Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1559
จ้าวอสูรเฒ่ามองไปยังจ้าวอสูรขวงล่วนเป็นคนแรกก่อนจะกวาดสายตามองจ้าวอสูรคนอื่นๆ “พวกเจ้ามีปัญหาอะไร?”
จ้าวอสูรป้าเจี้ยนก้าวออกมาและกล่าว “ที่นี่ไม่ต้อนรับคนนอก!”
“ฮ่าๆๆ” จ้าวอสูรเฒ่าหัวเราะและกล่าว “หากเจ้ามีความสามารถพอที่จะไล่ข้าออกไปข้าก็จะไป แต่ถ้าไม่มีก็หุบปากไปซะ!”
จ้าวอสูรคนอื่นๆจ้องมองจ้าวอสูรเฒ่าด้วยแววตาเย็นยะเยือกทันที
เจ้าเป็นคนนอกแท้ๆ แต่กลับกล้าทำตัวอวดดีเช่นนี้?
“จะสู้ก็เข้ามา!” ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
รุ่นเยาว์ทั้งห้าคนข้างกายเขาเองก็มีท่าทีหยิ่งยโสราวกับไม่เห็นจ้าวอสูรคนอื่นๆอยู่ในสายตา
หลิงฮันอดรู้สึกไม่ได้ว่า เหมือนเขาจะเคยพบคนที่มีท่าทีอันหยิ่งยโสจนฝังลึกถึงกระดูกเช่นรุ่นเยาว์ทั้งห้ามาก่อน
จ้าวอสูรป้าเจี้ยนไม่กล่าวอะไร เขายกมือขึ้นมาพร้อมกับปลดปล่อยคลื่นแสงแห่งดาบเข้าใส่ชายชรา คลื่นดาบนี้มีความยาวเพียงหนึ่งฟุตและดูธรรมดาเป็นอย่างมาก
แต่การโจมตีของจ้าวอสูรมีรึจะธรรมดาอย่างที่เห็นภายนอก?
ชายชรายิ้มเล็กน้อยและยื่นฝ่ามือออกไปต้านคลื่นแสงแห่งดาบ การโจมตีของจ้าวอสูรป้าเจี้ยนที่พุ่งเข้ามาถูกทำให้สลายหายไปโดยไม่หลงเหลือพลังใดๆแม้แต่นิดเดียว
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น จ้าวอสูรทั้งหลายก็เผยสีหน้าตกตะลึง
แม้จ้าวอสูรป้าเจี้ยนจะยังไม่เอาจริง แต่เขาก็เป็นจ้าวอสูรระดับเหลืองที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง แค่การโจมตีทั่วไปของเขาก็ทรงพลังมากแล้ว การที่การโจมตีถูกสลายได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นย่อมหมายความว่าชายชราผู้นี้มีพลังแข็งแกร่งเกินจะหยั่งถึง
หากจะสู้เป็นตายกับปรมาจารย์เช่นนั้นพวกเขาทั้งสิบเจ็ดคนจำเป็นต้องลงมือพร้อมกัน และอาจจะมีหนึ่งถึงสองคนที่เสียชีวิต
แต่กว่าจะบรรลุเป็นจ้าวอสูรได้คิดว่าพวกเขาฝ่าฟันความลำบากมากมาเพียงใด เพราะงั้นใครกันจะอยากตาย?
ชายชราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีคุณสมบัติพอจะคุมสถานการณ์ที่นี่
“เหอๆ แทนที่จ้าวอสูรเช่นพวกเราจะบาดหมางและสังหารกัน ทำไมไม่ให้รุ่นเยาว์มาแลกเปลี่ยนวรยุทธกันแทนล่ะ” จ้าวอสูรสตรีคนหนึ่งเอ่ยกล่าว นางเป็นหญิงชราทียืนโดยใช้มือข้างหนึ่งค้ำไม้เท้าสีแดงที่ดูเก่าแก่เอาไว้
ไม้เท้าในมือนางไม่ใช่ไม้เท้าธรรมดาแต่เป็นอุปกรณ์เซียนที่ทรงพลัง
จ้าวอสูรคนอื่นๆที่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย
ในหมู่ศิษย์หรือคนของพวกเขา มีบางคนที่เป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น อย่างเช่นโม่หลีและจูป้า หากให้เหล่ารุ่นเยาว์เป็นคนลงมือ ไม่เพียงแค่พวกเขาจะสามารถควบคุมสถานกาณ์ได้แต่อาจจะสามารถไล่พวกคนนอกเหล่านี้ให้กลับออกไปได้อีกด้วย
ชายชรามีท่าทีไม่แยแสและยิ้มเจ้าอย่างอวดดี เขาย่อมรู้ว่าเจ้าอสูรเหล่านี้คิดอะไร เขาหันหน้าและกล่าว “โม่เอ๋อร์ เจ้าไปให้คำชี้แนะคนเหล่านั้นเสียหน่อย”
“ขอรับผู้อาวุโสหก” รุ่นเยาว์คนหนึ่งก้าวเดินออกมา เขาเป็นชายหนุ่มหล่อเหลา ผิวสีขาวของเขาส่องกระกายแสงสลัวสีทองแวววาว เขามองไปยังรุ่นเยาว์มากมายและยิ้ม “ข้าถังโม่ ใครต้องการแลกเปลี่ยนวรยุทธกับข้า?”
จ้าวอสูรป้าเจี้ยนลังเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “โม่หลี จูป้า หยุนเหอ พวกเจ้าสามคนไปเป็นคู่ประลองให้พวกเขา”
“ฝ่ายเจ้าเองก็ส่งคนมาสามคนด้วย” จ้าวอสูรขวงล่วนกล่าวกับจ้าวอสูรชรา
ชายชรายิ้มและกล่าว “ไม่จำเป็น แค่หนึ่งคนก็เพียงพอ!”
จะให้คนเดียวปะทะสามคน?
อย่างที่รู้กันว่าม่อหลี จูป้าและหยุนเหอนั้นเป็นจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับวารีนิรันดร์ ทั้งสามควบแน่นดวงดาราได้มากเกินกว่าหนึ่งล้านดวง หากไม่ใช่เพราะอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของระดับสร้างสรรพสิ่งเข้าใจยากเกินไป ป่านนี้ทั้งสามคงบรรลุเป็นจ้าวอสูรแล้ว
“ข้าขอเป็นคนแรก!” จูป้ากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ แน่นอนว่าปรมาจารย์เช่นเขาย่อมไม่อยากร่วมมือกับคนอื่นเพื่อเอาชนะศัตรู
ถังโม่กล่าวอย่างไม่แยแส “รีบๆลงมือซะ” เขากล่าวราวคนตนเองเป็นพี่ใหญ่ที่กำลังให้คำชี้แนะศิษย์น้อง
จูป้าเกรี้ยวกราด เขาก้าวออกไปและปล่อยหมัดทันที
ที่นี่มีจ้าวอสูรอยู่มากมาย เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะลงมือหนักเกินไป
ถังโม่พลักฝ่ามือออกมาเบาๆ ‘ครืนน’ คลื่นพลังอันน่าสะพรึงกลัวราวกับจะบดขยี้ปฐพีให้สิ้นซากพุ่งถูกปลดปล่อยเข้าใส่จูป้า
ทันทีที่เห็นการจู่โจมที่พุ่งเข้ามา จูป้าก็ไม่กล้ารับมือและรีบหลบหลีกอย่างรวดเร็ว
แม้แต่จ้าวอสูรครอื่นๆก็ตกตะลึง เหตุใดรุ่นเยาว์ผู้นั้นถึงทรงพลังขนาดนั้น นี่เขาควบแน่นดวงดาวสำเร็จที่ดวงกันแน่?
ถึงแม้ตามทฤษฎีแล้วจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์จะสามารถควบแน่นดวงดาราได้อย่างไม่มีขีดจำกัด แต่นั่นก็เป็นแค่ทฤษฎี ความจริงนั้นหลังจากดวงดารามีจำนวนมากเกินกว่าหนึ่งล้านดวง หากยังไม่สามารถทะลวงผ่านระดับพลังใหม่ได้การควบแน่นดวงดาราก็จะทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ต่อให้จะควบแน่นดวงดาราได้มากเพียงใด จำนวนของดวงดาราก็ไม่สมควรเกินกว่าหนึ่งล้านหนึ่งแสนดวง
แต่หากเป็นเช่นนั้น ถังโม่ผู้นี้จะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไร?
ในตอนที่ถังโม่โจมตี เขาเพียงแค่ผลักฝ่ามือออกมาโดยไม่ใช้ทักษะยุทธใดๆเลย
รุ่นเยาว์คนอื่นๆใบหน้าเปลี่ยนสี ในความคิดของพวกเขาจูป้าคือตัวตนระดับวารีนิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เมื่อครู่เขากลับต้องหลบหลีกการโจมตีของคู่ต่อสู้ราวอย่างเอาเป็นเอาตาย
“พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันเลย!” ถังโม่ผลักฝ่ามือออกไปอีกครั้งทำให้ม่อหลีและหยุนเหอต้องลงมือ
จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสามร่วมมือกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไร้ความหมาย ถังโม่ราวกับเป็นจักรพรรดิสวรรค์ที่สามารถบดขยี้ทุกสิ่งได้ด้วยฝ่ามือเดียว พวกม่อหลีทั้งสามคนทำได้เพียงหลบหลีกการโจมตีและล่าถอย
“พอเท่านั้น!” จ้าวอสูรขวงล่วนยื่นมือเข้าไปหยุดการประลองและเอ่ยกับชายชรา “สหายมีชื่อว่าอะไร?”
ชยาชรายิ้ม “ข้าผู้นี้คือถังเฟิง แห่งดินแดนต้องห้ามตงชาง”
“ขอกล่าวกับสหาย ศิษย์ของเจ้าสามารถเข้าไปด้านในได้ แต่เขตแดนลี้ลับนี้มีอำนาจลึกลับที่เหนือกว่าจ้าวอสูรระดับดำ หากพวกเราเข้าไปจะเป็นการกระตุ้นให้อำนาจลึกลับทำงาน เพราะงั้นพวกเราจึงต้องรอคอยอยู่ด้านนอก” จ้าวอสูรสตรีเฒ่ากล่าว
ถังเฟิงตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า “ถังโม่ ฝากเจ้าดูแลพี่น้องคนอื่นด้วย”
“ขอรับ” ถังโม่พยักหน้าอย่างสุภาพก่อนจะหันไปมองรุ่นเยาซ์อีกสี่คน และเคลื่อนที่เข้าสู่ทางเข้าเขตแดนเป็นกลุ่มแรก เมื่อผ่านเข้าไปร่างของพวกเขาก็หายไปด้วยความเร็วที่แม้แต่จ้าวอสูรก็ไม่อาจคว้าเอาไว้ทัน
รุ่นเยาว์คนอื่นๆมีสีหน้าบูดบึ้ง เขตแดนลี้ลับแห่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสของพวกเขาค้นพบแท้ๆ แต่กลับต้องถูกคนอื่นแย่งชิงไป
แต่ว่าหากพวกเขาพบเจอทั้งห้าคนด้านใน พวกเขาคงทำได้เพียงหลีกเลี่ยงการปะทะเนื่องจากถังโม่แข็งแกร่งเกินไป
“ไปได้!”
หลิงฮันและคนอื่นๆเคลื่อนที่ผ่านทางเข้า ร่างของพวกเขาค่อยๆหายไปทีละคน เมื่อพวกเขาปรากฏตัวอีกครั้งด้านในเขตแดน พวกเขาก็พบกับสภาพแวดล้อมของมหาสมุทรอันไร้ที่สิ้นสุด
อันดับแรกคือพวกเขาต้องข้ามผ่านมหาสทุรนี้ไปให้ได้
หลิงฮันยืนนิ่งอยู่กลางอากาศโดยมีจอมยุทธมากมายเหาะเหินลอยผ่านหน้าเขาไป รุ่นเยาว์ทั้งห้าที่เข้ามาก่อนเองก็ไม่อยู่แล้ว
“ที่นี่มีบางสิ่งที่จำเป็นสำหรับข้า” จู่ๆหอคอยน้อยก็กล่าวขึ้นมา