Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1358
ตุบ! ตับ! ตุบ!
ซือหม่าหลิงโอดครวญในขณะที่ถูกจ้าวขู่ทุบตีอย่างเกรี้ยวกราด เขาโหยหาความยุติธรรม เหตุใดเขาถึงถูกทุบตีอย่างไรเหตุผล?
“นายน้อยขู่ ข้าทำอะไรผิด? นายน้อยขู่โปรดเมตตา! ข้าเพียงแต่หาสาวงามให้นายน้อยเท่านั้น หากนายน้อยไม่พอใจข้าจะหาใหม่ให้อีกครั้ง!”
“หาใหม่น้องสาวเจ้าสิ!” ดวงตาของจ้าวขู่แทบจะพ่นไฟออกมา
ถ้าทำได้เขาก็อยากจะเล่นสนุกกับสาวงามเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือหลิงฮันมีผู้หนุนหลังคือตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่ง แม้แต่ม้วนคำสั่งของเขาก็ไม่สามารถใช้งานได้ ดวงดาวแห่งภัยพิบัติเช่นหลิงฮันมีรึเขาจะกล้าล่วงเกิน?
“ตัวบัดซบ ข้าจะถลกหนังของเจ้าออกมา!” จ้าวขู่ลงมืออย่างโหดเหี้ยม
ซือหม่าหลิงผู้น่าสงสารยังคงไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงถูกทุบตี
“หยุดมือ!” เสียงกล่าวอันเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่เดินลงมาจากโรงประมูลชั้นสอง เขาเป็นชายชราร่างสูงที่รูปลักษณ์ดูมีอายุราวๆหกสิบเจ็ดสิบปี กล้ามเนื้อของเขาหนาแน่นดูทรงพลังมาก
เขาคือผู้อาวุโสของตระกูลซือหม่า ซือหม่าหลิง แม้พลังของเขาจะไม่เทียบเท่าผู้นำตระกูลแต่เขาก็เป็นปรมาจารย์ในระดับดารา พลังบ่มเพาะของเขาคือระดับดาราขั้นสูงที่เท่าเทียมกับจ้าวขู่
การทะเลาะกันของคนรุ่นเยาว์นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจะการฆ่าสังหารเกิดขึ้น ต่อให้สถานะของจ้าวสู่สูงส่งขนาดนั้นเขาก็ไม่สามารถนั่งมองดูคนของตระกูลซือหม่าถูกสังหารในเมืองวายุผสานแห่งนี้โดยไม่ทำอะไรเลย
“เฒ่าชรา เจ้ากล้าออกคำสั่งนายน้อยผู้นี้รึ?” จ้าวขู่แสดงท่าทีอวดดีเอาแต่ใจ
ซือหม่าเจี้ยนหย่วนแทบตะระเบิดอารมณ์ด้วยความโกรธ ในเมื่อเขาบรรลุระดับดาราแล้วทำไมยังถูกเรียกว่าเฒ่าชราอยู่อีก? เขาเค้นเสียงและกล่าว “ปล่อยเขาไป!”
เขารู้ว่านิสัยของจ้าวขู่เป็นอย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่อยากสาวความยืดให้เรื่องยุ่งยากและขอให้อีกฝ่ายปล่อยตัวซือหม่าหลิงเท่านั้น
“นายน้อยจำเป็นต้องเชื่อฟังเจ้า?” จ้าวจู่ไม่แยแส นอกจากหลิงฮันที่ที่ผู้หนุนหลังเป็นตัวตนระดับสร้างสรรพสิ่งแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังใคร
“งั้นก็คงต้องขอล่วงเกิน!” ซือหม่าเจี้ยนหย่วนลงมือจู่โจมจ้าวขู่ แต่ว่าเขาใช้พลังออกไปในระดับดีพอดีเพียงเพื่อช่วยเหลือซือหม่าหลิงเท่านั้น
“เจ้ากล้าโจมตีใส่นายน้อยผู้นี้?” จ้าวขู่กล่าวอย่างเย็นชา ร่างของเขาส่องประกายแสงสีเงินพร้อมกับตอบโต้การโจมตีของซือหม่าเจี้ยนหย่วน
เกราะรบสีเงินแทบจะทำให้เขามีพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน พลังโจมตีที่ต่ำกว่าระดับวารีนิรันดร์ไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้
พลังของซือหม่าเจี้ยนหย่วนเทียบเท่ากับจ้าวขู่ เมื่ออีกฝ่ายมีเกราะรบสีเงินเขาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันที นี่เป็นเพราะจ้าวขู่มอบอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์มากมายให้หลิงฮันไปแล้ว ไม่เช่นนั้นหากเขานำม้วนคำสั่งออกมาก พริบตาเดียวซือหม่าเจี้ยนหย่วนคงกลายเป็นเศษเนื้อไปเรียบร้อยแล้ว
แต่ซือหม่าเจี้ยนหย่วนไม่มีความคิดจะสู้เป็นตายกับจ้าวขา เขาจงใจล่อให้จ้าวขู่เพ่งเล็งการโจมตีมาที่เขาจนในที่สุดก็แย่งตัวซือหม่าหลิงกลับมาได้
ซือหม่าหลิงผู้น่าสงสารมีสีหน้าเศร้าโศก เขายังคงไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงถูกทุบตี
ถ้าเรื่องนี้ไม่กระจ่างเขาคงตายตาไม่หลับ
“ฮ่าๆ พี่ชายฮัน ไม่ได้พบกันเสียนานเลย” จ้าวขู่ทักทายหลิงฮัน ในขณะที่พูดคุยกับหลิงฮันเขาไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดใดๆออกมาแม้แต่น้อย
พรวด!
ซือหม่าหลิงกระอักเลือดออกมา… ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง
จ้าวขู่รู้จักกับหลิงฮันมาก่อน เขาที่จงใจชี้นำให้ทั้งสองบาดหมางกันจึงเป็นการกระตุ้นความโกรธของจ้าวขู่!
แม้แต่ทายาทของตัวตนระดับวารีนิรันดร์อย่างจ้าวขู่ยังเรียกหลิงฮันว่าพี่ชาย ที่จริงแล้วหลิงฮันที่เบื้องหลังที่แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?
ที่แน่ๆต้องเป็นปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์เป็นอย่างน้อย!
“พวกเราคงมีชะตาร่วมกัน” หลิงฮันหัวเราะ เขาจดจ้องไปยังเกราะรบสีเงินของจ้าวขู่ หากแบ่งมันมาให้กับสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์ได้คงดีไม่น้อย
“พี่ชายฮันเองก็มาเพื่อแก่นไขกระดูกหยกเหมือนกัน?” จ้าวขู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงประจบประแจ หากบิดาของเขามาเห็นคงไม่เคชื่อสายตาว่านี่คือบุตรชายเพียงคนเดียวของเขา
หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “เจ้าเองก็เหมือนกัน?”
“ย่อมไม่ใช่! จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร!” จ้าวขู่รีบส่ายหัว “ข้ามาเพื่อคุ้มกันพี่ชายฮัน ใครที่กล้าแย่งประมูลกับพี่ชายฮันดูสิว่าข้าจะจัดการอย่างไร!”
“ก็ดี” หลิงฮันยิ้ม
จ้าวขู่มีปลื้มปิติ แม้เขาจะเป็นบุตรของตัวตนระดับวารีนิรันดร์ แต่หากเขาสร้างความสัมพันธ์ที่กับหลิงฮันที่มีผู้หนุนหลังคือปรมาจารย์ระดับสร้างสรรพสิ่งได้ล่ะจะยอดเยี่ยมขนาดไหน? ทั่วทั้งจักรวรรดิราชวงศ์เพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้เขาอยากจะสังหารใคร หรืออยากหลับนอนกับใครก็ย่อมทำได้ตามใจปรารถนา
เมื่อคิดเช่นนี้เขาก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“พี่ชายฮัน เชิญเลย!” จ่าวขู่นำหลิงฮันเข้าโรงประมูลด้วยท่าทีสุภาพ
ซือหม่าเจี้ยนหย่วนมองทั้งสองคนเดินจากไปก่อนจะกล่าวกับซือหม่าหลิง “เกิดอะไรขึ้น?”
ซือหม่าหลิงรู้สึกกระอักกระอ่วน เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอะไรขึ้น? เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วเกินไป เขาใช้เงินไปจำนวนมากเพื่อเชิญจ้าวขู่มาที่นี่เพื่อยืมใช้อำนาจของอีกฝ่าย แต่สุดเขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกตบหน้าแทน
“เจ้าตัวไร้ประโยชน์ กลับนิกายไปสำนึกตัวเองซะ!” ซือหม่าเจี้ยนหย่วนกลัวว่าหากการที่ทำล่วงเกินจ้าวขู่ไปทำให้ตระกูลจ้าวเกลียดพวกเขาขึ้นมา เมืองวายุผสานคงต้องเปลี่ยนจากสามตระกูลใหญ่เป็นสองตระกูลใหญ่แทน
ด้านในโรงประมูล จ้าวขู่ทำตัวราวกับเป็นน้องเล็กที่แสนดีพาหลิงฮันเข้าไปยังห้องส่วนตัว
ห้องส่วนตัวนี้แต่เดิมแล้วเป็นห้องที่ซือหม่าหลิงจองเอาไว้ ตอนนี้จ้าวขู่ได้นำไปให้หลิงฮันเสียแล้ว ถ้าซือหม่าหลิงรู้เข้า เขาจะต้องกระอักโลหิตตายเป็นแน่
หลังจากนั้นไม่นานการประมูลก็เริ่มต้นขึ้น
หลิงฮันไม่สนใจประมูลอย่างอื่น ครั้งนี้เขามาเพื่อแก่นไขกระดูกหยกเท่านั้น เขาหลับตาเพื่องีบหลับ แต่จ้าวขู่ที่อยู่ข้างๆเขาพูดพล่ามไปมาไม่หยุดด้วยน้ำเสียงประจบสอพลอ
“ทุกท่าน ของประมูลชิ้นถัดไปคือแก่นไขกระดูกหยก!” ผู้ดำเนินการประมูลตะโกน ทันใดนั้นเสียงโห่ร้องของทุกคนก็ดังกึกก้องและกระตุ้นความตื่นเต้นของทุกคนได้ในพริบตา “ราคาต่ำสุดคือห้าสิบล้านผลึกก่อเกิด ราคาเสนอแต่ละครั้งต้องไม่ต่ำกว่าสิบล้านผลึกก่อเกิด!”
“ห้าสิบล้าน!” จ้าวขู่ตะโกนลั่น “ข้าคือบุตรของจ้าวจู่อี้ ใครกล้าประมูลแข่งกับข้า?”
ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวผู้นี้อวดดีเป็นอย่างมาก เขาประมูลแข่งเพื่อสร้างความประทับใจต่อหลิงฮัน