Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1538
น่าแปลกประหลาดมาก ในอวกาศอันอ้างว้างนี้มีใครก็ไม่รู้ปรากฏตัวหยุดทางและกล่าวทักทายราวกับเป็นสหายสนิท
เซียนของตระกูลฮู
หลิงฮันคาดเดาได้ทันที นอกจากดินแดนต้องห้ามแปดศิลาแล้วเขาก็ไม่เคยล่วงเกินเซียนจากขุมอำนาจใดมาก่อน หากจะบอกว่าเขาถูกเซียนหยุดทางด้วยความบังเอิญนั้น เขาไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
เขาก้าวออกมาจากอุปกรณ์บินแหวกเมฆาและสะบัดขวาเก็บอุปกรณ์บินแหวกเมฆากลับเข้าไปยังหอคอยทมิฬพร้อมกับมองไปยังรุ่นเยาว์ตรงหน้า
“คนของดินแดนต้องห้ามแปดศิลา?” หลิงฮันเอ่ยถาม ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นผู้ไล่ล่า เขาก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพด้วย
รุ่นเยาว์ผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจากฮูเฟิง ใบหน้าของเขายังคงประดับไว้ด้วยรอยยิ้มของเซียนผู้สูงส่ง โดยเฉพาะตัวเขาที่มาจากดินแดนต้องห้ามไม่มีทางเลยที่จะเก็บคำพูดไร้มารยาทของมดปลวกมาใส่ใจ
เขายิ้มและกล่าว “ในเมื่อรู้ว่าข้ามาจากดินแดนต้องห้ามแปดศิลา งั้นก็คงเป็นเจ้าสินะ” เขาแน่นิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ชื่อของข้าคือฮูเฟิง เจ้าจะเรียกข้าด้วยชื่อนี้ก็ตามสะดวก”
หลิงฮันหัวเราะและกล่าวตอบ “ข้าคือหลิงฮัน เจ้าเองก็เรียกชื่อข้าได้ตามสะดวก”
ฮูเฟิงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ใบหน้ากระตุกเล็กน้อย เขาเป็นถึงตัวตนระดับเซียน การที่ตัวเขาจะแสดงท่าทีถ่อมตัวและไม่แยแสย่อมเป็นเรื่องปกติ แต่หลิงฮันเป็นเพียงจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์เท่านั้นกลับกล้าทำตัวตีเสมอเขา!
น้ำเสียงของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นขึงขัง “เจ้าสังหารคนของตระกูลฮูของข้า คิดว่าจะหลบหนีพ้น?”
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “งั้นก็พยายามหน่อยแล้วกัน บางอย่างอาจไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิด!”
ริมฝีปากของฮูเฟิงกระตุก หลิงฮันกล้าย้อนคำพูดของเขาแถมยังคิดว่าตนเองจะหนีรอดไปได้? หากเป็นเช่นนั้นจริงเขาจะเป็นเซียนที่ไร้ค่าขนาดไหนกัน ขนาดมดปลวกระดับวารีนิรันดร์ก็ไม่สามารถจับตัวเอาไว้ได้?
เขามั่นใจว่าหลิงฮันมีหยดโลหิตของราชาเซียนเพียงหยดเดียวแน่นอน และหนึ่งหยดที่ว่าก็ถูกใช้ไปแล้ว แต่การที่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีหวาดหวั่นใดๆเลยนั้นเริ่มทำให้เขาเป็นกังวลขึ้นมา
เขาเป็นคนที่มีนิสัยขี้ระแวงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ฮูเฟิงไม่รีบที่จะลงมือ หากไม่มีหยดโลหิตราชาเซียนหลิงฮันจะหนีไปไหนได้?
“วิธีการอันใดที่เจ้าคิดว่าจะหนีพ้นจากเงื้อมมือของข้าได้?” ฮูเฟิงกล่าวอย่างไม่รีบร้อน
หลิงฮันมองความคิดของอีกฝ่ายออกได้อย่างง่ายดาย การที่เขาได้พบเจอสุนัขตัวดำ โสมเฒ่าและเจ้ากระต่ายเป็นเวลานานทำให้เขาอ่านความคิดอันซับซ้อนของคนอื่นได้อย่างเฉียบขาด “แม้ท่าทีของเจ้าจะดูเฉยเมย แต่แท้จริงแล้วกำลังตรวจสอบอยู่ว่าข้ายังเหลือหยดโลหิตเซียนอยู่อีกรึไม่และกลัวว่าข้าจะฉวยโอกาสหลบหนีไป?”
เป็นอย่างที่ว่า!
เขายังคงยิ้มและกล่าว “ระดับวารีนิรันดร์ตัวจ้อยเช่นเจ้า ต่อหน้าข้าคนนี้จะทำอะไรได้?”
หลิงฮันส่ายหัว “เจ้านี่ช่างเป็นตัวบัดซบจริงๆ ผู้อาวุโสของเจ้าถูกข้าสังหารไปแท้ๆ เจ้ากลับยังทำตัวนิ่งเฉยแบบนี้ ข้าไม่เคยเห็นขยะเนรคุณเช่นเจ้ามาก่อน หากเจ้าเป็นบุตรหลานของข้าข้าคงเอาขี้แถ้ายัดปากเจ้าตายไปนานแล้ว!”
ดวงตาของฮูเฟิงชะงักและเปิดกว้าง มดปลวกตรงหน้ากล้าเหยียดหยามเขา! ตัวบัดซบ? เนรคุณ? เอาขี้เถ้ายัดปาก? เขาทนนิ่งเฉยไม่ไหวอีกต่อไป
“บังอาจ!” ฮูเฟิงลงมือด้วยใบหน้าบูดบึ้งเกรี้ยวกราด
หากคนจากดินแดนต้องห้ามแปดศิลาอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องตกตะลึงมากเป็นแน่ ฮูเฟิงนั้นตั้งแต่ตั้งยังเด็กเขาถูกรู้จักในนามของ ‘หินที่ไม่หวั่นไหว’ ต่อให้สวรรค์ร่วงหล่นใบหน้าของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนสี ตั้งแต่เป็นเด็กต่อให้ถูกรังแกแบบใดเขาก็ไม่ร้องไห้หรือไม่เปลี่ยนสีหน้า
แต่ตอนนี้หินที่ไม่หวั่นไหวคนนั้นกลับลงมือด้วยความโกรธจนไม่เหลือความสุขุมอีกต่อไป!
หลิงฮันมีสหายเป็นใคร? ทั้งสุนัขตัวดำ โสมเฒ่าและเจ้ากระต่าย หากเป็นเรื่องคำพูดคำจาเขาย่อมสามารถทำให้ผู้อื่นเกี้ยวกราดได้แน่นอน
หลิงฮันโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เตรียมรอไว้แล้ว ‘ตูม’ ร่างของเขาถูกกระแทกลอยกระเด็นไปหลายหมื่นไมล์ บนอวกาศแห่งนี้ไม่มีวัตดุให้ร่างของเขาตกกระทบ ร่างของเขาจึงลอยดิ่งไปแบบไม่หยุดจนกระทั่งไปกระแทกเข้ากับอุกกาบาตลูกหนึ่ง
“หืม?” ฮูเฟิงอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทีตกตะลึง รุ่นเยาว์ตรงหน้าต้านทานการโจมตีของเขาได้?
ฝืนสวรรค์! ไร้เหตุผลจนฝืนสวรรค์ยิ่ง!
เซียนซิงฉาเล่าเพียงว่าหลิงฮันใช้อำนาจของหยดโลหิตราชาเซียน แต่เขาปกปิดเรื่องการเดิมพันเอาไว้ เพราะงั้นฮูเฟิงและฮูลั่วจึงไม่รู้ว่าหลิงฮันมีพลังป้องกันที่น่าสะพรึงกลัวเพียงใด
อำนาจป้องกันนี้ไม่ได้เกิดจากสมบัติแต่เป็นอำนาจของหลิงฮันโดยแท้
ทักษะบ่มเพาะที่ทรงพลังขนาดนี้คือทักษะแบบใดกัน?
แววตาของฮูเฟิงส่องประกาย ในฐานะอัจฉริยะของดินแดนต้องห้ามเขาย่อมรู้ถึงเหตุการณ์มหาโศกนาฏกรรมในดินแดนแห่งเซียนซึ่งเป็นต้นเหตุให้ตระกูลฮูต้องถูกขับไล่ออกมา
อันที่จริงดินแดนต้องห้ามแปดศิลาไม่ได้ถือว่าเป็นขุมอำนาจที่ทรงพลังอะไรเลยในหมู่ขุมอำนาจที่ล่มสลายจากมหาโศกนาฏกรรมใน ในเหตุการณ์นั้นมีตัวตนระดับราชานิรันดร์จำนวนไม่น้อยที่ตกตาย ซึ่งราชันวารีสวรรค์ก็คงได้รับมรดกสืบทอดจากราชานิรันดร์ที่ตกตายที่ว่านั่นเขาถึงได้สามารถแข็งแกร่งขึ้นในระยะเวลาอันสั้นและถูกเหล่าดินแดนต้องห้ามไล่ล่า
เจ้าหนูผู้นี้ต้องได้รับมรดกสืบทอดต่อมาจากราชันวารีสวรรค์เป็นแน่ ไม่เช่นนั้นเขาจะมีทักษะบ่มเพาะที่สามารถต้านทานได้แม้กระทั่งการโจมตีของเซียนได้อย่างไร?
ทันใดนั้นเองความโลภก็เข้าครอบงำฮูเฟิง เขายกมือขึ้นและโจมตีไปยังหลิงฮันอีกครั้ง
หลิงฮันไม่อาจหลบได้พ้นและทำได้เพียงโคจรทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์เพื่อต้านทาน ‘ตูม’ ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยแสงสลัวสีทองราวกับเทพสงครามไร้พ่ายและป้องกันการจู่โจมตีไว้ได้อีกครั้ง หลิงฮันกัดฟันในใจ ฮูเฟิงผู้นี้ทรงพลังกว่าฮูอิงมู่มาก เพียงแค่รับการโจมตีสองครั้งปราณก่อเกิดในร่างของเขาก็แห้งเหือด
เขาหัวเราะและกล่าว “ดินแดนต้องห้ามแปดศิลาอะไรกัน ตัวตนระดับเซียนก็แค่งั้นๆ! เฟิงน้อยเอ๋ย พี่ชายหลิงไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า ไว้พบกันใหม่!”
กล่าวเขาหลิงฮันก็เข้าไปในหอคอยทมิฬทันที
เมื่อเข้าไปยังหอคอยทมิฬเขาก็ทิ้งร่างแผ่นอนลงที่พื้น
การ์โจมตีครั้งที่สองของฮูเฟิงทำให้เขาได้รับบากเจ็บบางส่วน กระดูกในร่างของเขาส่งเสียงราวกับจะแตกหัก
“หากศัตรูเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งกว่านี้อย่างเซียนระดับสูงข้าคงไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้” หลิงฮันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าความสามารถที่ใช้รับการโจมตีของเซียนจะถูกกำจัดเอาไว้แค่เซียนระดับกลาง
เมื่อตอนพลังบ่มเพาะระดับดาราเขาสามารถต้านทานการโจมตีของเซียนระดับต้นได้ และเมื่อบรรลุระดับวารีนิรันดร์ความสามารถของเขาถึงพัฒนาขึ้นมาให้ต้านทานการโจมตีของเซียนระดับกลาง
หากสิ่งที่เขาบ่นออกมานี้ถูกคนอื่นได้ยิน ผู้คนจะต้องโมโหจนแทบจะบ้าคลั่งแน่นอน นอกจากสัตว์ประหลาดเช่นเจ้าแล้วจะมีจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์คนใดสามารถรับการโจมตีของเซียนได้?