Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1597
‘พรึบ’ เพลิงร้อนระอุปะทุออกมาจากภายในร่างหลิงฮัน เหนือคลื่นเปลวเพลิงประดับเอาไว้ด้วยตราประทับแห่งเต๋า
หานฉีเผยสีหน้าเหยียดหยามอย่างถึงที่สุด คนของตระกูลระดับโลกียนิพพานจะฝึกฝนทักษะนิรันดร์ที่ทรงพลังได้เท่าไหนกันเชียว? แค่ตราประทับแห่งเต๋าบนเปลวเพลิงก็ไม่สมบูรณ์ยังคิดจะต่อกรกับเขาอีก?
ช่างโง่เขลา!
“หืม?” แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามีบางอย่างไม่ปกติ หมอกเหมันต์เยือกแข็งของเขาถูกหลอมละลายและพื้นที่รอบด้านกลับถูกทำให้กลับไปสู่สภาพเดิม
อะไรกัน!
ใบหน้าของหานฉีแสดงออกถึงความตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด ทักษะนิรันดร์ของเขาถูกตอบโต้ได้!
เป็นไปได้อย่างไร?
ตราประทับแห่งเต๋าของเปลวเพลิงยังไม่สมบูรณ์แท้ๆแต่กลับมีอำนาจพอที่จะต่อต้านทักษะของเขา หากตราประทับเพลิงสมบูรณ์ขึ้นมาเขายังจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้อยู่อีก?
อีกฝ่ายใช่รุ่นเยาว์ของตระกูลระดับโลกียนิพพานจริงๆ?
หานฉีทำใจเชื่อไม่ลง แต่ครู่ต่อมาจิตใจของเขาก็ต้องสั่นสะท้านเมื่อนึกถึงเหตุผลที่ทำไมเขาถึงต้องมาที่โลกบรรพกาล อันที่จริงการหาประสบการณ์เป็นเพียงเหตุผลหนึ่ง แต่เขายังมีภารกิจอีกอย่างคือตามหามรดกสืบทอดของราชานิรันดร์ที่สาบสูญอยู่ที่โลกบรรพกาล
จากเหตุการณ์มหาโศกนาฏกรรม มีขุมอำนาจมากมายที่ล่มสลายและจอมยุทธมากมายได้ทำการหลบหนีมายังโลกบรรพกาล
ราชานิรันดร์นั้นเป็นตัวตนที่ทรงพลังอย่างมาก ต่อให้จะถูกปิดล้อมสังหารพวกเขาก็ยังมีวิธีการมากมายในการเอาตัวรอด เพียงแต่หากออกมายังโลกบรรพกาลเป็นเวลานาน ต่อให้เป็นราชานิรันดร์อายุขัยของพวกเขาก็จะไม่เป็นอมตะอีกต่อไปและสิ้นชีพในที่สุด
หานฉีจดจ้องไปยังหลิงฮันพร้อมกับคาดเดาในใจ ‘หรืออีกฝ่ายจะพบเจอและได้ครอบครองมรดกของราชานิรันดร์?’ หากไม่ใช่เหตุผลนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ทักษะของตระกูลระดับโลกียนิพพานจะทัดเทียมเขาได้?
ฮ่าๆ นี่มันวาสนาที่สวรรค์ส่งมาให้เขาชัดๆ!
สีหน้าเขาแสดงออกถึงความตื่นเต้น เขาช่างโชคดียิ่งนักที่การเดินทางครั้งนี้จะได้ครอบครองทั้งสมุนไพรนิรันดร์ สตรีงามและทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์
“ไม่ต้องมาทำสีหน้าเพ้อฝัน” หลิงฮันกล่าวอย่างไม่แยแส
“ฮ่าๆๆ ถ้างั้นก็ขอข้าดูหน่อยแล้วกันว่าพลังต่อสู้หรือปากของเจ้ากันแน่ที่แข็งแกร่งกว่ากัน!” ร่างของหานฉีพุ่งทะยาน เขาปรากฏตัวด้านหน้าหลิงฮันและปล่อยหมัด ‘ตูมม’ ตราประทับจำนวนมากระเบิดออกมาปกคลุมทั่วหมัดของเขา ด้านหลังของเขาปรากฏวิถีโคจรดาราจักรที่มีดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน
อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่เขาเชี่ยวชาญคือธาตุเหมันต์ เพราะงั้นหมัดของเขาจึงปลดปล่อยกลิ่นอายเย็นยะเยือกจนห้วงมิติเกิดการแข็งตัว
หลิงฮันไม่หวาดหวั่นและปล่อยหมัดตอบโต้
ตูม! ตูม! ตูม!
ทั้งสองปะทะแลกหมัดกันหลายสิบหมัด สถานการณ์ในตอนนี้ยังยากที่จะตัดสินว่าฝ่ายไหนเหนือกว่ากัน
พวกเขามีพลังบ่มเพาะระดับสร้างสรรพสิ่งขั้นสูงสุดแถมยังฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์เหมือนกันทำให้พลังต่อสู้ของทั้งสองไม่ต่างกันเท่าไหร่
เพียงแต่ผ่านไปได้สักพักหลิงฮันก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย ยิ่งปะทะเขาก็ยิ่งรู้สึกได้ว่ากายหยาบของเขาไม่สามารถต้านทานคลื่นกระแทกได้ไหว
อย่างที่รู้ว่าวาสนาศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยทมิฬนั้นทำให้พลังบ่มเพาะของเขาเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น แต่กายหยาบยังคงอยู่ในระดับวารีนิรันดร์เช่นเดิม ในขณะเดียวกัน หานฉีเป็นคนของดินแดนแห่งเซียนที่มีทรัพยากรบ่มเพาะมากมายทำให้กายหยาบของเขาถูกขัดเกลาจนแทบจะทนทานเท่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ระดับเดียวกับพลังบ่มเพาะ
ในระดับพลังเดียวกันแม้มันจะเทียบไม่ได้กับกายหยาบจากคัมภีร์สวรรค์ แต่ ณ เวลานี้หานฉีก็ยืนอยู่ในตำแหน่งที่เรียกว่าแทบจะไร้เทียมทาน
“ฮ่าๆๆ แค่ขยะจากตระกูลของเมืองหนึ่งดาวคิดจะมาทัดเทียมกับตระกูลหานเช่นข้า!” หานฉีหัวเราะลั่นและกระหน่ำปล่อยหมัดไม่หยุด
ระดับพลังบ่มเพาะที่แท้จริงแตกต่างกันเกินไป กายหยาบของเขาจึงถูกทิ้งห่างไว้ไกล!
หลิงฮันส่ายหัวในใจและไม่แลกหมัดกับอีกฝ่ายต่อ ‘พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ’ ทักษะดาบฟ้าคำรามถูกปลดปล่อย ปราณดาบนับไม่ถ้วนพุ่งทะยานออกไป
“กำแพงเหมันต์เก้าชั้น!” หานฉีเค้นเสียง หมอกสีขาวเคลื่อนที่มารวมกันเบื้องหน้าเขาและแข็งตัวกลายเป็นกำแพงน้ำแข็ง ที่บริเวณพื้นผิวของกำแพงน้ำแข็งมีตราประทับแห่งเต๋าปกคลุมเอาไว้ทำให้กำแพงมีพลังป้องกันอันน่าสะพรึง
ตูม!
คลื่นดาบเข้าปะทะอย่างรุนแรงแต่กลับทำได้เพียงสร้างรอยแตกร้าวให้กับพื้นผิวชั้นแรกของกำแพงน้ำแข็ง
“แม้แต่ชั้นแรกของกำแพงเหมันต์เก้าชั้นเจ้าก็ยังไม่สามารถทำลายได้ แต่กลับคาดหวังจะสร้างบาดแผลให้แก่ข้า?” หานฉีแสยะยิ้ม “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงขนาดที่กล้าต่อต้านข้าผู้นี้”
หลิงฮันเค้นเสียงพร้อมกับควบคุมเปลวเพลิงของเพลิงเก้าสวรรค์มารวมไว้ที่หมัด ‘ตูม’ ทันทีที่หมัดถูกซัดออกไป กำแพงน้ำแข็งก็เกิดการละลายตัวทันที
“อะไรกัน!” หานฉีตกตะลึง
ยังไม่จบเพียงเท่านั้น หมัดที่ผสานเพลิงเก้าสวรรค์ของหลิงฮันทะลวงผ่านชั้นกำแพงน้ำอย่างง่ายดายราวกับกำแพงน้ำแข็งเป็นเพียงแผ่นกระดาษ พริบตาเดียวหมัดเพลิงก็เข้าหาแทบจะถึงตัวหานฉี
หานฉีถอยหลบอย่างไม่ลังเล เปลวเพลิงตรงหน้าน่าสะพรึงกลัวเกินไปจนเขาเกิดความรู้สึกว่าหากสัมผัสโดนเข้า แม้แต่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์เหมันต์บนร่างของเขาก็ต้องถูกหลอมละลาย
ฮึ่ม!
เปลวเพลิงนั่นจะต้องเป็นทักษะระดับราชานิรันดร์เป็นแน่ หากไม่ใช่เพลิงที่เกิดจากทักษะระดับราชานิรันดร์คงไม่มีทางเด็ดขาดที่กำแพงเหมันต์เก้าชั้นของเขาจะถูกทำลาย ต้องรู้ก่อนว่าตระกูลหานของเขานั้นเป็นขุมอำนาจของเมืองขนาดใหญ่สามดาวและผู้นำตระกูลเป็นถึงนิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะที่ไม่รู้ว่าทรงพลังกว่าระดับโลกียนิพพานกี่ล้านเท่า
“หนามเก้าเหมันต์เยือกแข็ง!” ร่างของหานฉีเคลื่อนที่อย่างพริ้วไหวหลบหลีกหมัดของหลิงฮันและทำการตอบโต้ หมอกสีขาวควบแน่นกันเป็นหอกน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่บริเวณซี่โครงซ้ายของหลิงฮัน
หากถูกหอกน้ำแข็งแท่งนี้พุ่งเข้าใส่ ต่อให้เป็นดวงดาวขนาดใหญ่ทั้งดวงก็ต้องพังทลายเนื่องจากมันอัดแน่นไปด้วยอำนาจเต็มพลังของจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งสูงสุดและอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์ พลังทำลายของมันรุนแรงเกินพรรณนา
หลิงฮันสะบัดมือ ทันใดนั้นเพลิงเก้าสวรรค์บนมือของเขาก็ควบแน่นกลายเป็นดาบเพลิงและถูกกวัดแกว่งตอบโต้หอกน้ำแข็ง
ตูม!
ดาบเพลิงและหอกเหมันต์เข้าปะทะกันอย่างรุนแรง การปะทะกันของอำนาจแห่งกฎเกณฑ์สองธาตุส่งผลให้ห้วงอวกาศถูกแบ่งออกเป็นสองสี เหล่าจ้าวอสูรที่หลบหนีไม่ทันได้รับผลกระทบจากคลื่นปะทะจนใบหน้าถูกเผาไหม้เป็นสีดำหรือไม่ก็มีเกล็ดน้ำแข็งขึ้นตามร่างกาย
ยังที่ดีพวกเขาเป็นจ้าวอสูรถึงได้รับผลกระทบเพียงเท่านี้ หากเป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ล่ะก็แค่คลื่นกระแทกจากการปะทะก็เพียงพอที่จะบดขยี้พวกเขาไม่เหลือซาก
ปัง!
เสียงเสียดสีของดาบและหอกดังก้องไปทั่วจักรวาล ดาบเพลิงทำการหลอมละลายหอกน้ำแข็งและพุ่งเข้าใส่หานฉี
หานฉีเค้นเสียง เขาควบแน่นหอกน้ำแข็งขึ้นมาอีกนับสิบและใช้จำนวนที่มากกว่าฝืนต้านทานดาบเพลิงเอาไว้ได้
ใบหน้าของเขาซีดเผือดเล็กน้อยและมีท่าทีระมัดระวัง พลังต่อสู้ของหลิงฮันทรงพลังเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ หากประมาทเพียงเล็กน้อยชะตาของเขาคงหนีไม่พ้นถูกหลิงฮันสังหาร
“ตาย!” หลิงฮันเค้นเสียง มือทั้งสองของเขากวัดแกว่งและปลดปล่อยทักษะดาบฟ้าคำรามจู่โจมอีกครั้ง
คราวนี้เขาผสานเพลิงเก้าสวรรค์รวมเข้าไปในทักษะด้วย