Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1661 ตระกูลของต้าเหอ
ปรมาจารย์ของทั้งสองตระกูลนิ่งอึ้งไร้คำพูด ความรู้สึกหนักอึ้งภายในร่างกายแทบจะส่งผลให้พวกเขาหมดสติ
นี่เจ้ายังเป็นมนุษย์อยู่รึเปล่า?
ถูกจอมยุทธเก้าลวดลายกระหน่ำโจมตีไปขนาดนั้นแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย!
บรรพบุรุษเล่าว่าผู้ใช้คลื่นแสงมรกตจะนำพาภัยพิบัติมาสู่ทุกชีวิตไม่ใช่รึ? บางทีพวกเขาอาจจะคาดการณ์ผิด สิ่งที่นำพาภัยพิบัติมาไม่ใช่ผู้ใช้คลื่นแสงมรกตและเป็นพรรคพวกของเขา!
หลิงฮันก้าวเดินขึ้นหน้าและปลดปล่อยจิตสังหาร
เขาไม่ชอบสังหารใครมั่วซั่ว แต่หากถูกผู้อื่นล่วงเกินเขาก็ไม่คิดจะใจอ่อนเช่นกัน
“จอมยุทธจากภายนอก เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับทุกตระกูลในดินแดนแห่งนี้?” ประมุขตระกูลหลางกล่าวเย็นชา แม้ใบหน้าของเขาจะดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ไม่ว่าใครก็สัมผัสได้ว่าเสียงของเขากำลังสั่นเครือด้วยความกลัว
ศัตรูตรงหน้ามีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับที่ไม่อาจจิตนาการได้ พวกเขาไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย
หลิงฮันยิ้มพร้อมกับกล่าว “ผิดแล้ว! ไม่ใช่ว่าเป็นพวกเจ้ารึที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับข้า? ข้าไม่รังเกียจแม้แต่น้อยที่จะลบล้างพวกเจ้าให้หายไปด้วยหนึ่งมือ!”
ช่างโอหัง!
“พวกเราเหล่าตระกูลในดินแดนต้าเหอ*ตั้งรากฐานอยู่ที่นี่มานานไม่รู้กี่พันล้านปี เจ้าคิดว่าแค่เจ้าคนเดียวจะทำอะไรได้?” ประมุขตระกูลจ้าวกล่าวด้วยน้ำเสียงที่พยายามหนักแน่น
ศัตรูของหลิงฮันไม่ใช่แค่ตระกูลจ้าวกับตระกูลหลาง แต่เป็นทุกตระกูลที่อยู่ในดินแดนต้าเหอ ด้วยรากฐานที่มีมาอย่างยาวนานของทุกตระกูล พวกเขาย่อมไม่สมควรพ่ายแพ้
เหล่าตระกูลในดินแดนต้าเหอก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ตามหลักคำสอนของบรรพบุรุษ พวกเขาไม่คิดจะยอมแพ้เพียงเพราะศัตรูแข็งแกร่งเกินไป
“เฒ่าเก้า เฒ่าสิบเอ็ด เฒ่าสิบเจ็ด เมื่อการปะทะเริ่มขึ้นอีกครั้งพวกเจ้ารีบไปจับกุมตัวคนนอกอีกสองคนเพื่อนำมาข่มขู่ศัตรูผู้นี้” ประมุขตระกูบจ้าวใช้สัมผัสสวรรค์ออกคำสั่ง
แววตาของเขาเหลือบมองไปยังสตรีนกอมตะและเซียนหวู่เซียงครู่หนึ่ง หากสามารถใช้สองคนนั้นข่มขู่หลิงฮันได้ก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ก็แค่สังหารทั้งสองทิ้งซะ
“อืม” ทั้งสามคนพยักหน้า
ประมุขตระกูลหลางเองก็ออกคำสั่งแบบเดียวกัน นี่คือวิธีการเดียวที่จะทำให้พวกเขามองเห็นความหวัง
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ดูหมิ่นคนของดินแดนต้าเหอ!” เมื่อคำรามเสร็จสิ้น ประมุขตระกูลหลางก็นำจอมยุทธของตระกูลหลางทุกคนบุกโจมตีหลิงฮัน
ทางฝั่งตระกูลจ้าวก็ไม่ชักช้าและร่วมมือช่วยโจมตี
พวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าการโจมตีของพวกเขาไม่สามารถทำอะไรหลิงฮันได้ จุดประสงค์ของพวกเขาคือใช้ประโยชน์จากการปะทะเบี่ยงเบนความสนใจของหลิงฮันเพื่อลอบจับกุมสตรีนกอมตะและเซียนหวู่เซียง
หลิงฮันดีดนิ้วอย่างไม่แยแส ‘พรึบ พรึบ พรึบ’ ทุกครั้งที่คลื่นดาบถูกปลดปล่อยออกไป จะมีศัตรูตกตายไปทีละคน
“อ้ากก” ปรมาจารย์ของทั้งสองตระกูลคำรามอย่างเกรี้ยวกราด พวกเขาใช้เวลาไม่รู้กี่ปีในการรวบรวมจอมยุทธระดับเก้าลวดลาย แต่ตอนนี้จอมยุทธเหล่านั้นกลับกำลังถูกสังหารอย่างง่ายดายราวกับผักปลา
แต่พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เพื่อสร้างโอกาสลอบจับกุมพวกเขาจำเป็นต้องเอาชีวิตเข้าแลก
ผ่านไปไม่นานพวกเขาก็เผยรอยยิ้ม กลุ่มที่รับหน้าที่ลอบจับกุมหลบผ่านไปด้านหลังของหลิงฮันได้สำเร็จ ถึงแม้จำนวนจากหกคนจะถูกสังหารเหลือสี่คนแต่ก็ถือว่าแผนการลุล่วง!
“จัดการ!” จอมยุทธทั้งสี่คนพุ่งทะยานเข้าหาสตรีนกอมตะและเซียนหวู่เซียง พวกเขาลงมือจากสี่ทิศทางเพื่อป้องกันการหลบหนีของทั้งสอง
หลิงฮันโคจรแสงอัสนี ‘พรึบ’ ร่างของเขาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจอมยุทธลอบกัดในพริบตาก่อนจะยกมือชี้นิ้ว ‘โผล๊ะ’ ศีรษะของจอมยุทธผู้นั้นระเบิดออกจนกลายเป็นร่างไร้หัวทันที หลิงฮันหันไปยังจอมยุทธลอบกัดอีกคนและทำเช่นเดิม ศีรษะของจอมยุทธคนที่สองระเบิดออกตามๆกันไป
เมื่อสังหารเสร็จสิ้นไปแล้วสามคน หลิงฮันก็ได้คว้าจับคอจอมยุทธลอบกัดคนที่สี่และยกร่างของอีกฝ่ายขึ้นมา
ภาพที่เหล่าจอมยุทธของทั้งสองตระกูลที่คิดว่าเห็นความหวังแล้วได้เห็นจริงๆก็คือ ร่างสิ้นชีพของพรรคพวกสามคนที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นและอีกคนที่ถูกหลิงฮันคว้าร่างเอาไว้
“นี่น่ะรึศักดิ์ศรีของต้าเหอ? ไม่กล้าปะทะกับข้าซึ่งๆหน้าจนต้องใช้วิธีลอบกัด?” หลิงฮันแสยะยิ้ม เขาโยนร่างของจอมยุทธในมือเข้าใส่ตระกูลทั้งสองและกล่าว “ขอคืนให้พวกเจ้า!”
ปรมาจารย์ผู้หนึ่งกำลังจะเอื้อมมือไปคว้าร่างที่ถูกโยนมา แต่ประมุขตระกูลหลางได้รีบอุทาน “รีบหลบออกมา!”
สายไปแล้ว!
บอลพลังลอยออกมาจากภายในร่างของจอมยุทธที่ถูกโยนและระเบิดออกกลายเป็นคลื่นดาบนับไม่ถ้วน การโจมตีครั้งนี้ได้ส่งเป็นวงกว้าง ปรมาจารย์มากมายของทั้งสองตระกูลตกตายโดยมีเพียงประมุขของทั้งสองตระกูลและปรมาจารย์อีกสามสี่คนเท่านั้นที่รอดชีวิต ร่างของพวกเขาเปียกชุ่มไปด้วยโลหิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส
“จะ เจ้ามันปีศาจ!” ประมุขตระกูลจ้าวชี้นิ้วไปยังหลิงฮันด้วยความความเคียดแค้น
“ข้าไม่ใช่ปีศาจ สิ่งที่ข้าทำคือการป้องกันตัว ใครใช้ให้พวกเจ้าล้ำเส้นก่อน?” หลิงฮันยกมือขึ้นอีกครั้งและสะบัดมือปล่อยคลื่นดาบ ‘ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ’ จอมยุทธที่เหลือรอดถูกสังหารทิ้งในพริบตา
“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่กล่าวอย่างไม่พอใจ ทำไมไม่เหลือให้มันจัดการบ้าง?
หลิงฮันยิ้มและจ้องมองไปยังเสี่ยวกู่ ขนาดตอนนี้เขาบรรลุเป็นเซียนระดับสูงและมีพลังไร้เทียมทานที่สุดในโลกบรรพกาลแล้วเขาก็ยังมองเบื้องลึกของพลังในตัวเสี่ยวกู่ไม่ออก
พลังแท้จริงของเสี่ยวกู่ไม่ใช่พลังที่แสดงให้เห็นอยู่ตอนนี้ พลังที่แท้จริงของมันสูงยิ่งไปกว่านี้มากแต่ถูกผนึกเอาไว้และไม่สามารถใช้ได้ตามใจนึก
“ไปกอบโกบสินสงครามกัน!”
กลุ่มหลิงฮันทั้งสี่คนมุ่งหน้าไปยังตระกูลจ้าวและตระกูลหลางเพื่อเก็บเกี่ยวสมบัติทั้งหมดของพวกเขาที่สะสมมานานหลายพันล้านปี
หลิงฮันรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่เนื่องจากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำที่พบมีแค่ห้าต้นเท่านั้น
“เจ้าได้โลภมากเกินไป ดูอย่างดินแดนต้องห้ามก็มีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำแค่สามถึงสามต้นเช่นกัน” สตรีนกอมตะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลิงฮันพยักหน้า เขาเอื้อมมือไปโอบกอดเอวของสตรีนกอมตะและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เฟิงเอ๋อ ไหนๆการต่อสู้ก็สิ้นสุดแล้ว พวกเรามาพลอดรักและทำเด็กกันดีไหม?”
“ฮึ่ม!” สตรีนกอมตะเค้นเสียงตำหนิ แม้นางจะแต่งงานกับหลิงฮันมานานแล้วนางก็ยังเขินอายอยู่ดี
หลิงฮันแค่หยอกล้อนางเล่นเท่านั้น เขายังหาสตรีนกอมตะและคนอื่นๆไม่เจอ แน่นอนว่าเขาย่อมไม่มีอารมณ์ไปทำเรื่องอื่น
พวกเขาออกเดินทางต่อผ่านเส้นทางตระกูลหลาง
…….
“เอาล่ะ พวกเรากลับกันเถอะ” ในระยะที่ห่างออกไป หลงอวี่ซานกระซิบพูดกับหลงเซียงเยว่
หลงเซียงเยว่จ้องมองแผ่นหลังของหลิงฮัน บางทีความรู้สึกของนางอาจจะต้องปล่อยค้างคาอยู่ใจไว้ตลอดกาล
*ต้าเหอ = แม่น้ำมหึมา