Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1456
ที่หุบเขาแห่งนี้แผ่นหินสีทองคือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด ตั้งแต่ยุคโบราณที่ผ่านๆมา ทุกครั้งที่หุบเขาเฉินเอี๋ยนเปิดออก แม้จะมีราชาที่ได้เป็นอันดับหนึ่งแต่ก็ไม่มีใครเลยที่สามารถขึ้นไปยังแผ่นหินสีทองได้
แต่คราวนี้หากสามารถไปถึงได้ล่ะก็ พวกเขาจะเป็นคนสร้างประวัติศาสตร์และเปิดยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ด้วยตัวของพวกเขาเอง!
ทุกๆยุคสมัยจะมีจะมีจอมยุทธระดับแนวหน้าคอยปกครองยุคสมัยของตนเองเอาไว้ อย่างเช่นในเขตดวงดาวแห่งนี้ ผู้ปกครองที่แท้จริงก็คือเซียนซิงฉา แม้เขาจะไม่ใช่ราชาเซียนแต่ ณ ที่แห่งนี้เขาก็เป็นเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ทุกวันนี้ วิถีวรยุทธที่ก้าวหน้าได้ก่อให้เกิดอัจฉริยะจำนวนมาก ดังนั้นวาสนาจึงเป็นสิ่งสำคัญ
อย่างเช่นสุดยอดราชาเช่นพวกเขาใครบ้างจะไม่ใช่อัจฉริยะ แต่สุดท้ายก็จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะได้ครองบัลลังก์
ซึ่งปัจจัยที่จะทำให้พวกเขาครองบัลลังก์ก็คือวาสนา!
ดังนั้นต่อให้แผ่นหินสีทองที่อยู่ด้านบนจะไม่ได้มอบวาสนาที่มากมายเท่าไหร่ให้แก่พวกเขา หลิงฮัน หลงเซียงเยว่และคนอื่นๆจึงพยายามอย่างสุดความสามารถ
หากได้รับวาสนา พวกเขาก็จะเป็นราชาที่อยู่เหนือราชาในยุคสมัยเดียวกันทั้งปวง
ด้วยเหตุผลนี้ ต่อให้ต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยวิธีเจ้าเล่ห์ไม่ใช่เรื่องที่น่าอับอาย!
ดาบของหลงเซียงเยว่ส่องประกายเจิดจรัสด้วยรูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์ อำนาจมังกรปลดปล่อยพลังออกมาปกคลุมไปทั่วสวรรค์และปฐพี
หลิงฮันปลดปล่อยทักษะกาลเวลาแปรผันพันปีสลายการโจมตีได้อย่างง่ายดาย นอกจากทักษะของอัจฉริยะจากดินแดนแห่งเซียนอย่างกู่ต้าวอี้ ทักษะของราชาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่มีทักษะใดที่กาลเวลาแปรผันพันปีไม่สามารถสลายได้
นอกเสียจากว่าคู่ต่อสู้จะเป็นทายาทของเผ่าสวรรค์บรรพกาลที่มีสายเลือดของขุมอำนาจในดินแดนแห่งเซียนไหลเวียนอยู่ในร่างกาย จอมยุทธเช่นนั้นสามารถกระตุ้นใช้งานทักษะระดับนิรันดร์ได้
เขามองไปยังหลงเซียงเยว่ด้วยใบหน้าคาดหวัง “หรือเจ้าจะเป็นมังกรแท้จริง?”
หลงเซียงเยว่ชะงัก ระหว่างการต่อสู้เหตุใดจู่ๆเจ้าถึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมา? นางเค้นเสียงและกล่าว “แล้วเจ้าจะทำไม?”
“แน่นอนว่าเรื่องนั้นสำคัญกับข้า!” หลิงฮันกล่าว “ถ้าเจ้าเป็นมังกรแท้จริง เมื่อบรรลุระดับสร้างสรรพสิ่งแล้วเจ้าช่วยมือเขามังกรให้ข้าได้รึไม่?” เขายังจำข้อตกลงระหว่างเขากับจักรพรรดิเพลิงอัสนี เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับทักษะเขาจำเป็นต้องตามหาเขามังกรแท้จริง ขนนกอมตะสวรรค์และสมบัติชิ้นอื่นๆให้กับอีกฝ่าย
เมื่อลองคิดดูแล้ว จักรพรรดิเพลิงอัสนีจะต้องเป็นตัวตนจากดินแดนแห่งเซียนไม่ผิดแน่ แต่เช่นนั้นแล้วเหตุใดเขาถึงไปอยู่ที่ทวีปฮงเทียนได้?
ไม่ว่าจะเป็นฮูหนิว จักรพรรดิเพลิงอัสนีหรือหอคอยทมิฬ หลายๆสิ่งที่เกี่ยวข้องกับดินแดนแห่งเซียนได้มาปรากฏขึ้นดินโลกใบเล็ก
ดังนั้นแล้วหลิงฮันจึงจริงจังอย่างมาก เขาต้องตามหาสมบัติของสัตว์อสูรเทพทั้งสี่เพื่อแลกเปลี่ยนกับทักษะที่ทรงพลังจากดินแดนแห่งเซียนของจักรพรรดิเพลิงอัสนีให้ได้
“เพ้อฝัน!” ใบหน้าของหลงเซียงเยว่เปลี่ยนไปทันที นางมีท่าทีราวกับว่าถูกล่วงเกินอย่างไม่อาจทนไหว ดาบในมือของนางสะบั้นรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง ก่อนหน้านี้เป้าหมายของดาบคือแผ่นหินใต้เท้าหลิงฮัน แต่ตอนนี้เป้าหมายของดาบกลับเปลี่ยนเป็นตัวของหลิงฮันแทน
หลงเซียงเยว่กัดฟันด้วยใบหน้าแกงก่ำ ท่าทีของนางทำให้หลิงฮันรู้สึกแปลกประหลาดใจ
ข้าแค่ขอเขามังกรของเจ้าแท้ๆซึ่งเขานั่นก็สามารถงอกขึ้นใหม่ได้ แต่ทำไมเจ้าถึงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟราวกับข้าไปขอพรหมจรรย์ของเจ้าด้วย?
“ฮันน้อย เขามังกรนั้นเป็นตราความรักของมังกร การที่เจ้าขอเขามังกรของนางก็เปรียบเสมือนเจ้าไปขอหลับนอนกับนาง” สุนัขตัวดำปรากฏตัวในระยะความสูงที่ห่างกับหลิงฮันหกฟุต
อะไรกัน เมื่อเรื่องเช่นนั้นด้วย?
หากเป็นแบบนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลงเซียงเยว่จะโมโห เพียงแต่ว่าเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนก็ไม่เคยมอบเขามังกรให้เขาเลยไม่ใช่รึไง? หรือว่าธรรมเนียมเช่นนี้จะไม่มีในโลกใบเล็ก?
“สุนัขปากเสีย!” หลงเซียงเยว่กัดฟันและสะบั้นดาบเข้าใส่สุนัขตัวดำ
เพียงแต่ว่าด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของที่นี่ที่มีระยะความสูงถูกกำหนดไว้ คลื่นดาบของนางที่จู่โจมเกินระยะกำหนดได้ถูกพลังงานบางอย่างหยุดเอาไว้ก่อนจะสลายไป
สุนัขตัวตำยืนขึ้นสองขาและกล่าวอย่างองอาจ “คนที่คิดเช่นนั้นไม่ใช่นายท่านหมาแต่เป็นฮันน้อยต่างหาก เหตุใดเจ้าจึงพาลโกรธข้าไปด้วย? แต่ก็เอาเถอะ นายท่านหมาต้องการคนรับใช้พอดี แม้เจ้าจะเป็นมังกรแท้จริงข้าก็ไม่รังเกียจที่จะรับเจ้ามาเป็นสัตว์ขี่”
“ฮึ่ม…” หลงเซียงเยว่เกรี้ยวกราด แต่นางก็รู้ว่าต่อให้โมโหไปก็ไม่มีประโยชน์
“ตาย!” พริบตาเดียวนางก็เปลี่ยนเป้าหมายกลับมาเป็นหลิงฮัน ใบหน้าอันงดงามของนางเย็นชาราวกับน้ำแข็ง ดูเหมือนว่าความโกรธที่นางมีต่อสุนัขตัวดำจะมาลงที่หลิงฮันคนเดียวทั้งหมด
รับ
หลิงฮันลงมือปลดปล่อยอำนาจสวรรค์ออกมา ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นมังกรแท้ที่กำลังเกรี้ยวกราด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาพลังต่อสู้ของหลงเซียงเยว่ก็ต้องถูกทำให้ลดลงสองดาว
“อะไรกัน!” หลงเซียงเยว่อุทานออกมาทันทีที่พบว่าพลังของตนเองถูกลดลงไปและเผลอเปิดช่องว่าง
หลิงฮันใช้โอกาสนี้สะบั้นดาบจู่โจม ร่างของหลงเซียงเยว่ถูกกระแทกลอยกระเด็นร่วงจากแผ่นหินทันที
พลังของนางถูกลดลงไปร้อยเท่า แถมนางยังอยู่ในสภาพที่เกรี้ยวกราดและตื่นตระหนก ดังนั้นเพียงหนึ่งการลอบโจมตีของหลิงฮันจึงสามารถเอาชนะนางเอาได้
แผ่นหินของหลิงฮันดูดกลืแผน่หินของหลงเซียงเยว่และลอยสูงขึ้นสองฟุต
ขอแค่ดูดกลืนแผ่นหินได้อีกแค่ครั้งเดียว เขาก็จะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด แต่ตอนนี้… เวลาเหลือเพียงแต่สามชั่วโมงเท่านั้น
ณ ตอนนี้คนที่อยู่ในระดับความสูงเดียวกันกับเขาคือซื่อเฉินเฟิง เทียนเซี่ยตี้เอ้อและหงหม่า พวกเขาเอาชนะจักรพรรดิพิรุณกับเฉิงเสี่ยวฟานได้และเป็นกลายเป็นสุดยอดราชาสี่คนสุดท้าย
การเปิดของหุบเขาเฉินเอี๋ยนครั้งนี้จะต้องมีราชาคนหนึ่งขึ้นไปยังจุดสูงสุดได้แน่นอน แต่ว่าหนึ่งคนที่ว่าจะเป็นใคร?
สุดยอดราชาทั้งสี่คนล้วนแต่มีความเป็นไปได้ทั้งนั้น!
พวกเขาทั้งสี่ยังไม่เปิดศึกโจมตีกันเนื่องจากคนที่ลงมือก่อนจะกลายเป็นเป้าของอีกสามคน
ในขณะเดียวกัน ราชาคนอื่นๆอย่างจักรพรรดิพิรุณ เฉิงเสี่ยวฟานและหลงเซียงเยว่ที่พ่ายแพ้ไปชั่วคราวก็รีบไล่ตามกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
หลิงฮันและสุดยอดราชาอีกสามคนมองหน้ากันก่อนจะลงมือจู่โจมอย่างพร้อมเพรียง
พวกเขาไม่ร่วมมือกันใครคนใดคนหนึ่งและต่อสู่แบบตะลุมบอน
ตราบใดที่มีหนึ่งคนร่วงหล่น ก็จะมีหนึ่งคนที่ขึ้นไปยังจุดสูงสุด!
นี่คือการต่อสู้สุดท้าย!
เวลาไม่เคยคอยใคร… ลงมือ!
ทั้งสี่คนปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมาตั้งแต่เนิ่นเข้าใส่ศัตรูสามคนตรงหน้า พวกเขาไม่สนใจว่าใครจะเป็นคนแรกที่แพ้ ขอแค่มีคนใดคนหนึ่งที่ร่วงลงไปก็พอ