Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1622 บรรลุเป็นเซียน
สตรีนกอมตะได้รับวาสนาสืบทอดมาจากนกอมตะสวรรค์ราชาเซียนสามตัวส่งผลให้สายเลือดของนางถูกยกขึ้นมาอยู่ในระดับสูงสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งนางมีเม็ดยาจากหลิงฮันและสามารถขัดเกลารากฐานพลังด้วยต้นสังสารวัฏได้ด้วยแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่พลังบ่มเพาะของนางจะพบกับคอขวดและไม่ทะยานสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด
หากไม่ใช่เพราะไปอยู่ในดินแดนใต้พิภพมากว่าสิบปี พลังบ่มเพาะของนางคงพัฒนาขึ้นเร็วกว่านี้
นางยิ้มให้กับหลิงฮันและทะยานร่างขึ้นสู่ห้วงอวกาศ
หากมีทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของเซียนเกิดขึ้นที่นี่ เกรงว่าดาวมู่ถูทั้งดวงคงพังทลาย
แน่นอนว่าหลิงฮันต้องตามขึ้นไปยังห้วงอวกาศด้วย ถึงแม้เขาจะช่วยอะไรไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ควรอยู่ข้างๆนาง
ครืนนน!
เมฆสายฟ้าก่อตัวรวมกันท่ามกลางห้วงอวกาศอันมืดมิดเหนือศีรษะของสตรีนกอมตะ คลื่นสายฟ้าระลอกแรกผ่าลงมาอย่างไม่รีรอ
สตรีนกอมตะสยายปีกที่มีความยาวกว่าพันไมล์และต้านทานทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์อย่างดุเดือด
และทันใดนั้นเอง คลื่นแสงแห่งเต๋าสีทองทั้งสิบคลื่นก็พุ่งทะยานเข้ามาพร้อมกับร่างของเซียนซิงฉาและเซียนคนอื่นๆที่ค่อยๆปรากฏตัว พวกเขาตกตะลึงเป็นอย่างมากที่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์นี้เป็นของสตรีนกอมตะ
นอกจากเซียนซิงฉา เซียนคนอื่นๆที่ทำการเลือกศิษย์นั้นใครบ้างที่ตั้งความคาดหวังเอาไว้กับสตรีนกอมตะ? หากไม่ใช่เพราะเซียนเช่นพวกเขามีความทรงพลังดีเลิศเกรงว่าพวกเขาคงลืมนางไปแล้ว เพราะพรสวรรค์ของนางนั้นกล่าวได้ว่า ‘ธรรมดาสามัญ’
ไม่มีใครคาดคิดว่าศิษย์ที่ ‘ธรรมดาสามัญ’ เช่นนางจะกลายเป็นเซียนได้!
แม้แต่เซียนซิงฉาก็รู้สึกอับอายเล็กน้อย ในตอนแรกเขาเลือกกู่ต้าวอี้เป็นศิษย์สืบทอดเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้เวลาไม่เกินหมื่นปีในการบรรลุเป็นเซียน ทว่าเวลายังผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ศิษย์ที่เขาคิดว่าไม่สำคัญอะไรกลับบรรลุเป็นเซียนแทนเสียนี่
บางทีคนที่อยู่รอบข้างหลิงฮันอาจจะเป็นสัตว์ประหลาดกันทุกคน!
“ในระยะสามปีนี้ น่าเหลือเชื่อนักที่มีเซียนถือกำเนิดถึงสองคน!” เซียนทั้งสิบรู้สึกตะลึง
หลิงฮันแผยสีหน้าประหลาดใจ เซียนสองคน?
เขาขยับเข้าไปใกล้และเอ่ยถาม “ใครอีกคนรึที่เป็นเซียน?”
“เซียนหวู่เซียง” เซียนขวงยวี่กล่าว
โอ้… เซียนหวู่เซียงกลับมาเป็นเซียนได้อีกครั้งแล้ว!
หลิงฮันไม่แปลกใจ อีกฝ่ายเข้าใจแก่นแท้ของหลักการที่จะบรรลุเป็นเซียนอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นร่างกายของอีกฝ่ายก็คือกายาห้าธาตุ เมื่อมีการสนับสนุนจากเม็ดยาของเขาด้วยแล้วเป็นเรื่องธรรมดาที่อีกฝ่ายจะบ่มเพาะพลังได้รวดเร็วกว่าสตรีนกอมตะ
“แล้วเขาไปไหนแล้ว?” หลิงฮันเอ่ยถาม จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่พบเห็นเซียนหวู่เซียงเลย
“หนึ่งเดือนหลังจากบรรลุเป็นเซียนได้เขาก็หายตัวไปไหนไม่รู้” เซียนขวงยวี่กล่าวกล่าวอีกครั้ง ต่อหน้าหลิงฮันเขาไม่กล้าทำตัวเป็นผู้อาวุโสแม้แต่น้อย
หลิงฮันขมวดคิ้ว เขารู้ว่าเซียนหวู่เซียงนั้นมีความเคียดแค้นในใจที่อยากจะสังหารศิษย์ทรยศทั้งสามของตนเอง แต่เซียนหวู่เซียงเพิ่งจะเป็นเซียนได้ไม่กี่ปีเท่านั้น ในขณะที่ศิษย์ทั้งสามเหล่านั้นอาจจะขัดเกลาระดับพลังเซียนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
เซียนหวู่เซียงอาจจะไม่สามารถเอาชนะทั้งสามได้และถูกสังหารอีกครั้ง
เพียงแต่เซียนหวู่เซียงก็หายตัวไปแล้ว หลิงฮันจะเป็นกังวลไปก็ไม่มีประโยชน์และทำได้แค่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ฝืนทำอะไรเกินตัว
ครึ่งวันต่อมา สตรียกอมตะผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สำเร็จและเคลื่อนที่ด้วยคลื่นแสงแห่งเต๋ามายืนข้างหลิงฮัน แม้ภายนอกนางจะดูบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร
“ขอแสดงความยินดีด้วย!” เซียนระดับต้นทั้งเก้าผสานมือคารวะไปยังสตรีนกอมตะและกล่าวยินดี ตอนนี้นางคือตัวตนที่ยืนอยู่ในระดับเดียวกันกับพวกเขาแล้ว
สตรีนกอมตะพยักหน้าและยิ้มอย่างถ่อมตัว นางไม่ได้มีนิสัยหยิ่งทะนงเหมือนจักรพรรดิรีและมีความสุภาพต่อคนอื่นๆ ภาพที่นางยืนอยู่ข้างหลิงฮันนั้นทำให้เซียนทุกคนต่างอิจฉา นอกจากในอนาคตหลิงฮันจะเป็นเซียนได้ด้วยตัวเองแล้วเขายังมีภรรยาที่เป็นเซียนเหมือนกันอีกด้วย
“หลิงฮัน!” เสียงของจักรพรรดินีเอ่ยดังขึ้นมา
หลิงฮันมีสีหน้าประหลาดใจ “เจ้าก็จะทะลวงผ่านแล้วเหมือนกัน?”
“อืม” จักรพรรดินีพยักหน้ากล่าวตอบ
หลิงฮันสะบัดมือนำจักรพรรดินีออกมาจากหอคอยทมิฬ
นางไม่กล่าวอะไรและเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งเดิมของสตรีนกอมตะเพื่อรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์
‘ครืนน’ เมฆสีดำก่อตัวรวมกันอีกครั้ง
เซียนซิงฉา “…”
เซียนทั้งเก้า “…”
ตระพวกเจ้าเป็นร้านค้าเซียนรึอย่างไร เหตุใดกลุ่มของพวกเจ้าถึงได้มีคนรับทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เพื่อเป็นเซียนติดต่อกันเยอะขนาดนี้?
“นั่นมัน” จู่ๆเซียนซิงฉาก็ชะงัก ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ก่อนหน้านี้ของสตรีนกอมตะนั้นเป็นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ทั่วไปอย่างที่ควรเป็น แต่ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของจักรพรรดินีนั้นเขาสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เย็นยะเยือกไปถึงจิตใจ
เซียนระดับต้นทั้งเก้ารีบล่าถอยทัน ยังไม่ทันทีทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์จะผ่าลงมาพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวจนขนลุกทั่วร่าง
ครืนนน!
ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ระลอกแลกที่ผ่าลงมาเป็นสายฟ้ารูปร่างมนุษย์ที่ถือหอกอยู่ในมือ ร่างสายฟ้าสวรรค์นั่นกวัดแกว่งหอกโจมตีใส่จักรพรรดินี
“ฮึ่ม!”
เซียนระดับต้นทั้งเก้าตกตะลึง “การโจมตีนั่นสามารถสังหารข้าได้เลย!”
เซียนระดับต้นเช่นพวกเขานั้นต่อให้เป็นการโจมตีของเซียนระดับกลางก็ยากที่จะสังหารพวกเขาได้อย่างง่ายดาย มีเพียงการโจมตีของเซียนระดับสูงเท่านั้นมีจะทำเช่นนั้นได้! ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมแม้แต่เซียนซิงฉาก็ยังตกตะลึง ที่แท้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของจักรพรรดินีก็มีพลังทำลายเทียบเท่ากับการโจมตีของเซียนระดับสูง
พระเจ้า! นี่คือทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของจอมยุทธที่เพิ่งจะทะลวงผ่านเป็นเซียนจริงๆ?
หากพบเจอศัตรูเป็นเซียนระดับสูง ต่อให้สู้ไม่ได้พวกเขาก็ยังหนีได้ แต่นี่เป็นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ ใครกันจะหลบหนีพ้น?
หากเซียนระดับต้นรับการโจมตีของเซียนระดับสูงคงมีชะตากรรมเดียวคือความตาย
จักรพรรดินีไม่หวาดกลัว นางสะบัดมือปลดปล่อยทักษะนิรันดร์มากมายตอบโต้ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ร่างมนุษย์โดยไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
เซียนทุกคนที่อยู่ที่นี่กลายเป็นไร้คำพูด เจ้าเพิ่มทะลวงผ่านแท้ๆ เป็นไปได้อย่างไรที่เซียนระดับต้นจะสามารถต้านทานการโจมตีของเซียนระดับสูงได้ นี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี!
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าสตรีนกอมตะเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่พวกเขาหลงลืม แต่ตอนนี้พวกเขาตระหนักรับรู้แล้วว่าสุดยอดอัจฉริยะที่แม้แต่กู่ต้าวอี้ก็ไม่สามารถเทียบได้นั้นแท้จริงแล้วคือจักรพรรดินี!
‘ครืนน ครืนน ครืนน’ ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง ร่างสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ค่อยๆปรากฏเพิ่มขึ้นโดยแต่ละร่างมีพลังโจมตีเทียบได้กับเซียนระดับสูง
เมื่อจำนวนของร่างสายฟ้าสวรรค์เพิ่มขึ้นถึงห้าสิบร่าง ในที่สุดจักรพรรดินีก็เริ่มถูกกดดัน
“ฮึ่ม!” จักรพรรดินีถลึงตาเค้นเสียง ‘พรึบ พรึบ พรึบ’ ร่างแยกทั้งเก้าของนางปรากฏออกมา ทั้งสิบร่วมมือกันต่อต้านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์