีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์แอบแฝงอยู่ในกองทัพล่ะ?
หรือว่าสงครามครั้งใหญ่กำลังจะปะทุขึ้น?
ปากของหลิงฮันกระตุกไม่หยุด นี่เขาเป็นตัวหายนะหรือไม่? ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนก็จะมีแต่ความวุ่นวาย
“หืม!” ในกองทัพของดินแดนใต้พิภพ มีใครบางคนสังเกตเห็นหลิงฮัน ทันใดนั้นเองคนหลายร้อยคนก็รีบเคลื่อนที่ไปหาหลิงฮันทันทีพร้อมกับอาวุธในมือ
หลิงฮันหลงอุทานออกมาว่า “วิ่ง!”
เขาไม่ได้สนใจพวกมันร้อยกว่าคนที่พุ่งเข้ามาหา แต่กองทัพของดินแดนใต้พิภพมีจอมยุทธระดับดาราอยู่ ซึ่งเป็นตัวตนที่เขาไม่สามารถต่อกรด้วยได้เลย
มีความกล้าอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ!
แต่ทั้งเจ้ากระต่ายและโสมเฒ่าก็เพ่นหนีไปก่อนแล้ว พวกมันไม่อยู่ให้หลิงฮันบอกให้หนีหรอก
“หึ่ม พวกเจ้าหนีไวจริงๆ!” หลิงฮันกล่าว
“ถ้าไม่หนีจะอยู่ให้พวกมันฆ่าอย่างนั้นรึ?” โสมเฒ่ากล่าว
“ใช่แล้ว” เจ้ากระต่ายกล่าวเห็นด้วย
“หยุด!” จอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพไล่ตาม แต่ว่ายิ่งพวกมันไล่ตามเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างพวกมันกับกลุ่มของหลิงฮันก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วของพวกหลิงฮันนั้นเร็วเกินไป
เมื่อกลุ่มของหลิงฮันวิ่งหนีมาไกลพอสมควรและคิดว่าหนีพ้นแล้ว พวกเขาก็ได้ยินเสียงลมพัดเล็กน้อยและมีใครบางคนปรากฏตัวอยู่ด้านหน้าของพวกเขาอย่างเงียบเชียบ
มันเป็นชายสวมชุดสีขาวที่มีใบหน้าหล่อเหลา หากไม่ใช่เพราะกลิ่นอายชั่วร้ายที่แผ่ออกมาแล้วล่ะก็ ใครจะคิดว่าเขาเป็นจอมยุทธจากดินแดนใต้พิภพกัน? และกลิ่นอายที่เขาปลดปล่อยออกมานั้นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่สูงส่งและน่าหวาดกลัวของอีกฝ่าย
จอมยุทธระดับดารา!
หัวใจของหลิงฮันกลายเป็นด้านชา ในเวลาเดียวกันเขาก็เอื้อมมือคว้าโสมเฒ่ากับเจ้ากระต่ายเอาไว้เพื่อเตรียมตัวเข้าไปหลบในหอคอยทมิฬ เมื่ออยู่ต่อหน้าจอมยุทธระดับดารา เขาไม่สนใจว่าความรับของหอคอยทมิฬจะเปิดเผยหรือไม่
“ไม่ต้องกังวล ข้าแค่มีเรื่องอยากจะถามเจ้าเท่านั้น” ชายชุดขาวกล่าวด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
หลิงฮันเองก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “แล้วหลังจากที่เจ้าถามข้าเสร็จล่ะ?”
“แน่นอน เจ้าจะถูกข้าสังหาร” ชายชุดขาวกล่าว
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้างั้นข้าขอฟังคำถามของเจ้าหน่อยก็แล้วกัน”
“เจ้าเป็นคนที่กล้าหาญมาก!” ชายชุดขาวจ้องมองไปที่หลิงฮันด้วยความประหลาดใจ “เจ้าฝึกฝนเทคนิคบ่มเพาะพลังอะไรถึงทำให้ร่างกายของเจ้าหดเล็กลง?”
ด้วยสายตาของจอมยุทธดารา แน่นอนว่าเขาสามารถมองเห็นการปลอมตัวของหลิงฮัน ต่างจากสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหคอมตะ นางแค่รู้สึกว่าหลิงฮันเปลี่ยนไปเท่านั้น
หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เทคนิคบ่มเพาะพลังที่ข้าฝึกฝนคือเทคนิคโบราณที่ไม่เหมือนใคร และเป็นหนึ่งในใต้สรวงสวรรค์!”
ชายชุดขาวหัวเราะและพูดว่า “เด็กทารกไม่กลัวเสือ เจ้าเป็นคนที่กล้าหาญอย่างที่ข้าคิดไม่ผิด และยังกล้าพูดจาเหลวไหลต่อหน้าข้า เช่นนั้นข้าก็จะถามดวงวิญญาณของเจ้าโดยตรงเลยก็แล้วกัน”
เขาชูมือขึ้นท้องฟ้าและเปลี่ยนมันให้เป็นแรงกดดันเพื่อกดทับหลิงฮัน ทั้งที่แรงกดดันของเขายังมาไม่ถึงตัวหลิงฮัน แต่ก็สามารถยับยั้งการเคลื่อนไหวของหลิงฮันได้แล้ว
อีกฝ่ายคือจอมยุทธระดับดารา ไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์มากแค่ไหนก็ไม่สามารถต่อกรด้วยได้
แต่น่าเสียดายที่เขายับยั้งการเคลื่อนไหวของหลิงฮันด้วยแรงกดดันของเขาเท่านั้น ไม่ได้ใช้เจตจำนงของตัวเอง
พรึบ ร่างของหลิงฮัน กระต่าย และโสมเฒ่าหายไปในพริบตา
“อะไรกัน!” ชายชุดขาวเผยสีหน้าตกตะลึง มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆสิ่งมีชีวิตทั้งสามตัวก็หายตัวไปอย่างกะทันหันแบบนั้น? หรือว่ามันจะเป็นยันต์อาคมเคลื่อนย้ายในพริบตา…แต่ข้าก็ไม่เห็นความผิดปกติของห้วงมิติ
“อุปกรณ์มิติ?” เขากวาดสายตามองไปทั่ว ถ้ามันเป็นอุปกรณ์มิติมันก็ต้องหลงเหลือร่องรอยอะไรบ้างไม่ว่าจะมีขนาดเล็กแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตามเขาก็หาอุปกรณ์มิติไม่พบและไม่พบความผิดปกติของพื้นที่บริเวณนี้
“ยังไงข้าก็ไม่เชื่อ!” เขาพลิกแผ่นดินทั้งหมดในรัศมีหนึ่งร้อยลี้ให้กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่าด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ คลื่นพลังของเขาจะกวาดล้างทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไปและเหลือเพียงแค่อุปกรณ์มิติเท่านั้น
แต่เมื่อพื้นปฐพีกลายเป็นว่างเปล่า ชายชุดขาวก็ตกตะลึง
ไม่พบอุปกรณ์มิติ!
เรื่องแบบนี้มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!
“หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในอุปกรณ์มิติ? แต่มันก็ไม่น่าใช่ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายพริบตา!” เขาพูดพึมพัมกับตัวเองและกวาดสายตามองรอบๆ แต่ก็ไม่พบอะไร
ถ้าอยู่ในสถานการณ์อื่น เขาก็ไม่ติดใจอะไรถ้าจะอยู่ค้นหาที่นี่สักสามหรือห้าปี เพราะยังไงจอมยุทธระดับดาราก็มีอายุขัยที่ยาวนาน แต่ตอนนี้เขากำลังทำภารกิจอยู่
“ภารกิจต้องมาก่อน” เขาตัดสินใจและมุ่งหน้ากลับไปที่กองทัพ
กลุ่มของหลิงฮันทั้งสาม ‘คน’ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ถ้าจอมยุทธระดับดาราตัดสินใจอยู่ที่นี่มันจะทำให้พวกเขาลำบาก
“แปลกมาก ดินแดนใต้พิภพบุกเข้ามาได้อย่างไร?” หลิงฮันไม่เข้าใจ
แม้ว่าที่นี่จะเป็นสนามรบสองดินแดนที่มีการต่อสู้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ถ้ามีจอมยุทธระดับสุริยันจันทราหลายล้านคนเคลื่อนไหว แม้กระทั่งจอมยุทธระดับดาราหลายคนยังเข้าร่วมด้วย มันจะไม่ใช่การต่อสู้เล็กๆอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่
“ถ้ามีแค่จอมยุทธระดับดาราก็ไม่น่ากังวลเท่าไหร่ แต่ถ้ามีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์อยู่ด้วย จอมยุทธระดับดาราก็จะไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกต่อไป” หลิงฮันอดจะคิดถึงสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งวิหคอมตะไม่ได้ เพราะตอนนี้นางอยู่ในกองทัพจันทราม่วง เมื่อใดที่สงครามปะทุขึ้น กองทัพจันทราม่วงก็จะต้องเข้าสู่สนามรบ
“ข้าจะต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้!” หลิงฮันตัดสินใจ
เขาออกจากหอคอยทมิฬและรีบมุ่งหน้าไปที่เมืองเขี้ยวหมาป่าทันที
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อหลิงฮันมาถึงค่ายทหารกองทัพจันทราม่วง เขาก็พบว่าไม่มีใครประจำการอยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่ากองทัพจันทราม่วงทั้งหมดถูกส่งออกไปต่อสู้กับการรุกรานของดินแดนใต้พิภพ
“ดูเหมือนว่ามันจะเลวร้ายกว่าที่ข้าคิด!” หลิงฮันเริ่มคิดหนัก กองทัพดินแดนใต้พิภพจะต้องมีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์อยู่เป็นแน่ มิฉะนั้นกองทัพจันทราม่วงคงจะไม่ถูกส่งออกไปทั้งหมด
“ถ้างั้นไปที่เมืองเขี้ยวหมาป่าเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้!”
หลิงฮันมุ่งหน้าไปที่เมืองเขี้ยวหมาป่า ทันทีที่เขาเข้าไปในเมือง เขาก็พบกับการตรวจสอบที่เข้มงวดและบรรกาศภายในเมืองก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด มันไม่มีผู้คนที่เดินพลุกพล่านอยู่บนท้องถนนอีกต่อไป ทุกคนดูเร่งรีบและมีสีหน้าที่กังวล
หลิงฮันเดินเข้าหาจอมยุทธระดับภูผาวารีคนหนึ่ง เขาโยนผลึกก่อเกิดให้อีกฝ่ายหนึ่งก้อนแล้วถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมสถานการณ์ถึงดูตึงเครียดขนาดนี้?”
ชายคนนั้นรีบเก็บผลึกก่อเกิดอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความเคารพว่า “นายน้อย หรือว่าท่านเพิ่งจะกลับมาจากด้านนอก? มันช่างน่าประหลาดใจยิ่งนักที่ดินแดนใต้พิภพส่งปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์สามคนพร้อมกับกองทัพของพวกเขามาที่นี่ พวกมันอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์และกำลังจะเริ่มโจมตีเมืองเขี้ยวหมาป่า”
จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์สามคน?
หากมันเป็นความจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กองทัพจันทราม่วงจะถูกส่งออกไปทั้งหมด และเกรงว่าอีกสองกองทัพก็คงถูกส่งออกไปทั้งหมดเหมือนกัน มิฉะนั้นจะยืนหยัดต่อสู้กับทหารสามล้านคนที่นำโดยจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ได้อย่างไร?