Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1346
ณ เวลานี้เอง เหล่าปรมาจารย์ของนิกายดาบสวรรค์ต่างรู้สึกหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจ
สองอุปกรณ์ศักดิ์ของพวกเขาถูกหลิงฮันทำลายไปแล้ว ทีนะพวกเขาจะทำอะไรได้?
รอคอยความตายเพียงอย่างเดียว
ดวงตาของเจียนเสี่ยวหลิงส่องประกาย ท่านลุง… ไม่สิ อาจารย์ปู่ผู้นี้แข็งแกร่งขนาดนี้เชียว ด้วยการที่มีหลิงฮันคอยหนุนหลัง ไม่ใช่ว่านางจะสามารถเที่ยวกร่างไปทั่วท้องฟ้านี้หรอกรึ
“นี่เป็นโอกาสสุดท้าย คนที่เกี่ยวข้องมีโทษตายสถานเดียว ส่วนคนอื่นยังมีโอกาสรอดชีวิต” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส ออร่าของระดับดาราค่อยๆปลดปล่อยออกมาอย่างไร้สิ้นสุด
ด้วยอำนาจของเขา ไม่ใช่แค่จอมยุทธระดับสุริยันจันทราทั่วไปที่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ด้วยพลังต่อสู้หกดาวของหลิงฮัน ต่อให้เป็นระดับสุริยันจันทราขั้นสมบูรณ์เขาก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย
หลิงคงมองไปยังเชิงจิน จิ้งจอกเฒ่าทั้งสองสบตากันและแลกเปลี่ยนความคิดกันในชั่วพริบตา
พรึบ!
หลิงคงพุ่งกระโดดด้วยจิตสังหาร เพียงแค่ว่าเป้าหมายของเขาไม่ใช่หลิงฮันแต่เป็น… เชิงจิน!
การลงมือกะทันหันเช่นนี้ใครจะไปคาดคิด?
จิ้งจอกเฒ่านำมือข้างหนึ่งจับหัวเชิงจินเอาไว้และกล่าวอย่างเย็นชา “เชิงหยู ถ้าเจ้ายังอยากให้บรรพบุรุณของเจ้ารอดก็บอกให้เขาหยุดมือซะ!”
นี่มัน!
เจียนเยว่ซวนกับเชิงหยูตกตะลึง จิ้งจอกเฒ่าผู้นั้นยกระดับความหน้าด้านไปอีกขั้นแล้ว
“หยูเอ๋อ ช่วยข้าด้วย!” เชิงจินแสดงละครให้ความร่วมมือ เขามองไปยังเชิงหยูด้วยน้ำตาที่ไหลพราก สภาพของเขาในตอนนี้ดูน่าสงสารอย่างยิ่ง
ใบหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนเป็นเย็นชาและกล่าว “พอแล้ว ไม่ต้องแสดงละครถูกๆให้ข้าเห็น พวกเจ้าสองคนเป็นตัวการทั้งคู่ ชะตากรรมของพวกเจ้าไม่มีทางหนีพ้นความตายไปได้ อย่างน้อยๆก็ยอมตายให้สมศักดิ์ศรีไม่ได้รึไง?”
ศักดิ์ศรีงั้นรึ? มันกินได้รึไง!
หลิงคงจ้องไปยังหลิงฮันและคำราม “หลิงฮัน คนคนนี้คือบรรพบุรุษของคนรักของลูกศิษย์เจ้า เห็นเขาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้เจ้าไม่รู้สึกละอายใจต่อลูกศิษย์เลยรึไง?”
“ละอายใจน้องสาวเจ้าสิ!” หลิงฮันทนไม่ไหวและยกฝ่ามือขึ้น
หลิงคงใบหน้าเปลี่ยนสี หรือว่าแค่นี้ยังข่มขู่หลิงฮันไม่ได้? เห็นทีเขาคงต้องทำมากกว่านี้! ‘โพล๊ะ’ หัวของเชิงจิงระเบิดออกพร้อมกับดวงวิญญาณกระเด็นออกจากร่าง
ใบหน้าของเชิงจิงเกรี้ยวกราดอย่างมาก เขาไม่คาดคิดว่าหลิงคงจะลงมือให้เขาตายจริงๆ
แต่เขาก็ไม่เปิดปากพูดอะไร ร่างวิญญาณของเขาตอนนี้ถูกหลิงคงจับเอาไว้อยู่ หากไร้กายหยาบ เพียงแค่วิญญาณเขาจะต่อกรอีกฝ่ายที่มีพลังบ่มเพาะเท่ากันได้อย่างไร?
“อย่าได้บังคับให้ข้าลงมือมากกว่านี้!” หลิงคงตะโกน
“ตัวโง่งม!” หลิงฮันไร้ความเมตตาและพลักฝ่ามือออกไป ‘ตูม’ กายหยาบของหลิงคงระเบิดออกทันที
วิญญาณของเขาลอยกระเด็นออกมาเช่นกัน ตราบใดที่บรรลุระดับพระเจ้าแล้ว ต่อให้ไม่มีกายหยาบ ดวงวิญญาณก็สามารถคงสภาพอยู่ได้ชั่วเวลาหนึ่งและสามารถไปหาร่างอื่นเพื่อสิงสู่ได้
ตอนนี้เมื่อหลิงคงกลายเป็นดวงวิญญาณแล้ว เชิงจิงจึงไม่สนใจเขาอีกต่อไป วิญญาณทั้งสองดวงบินแยกไปทางละทิศทางทันที
พวกเขาจำเป็นต้องหลบหนี ต่อให้หาร่างใหม่ที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาพวกเขาก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างน้อยอีกหลายสิบปี บางทีจนกว่าจนถึงตอนนี้โชคชะตาพวกเขาอาจพบจุดเปลี่ยนก็ได้
“คิดหลบหนี?” หลิงฮันดีดนิ้ว ‘เพี๊ยะ’ เส้นแสงสายฟ้าสองเส้นพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
เส้นสายฟ้าสองเส้นนี้คืออำนาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ สายฟ้าสวรรค์นั้นรวดเร็วเพียงใด? ทั่วจักรวาลนี้มีใครเคยหลบหนีจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้รึเปล่า?
ไม่มี!
พวกเชิงจิงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น พริบตาเดียวพวกเขาถูกเส้นสายฟ้าตามทัน ดวงวิญญาณของพวกเขาถูกสายฟ้าสวรรค์เผาไหม้จนกลายเป็นเศษขี้เถ้าและไม่เหลือร่องรอยใดๆ
เมื่อหลิงฮันลงมือ กลิ่นอายแห่งระดับดาราก็ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ คนของนิกายดาบสวรรค์คุกเข่ายอมแพ้แต่โดยที่ไม่มีใครต่อต้านเลยสักคน
“ข้าให้เวลาพวกเจ้าครึ่งวัน คนที่มีส่วนร่วมจงฆ่าตัวตาย ส่วนคนอื่นที่มีระดับพลังบ่มเพาะพระเจ้าให้ทำลายพลังบ่มเพาะของตนเองทิ้งให้หมดทุกคน จากนี้เป็นต้นไปนิกายดาบสวรรค์จะไม่มีอยู่อีกต่อไป หากใครขัดขืน เมื่อถึงเวลาข้าจะเป็นคนลงมือด้วยตัวเอง!”
เมือเทียบกับห้านิกายโบราณที่ใช้ชีวิตใช้ไม่ถ้วนมาหลอมเป็นเม็ดยา ขอเสนอของหลิงฮันถือว่าเมตตามากแล้ว
ที่เขาไม่สังหารทุกคนเพราะเขาไม่ได้มีนิสัยกระหายเลือด
“ไปกันได้แล้ว” หลิงฮันกล่าวกับเจียนเยว่ซวน
“ขอรับ อาจารย์” เจียนเยว่ซวนรีบตอบ
หลิงฮันเดินนำหน้าโดยมีเจียนเยว่ซวนเดินตามหลัง ด้านหลังเจียนเยว่ซวนเองก็มีเชิงหยูกับเจียนเสี่ยวหลิงตามมาอีกที
พวกเขาหาสถานที่ในเมืองเพื่อสนทนาเรื่องเก่าๆกันระหว่างศิษย์อาจารย์ ความรู้สึกของเจียนเยว่ซวนที่ถึงแม้จะอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์มากว่าหมื่นปีนั้นยังไม่แปรเปลี่ยน เขายังคงระลึกอยู่เสมอว่าความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของเขาคือการก่อตั้งสมาคมน้ำแข็งนิรันดร์ในทวีปฮงเทียน
ครึ่งวันต่อมาหลิงฮันกลับไปยังนิกายดาบสวรรค์
คนที่มีส่วนเกี่ยวกับการหลอมเม็ดยาส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมตายแต่โดยดี เนื่องจากพวกเขามีทายาทสืบทอดจึงไม่กล้าที่จะหลบหนี แต่ก็ยังมีบางคนที่โชคดี พวกเขาหลบหนีคนเดียวหรือไม่ก็หนีไปพร้อมกับครอบครัว
ครั้งนี้หลิงฮันไม่เมตตาอีกต่อไป เขาลงมือสังหารคนเหล่านั้นทั้งหมดไม่เหลือ
ด้วยโลหิตของเหล่าคนบาป กลิ่นเลือดได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมือง
เพียงวันเดียวนิกายดาบสวรรค์ที่ครั้งหนึ่งเคยทรงอำนาจก็ถูกลบออกจากประวัติศาสตร์อย่างสมบูรณ์
เพียงแต่ว่าหลิงฮันยังไม่บุกไปอีกสี่นิกายที่เหลือ เขาจะกับไปหาหยุนหย่งหวัง เฟิงโปหยุนและคนอื่นๆเป็นอันดับแรก การลบล้างห้านิกายโบราณนั้นจำเป็นต้องมีคนของทวีปฮงเทียนเป็นสักขีพยาน
บังเอิญที่เฉินหลุยเจียงกลับมาพอดี ทันทีที่เห็นหลิงฮันเขาก็ชะงักแน่นิ่งและแสดงความตื่นเต้นอย่างไม่ปกปิด โสมเฒ่ากับเจ้ากระต่ายเองก็ปรากฏตัวที่นี่เช่นกัน เมื่อพวกมันเห็นหลิงฮันพวกมันก็โอ้อวดว่าตนเองไม่มีวันตายง่ายๆ ต่อให้สวรรค์ไล่ตามพวกมันก็หนีพ้น
เพียงแต่ว่าเจียนเยว่ซวนไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเสียเท่าไหร่
ในสายตาของเฉินหลุยเจียงและศิษย์อีกสองคน เจียนเยว่ซวนเป็นคนทรยศที่ไปเข้าร่วมกับนิกายดาบสวรรค์
แต่เมื่อมีหลิงฮันอยู่เคียงข้าง ในที่สุดศิษย์ทั้งสามคนก็เปิดใจ จะอย่างไรพวกเขาก็เป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องที่มีมิตรภาพต่อกันหลายร้อยปี จะมีความบาดหมางใดที่ไม่สามารถแก้ไขได้
เมื่อความบาดหมาดถูกแก้ไข กลุ่มของพวกเขาจึงมุ่งหน้าไปจัดการกับนิกายโบราณสี่นิกายที่เหลือ การลบล้างนิกายนกอมตะเมฆา นิกายอัสนีครามกับนิกายกระบี่ไร้เทียมทานนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ตัวการใหญ่ในนิกายถูกสังหาร ส่วนศิษย์คนอื่นๆถูกทำลายพลังบ่มเพาะเพื่อไม่ให้ทำเรื่องชั่วร้ายได้อีกต่อไป
สุดท้ายคือนิกายมังกรปฐพี กลุ่มของพวกเขามุ่งหน้าไปยังตีนเขา
นิกายมังกรปฐพีก่อตั้งขึ้นในบริเวณที่พื้นดินเป็นหนองน้ำ ศิษย์ของนิกายส่วนมากมีสายเลือดของมังกรปฐพี แต่แน่นอนว่ามีศิษย์บางคนที่เป็นมนุษย์โดยแท้เช่นกัน และด้วยเหตุผลที่ว่าพวกเขามีคุณสมบัติไม่เหมาะสมกับทักษะบ่มเพาะของนิกายมังกรปฐพี จึงยากที่จะมีปรมาจารย์ปรากฏขึ้นสักคน
ตอนนี้ประตูของนิกายมังกรปฐพีปิดอยู่ ราวกับเป็นข้อความว่าพวกเขาไม่ต้อนรับหลิงฮัน
ปัง!
โสมเฒ่าถีบเปิดประตูอย่างโอ่อ่าและคำรามลั่น “สาวงามของนิกายมังกรปฐพีเอ๋ย จงมอบชุดชั้นในของพวกเจ้ามาแต่โดยดีแล้วนายท่านโสมจะเมตตา”