Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1664 ต้นกำเนิดแม่น้ำมหึมา
“ผลกายาเชื่อมสวรรค์!” จักรพรรดิเพลิงอัสนีกัดปาก “หากอายุของมันอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกำเนิดแท้ล่ะก็ มันจะเป็นสมบัติที่ล้ำค่าสำหรับข้าอย่างมาก!”
หลิงฮันจดจ้องไปเบื้องหน้า ในอาณาเขตพื้นที่อันมืดทมิฬ ราวๆระยะที่ห่างออกไปสิบไมล์ได้มีพืชต้นหนึ่งเติบโตงอกขึ้นมา ทั่วทั้งต้นของมันปลดปล่อยแสงสว่างแห่งหยินหยางอันสว่างไสว
ผลกายาเชื่อมสวรรค์คือสมุนไพรที่สะสมอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพีเอาไว้ ตามหลักแล้วมันสมควรเป็นสมุนไพรที่ล้ำค่ากว่าสมุนไพรชนิดใดๆ แต่แน่นอนว่าหากโชคร้ายก็อาจจะพบผลกายาเชื่อมสวรรค์ที่มีอายุไม่มากและสามารถช่วยยกระดับพลังถึงแค่ระดับโลกียนิพพาน
“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่เองก็มองไปยังพื้นที่มืดทมิฬ เพียงแต่เป้าหมายของมันไม่ใช่ผลกายาเชื่อมสวรรค์แต่เป็นระยะที่ห่างไกลออกไปอีก
อันที่จริง หลังจากระยะร้อยไมล์ไปแล้ว วิสัยทัศน์ของราชาเซียนทุกคนจะกลายเป็นเลือนลางและมองเห็นเพียงออร่าอันมืดมิดเท่านั้น
เมื่อเห็นท่าทางของเสี่ยวกู่ที่เปลี่ยนไป หลิงฮันก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ ดวงตาของมันส่องประกายมรกตและแสดงออกถึงความโกรธ
มันคำราม “ยี่ ยา ย่า” และพุ่งเข้าไป
หลิงฮันอยากห้ามแต่ก็ทำไม่ได้ หลังจากที่เขาเคลื่อนที่เข้าใกล้อาณาเขตสังหารพยายามห้ามเสี่ยวกู่ เขาก็สัมผัสได้ว่าออร่าสีดำทมิฬภายในนั้นเป็นภัยคุกคามต่อเขา
ร่างของเสี่ยวกู่พุ่งทะยานเข้าไปในอาณาเขตสังหารและเคลื่อนที่เข้าสู่ส่วนลึก
หลิงฮันค่อยๆก้าวถอยหลังกลับมา กายหยาบของเขาไม่อาจรับมือกับอาณาเขตสังหารตรงหน้าได้ แม้แต่ตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะก็ยังอาจถูกสังหารด้วยอำนาจของอาณาเขตนี้ กายหยาบที่แค่เทียบได้กับแร่โลหะกึ่งนิรันดร์ครึ่งดาวของเขาจะทำอะไรได้?
อะไรกัน!
เหล่าราชาเซียนอุทานด้วยความตะลึงเนื่องจากเห็นร่างของเสี่ยวกู่ที่พุ่งเข้าไปลึกเกินกว่าหกถึงเจ็ดไมล์!
หากเป็นหมอนี่อาจจะเก็บเกี่ยวสมุนไพรนิรันดร์ได้ก็เป็นได้!
ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง หากสมุนไพรถูกเก็บเกี่ยวพวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะแอบช่วงชิง
“ไม่!” แต่หลังจากนั้นไม่นานเหล่าราชาเซียนก็ร้องโอดครวญ
กายหยาบของเสี่ยวกู่เริ่มแหลกสลายเนื่องจากทนพลังทำลายของอาณาเขตสังหารไม่ไหว
หลิงฮันไม่กังวลอะไร กายหยาบของเสี่ยวกู่เป็นเพียงสิ่งที่สร้างขึ้นมา ร่างแท้จริงของมันคือกระดูกเพียงแท่งเดียว ตราบใดที่ร่างแท้จริงไม่ได้รับความเสียหาย เสี่ยวกู่ก็สามารถสร้างกายหยาบขึ้นมาใหม่
กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆของเสี่ยวกู่ร่วงหล่นลงพื้นจนเหลือแต่กระดูก ถึงอย่างนั้นมันก็ยังวิ่งไปต่อได้
และแล้วเสี่ยวกู่ก็มาถึงระยะของสมุนไพร แต่ที่ไม่คาดคิดคือมันไม่หยุดแม้แต่เหลียวมองและยังคงวิ่งต่อไป
บ้าไปแล้ว!
ทุกคนกลายเป็นไร้คำพูด เจ้ายอมบาดเข็บสาหัวขนาดนั้นแต่กลับไม่เก็บสมุนไพรนิรันดร์ขึ้นมา? นี่เจ้าตาบอดหรืออย่างไร?
เสี่ยวกู่วิ่งไม่หยุด โครงกระดูกของมันค่อยๆร่วงลงกับพื้นที่ละท่อนจนสุดท้ายเหลืออยู่เพียงท่อนเดียวที่เป็นร่างแท้จริงของมัน ท่อนกระดูกใสราวกับหยกที่ส่องประกายเขียวมรกตเคลื่อนที่ต่อไปยังส่วนลึกอาณาเขตสังหาร
หลังจากระยะเกินกว่าร้อยไมล์ก็ไม่มีใครสามารถมองเห็นเสี่ยวกู่อีกต่อไป
ทุกคนหันมองหน้ากันด้วยสีหน้ามึนงง
หลิงฮันครุ่นคิด เสี่ยวกู่กับจอมยุทธในโลกแห่งนี้นั้นเป็นปฏิปักษ์กันราวกับน้ำและไฟ ซึ่งเหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะรูปแบบพลังบ่มเพาะของจอมยุทธเหล่านั้นมีต้นกำเนิดพลังมาจากแม่น้ำมหึมา
หากจะพูดให้ชัดเจนคือเสี่ยวกู่เป็นปฏิปักษ์กับบางสิ่งที่เป็นต้นกำเนิดของสายน้ำมหึมา
ซึ่งตอนนี้เสี่ยวกู่ก็กำลังไปที่นั่น!
ไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนี้เกิดอะไรขึ้น ทุกคนทำได้เพียงรอคอย
หลังจากผ่านไปสามวัน แสงสีเขียวมรกตก็ปรากฏขึ้นในสายตาของทุกคนจากระยะไกล เสี่ยวกู่ปรากฏตัวโดยมีแสงมรกตปกคลุมร่างเอาไว้ แน่นอนว่าสภาพของมันในตอนนี้ยังมีเพียงกระดูกท่อนเดียวเหมือนเดิม
มันวิ่งมาหาหลิงฮันก่อนจะหยุดนิ่งสร้างกายหยาบกลับมาเหมือนเดิม “ยี่ ยา ย่า” มันกล่าวด้วยเสียงอ่อนแรงพร้อมกับหมดสติ
เสี่ยวกู่ไปถึงต้นตอของแม่น้ำมหึมาได้? หากเป็นแบบนั้นจริง ที่นั่นมันพบกับอะไรกันแน่ถึงได้ตกอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าเช่นนี้?
ทุกคนรู้สึกสงสัย แน่ในเมื่อเสี่ยวกู่หมดสติไปแล้วจึงไม่มีใครเอ่ยถามอะไร
หลิงฮันพูดคุยกับหอคอยน้อย “เจ้ารู้รึเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?”
หอคอยน้อยแน่นิ่งไปชั่วครู่และกล่าว “รูปแบบบ่มเพาะพลังที่แตกต่างเช่นนี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน รูปแบบพลังบ่มเพาะที่แตกต่างย่อมสอดคล้องกับสวรรค์และปฐพีที่แตกต่าง ช่างแปลกประหลาดนัก”
“เจ้าสามารถใช้อำนาจของหอคอยทมิฬพาเข้าไปยังอาณาเขตสังหารนั่นได้หรือไม่?” หลิงฮันถาม
“หากเจ้าคิดว่าตัวเองอายุยืนมากพอแล้วจะลองดูก็ได้” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่แยแสเหมือนเคย
หลิงฮันไม่เก็บมาคิดมากและถามต่อ “เจ้ามองพลังลึกลับของเสี่ยวกู่ออกรึเปล่า?”
หอคอยน้อยแน่นิ่งอีกครั้งก่อนจะกล่าว “หากให้คาดเดามันจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับราชานิรันดร์ไม่ผิดแน่ แต่จะเกี่ยวข้องอย่างไรนั้นข้าเองก็ไม่แน่ใจ เพราะอย่างไรพลังของข้าก็ยังฟื้นฟูกลับมาไม่สมบูรณ์”
เกี่ยวข้องกับราชานิรันดร์!
หลิงฮันชะงักก่อนจะพยักหน้า จักรพรรดิเพลิงอัสนีกล่าวเอาไว้ว่าอำนาจของออร่าทมิฬในอาณาเขตสังหารนั้นสามารถสังหารได้แม้แต่ตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะ ซึ่งก็เป็นไปได้สูงมากว่าออร่าทมิฬนั้นจะเป็นอำนาจระดับราชานิรันดร์ และการที่เสี่ยวกู่เข้าไปภายในอาณาเขตสังหารได้ย่อมหมายความว่ามันก็ต้องมีอำนาจระดับราชานิรันดร์เช่นกัน
สามวันต่อมา ในที่สุดเสี่ยวกู่ก็ฟื้น
“ยี่ ยา ย่า!” มันกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงราวกับว่าลืมเรื่องราวก่อนหน้านั้นไปเสียสนิท
“เสี่ยวกู่ เจ้าพบเห็นอะไรภายในนั้น?” หลิงฮันเอ่ยถาม
เสี่ยวกู่พูดได้แต่ ‘ยี่ ย่า ย่า’ วนไปมาซึ่งผ่านไปนานพอสมควรก็ไม่ได้เรื่องอะไร
“ข้าอยากจะกัดเจ้าหมอนั่นจริงๆ!” สุนัขตัวดำพึมพำ แม้จะพูดแบบนั้นแต่จริงๆแล้วมันก็ไม่กล้า เพราะมันเห็นแล้วว่าเสี่ยวกู่น่าสะพรึงกลัวขนาดไหน
หลิงฮันครุ่นคิดชั่วครู่ “เสี่ยวกู่ เจ้าทำแบบนี้ได้รึไม่?” เขาดึงความทรงพลังบางส่วนของตนเองออกมาและแสดงออกเป็นภาพ
“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่รีบพยักหน้า มันขยับนิ้วตามหลิงฮันและดึงความทรงจำของมันออกมาเป็นภาพ
“ไปอีกนิด”
“ข้ามอีกหน่อย”
ผ่านไปไม่นานภาพความทรงจำในช่วงที่เสี่ยวกู่ผ่านเข้าไปในออร่าทมิฬก็ปรากฏให้เห็น หลิงฮันไม่กล่าวอะไรต่อและตั้งสมาธิจดจ้องไปยังภาพความทรงจำ
คนอื่นๆเองก็เช่นกัน พวกเขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากว่าภายในออร่าทมิฬมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่? ต้นกำเนิดของแม่น้ำมหึมาคืออะไร? เหตุใดพลังจากแม่น้ำถึงสามารถหล่อเลี้ยงให้เกิดจอมยุทธที่ทรงพลังได้มากมายแถมยังมีรูปแบบบ่มเพาะพลังที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วย
ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือเสี่ยวกู่กำลังวิ่งเข้าไปในออร่าทมิฬ ร่างของมันเหลือเพียงกระดูกแท่งเดียวซึ่งได้ปลดปล่อยแสงมรกตออกมาต้านทานอำนาจกัดกร่อนของออร่าทมิฬ
เพียงแต่ว่ายิ่งเข้าไปลึกการเคลื่อนไหวของเสี่ยวกู่ก็เริ่มช้าลง ดูเหมือนว่าออร่าทมิฬจะสร้างแรงกดดันให้มันอย่างหนักหน่วงจริงๆ
ในจังหวะที่เสี่ยวกู่ไม่สามารถขยับตัวได้อีกต่อไปมันก็มาจุดสิ้นสุดของแม่น้ำพอดี เบื้องหน้าของมันปรากฏร่างขนาดมหึมา
ร่างนั้นคือ… ซากศพ!