Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1416
‘ครืนนน’ ออร่าแห่งเซียนทำให้อากาศสั่นไหวราวกับคลื่นทะเล ผืนดินสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว
ทั้งจักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วใบหน้าซีดขาวและมีเหงื่อไหลออกมา พวกเขามีความรู้สึกว่าขอให้เซียนหวู่เซียงนึกคิด ชีวิตของพวกเขาก็จะดับสูญทันที
ณ ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าสงสัยในตัวอีอกฝ่ายอีกต่อไป
เซียนหวู่เซียงเองก็เหงื่อไหลด้วยความเคร่งเครียด โชคดีที่เขาทำให้คนเหล่านี้หวาดกลัวได้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นคนที่ต้องหวาดกลัวเองจนกลับกลายมาเป็นตัวเขา
แววตาของเขานิ่งขรึมและกล่าว “ที่พวกเราได้เจอกันถือว่าเป็นการพบพานแห่งวาสนา เห็นว่าพวกเจ้าติดอยู่ที่คอขวดของการบ่มเพาะพลัง ข้าจะให้ชี้แนะให้สักเล็กน้อย”
ทุกคนทั้งปลาบปลื้มและรู้สึกสงสัย
ตัวตนระดับวารีนิรันดร์ที่สูงส่งขนาดนั้นกลับยอมลดตัวลงมาเป็นฝ่ายเสนอว่าจะชี้แนะให้แก่พวกเขา ถึงแม้มันจะดูแปลกๆแต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธโอกาสงามเช่นนี้
หากพวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ระดับวารีนิรันดร์แต่เป็นเซียน พวกเขาจะต้องตกตะลึงยิ่งกว่านี้เป็นแน่ และหากพวกเขารู้อีกว่าเซียนหวู่เซียงในตอนนี้เป็นเซียนที่ไร้พลัง พวกเขาจะต้องดีใจยิ่งกว่าเดิมและบังคับช่วงชิงเอาความลับทั้งหมดมาจากอีกฝ่ายให้ได้
เซียนหวู่เซียงเมินเฉยต่อสิ่งที่คนเหล่านี้กำลังคิดและกล่าวชี้แนะปัญหาที่จอมยุทธระดับดารามักพบเจอออกมา
ปรมาจารย์ทุกคนตั้งใจฟังและเผลอนั่งลงโดยไม่รู้ตัว แม้แต่จักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วก็ไม่มีข้อยกเว้น ร่างกายของพวกเขารู้สึกถึงพลังบางอาจที่กึกก้องราวกับว่าได้เข้าสู่สภาวะรู้แจ้งชั่วขณะ
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เนื่องจากความเข้าใจอันสูงส่งในวิถียุทธของเซียนหวู่เซียง คนเหล่านี้จึงสามารถเข้าใจปัญหาที่ตนเองพบเจออยู่ได้อย่างง่ายดาย แต่ที่จริงพวกเขาจะเข้าใจได้ถึงขนาดไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละคน
เซียนหวู่เซียงยืนสง่าราวกับเป็นนักปราชผู้สูงส่งโดยมีปรมาจารย์ระดับดาราจำนวนมากนั่งอยู่เบื้องหน้า แม้กระทั่งพวกฉีเชียวเซวี่ยก็เผลอนั่งลงตามไปโดยไม่รู้ตัว
ในขณะที่เซียนหวู่เซียงกำลังชี้แนะวันเวลาก็ค่อยๆผ่านไป หนึ่งวัน สองวัน สามวัน… จอมยุทธระดับดาราไม่จำเป็นต้องกินหรือดื่มอยู่แล้ว ร่างกายของพวกเขาสามารถดูดซับพลังวิญญาณจากธรรมชาติมาเป็นพลังงานได้ด้วยตัวเองจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความหิว
หนึ่งเดือน สองเดือน สามเดือน… วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ขณะนี้เมืองจักรพรรดินั้นถูกจักรวรรดิราชวงศ์ทั้งสองยึดครองไปเป็นที่เรียบร้อย เหล่าจอมยุทธของจักรวรรดิราชวงศ์ดวงดาราหายนะนั้นมีทางเลือกอยู่สองทางหรือยอมจำนนหรือถูกสังหาร ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะหลบหนีได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้ามายังสถานที่ที่พวกหลิงฮันอยู่ ล้อเล่นรึเปล่า? ที่นี่มัปรมาจารย์ระดับดาราอยู่มากมายขนาดนี้ ใครบ้างจะกล้าเข้ามายุ่งวุ่นวาย?
เหล่าปรมาจารย์ระดับดาราตกอยู่ในภวังค์ของการชี้แนะจากเซียนหวู่เซียงอย่างสมบูรณ์โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเวลาได้ผ่านไปสามเดือนแล้ว
สมกับเป็นเซียน สามารถหลอกผู้คนได้อย่างแนบเนียนจริงๆ
หลิงฮันไม่กล้าลงมือผลีผลาม โดยเฉพาะความคิดที่จะลอบสังหารจักรพรรดิทั้งสองนั้นเลิกคิดไปได้เลย ต่อให้พวกเขากำลังอยู่ในภวังค์ก็ตาม พลังของเขากับทั้งสองคนก็แตกต่างกันเกินไป เป็นไปไม่ได้ที่จะลอบสังหารได้สำเร็จ
ทางทีดีคือต้องพยายามถ่วงเวลาให้ได้หลายปีเพื่อรอคอยจักรพรรดินีแห่งดารา
เวลาค่อยๆผ่านไป ครึ่งปี… หนึ่งปี… สองปี!
หืม?
จักรพรรดิโจ้วเทียนดึงสติกลับมา นี่มันเกิดอะไรขึ้น นี่เวลาก็ผ่านไปสองปีแล้วแต่ทำไมพลังบ่มเพาะของเขาถึงไม่ก้าวหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว? ยิ่งกว่านั้นผู้อาวุโสตรงหน้าก็จะใจดีเกินไปหรือเปล่าที่คอยชี้แนะให้พวกเขาตั้งสองปี?
ไม่ถูกต้อง นี่มันไม่ถูกต้อง!
เขาเคยคิดว่าผู้อาวุโสตรงหน้าแข็งแกร่งแค่เพียงเปลือกนอกเท่านั้น แต่เพราะความหวาดกลัวที่มีต่อออร่าของอีกฝ่ายทำให้เขาสลัดความคิดนั้นทิ้งไป แต่ตอนนี้เขาเริ่มกลับมาสงสัยแบบเดิมอีกครั้ง
‘ครืนน’ จักรพรรดิโจ้วเทียนปลดปล่อยการโจมตี ‘ตูม’ เปลวเพลิงอันไร้ที่สิ้นสุดเริงระบำกลางอากาศ ร่างของเขาที่อยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงดูราวกับเป็นเทพเจ้าแห่งอัคคี
“แย่แล้ว เจ้าหนู ช่วยข้าเร็ว!” เซียนหวู่เซียงใบหน้าซีดขาว ตัวเขายังมีศัตรูที่ต้องล้างแค้นและไม่อาจยอมตายออยู่ที่นี่
หลิงฮันจะกำลังนั่งอยู่ แม้เขาไม่ได้ฟังการชี้แนะของเซียนหวู่เซียงและนำเม็ดยาเชื่อมรากฐานเปิดสวรรค์ออกมากินเพื่อบ่มเพาะพลังในทุกๆวันเขาก็ยังแบ่งประสาทสัมผัสไว้ส่วนหนึ่งเพื่อคอยดูการเคลื่อนของของสองจักรพรรดิและปรมาจารย์คนอื่นๆ
ดังนั้นเมื่อจักรพรรดิโจ้วเทียนลงมือเขาจึงสามารถตอบสนองได้ทันและคว้าร่างเซียนหวู่เซียงเข้ามาในหอคอยทมิฬอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเองเหล่าปรมาจารย์ทั้งหมดก็ตื่นจากภวังค์
ก่อนหน้านี้พวกเขาตกตะลึงในออร่าอันน่าเกรงขามของเซียนหวู่เซียงทำให้ลืมนึกถึงเรื่องที่ว่าอีกฝ่ายปรากฏตัวออกมาได้อย่างไร แต่ครั้งนี้พวกเขาตระหนักได้ถึงเรื่องนี้แล้ว
เป็นไปได้อย่างไรที่คนคนหนึ่งจะปรากฏตัวและหายไปได้อย่างไร้ร่องรอยในพริบตาเดียว?
อุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์!
ยิ่งกว่านั้นหากอีกฝ่ายเป็นตัวตนที่ทรงพลังจริงๆ เขาจะหวาดกลัวเพียงเพราะการโจมตีของจักรพรรดิโจ้วเทียนได้อย่างไร?
“ฮึ่ม ข้าเกือบถูกหลอกแล้ว!” จักรพรรดิโจ้วเทียนแสยะยิ้ม
หลิงฮันหัวเราะ “ฮ่าๆ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าทั้งหมดถูกหลอกไปแล้วหรอกรึ?”
จักรพรรดิโจ้วเทียนและจักรพรรดิปี้ลั่วใบหน้าบูดบึ้ง เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ พวกเขาถูกหลอกให้นั่งอยู่เฉยๆเป็นเวลากว่าสองปี
โดยเฉพาะจักรพรรดิปี้ลั่วที่เกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก การที่เขารู้สึกตัวหลังจักรพรรดิโจ้วเทียนนั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้า
“ตาย!” จักรพรรดิโจ้วเทียนคำรามและลงมือ ทั่วร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นโปร่งใสและขยายใหญ่ขึ้นจนสูงถึงพันพันฟุต ภายในร่างอันโปร่งใสของเขามีวารีถูกควบแน่นไหลเวียนอยู่
อำนาจแห่งกฎเกณฑ์!
ตูม!
จักรพรรดิปี้ลั่วลงมือ การโจมตีขนาดมหึมาของเขาไม่เพียงแค่ครอบคลุมไปทั่วร่างหลิงฮัน แต่เนินเขาที่อยู่ด้านหลังหลิงฮันก็ถูกโจมตีไปด้วย หรือก็คือเป้าของเขาไม่สังหารหลิงฮันอย่างเดียวแต่ต้องการทำลายเนินเขาเพื่อนำจักรพรรดินีออกมาด้วย
พวกเขาถูกถ่วงเวลามามากเกินไปแล้ว
หลิงฮันสูดหายใจลึก ร่างของเขาสั่นไหวและขยายออกจนสูงพันฟุตเช่นกัน ยิ่งระดับพลังสูงขึ้นก็ยิ่งขยายร่างได้สูงขึ้นและคงสภาพอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้อย่างมั่นคง หลิงฮันปล่อยออกไปด้านหน้าเพื่อตอบโต้จักรพรรดิปี้ลั่ว
ปัง!
ทันทีที่การโจมตีของทั้งสองปะทะกัน ร่างของหลิงฮันก็ลอยกระเด็นราวกับอุกกาบาต แม้จะใช้กาลเวลาแปรผันพันปีเขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจักรพรรดิปี้ลั่ว
“ฮึ่ม!” จักรพรรดิโจ้วเทียนแอบลงมือจากด้านหลังหลิงฮัน
ลอบโจมตี? ร่วมมือกันจัดการศัตรู?
จักรพรรดิโจ้วเทียนไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จักรพรรดิเช่นเขา เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายแล้วไม่ว่าต้องใช้วิธีการแบบใดเขาก็ไม่สน
หลิงฮันที่เพิ่งรับการโจมตีของจักรพรรดิปี้ลั่วมา สถาพของเขาในตอนนี้จะป้องกันการลอบโจมตีได้อย่างไร?
ปัง!
ร่างของเขาถูกโจมตีอย่างรุนแรง แม้กระทั่งกระดูกศักดิ์สิทธิ์ในร่างก็ไม่อาจต้านทานไหว ‘แคร่ก แคร่ก แคร่ก’ เสียงกระดูกแตกหักดังออกมาจากร่างของหลิงฮันและดังก้องไปทั่วบริเวณ
หลิงฮันกัดฟัน เขารู้สึกเจ็บปวดเกินจะพรรณนา พลังของเขากับศัตรูแตกต่างกันเกินไป แค่หนึ่งการโจมตีของอีกฝ่ายก็แทบจะพรากชีวิตของเขาไปแล้ว!
สภาพของหลิงฮันในตอนนี้น่าอนาถอย่างแท้จริง ร่างของเขาบิดเบี้ยวผิดรูป โลหิตและกล้ามเนื้อไหลออกมาด้านนอกทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่ายังดูเหมือนคนอยู่รึไม่
จักรพรรดิโจ้วเทียนเค้นเสียงและยกมือขวาขึ้นอีกครั้ง เขาต้องการลบตัวตนของหลิงฮันให้หายไปอย่างสมบูรณ์
แต่ในตอนนั้นเอง หยดวารีนิรันดร์ก็ถูกใช้งาน หลิงฮันลุกขึ้นยืนพร้อมกับร่างกายที่ฟื้นสภาพอย่างรวดเร็วจนมองทันด้วยตาเปล่า
“ข้าบอกว่าอย่าคิดแม้เพียงจะแตะต้องภรรยาของข้า!”