Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1350
หลิงฮันหันหลังและปล่อยหมัดตอบโต้อสรพิษดำ ‘ปัง’ อสรพิษดำแหลกสลายทันที
“เจ้าหยุดข้าไม่ได้!”
หลิงฮันลงมือสังหารเหล่าศิษย์ของนิกายมังกรปฐพีอย่างไม่หยุดยั้ง จะอย่างไรนี่ก็เป็นจุดประสงค์ของการเดินทางมาที่นี่อยู่แล้ว
“เผ่นเร็ว!”
“กระตุ้นใช้งานรูปแบบอาคมแล้วนำอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์โบราณออกมา!”
เหล่าคนของนิกายมังกรปฐพีตื่นตระหนก พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลิงฮันจะอุกอาจขนาดนี้ เห็นๆอยู่ว่าจ้าวขู่ปรากฏตัวมาปกป้องพวกเขาแล้ว เหตุใดอีกฝ่ายยังกล้าลงมือกับพวกเขาอยู่อีก?
ยังโชคดีที่รูปแบบอาคมป้องกันขนาดใหญ่กับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์โบราณถูกเตรียมเอาไว้แล้ว แต่เพราะเมื่อครู่ไม่สามารถกระตุ้นใช้งานได้ทันเวลาจึงได้มีศิษย์จำนวนไม่น้อยที่ตกตายด้วยเงื้อมมือหลิงฮัน
‘ครืนน’ ทั่วทั้งหนองน้ำรอบด้านนิกายส่องสว่างเนื่องจากรูปแบบอาคมคุ้มกันถูกกระตุ้นใช้งาน อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์โบราณเองก็สำแดงอำนาจ มังกรปฐพีขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มังกรตนนี้ไม่มีทั้งหูและจมูกทำให้รูปลักษณ์ของมันดูน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง
หลิงฮันไม่หวาดกลัว ‘ปัง ปัง ปัง’ เขารัวหมัดออกไปสามหมัด รูปแบบอาคมคุ้มกันถูกทำลายจนระเบิดออก มังกรปฐพีเองก็แหลกเป็นเศษซาก
ต่อหน้าพลังต่อสู้ระดับดาราขั้นกลางชั้นปลายของเขา อำนาจของระดับสุริยันจันทราจะทำอะไรได้?
เขาลงมือล่าสังหรณ์ต่อ พริบตาเดียวศิษย์ของนิกายมังกรปฐพีที่ตกตายก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นมหาศาล
ครั้งนี้หลิงฮันแสดงนิสัยอีกด้านของเขาที่เลือดเย็นและกระหายโลหิตออกมาให้เห็น
เขาให้โอกาสนิกายมังกรปฐพีแล้ว ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะต่อต้านพวกเขาก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาให้ได้
สังหารให้หมด!
“บัดซบ! บัดซบ!” จ้าวขู่ไล่ตามหลิงฮันจากด้านหลัง แต่ความเร็วของเขานั้นไม่สามารถไล่หลิงฮันให้ทันได้เลย
เขารู้สึกเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากที่ตัวเองเหมือนกับกำลังถูกหลิงฮันหยอกล้อ
เขานำอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์หลากหลายออกมาใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าบิดาของเขาเป็นคนให้มา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ชิ้นใดล้วนแต่มีพลังทำลายเทียบเท่าระดับดาราขั้นสูง แต่ต่อหน้ากายหยาบของหลิงฮัน อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ไม่นับเป็นอันใดได้ อย่างมากก็ทำให้เขารู้เจ็บเล็กน้อยเท่านั้น
จ้าวขู่มีโล่คุ้มกันจากโลหิตเต่าจันทราทำให้หลิงฮันไม่สามารถทำร้ายเขาได้ ในทางกลับกัน จ้าวขู่ที่มีอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์มากมายก็ไม่สามารถทำร้ายหลิงฮันได้เช่นกัน เขาทำได้เพียงพุ่งไล่ตามอย่างไร้หนทาง
ที่หลิงฮันสังหารคนของนิกายมังกรปฐพีไม่ใช่ประเด็นหลักสำคัญ เพราะอย่างไรเขาก็ไม่ใช่คนที่ใจดีขนาดนั้น แต่ที่จ้าวขู่รู้สึกไม่สบอารมณ์ก็คือเขาเสียหน้า…
หลิงฮันกำลังสร้างความอัปยศให้กับเขา!
“เจ้าต้องตาย!” จ้าวขู่คำรามอย่างโหดเหี้ยมและนำม้วนคำสั่งออกมา
ม้วนคำสั่งนี้เป็นสิ่งที่บิดาของประทับเจตนงยุทธเอาไว้ มันสามารถปลดปล่อยอำนาจของระดับวารีนิรันดร์ออกมาได้ ม้วนคำสั่งนี้สามารถสังหารหลิงฮันได้นับร้อยครั้ง!
แต่เนื่องจากการสร้างตราประทับนั้นส่งผลกระทบต่อผู้สร้างแม้ว่าจะเป็นตัวตนระดับวารีนิรันดร์ก็ตาม บิดาของเขาจึงสร้างขึ้นมาเพียงชิ้นเดียว
เขาต้องการให้หลิงฮันตายบัดเดี๋ยวนี้!
ครืนนน!
ม้วนคำสั่งถูกคลี่ออกพร้อมกับเจตจำนงของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ที่ปะทุออกมา แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวทะยานสูงเสียดชั้นฟ้า
“ออกมา!” หลิงฮันสะบัดมือและโยนเซียนหวู่เซียงออกมา
“เจ้าหนู ข้ากำลังตั้งสมาธิบ่มเพาะพลัง…” เซียนหวู่เวียนกำลังบ่มเพาะพลังใต้ต้นสังสารวัฏ เมื่อๆจู่ถูกขัดจังหวะเช่นนี้เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อเห็นจ้าวขู่กำลังถือม้วนคำสั่งอยู่ในมือ เขาก็หัวเราะลั่นออกมาทันที
“ตาย!” จ้าวขู่คำราม ม้วนคำสั่งส่องประกายพร้อมกับมีร่างของคนคนหนึ่งปรากฎออกมา
นี่คือร่างของจ้าวจู่อี้ที่เกิดจากเจตจำนงยุทธ ถึงแม้พลังต่อสู้จะไม่เท่ากับร่างจริง แต่พลังแต่หนึ่งในหมื่นของระดับวารีนิรันดร์ก็เพียงพอที่จะสังหารจอมยุทธระดับดาราทุกคนแล้ว
ร่างเจตจำนงลงมือปล่อยการโจมตีเข้าใส่หลิงฮันและเซียนหวู่เซียง
“ฮึ่ม!” เซียนหวู่เซียงเค้นเสียง ทันใดนั้นออร่าแห่งตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งก็ถูกปลดปล่อยออกมาโอบล้อมร่างเจตจำนงของจ้าวจู่อี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์
“ระดับวารีนิรันดร์ตัวจ้อยบังอาจอวดดีต่อหน้าข้าผู้นี้!” เซียนหวู่เซียงคำราม ‘ครืนน’ ร่างเจตจำนงของจ้าวจู่อี้สลายไปโดยไม่อาจต่อต้านแม้แต่น้อย
พรวด!
ดวงตาของจ้าวขู่เปิดกว้าง สีหน้าของเขาแสดงออกถึงความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ม้วนคำสั่งนี้เป็นไพ่ลับที่ทรงพลังที่สุดของเขาซึ่งสามารถสังหารจอมยุทธระดับดาราได้ทุกคน พูดตามหลักแล้ว นอกเหนือจากปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์ที่มีเพียงไม่กี่สิบคนของจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์แล้ว ไพ่ลับของเขาสมควรจะบดขยี้ศัตรูได้อย่างราบคาบไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร
แต่การเดินทางสั้นๆมายังนิกายมังกรปฐพีที่เขาเคยคิดว่าน่าเบื่อนี้ เขาดันโชคร้ายพบเจอกับตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเขาเสียได้
ม้วนคำสั่งที่ถูกสร้างโดยบิดาของเขาถูกบดขยี้ภายในพริบตา อีกฝ่ายต้องมีพลังขนาดไหนกัน?
เท้าของจ้าวขู่สั่นเครืออย่างไร้เรี่ยวแรง
แต่ใครใช้ให้เขาเลือกใช้ม้วนคำสั่งกัน? เซียนหวู่เซียงนั้นสูญเสียพลังระดับสร้างสรรพสิ่งไปนานแล้วก็จริง แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เขาฝึกฝนมานั้นยังคงอยู่
จ้าวขู่ที่ใช้เจตจำนงยุทธเข้าต่อกรกับอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเซียนนั้น ไม่ใช่ว่าเป็นการกระทำที่สิ้นคิดรึไง?
หากจ้าวขู่ลงมือปล่อยหมัดเข้าใส่เซียนหวู่เซียงย่อมเปิดโปงความจริงที่ว่าเซียนหวู่เซียนนั้นไร้พลังได้ แต่ตัวจ้าวขู่ในตอนนี้ได้ขาสั่นด้วยความหวาดกลัวไปแล้ว เขาจะกล้าลงมือได้อย่างไร?
เขาที่เป็นถึงจอมยุทธระดับดาราย่อมสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าอันทรงพลังของเซียนหวู่เซียงที่น่าสะพรึงกลัวมากกว่าบิดาของเขาหลายเท่า
ปรมาจารย์ไร้เทียมทาน!
จ้าวขู่รู้ตัวว่าครั้งนี้เขาแกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียแล้ว อีกฝ่ายเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าบิดาของเขาเสียอีก
ใครจะไปคาดคิดว่าคนที่บุกรุกขุมอำนาจเล็กๆอย่างนิกายมังกรปฐพีจะมีผู้หนุนหลังที่น่าหวาดกลัวขนาดนี้!
หลิงฮันมองไปที่อีกฝ่ายและกล่าว “จ้าวขู่ ข้าไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการสังหาร เพราะงั้นหากเจ้าทิ้งเรือเหาะ เกวียน หรืออุปกรณ์อื่นๆไว้ข้าจะยอมไว้ชีวิตเจ้า”
นี่เขาเรียกว่าไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงก็สามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์
จ้าวขู่ปลื้มปิติ หมายความว่าเขายังมีโอกาสรอดชีวิต?
“ข้ายกให้หมดเลย!” จ้าวขากล่าว ถึงแม้เรือเหาะจะเป็นของบิดาของเขาซึ่งไม่รู้ว่าใช้จ่ายไปมากมายขนาดไหนเพื่อสร้างมันขึ้นมา เกวียนเองก็ล้ำค่าพอๆกัน แต่แล้วมันอย่างไรล่ะ?
ชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าไม่ใช่รึไง?
จ้าวขู่มองไปยังเซียนหวู่เซียงอีกครั้ง คนที่จะตัดสินใจทุกอย่างไม่ใช่หลิงฮันแต่เป็นปรมาจารย์ผู้นี้ เขาจะรอดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอีกฝ่าย
เซียนหวู่เซียนทำสีหน้าเคร่งขรึมและกล่าวอย่างไม่แยแส “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เจ้าต้องเอ่ยถามข้า?”
จ้าวขู่รีบทิ้งอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดทันที แต่เกราะรบสีเงินนั้นเขาปฏิเสธที่จะถอดมันออก นี่คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่จะช่วยรับรองความปลอดภัยของเขา
หลิงฮันครุ่นคริดก่อนจะตัดสินใจไม่ฝืนบังคับจ้าวขู่จนเกินไป ไม่เช่นนั้นหากอีกฝ่ายจนตรอกจนเลือกที่จะสู้เป็นตาย… เซียนหวู่เซียงคงทำได้เพียงยืนดูเฉยๆ!
“เจ้าไปได้แล้ว” เซียนหวู่เซียงสะบัดมือ