Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1406
“ภรรยาข้า เจ้าเห็นแล้วใช่ไหม เขาเป็นคนบอกเองว่าเจ้าเป็นผู้ชนะ!” หลิงฮันมองไปยังสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์
ทุกคนอึ้งจนกลายเป็นไร้คำพูด หลิงฮันหน้าด้านเกินไป!
แต่สตรีมากมายก็รู้สึกเร้าร้อนยิ่งกว่าเดิม บุรุษเช่นนี้คือบุรุษชั้นยอดที่พวกนางต้องการแต่งงานด้วย
สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา นางเขินอายเล็กน้อยและตีไปที่แผ่นหลังของหลิงฮันด้วยความสุข
“พี่ชายชา หายจากบาดแผลไวๆล่ะ” หลิงฮันปล่อยมือออกชาจิ่ง
ถึงแม้เขาจะมีความบาดหมางกับขาหยวน แต่เขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรชาจิ่ง ตราบใดที่อีกฝ่ายไม่ล้ำเส้นจนเกินไปเขาก็ไม่สร้างความลำบากให้อีกฝ่าย ยิ่งกว่านั้นฉีเชียวเซวี่ยก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาจำเป็นต้องไว้หน้านางบ้าง
ชาจิ่งไม่กล้ากล่าวอะไรและหันหลังจากไป ท่าทีของเขาในตอนนี้อ่อนน้อมราวกับไม่ใช่แม่ทัพ
อีกด้านหนึ่ง จ้าวหลุนหวาดกลัวจนฉี่ราด แม้กระทั่งแม่ทัพชายังถูกทุบตีราวกับสุนัข แถมขนาดหลิงฮันลงมือขนาดนั้นแล้ว หัวหน้าองครักษ์อย่างฉีเชียวเซวี่ยยังไม่แทรกแซงทำอะไรด้วย
เขายังไม่อยากตาย หากต้องการแก้แค้นเขาจะมาตายที่นี่ไม่ได้!
“จ้าวหลุน ข้าไม่รังเกียจที่จะต่อสู้กันแบบยุติธรรมหรอกนะ แต่เป็นเจ้าเองคิดจะสังหารข้าหลายต่อหลายครั้งในตอนที่ข้ามีพลังบ่มเพาะต่ำต้อยกว่าเจ้า” หลิงฮันกล่าว “ตอนนี้พลังบ่มเพาะของข้าสูงกว่าเจ้าแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการรังแกเจ้าเกินไป หากเจ้ารับการโจมตีสามครั้งของข้าได้ ข้าจะยอมไว้ชีวิตเจ้า”
สามครั้งน้องสาวเจ้าสิ!
จ้าวหลุนสบถในใจ บิดาของเขาไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่หนึ่งการโจมตีจากเจ้า แต่เจ้าคิดจะให้ข้ารับการโจมตีถึงสามครั้งงั้นรึ นี่เจ้าตั้งใจมอบโอกาสรอดชีวิตให้ข้าจริงๆรึเปล่า?
“ถูกต้อง ข้าไม่คิดจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิต!” หลิงฮันกล่าวพร้อมกับกำมือ ‘ตูม’ ร่างของจ้าวหลุนถูกบดขยี้ แม้กล้ามเนื้อและโลหิตของจอมยุทธระดับสุริยันจันทราจะอัดแน่นไว้ด้วยพลังที่แข็งแกร่ง แต่พลังปราณขนาดใหญ่ของหลิงฮันได้ทำให้พลังเหล่านั้นสลายไปจนหมด
จ้าวหลุนตกตายโดยไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวดวงวิญญาณ
ใบหน้าของเซียงเฉิงหยินเปลี่ยนจากซีดเผือดเป็นสีเขียวและเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำราวกับกิ้งก่า ตอนนี้ศัตรูของหลิงฮันค่อยๆถูกกำจัดไปทีล่ะคน แล้วเขาล่ะจะรอดไหม? ประเด็นสำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้คนที่ทำให้มันเกิดขึ้นคือตัวเขาเอง
หากเขาไม่ได้ต้องการห้องส่วนตัวนั่นล่ะก็…
“นายท่าน ช่วยข้าด้วย!” เซียงเฉิงหยินโคจรปราณก่อเกิดควบคุมขาที่ไร้เรี้ยวแรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายและก้มหัว
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายนั้นถึงแม้จะเห็นเหตุการณ์ที่ปรมาจารย์ระดับดาราตกตาย แต่เขาไม่รู้เซียงเฉิงหยินเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เขารู้สึกมึนงงว่า จอมยุทธระดับภูผาวารีตัวจ้อยเช่นนี้จะไปล่วงเกินอะไรปรมาจารย์ระดับดาราได้?
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายสะบัดมือและกล่าว “เจ้าลุกขึ้นก่อนแล้วบอกมาว่ามีเรื่องอะไร”
ไม่ว่าอย่างไรเซียงเฉิงหยินก็เป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของเขา ต่อหน้าสาธารณะชนเขาจำเป็นต้องปกป้องเซียงเฉิงหยิน
เซียงเฉิงหยินไม่กล้าลุกขึ้นยืน เหงื่อของเขาไหลออกมาไม่หยุด “นายท่านต้องช่วยข้า! นายท่านต้องช่วยข้า!”
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายหัวเราะ เขาคิดไปเองว่าเซียงเฉิงหยินนั้นหวาดกลัวต่อพลังของปรมาจารย์ระดับดาราจนเสียสติ เขาเอื้อมมือออกไปจับที่ไหล่ของเซียงเฉิงหยินและกล่าว “เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายช่างห่วงใยคนของตนเองจริงๆ”
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายจะรู้ได้อย่างไรว่าเซียงเฉิงหยินคือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด? เขาคิดว่าหลิงฮันกล่าวชมเขาจริงๆจึงเผยรอยยิ้มให้หลิงฮัน
หากเป็นก่อนหน้านี้ หากหลิงฮันกล่าวชมเขาแบบนี้เขาไม่มีทางรู้สึกดีเป็นแน่ กลับกันเขาคงโมโหด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้หลิงฮันเป็นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง เมื่อถูกชมเขาจึงรู้สึกดีขึ้นมาทันที
บางประโยค ต่อให้คำพูดจะเหมือนกัน แต่หากคนพูดไม่ใช่คนเดียวกันความรู้สึกก็ย่อมแตกต่าง
“ฮ่าๆ แน่นอนอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ข้าควรทำ” ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายกล่าวด้วยใบหน้าปลื้มปริ่ม
หลิงฮันหัวเราะออกมาเช่นกัน “พี่ชายเซียงกล้าหาญเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ที่ข้ากำลังกินอาหารอยู่กับพี่น้องและสหายในห้องอาหาร พี่ชายเซียงได้ใช้อำนาจยืนกรานว่าจะยึดห้องอาหารที่ข้าอยู่ แถมพอข้ายกห้องอาหารให้กับเขา พี่ชายเซียงเฉิงหยินก็ยังบอกให้ภรรยาของข้าไปดื่มกับเขาด้วย”
พรวด!
ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายสำลักและใบหน้าเปลี่ยนสีทันที
เขาจ้องมองไปยังเซียงเฉิงหยินที่ตอนนี้ตัวสั่นราวกับคนป่วย เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก!
ให้ปรมาจารย์ระดับดารายกห้องอาหารให้ไม่พอ เจ้ายังบอกให้ปรมาจารย์ระดับดาราอยู่ดื่มกินกับเจ้าด้วย?
ก่อนหน้านี้ข้าถูกจ้าวหลุนทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากไปรอบหนึ่งแล้ว ส่วนครั้งนี้เป็นเจ้างั้นรึที่ทำกับข้า?
นี่เจ้ามีความบาดหมางหรือรังเกียจข้ารึไง? ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายสูดหายใจและทุบตีเซียงเฉิงหยินทันที
ท่าทีที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายทำให้ผู้คนโดยรอบชะงัก
ทุกคนกลายเป็นไร้คำพูด ท่าทีอันเกรี้ยวกราดของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายที่กำลังทุบตีคนของตัวเองทำให้ภาพลักษณ์ของเขาพังทลายอย่างสิ้นเชิง
“นั่นใช่ผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายจริงๆรึ?”
“นายท่านโปรดเมตตา! นายท่านยกโทษให้ข้าด้วย!” เซียงเฉิงหยินโอดครวญ เขาไม่นึกว่าก่อนว่าก่อนที่หลิงฮันจะลงมือกับเขาผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายกลับเป็นคนลงมือเสียก่อน
เสียงของเซียงเฉิงหยินค่อยอ่อนแรงลงจนพลังชีวิตดับไปในที่สุด
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่หลิงฮันด้วยความหวั่นเกรง หลิงฮันในตอนนี้คือตัวตนที่อยู่เหนือกว่าผู้อาวุโสซ้ายขวาและแม่ทัพทั้งเจ็ด อย่างที่เห็นว่าท่าทีของผู้อาวุโสฝ่ายซ้ายในตอนนี้หวาดกลัวขนาดไหน
หากราชินีทั้งเก้าไม่ลงมือ ใครจะสามารถหยุดยั้งหลิงฮันได้?
และเนื่องจากระดับพลังบ่มเพาะที่ต่างกันเกินไป สหายเก่าอย่างหลินยู่และคนอื่นๆที่ถูกหลิงฮันชักชวนให้ไปคุยกันต่างมีท่าทีกระตุกกระตักและหวั่นเกรง หลิงฮันเองก็ไม่บีบบังคับพวกเขา หลังจากมอบเม็ดยาให้แล้วเขาก็ขอตัวกลับ
หลิงฮันบอกให้สตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งนกอมตะสวรรค์และคนอื่นๆไปหาโรงเตี๊ยมพักก่อนในขณะที่ตัวเขามุ่งหน้าไปยังสำนักนภาสีชาด
ด้วยพลังของหลิงฮันในตอนนี้ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งเขาได้ ต่อให้ในสำนักมีกฎต้องห้ามมากมายเขาก็มาถึงห้องตำราของสำนักได้อย่างรวดเร็ว
เฒ่าสวียังคงนั่งแน่นิ่งปิดตาเหมือนดั่งเคย