Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1594
ห้วงมิติของบริเวณนี้บิดเบี้ยวผิดรูปร่างอย่างน่าแปลกประหลาด
เมื่อหลิงฮันเคลื่อนที่ไปด้านหน้าหนึ่งช่วงจะกลายเป็นว่าเขาล่าถอยกลับมาสามช่วง หรือบางครั้งเมื่อเขาเล่าถอยหนึ่งช่วงกลับกลายเป็นว่าเข้าเคลื่อนที่ไปด้านหน้าสิบช่วง
“มีเพียงการที่เจ้าเข้าใจอำนาจกฎแห่งเกณฑ์มิติเท่านั้นถึงจะหาทางลัดพบ” หอคอยน้อยกล่าว “แต่เจ้าค่อยๆใช้เวลาคลำหาทางไปก็ได้ แต่ต่อให้เจ้าจะเจอเส้นทางที่ถูกต้อง หากบุปผาห้วงมิติมีการเปลี่ยนแปลงแม้เล็กน้อยเจ้าก็ต้องคลำหาทางใหม่ตั้งแต่ต้น”
“ในดินแดนแห่งเซียน วิถีของราชานิรันดร์ที่เชี่ยวชาญอำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิตินั้นเป็นหนึ่งในวิถีที่ยากลำบากที่สุด” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ำเสียงหึกเหิมโดยที่หลิงฮันยังไม่ถามอะไร “เพียงแต่ราชานิรันดร์ที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิตินั้นก็แค่ต่อกรด้วยยากเท่านั้น หากพบเจอกับราชานิรันดร์ที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารต่างหากถึงจะเรียกว่าสิ้นหวังอย่างแท้จริง อำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารนั้นเพียงแค่นึกคิดก็สามารถทำให้ศัตรูสิ้นชีพได้”
“ในด้านของพลังต่อสู้เพียงอย่าวเดียว มีแค่ราชานิรันดร์ที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารเท่านั้นที่สามารถสู้ข้ามระดับได้ เพียงแต่ว่าหากบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าสวรรค์เมื่อไหร่ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์จะไม่มีผลอีกต่อไป ราชานิรันดร์ระดับเก้าสวรรค์คือตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเต๋าแห่งนิรันดร์ พวกเขาไม่มีข้อได้เปรียบหรือข้อเสียเปรียบในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ สิ่งที่จะวัดกันได้มีเพียงว่าใครคนไหนเชี่ยวชาญในพลังมากกว่ากัน”
หลิงฮันถอนหายใจและกล่าว “วันนี้เจ้ากินยาผิดขวดรึไง เหตุใดถึงได้พูดเยอะแปลกๆ?”
“ข้าไม่ยุ่งกับเจ้าแล้ว…” หอคอยน้อยเค้นเสียงก่อนจะเลิกพูดกับหลิงฮัน
น่าเสียดายที่ฮูหนิวไม่อยู่ที่นี่ เด็กสาวผู้นี้ราวกับเกิดมาเพื่อเป็นเข็มทิศ อยู่กับนางหลิงฮันไม่ต้องกังวลว่าจะหลงทาง
หลิงฮันเรียกจักรพรรดินีออกมา เหตุผลที่เรียกคือหนึ่งจักรพรรดินีมีแก่นกำเนิดนิรันดร์ บางทีนางอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง และสองคือเขาเบื่อ หากมีจักรพรรดินีอยู่ด้วยย่อมอุ่นใจกว่าอยู่คนเดียว
ยิ่งกว่านั้นจักรพรรดินีก็ยังสามารถแยกร่างได้ถึงเก้าร่าง ต่อให้ร่างหลักของนางออกมาอยู่กับเขาร่างแยกอีกเก้าร่างก็ยังบ่มเพาะพลังต่อไปได้โดยเสียเวลาบ่มเพาะลดลงเพียงหนึ่งในสิบ
“บุปผาห้วงมิติ!” จักรพรรดินีเผยสีหน้าตะลึง นางพอมีความทรงพลังคร่าวๆของดินแดนแห่งเซียนที่ส่งผ่านสายเลือดและแก่นกำเนิดนิรันดร์อยู่บ้าง
“อำนาจแห่งกฎเกณฑ์บางประเภทฝึกฝนได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลา อำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิติและอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ว่ามานี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมและจะฝึกฝนได้ก็ต่อเมื่อดูดซับอำนาจของสมุนไพรนิรันดร์เพียงอย่างเดียว”
“มิติคือหนึ่งในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ทรงพลังที่สุดก่อนบรรลุราชานิรันดร์เก้าสวรรค์”
หลิงฮันพยักหน้า “เพราะงั้นพวกเราจึงต้องนำบุปผาห้วงมิติมาครอบครองให้ได้”
ทั้งสองคนร่วมมือกันปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ตรวจสอบการผันผวนของห้วงมิติและเคลื่อนที่ไปด้านหน้า
โชคดีที่ทั้งสองคนเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เมื่อร่วมมือกันแล้วความเร็วในการเคลื่อนที่จึงรวดเร็วกว่าเดิมมาก แต่พวกเขาก็กลัวว่าจะเป็นอย่างที่หอคอยน้อยบอก หากบุปผาห้วงมิติเกิดการเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยพวกเขาจะต้องเริ่มต้นคลำหาเส้นทางใหม่ตั้งแต่ต้น
‘พรึบ’ เวลาผ่านไปไม่กี่วัน คลื่นแสงแห่งเต๋าก็ลอยผ่านเข้ามาพร้อมกับจ้าวอสูรปรากฏตัว เนื่องจากบุปผาห้วงมิติสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัดแม้จะอยู่คนละเขตดวงดาว ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่มันจะดึงดูดความสนใจของจ้าวอสูร
จ้าวอสูรที่ปรากฏตัวคือชายที่มีรูปลักษณ์อยู่ในช่วงอายุห้าสิบปี เขาไม่แยแสอุปกรณ์บินแหวกเมฆาแม้แต่น้อยเนื่องจากพวกหลิงฮันยังไม่บรรลุแม้ระดับสร้างสรรพสิ่ง
เขาปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ออกมาเช่นกันและคลำหาเส้นทางของห้วงมิติอันบิดเบี้ยว
หลิงฮันไม่หวาดกลัวจ้าวอสูรผู้นี้ ไม่ใช่ว่าเขายังเหลือวาสนาศักดิ์สิทธิ์อีกสองครั้งแต่เป็นเพราะห้วงมิติของที่นี่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก แม้พวกเขาทั้งสองฝ่ายจะอยู่ห่างกันเพียงสิบไมล์ แต่กว่าจ้าวอสูรผู้นั้นจะมาถึงพวกเขาได้คงต้องใช้เวลานับปี
ความลึกลับของมิติช่างน่าอัศจรรย์
หลิงฮันรู้สึกสนใจอำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิติเป็นอย่างมาก หากเขาฝึกฝนสำเร็จเขาจะสามารถส่งการโจมตีของศัตรูข้ามมิติไปยังสถานที่อื่นได้ หรือแม้กระทั่งสามารถส่งการโจมตีกลับคืนไปยังศัตรู
หรือหากเขาเป็นคนโจมตี บางทีเขาอาจจะสามารถโจมตีข้ามผ่านห้วงมิติไปสังหารเป้าหมายที่อยู่คนละเขตดวงดาวได้เลย
น่าเสียดายที่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์มิติไม่ใช่สิ่งที่จะเรียนรู้ได้ผ่านกฎธรรมชาติของสวรรค์และปฐพี แต่จะฝึกฝนได้ก็ต่อเมื่อดูดซับอำนาจมาจากสมุนไพรนิรันดร์
‘พรึบ พรึบ พรึบ’ คลื่นแห่งเต๋าสีทองค่อยๆปรากฏออกมา จ้าวอสูรหลายคนถูกบุปผานิรันดร์ดึงดูดให้มาที่นี่
หนึ่งเดือนต่อมา จู่ๆหลิงฮันก็พบว่ามีบุปผาขนาดเล็กเพียงหนึ่งฟุตปรากฏอยู่ที่ด้านหน้า ด้วยอำนาจกฎเกณฑ์มิติทำให้บุปผาต้นนี้ดูเหมือนจะมีสีแต่ก็ไม่มี ความงดงามของมันยากเกินกว่าจะพรรณนาเป็นคำพูด
นี่คือร่างที่แท้จริงของบุปผาห้วงมิติ!
ในช่วงบริเวณที่ห่างออกมาจากบุปผาห้วงมิติราวๆหนึ่งไมล์ได้เกิดช่องว่างมิติบิดเบี้ยวไม่เสถียร มิติบิดเบี้ยวเหล่านี้สามารถกลายเป็นหลุมดำได้ตลอดเวลา
หากบุปผาห้วงมิติปรากฏให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเช่นนี้ ย่อมหมายถึงมันเติบโตจนสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว เพียงแต่ว่าบุปผานิรันดร์นั้นไม่มีเมล็ดอยู่ภายในทำให้ไม่สามารถนำไปปลูกต่อได้ มันถือกำเนิดขึ้นมาเองด้วยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี
เหล่าจ้าวอสูรที่อยู่รอบข้างจ้องมองด้วยดวงตาแดงฉาน
อันที่จริงนอกจากหลิงฮันกับจักรพรรดินีแล้ว ไม่มีใครอื่นที่รู้ถึงต้นกำเนิดของบุปผาห้วงมิติ แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าจ้าวอสูรก็สามารถคาดเดาถึงความล้ำค่าของบุปผาต้นนี้ได้และต้องแย่งชิงมาอย่างสุดความสามารถ
“หากใครยังไม่อยากตายก็ไสหัวไป!” จ้าวอสูรผู้หนึ่งกล่าวอย่างเย็นชา เขาคำรามผ่านสัมผัสสวรรค์และเปิดเผยพลังบ่มเพาะของตนเองให้รับรู้… จ้าวอสูรระดับดำ!
เมื่อเห็นเช่นนี้ จอมยุทธโดยรอบกว่าหนึ่งสามส่วนก็รีบหันหลังจากไปทันที
ต่อให้บุปผาตรงหน้าจะเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำก็ตาม แต่จะให้ยอมเสี่ยงชีวิตปะทะกับจ้าวอสูรระดับดำนั้นไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย
และนั่นก็เพราะพวกเขาไม่รู้ด้วยว่าบุปผาห้วงมิติคือสมุนไพรนิรันดร์ ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาคงทุ่มเททุกอย่างสุดความสามารถเพื่อแย่งชิงมันมา
“ฮึ่ม พวกเจ้าที่ยังไม่ไสหัวไป หากพบเจอกันอย่าได้กล่าวหาว่าข้าไร้ความเมตตา!” จ้าวอสูรระดับดำผู้นั้นกล่าวโหดเหี้ยม
“นั่นมันจ้าวอสูรห้วงอวิ๋นแห่งดาวตู้หลง!”
“เขาคือจ้าวอสูรระดับดำที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่ง”
“เพียงแต่ว่าห้วงมิติที่บริเวณนี้ซับซ้อนเป็นอย่างมาก เขาอาจจะไม่ใช่คนแรกที่ได้ครอบครองสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ!”
มีจ้าวอสูรจำนวนมากที่ไม่หวาดกลัวคำขู่ แม้จ้าวอสูรส่วนใหญ่จะเป็นเพียงจ้าวอสูรระดับเหลือง แต่ความเร็วของจ้าวอสูรนั้นแทบจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ พวกเขาจึงตั้งใจว่าหากได้ครอบครองสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำก่อนจะรีบเผ่นหนีไปทันที
หลิงฮันยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง เพื่อสมุนไพรนิรันดร์แล้ว หากต้องใช้วาสนาศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬก็ถือว่าคุ้มค่า
“โอ้ ช่างโชคดีอะไรอย่างนี้ แค่ออกมาจากตระกูลครั้งแรกข้าก็ได้พบเจอบุปผาห้วงมิติ!” เสียงของใครบางคนดังขึ้น เมื่อมองไปยังต้นเสียงจะพบเจอกับรุ่นเยาว์คนหนึ่งที่รอบกายส่องประกายแสงเจิดจ้า เขาสวมชุดคลุมสีขาวที่ดูธรรมดาเรียบง่าย แต่หากมองไปยังรูปแบบอาคมที่ส่องประกายบนชุดแล้วจะรู้ได้ทันทีว่ามันคือสมบัติล้ำค่า