Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1443
“เป็นแก่นกำเนิดนิรันดร์ของทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญ!” จักรพรรดินีกระซิบข้างหูหลิงฮัน
นางคว้าข้อมือหลิงฮันเอาไว้แน่น แม้จะเป็นกายหยาบของหลิงฮันก็ยังรู้สึกเจ็บปวด เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีกำลังตื่นเต้นขนาดไหน
สายตาของกู่ต้าวอี้จ้องมาที่พวกเขา แน่นอนว่าเป้าหมายไม่ใช่หลิงฮัน
ในความคิดของเขาหลิงฮันไม่ใช่ตัวตนที่สมควรเหลียวมองแม้แต่น้อย
เขาจ้องมองไปยังจักรพรรดินีหล่วนซิง เขาเองก็มองเห็นเคล็ดลับของทักษะเก้าสวรรค์ดับสูญที่จักรพรรดินีกำลังบ่มเพาะอยู่เช่นกัน
สำหรับเขาจักรพรรดิเปรียบเสมือนอาหารจานยักษ์ที่จะทำให้แก่นกำเนิดนิรันดร์ของเขายกระดับขึ้น
“เร็วเข้า รีบหยุดสุนัขตัวนั้น!”
“สุนัขตัวนั้นไร้เหตุผลยิ่งนัก มันไล่กัดผู้คนไปทั่ว!”
ฝูงชนเกิดความเอะอะในขณะที่สุนัขตัวดำขนาดใหญ่กำลังวิ่งมาจากระยะไกลโดยมีผู้คนนับไม่ถ้วนไล่ตามมันมา ท่าทางของแต่ละคนดูเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมาก
ปากของหลิงฮันกระตุก สุนัขตัวดำขนากใหญ่นั่นคือสุนัขที่เขาพบในถ้ำจ้าวสมุนไพร แม้ขนาดของมันในตอนนี้จะไม่ได้มหึมาดั่งขุนเขาเหมือนตอนนั้นแต่ก็ยังใหญ่กว่าสุนัขตัวไป ขนสีดำของมันเรียบเนียนและส่องประกายวิบวับ
มันเป็นตัวสร้างปัญหาอย่างแท้จริง เพียงแค่เพิ่งมาถึงที่นี่ก็ยั่วยุจอมยุทธนับพันแล้ว
สุนัขตัวดำหันไปมองด้านหลังในขณะกำลังวิ่งและกล่าวยั่วยุ “พวกหลานเต่าทั้งหลาย ทำไมพวกเจ้าถึงได้เชื่องช้าขนานั้น นายท่านหมาจะต่อให้โดยการเดินสองขาแล้วกัน!” เมื่อกล่าวจบมันก็ลุกขึ้นวิ่งด้วยขาหลังสองข้างและนำสองขาหน้าพาดไว้ที่หลัง
‘พรวดด’ คนมากมายที่มองดูอยู่หัวเราะลั่นทันที แต่หลายคนที่กำลังไล่ตามสุนัขตัวดำนั้นเดือดดาลไปด้วยความโกรธ
“หลานเต่าทั้งหลายยังตามข้าไม่ทันอีก? เอาเถอะ นายท่านหมาจะกลับหัววิ่งให้ก็ได้” สุนัขตัวดำเปลี่ยนมาใช้สองอุ้งเท้าหน้าในการวิ่งและยกสองเท้าหลังชูขึ้นฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นการเคลื่อนไหวของมันก็ยังรวดเร็วมากอยู่ดี
“เจ้าหมาบัดซบ!”
“หากข้าจับเจ้าได้ ข้าจะบดขยี้ร่างของเจ้าไม่ให้เหลือ!”
“ข้าไม่เคยเห็นสัตว์อสูรสุนัขที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน”
“ฆ่ามัน!”
ผู้คนที่ไล่ตามสุนัขตัวดำยิ่งโมโหมากกว่าเดิม ดวงตาของพวกเขาแต่ละคนแทบจะมีเปลวเพลิงปะทุออกมา
สุนัขตัวดำเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ร่างของมันพลิ้วไหวเป็นอย่างมาก ระยะห่างของมันกับผู้ใครที่ไล่ตามเริ่มห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
“โอ้ นั่นฮันน้อยไม่ใช่รึ มาทักทายท่านลุงผู้นี้หน่อยสิ!” ทันทีที่สุนัขตัวดำเห็นหลิงฮันมันก็กล่าวทักทายและโบกอุ้งมือมาหาเขา
หลิงฮันหลายเป็นไร้คำพูด
“หืม พี่สาวคนนั้นงดงามไม่เลว นายท่านหมาจะยอมให้นางมาเป็นสาวใช้!” สุนัขตัวดำจ้องมองไปยังจักรพรรดินี ต่อให้มันเป็นสุนัขก็ยังได้รับผลกระทบจากเสน่ห์อันไร้ที่เปรียบของจักรพรรดินี
“บังอาจ!” เนี่ยเทียนเฉิงคำราม เขาตั้งใจจะสร้างความพึงพอให้กับจักพรรดินีจึงปล่อยฝ่ามือออกไปอย่างทันใด
“ช่างเป็นเสียงตำโกนที่อัปลักษณ์อะไรเช่นนี้ มาดูว่านายท่านหมาจะจัดการเจ้าอย่างไร!” ร่างของสุนัขตัวดำพริ้วไหวหลบเลี่ยงฝ่ามือของเนี่ยเทียนเฉิงอย่างง่ายดายและอ้าปากกัดไปยังข้อมือของอีกฝ่าย
“อ้ากก!” เนี่ยเทียนเฉิงกรีดร้อง
ฟันอันแหลมคมของสุนัขตัวดำนั้น แม้จะเป็นกายหยาบของหลิงฮันก็ยังรู้สึกเจ็บ เช่นนั้นเนี่ยเทียนเฉิงที่ไม่ได้มีกายหยาบเหมือนหลิงฮันจะไม่เจ็บปวดทรมานได้อย่างไร? โลหิตของเขาทะลักออกมาทันทีหลังจากถูกกัด และแม้จะพยายามสลัดอย่างไรปากของสุนัขตัวดำก็ไม่ยอมหลุด
“ปล่อยข้า! ปล่อยปากของเจ้าออกจากข้า!” เนี่ยเทียนเฉิงโอดครวญ สุนัขตัวดำไร้ยางอายเกินไป ในฐานะตัวตนที่มีพลังบ่มเพาะที่สูงส่ง ใครบ้างจะจู่โจมด้วยวิธีนี้?
‘ฉัวะ’ แขนของเนี่ยเทียนเฉิงถูกกระชากจนขาด
สุนัขตัวดำกัดแขนที่ขาดเอาไว้ในปากและวิ่งต่อ เนื่องจากผู้คนที่ไล่ตามมันอยู่ก่อนหน้านี้ใกล้จะมาถึงแล้ว
“สุนัขบัดซบ คืนแขนของข้ามา!” เนี่ยเทียนเฉิงไล่ตามสุนัขตัวดำ ถึงแม้เขาจะสามารถฟื้นฟูแขนที่ขาดไปให้งอกขึ้นมาใหม่ได้ แต่วิธีนั้นจำเป็นต้องเผาผลาญพลังชีวิตพอสมควร ดังนั้นเขาจึงต้องการนำแขนที่ขาดกลับมาต่อใหม่
“ลองไล่ข้าให้ทันสิ!” สุนัขตัวดำลุกขึ้นวิ่งด้วยขาสองขาอีกครั้ง
“สุนัขบัดซบ!”
“เจ้าสุนัขชั้นต่ำ!”
ทุกคนคำรามอย่างเกรี้ยวกราดและไล่ตามอย่างไม่ลดละ
ตันจิงอี่แอบขอบคุณเนี่ยเทียนเฉิงในใจ หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายลงมือก่อนคงเป็นเขาที่เสียแขนข้างหนึ่งไปแทน แม้เขาจะมั่นใจในพลังของตัวเองแต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแข็งแกร่งกว่าเนี่ยเทียนเฉิงมากนัก
ยิ่งกว่านั้นสุนัขตัวตำก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก หลังจากจู่โจมแล้วมันก็ไม่ปล่อยโอกาสให้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย
ครั้งนี้เนี่ยเทียนเฉิงถือว่าโชคร้ายอย่างแท้จริง
ความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นโดยสุนัขตัวดำกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน ผู้คนจ้องมองอย่างสนุกสนานไปยังสุนัขตัวดำที่กำลังวิ่งไปมาและยั่วยุทุกคนที่มันวิ่งผ่าน
“นายท่านหมานั้นถูกลิขิตให้กลายเป็นปรมาจารย์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก ตอนนี้ข้ากำลังรับสมัครผู้ติดตามอยู่ โอกาสนี้คือวาสนาที่พวกเจ้าไม่ควรพลาด” สุนัขตัวดำกล่าวในขณะที่กำลังวิ่งหนี ส่วนแขนที่มันกัดขาดนั้นไม่รู้ว่าโยนทิ้งไปไหนแล้ว
“เจ้า เจ้า เจ้าแล้วก็เจ้า นายท่านหมาขอยกโอกาสนี้ให้กับพวกเจ้า” มันชี้สุ่มๆไปยังผู้คนรอบข้างจำนวนมาก
เหล่าคนที่ถูกชี้ไม่สบอารมณ์ จอมยุทธที่อยู่ที่นี่ใครบ้างไม่ใช่ราชา? แต่ตอนนี้ราชาเช่นพวกเขากลับกำลังถูกสุนัขชี้นิ้วใส่ จะให้พวกเขารู้สึกดีได้อย่างไร? ศักดิ์ศรีของราชาไม่อาจถูกดูแคลน ราชาที่ถูกชี้บางคนมีท่าทีนิ่งเฉยไม่ใส่ใจ แต่ก็มีราชาจำนวนมากที่เกรี้ยวกราดและร่วมมือกันไล่ล่าสุนัขตัวดำทันใด
หากจะกล่าวว่าในตอนนี้ชื่อเสียงของใครโด่งดังที่สุดก็คงเป็นสุนัขตัวดำตนนี้ ชื่อเสียงของมันเหนือกว่ากู่ต้าวอี้และจักรพรรดินีหล่วนซิงในพริบตา
“เหอๆ นายท่านหมายอดเยี่ยมจนมีแต่คนอิจฉา!” สุนัขตัวดำกล่าวยกย่องตัวเอง
“สุนัขบัดซบ หากมีความสามารถก็มาประลองตัดสินกัน!” ทุกคนกล่าวด้วยน้ำเสียงบ้าคลั่ง
สุนัขตัวเขาพาดอุ้งเท้าหน้าไว้ที่แผ่นหลังและกล่าว “นายท่านหมาไม่ต้องการรังแกพวกเจ้า” เมื่อกล่าวเสร็จมันก็วิ่งต่อโดยไม่มีทีท่าจะหยุด
หลังจากไล่ตามอยู่เป็นเวลานานก็ไม่มีใครจับสุนัขตัวดำได้ทันเนื่องจากมันรวดเร็วเกินไปแถมยังเคลื่อนที่พลิ้วไหวซับซ้อนจนจับทางไม่ถูก ด้วยความสามารถเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมมันถึงกล้ายั่วยุผู้คนจำนวนมาก
หากจะเป็นศัตรูกับศัตรูนับหมื่นก็ต้องมีฝีเท้าที่ว่องไวมากพอ
สามวันต่อมา สุนัขตัวดำก็ยังคงวิ่งหนีอยู่บนท้องฟ้า จำนวนคนที่มันยั่วยุไปแล้วนั้นมีมากถึงหนึ่งในสิบของหุบเขา ผู้คนเหล่านั้นก่อตั้งกลุ่มกันโดยมีเป้าหมายคือต้องสังหารสุนัขตนนี้ให้ได้
แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆคลื่นแสงก็สาดส่องลงมายังหุบเขาและแผ่นหินสีทองขนาดใหญ่ก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงกว่าร้อยฟุตเหนือหุบเขาพร้อมกับปลดปล่อยประกายแสงอันไร้ที่สิ้นสุดออกมา
“หุบเขาเฉินเอี๋ยนเปิดแล้ว!”