Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1587
ที่ฮูเฟิงยอมเสี่ยงขนาดนี้เขามีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียวคือเพื่อให้ได้ครอบครองทักษะระดับราชานิรันดร์และอุปกรณ์นิรันดร์
ไม่เช่นนั้นหากพันธมิตรดินแดนต้องห้ามของดินแดนใต้พิภพได้สมบัติไป พันธมิตรของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะได้ส่วนแบ่งอะไร?
ในเมื่อทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์สามารถผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ให้เป็นหนึ่งและช่วยให้เข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนได้ พันธมิตรทลายสวรรค์จะยังมีความหมายอีกต่อไป? และความร่วมมือกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะยังจำเป็นอยู่?
พวกเขาจะช่วยผสานดินแดนทั้งสองให้เป็นหนึ่งเพื่อทุกคน? ไร้สาระ! ในเมื่อสามารถเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนได้เองแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำแบบนั้น
พรึบ!
ร่างของฮูเฟิงพุ่งทะยาน เป้าหมายของเขาคือสตรีนกอมตะและจักรพรรดินี ในเมื่อหลิงฮันได้รับการคุ้มกันจากวิญญาณศาสตรา เขาก็ต้องใช้ประโยชน์จากสตรีทั้งสองนี้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
“บอกไปแล้วไม่ใช่รึว่าข้าคือผู้มีอำนาจสูงสุดของที่นี่” หลิงฮันสะบัดฝ่ามือ ‘ตูม’ ร่างของฮูเฟิงถูกผลักลอยกระเด็นราวกับว่าวเชือกขาด
อัก!
ฮูเฟิงกระอักโลหิต ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความตะลึง… นี่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮันงั้นรึ!
เซียนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ ใครจะทำใช้เชื่อลง?
“อย่าได้คิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง หากมีพลังต่ำกว่าราชานิรันดร์ ใครก็ตามที่เข้ามาในหอคอยทมิฬย่อมต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
ฮูเฟิงฝืนลุกขึ้นยืน หลิงฮันไม่ได้คิดจะสังหารเขาทันทีเพราะหากอีกฝ่ายต้องการเขาคงจบชีวิตด้วยฝ่ามือเมื่อครู่แล้ว เขารู้สึกอิจฉาและไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ที่หลิงฮันมีอำนาจขนาดนั้นได้เพียงเพราะแค่ครอบครองอุปกรณ์นิรันดร์!
“ไม่ สมบัตินี้จะต้องเป็นของข้า! ข้าคือฮูเฟิงผู้มีพรสวรรค์ท้าทายสวรรค์และสักวันจะกลายเป็นใหญ่ในดินแดนแห่งเซียน วิญญาณศาสตราจงฟังข้า หากเจ้าติดตามข้า ข้าจะนำพาเจ้าหวนคืนสู่จุดสูงสุด!” ฮูเฟิงตะโกนใส่ท้องฟ้า
เขารู้แล้วว่าในที่นี้ตัวเขาไม่สามารถขัดขืนหลิงฮันได้ เพราะงั้นความหวังสุดท้ายคือต้องทำให้วิญญาณศาสตรามาเป็นพวก
หอคอยน้อยปรากฏตัวและหันไปทางหลิงฮัน “ที่เขาพูดก็เป็นความจริงอยู่บ้าง เจ้าหนู รีบๆอ้อนวอนให้ข้ายอมอยู่กับเจ้าต่อสิ”
หลิงฮันยิ้ม เขารู้ว่าหอคอยอวดดีตนนี้แค่ล้อเล่นเท่านั้น
ฮูเฟิงราวกับพบความหวังที่จะรอดชีวิต “วิญญาณศาสตรา ข้าขอสัญญาว่าตราบใดที่เจ้าติดตามข้า ข้าจะปฏิบัติกับเจ้าอย่างเท่าเทียมและไม่ออกคำสั่งกับเจ้า!”
หอคอยน้อยเค้นเสียงดูถูก อย่างกับว่าในตอนนี้หลิงฮันสามารถสั่งการมันได้อย่างนั้นล่ะ
หลิงฮันปรบมือ “ฮูเฟิง เลิกดิ้นรนและยอมรับชะตากรรมของเจ้าเสียเถอะ”
“ฮึ่ม คนที่พึ่งพาอำนาจของอุปกรณ์นิรันดร์เช่นเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกข้า เจ้ากล้าใช้เพียงพลังของเจ้ามาสู้กับข้ารึเปล่า?” ฮูเฟิงกล่าวอย่างดิ้นรน หากไม่ใช่วิธีนี้เขาก็ไม่มีโอกาสเอาชีวิตรอด
“เจ้าต่างหากที่มีพลังระดับสร้างสรรค์พสิ่งแต่คิดจะเอาเปรียบสามีของข้า ช่างไร้ยางอายนัก!” สตรีนกอมตะสบถ
ฮูเฟิงแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เพื่อเอาชีวิตรอดเขาไม่สนใจทั้งนั้นว่าตัวเองจะไร้ยางอายแค่ไหน
หลิงฮันส่ายหัวและกล่าว “ฮูเฟิง ก่อนหน้านี้ในตอนที่เจ้าไล่ตามข้าทำไมเจ้าไม่ลดระดับพลังของตัวเองมาสู้กับข้าล่ะ? จริงสิ ในสายตาเจ้าข้าคงเป็นเพียงมดปลวกเท่านั้นจึงไม่จำเป็นต้องแยแส ตอนนี้ก็เหมือนกัน ในสายตาข้าเจ้ามีค่าเทียบเท่ามดปลวกไม่ได้ด้วยซ้ำ!”
“ข้าเสียเวลาพล่ามไร้สาระกับเจ้ามานานแล้ว เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าอุตส่าห์รนหาที่ตายมาถึงในดินแดนใต้พิภพ ข้าจะส่งเจ้าไปยังเส้นทางที่เจ้าเลือกให้เอง!”
“ไม่!” ฮูเฟิงคำรามด้วยความไม่ยินยอม
‘ครืนน’ เขาเผลาผลาญแก่นพลังชีวิตของตนเองและดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย
จอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งที่เผาผลาญพลังชีวิตนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก แต่น่าเสียดายที่ในหอคอยทมิฬนี้หลิงฮันคือผู้แข็งแกร่งที่สุด
หลิงฮันชี้นิ้ว ‘พรึบ’ คลื่นพลังอันไร้ที่สิ้นสุดตกกระทบลงมาใส่ร่างฮูเฟิงจนล้มไปนอนกับพื้น แขนขาทั้งสี่ของเขากางออกโดยไม่สามารถต้านทานได้แม้แต่น้อย
“ข้าไม่ยอมรับ! ไม่มีทาง!” ฮูเฟิงถลึงตาเหี้ยมโหดและไม่ร้องขอความเมตตา เขารู้สึกโกรธแค้นตัวเองเป็นอย่างมากที่ทำไมไม่รีบสังหารหลิงฮันตั้งแต่เนิ่นๆ
“เจ้าแค่นำไปก่อน อีกไม่นานเมื่อข้ากลับไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนต้องห้ามแปดศิลาก็จะตามเจ้าไป!” หลิงฮันเค้นเสียงและกดฝ่ามือลง ‘ครืนน’ ร่างของฮูเฟิงสั่นสะท้านก่อนจะแหลกสลายเป็นเศษฝุ่นในพริบตา
หลิงฮันสะบัดมือเก็บความทรงจำของฮูเฟิงเอาไว้และตรวจสอบอุปกรณ์มิติของอีกฝ่าย
ฮูเฟิงสามารถสร้างอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ได้ก็จริงแต่พื้นที่นั้นมีจำกัด เพราะงั้นต่อให้เขาเป็นจ้าวอสูรเขาก็ยังพกพาเพียงอุปกรณ์มิติทั่วไป
หลังจากดูความทรงจำของฮูเฟิง หลิงฮันก็เข้าใจว่าทำไมฮูเฟิงถึงหาเขาพบ เมื่อสังหารคนของตระกูลฮูจะมีสิ่งที่เรียกว่าบ่วงอาฆาตเกิดขึ้น การจะขจัดบ่วงอาฆาตที่ว่าทิ้งจำเป็นต้องผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สามครั้ง
เพียงแต่ว่าในส่วนที่เป็นความลับของตระกูล ความทรงจำของฮูเฟิงถูกผนึกเอาไว้ทำให้ไม่สามารถอ่านได้
“ไม่ใช่ปัญหา อย่างน้อยข้าก็รู้แล้วว่าดินแดนต้องห้ามแปดศิลาอยู่ไหน อีกไม่นานข้าจะไปอาละวาดที่นั่น!” หลิงฮันพึมพำ
“เอาล่ะ ตอนนี้เหลือแค่รอให้เฒ่าตระกูลถังมาถึง”
หลิงฮันแน่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “หอคอยน้อย วาสนาศักดิ์สิทธิ์สามครั้งจะทำให้ข้ามีพลังต่อสู้เท่าใด ข้าจะสามารถกำราบจ้าวอสูรสวรรค์และราชาเซียนได้ทุกคนเลยรึไม่?”
หอคอยน้อยปรากฏตัว “พลังบ่มเพาะของเจ้าจะยกระดับเป็นระดับสร้างสรรพสิ่งขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด ส่วนในด้านของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เจ้าก็จะเหนือกว่าจ้าวอสูรสวรรค์และราชาเซียนทุกคนหนึ่งขั้น”
“หมายความว่าในการปะทะตัวต่อตัวข้าจะเอาชนะศัตรูได้แน่นอน?” หลิงฮันถาม
“ถูกต้อง”
“แล้วถ้าเป็นหนึ่งต่อร้อยหรือมากกว่านั้นล่ะ?”
“ในสถานการณ์เช่นนั้นเจ้าคงต้องเผ่นหนีอย่างสุดชีวิต” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่แยแส “ต่อให้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเจ้าจะทรงพลังกว่า แต่จ้าวอสูรสวรรค์และราชาเซียนคนอื่นๆก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเจ้ามากนัก หากหนึ่งต่อสิบยังพอสามารถเสมอได้ แต่ถ้าศัตรูมีมากกว่าสิบแล้วยังฝืนสู้ เจ้าคงมีชะตากรรมเดียวคือความตาย”
หลิงฮันถอนหายใจและคำนวณ จำนวนของราชาเซียนสูงสุดและจ้าวอสูรสวรรค์สูงสุดที่เขาสามารถสังหารได้นั้นมีจำกัด เขาคงต้องใช้วาสนาศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามครั้งติดต่อกันทันทีหากต้องการสังหารจ้าวอสูรสวรรค์หรือราชาเซียนยี่สิบถึงสามสิบคนพร้อมกัน
เพียงแต่ว่าจำนวนของราชาเซียนและจ้าวอสูรสวรรค์ของดินแดนต้องห้ามนั้นมีอยู่ไม่มาก แถมพวกเขาก็ใช้ว่าจะมาพร้อมกันหมดทุกคนด้วย เพราะงั้นแค่เขาใช้วาสนาศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวก็น่าจะเพียงพอ