Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1316
“ข้าบอกแค่ว่าจะแบ่งให้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะแบ่งมากขนาดไหน” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงผู้ชนะ
“เจ้า… เจ้าไร้ยางอายยิ่งกว่าข้าเสียอีก!” หลิงฮันกลายเป็นไร้คำพูด
“เจ้าหนู ถ้าข้าแข็งแกร่งขึ้น เจ้าก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงราวกับผู้อาวุโส
หลิงฮันทำได้เพียงถอนหายใจ
“เอา! คืน! มา!” ฉื้อหวงจี่่คำราม เพลิงสีดำถูกปล่อยออกมาจากดวงตาา มันคือเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดที่เหลืออยู่ในร่างของเขาเพียงน้อยนิด
แต่ถึงอย่างไรเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดก็ยังมีอำนาจที่เผาผลาญได้แม้กระทั่งเซียน เพลิงน้อยนิดที่เหลืออยู่งสามารถต่อต้านอำนาจสวรรค์เอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นพลังต่อสู้สองดาวของเขาคงหายไปและศักยภาพของเขาจะลดลงจากราชาในหมู่ราชาเป็นเพียงอัจฉริยะทั่วไป
“เจ้าบังคับข้าเองนะ!” ฉื้อหวงจี่่กวาดมือเป็นลวดลายลึกลายซับซ้อน ทันใดนั้นเองกลิ่นอายของเขาก็ทะยานพุ่งสูงขึ้นราวกับว่าพลังต่อสู้ได้ยกระดับขึ้นไปอีกหนึ่งหรือสองดาว
นี่นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก พลังต่อสู้ที่ถึงขีดจำกัดสิบดาวแล้วสมควรไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีกแล้วแท้ๆ
แต่ฉื้อหวงจี่่ก็ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ทันทีที่พลังต่อสู้ของเขายกระดับขึ้น ผมขาวเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทา ทั่วทั้งใบหน้าปรากฏรอยเหี่ยวย่นราวกับคนแก่
หลิงฮันเข้าใจทันทีว่าที่ฉื้อหวงจี่่ยกระดับพลังให้เหนือขีดจำกัดได้เป็นเพราะเขาเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเอง
ถ้าหากฉื้อหวงจี่่เป็นเพียงอัจฉริยะสามหรือสี่ดาว อายุขัยที่เขาต้องเสียคงแค่ไม่กี่แสนปี แต่เนื่องจากตัวเขาบรรลุระดับภูผาวารีขั้นสมบูรณ์ที่มีพลังต่อสู้สิบดาว หากต้องการยกระดับพลังขึ้นไปอีกเกรงว่าอายุขัยที่เขาต้องเสียอาจจะมากมายมหาศาล
อย่างเช่นหลิงฮัน หากเขาไม่กินเม็ดยาระเบิดอัสนีก็ยากที่จะมีพลังเกินกว่าขีดจำกัดสิบดาว
แต่ฉื้อหวงจี่่มีความจำเป็นต้องยอมเผาผลาญพลังชีวิตตนเอง เพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดนั้นล้ำค่าเกินไปจนเขายอมเสียไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นความเร็วในการบ่มเพาะพลังของเขาจะช้าลงอย่างน้อยสิบหรือร้อยเท่า
ต่อให้เขาเป็นอัจฉริยะก็ไม่อาจยอมให้ตนเองบ่มเพาะพลังช้าลงขนาดนั้นได้ การบ่มเพาะพลังคือการแข่งขันกับเวลา หากไม่ทะลวงผ่านระดับต่อไปให้เร็วที่สุดก็มีแต่จะถูกคนอื่นแซงหน้า
พลังต่อสู้ของฉื้อหวงจี่่ในตอนนี้เรียกว่าไร้เทียมทานในระดับภูผาวารีอย่างแท้จริง ‘ตูม’ ฉื้อหวงจี่่ปล่อยหมัดออกไป ‘เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ’ ชั้นอากาศโดยรอบสั่นสะเทือนและแตกร้าว แม้แต่อู่เมี่ยนและราชาคนอื่นก็ยังร่างสั่นสะท้านเมื่อสัมผัสโดยคลื่นพลังจากหมัด
ขนาดพวกเขาที่อยู่ห่างยังได้รับผลกระทบ แล้วหลิงฮันล่ะ?
ปัง!
หลิงฮันปล่อยหมัดตอบโต้หมัดของฉื้อหวงจี่่
กล้ามเนื้อบริเวณแขนของหลิงฮันสั่นสะเทือนราวกับคลื่นน้ำโดยที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ผิวหนังตั้งแต่มือจนถึงช่วงไหล่ของเขาระเบิดกระจุยพร้อมกับร่างถูกส่งลอยกระเด็น
พลังต่อสู้ต่างกันเกินไป
หลิงฮันตีลังกากลางอากาศและร่อนลงสู่พื้นอย่างมั่นคง คัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ถูกโคจรและแขนขวาเขาได้ถูกฟื้นฟูในพริบตา บาดแผลที่ได้มีเพียงแค่ส่วนกล้ามเนื้อเท่านั้น กระดูกของเขาไม่เสียหายแม้แต่นิดเดียว หากบาดแผลมีแค่กล้ามเนื้อการฟื้นฟูย่อมทำได้ไม่ยากเย็น
พรวด!
ทุกคนสำลักออกมา พลังต่อสู้ที่ต่างกันสองดาวนั้นหลิงฮันสมควรเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างย่อยยับแท้ๆ แต่หลิงฮันกลับสามารถรักษาแขนที่ระเบิดออกได้ภายในพริบตา ทั้งพลังป้องกันและพลังฟื้นฟูนี้คืออะไรกัน?
ที่จริงแล้ว ทายาทของเซียนเช่นฉือหวงกับเป่ยหวงนั้นสมควรมีทักษะลับที่ช่วยเพิ่มพลังต่อสู้ให้ทะยานสูงขึ้น แต่กับฉื้อหวงจี่่นั้นไม่ใช่ เขาจำเป็นต้องยอมเสียพลังชีวิตของตัวเอง
ที่ฉื้อหวงจี่่ยอมทำขนาดนี้เพราะเพลิงศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดถูกหลิงฮันขโมยไป ไม่ว่าต้องใช้วิถีไหนเขาก็ต้องแย่งกลับคืนมาให้ได้
ครั้งนี้… ฉื้อหวงจี่่คงสูญเสียอย่างมหาศาล
“สัตว์ประหลาด!” ฉือหวงอุทาน จิตวิญญาณป่าไม้คือวิญญาณธาตุที่มีพลังฟื้นฟูยอดเยี่ยมที่สุดในวิญญาณห้าธาตุ จิตวิญญาณศิลาเช่นเขาโดดเด่นในด้านป้องกัน ในขณะที่หลิงฮันมีกายหยาบที่ไม่ด้อยไปกว่าเขา อีกฝ่ายยังมีพลังฟื้นฟูที่เทียบได้กับวิญญาณป่าไม้อีก? นอกจากคำว่าสัตว์ประหลาดแล้วเขาก็สรรหาคำอื่นมาเรียกหลิงฮันไม่ได้
สัตว์ประหลาดเช่นนั้น ในระดับพลังเดียวกันจะมีใครเอาชนะเขาได้จริงๆรึ?
ฉือหวงมองไปยังเป่ยหวง… เป่ยหวงส่ายหัวกลับมาให้เขา นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าตนเองอ่อนด้อย
ใบหน้าของฉื้อหวงจี่่แสดงท่าทีตกตะลึงอย่างปิดไม่มิดและจ้องเขม็งไปยังหลิงฮัน เขาคิดจะลองถูตาตัวเองว่าตาฟาดไปรึเปล่า
หลิงฮันรับหมัดของเขาไปแล้วแต่ยังนิ่งเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
“ข้าไม่เชื่อ!” ฉื้อหวงจี่่กัดฟันและปล่อยหมัดอีกครั้ง ‘ปัง’ หมัดระเบิดออกด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน พลังทำลายของหมัดนี้เกือบเทียบได้กับการโจมตีของระดับสุริยันจันทราขั้นต่ำชั้นสูงสุด
ตูม!
หลิงฮันถูกหมัดโจมตีใส่โดยไม่อาจต้านทาน พลังต่อสู้ที่ต่างกันสองดาวกว้างใหญ่เกินไป
กล้ามเนื้อของหลิงฮันระเบิดกระจุย โลหิตสาดกระจายออกจากร่าง แต่กระดูกของเขาไม่เกิดความเสียหายใดๆ แสงสีทองโอบล้อมบาดแผลและฟื้นฟูด้วยความเร็วราวกับว่าไม่เคยบาดเจ็บมาก่อน
นี่คือสิ่งที่ทำให้หลิงฮันแข็งแกร่งที่สุด ทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เป็นทักษะที่ตัวตนระดับสูงของดินแดนแห่งเซียนทิ้งเอาไว้
“ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่เชื่อ!” ฉื้อหวงจี่่บ้าคลั่ง เขายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้และกระหน่ำปล่อยหมัดอย่างเต็มแรงเพื่อทำลายความจริงที่ว่ากายหยาบของหลิงฮันนั้นไร้เทียมทาน
น่าเสียดายที่ความพยายามของเขาจบลงที่ความล้มเหลว ในความกลับกัน พลังต่อสู้ของเขากำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง
เขายอมสละพลังชีวิตไปมากมายเพื่อให้ตนเองมีพลังต่อสู้เหนือขีดจำกัดสิบดาบมาอีกสองดาว อายุขัยที่เขาเสียไปนั้นไม่ต้ำกว่าหนึ่งล้านปี!
ขีดจำกัดสิบดาวไม่มีทางถูกทำลาย… หากจะท้าทายสวรรค์ก็ต้องยอมรับผลย้อนกลับที่มหาศาล
“ต้องขอโทษด้วยที่เจ้ามาเจอข้า… ช่างโชคร้ายจริงๆ” หลิงฮันกล่าวและเริ่มลงมือตอบโต้ ด้วยกายหยาบที่ทรงพลัง เขาไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการป้องกันแม้แต่น้อย
พลังต่อสู้ของฉื้อหวงจี่่ในตอนนี้เขาสามารถเหยียดหยามอัจฉริยะคนอื่นได้อย่างไม่มีข้อกังขา ต่อให้ราชาทั้งเจ็ดคนร่วมมือกันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ช่วยไม่ได้ที่กายหยาบของหลิงฮันดันทรงพลังเกินไป หมัดของราชาอันดับหนึ่งกลับทำได้เพียงบดขยี้ผิวหนังของหลิงฮัน
นี่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของอัจฉริยะจริงๆรึ… เหตุใดถึงได้รู้สึกว่าศึกนี้คือการบดขยี้อยู่ฝ่ายเดียว?
ไม่ใช่ฉื้อหวงจี่่ที่มีพลังต่อสู้สูงกว่าบดขยี้หลิงฮัน แต่เป็นหลิงฮันที่บดขยี้ฉื้อหวงจี่่ที่มีพลังต่อสู้สูงกว่า!
อู่เมี่ยนและคนอื่นๆแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน