Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1695 เดิมพัน
หลังจากจัดการเรื่องของพี่น้องหลิวเสร็จสิ้นแล้ว หลิงฮันก็มุ่งหน้ากลับโรงเตี๊ยมพร้อมกับจักรพรรดิด้วยใบหน้าที่เบิกบาน
ก่อนที่กลุ่มของพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้เข้าสู่เมืองหลัก จักรพรรดินีก็รู้สึกว่าตนเองกำลังจะทะลวงผ่านระดับ นางไม่จำเป็นต้องออกไปนอกเมืองเนื่องจากเมืองรองแห่งนี้ไม่ได้เล็กไปกว่าเมืองธุลีจันรทรา นางสามารถหาป่าเขาที่ไร้ผู้คนได้ไม่ยาก
ยิ่งกว่านั้นในดินแดนแห่งเซียน ทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของระดับสร้างสรรพสิ่งเองก็ไม่ได้รุนแรงนัก
ผ่านไปไม่นานจักรพรรดินีก็ผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์เสร็จสิ้น นางนำหน้าบรรลุเป็นราชาเซียนไปก่อนหนึ่งก้าว ภายในหอคอยทมิฬ มิตรสหายหลายคนของหลิงฮันก็ต้องการทะลวงผ่านระดับเช่นกัน ในโลกบรรพกาล สหายบางคนของเขานับได้ว่าเป็นอัจฉริยะ ยิ่งมาอยู่ในดินแดนแห่งเซียนด้วยแล้ว ศักยภาพของพวกเขาจึงถูกดึงออกมามากยิ่งขึ้น
อย่างน้อยก่อนถึงระดับโลกียนิพพานพวกเขาคงไม่พบเจอความยากลำบากใดๆในการบ่มเพาะพลัง แต่ไม่ว่าอย่างไรการจะบรรลุขีดจำกัดสูงสุดของระดับวารีนิรันดร์ก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี ณ เวลานี้มีเพียงแค่หลิงฮัน จักรพรรดินีและจักรพรรดิพิรุณสามคนเท่านั้นที่ทำได้
แต่ข่าวดีก็คือ เนื่องจากว่าดินแดนแห่งเซียนไม่มีการแบ่งแยกสองดินแดน ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเหล่าสหายในหอคอยทมิฬจึงยกระดับสูงขึ้นมาก
เพียงแต่ว่าต่อให้คนอื่นๆจะยกระดับความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ก็ไม่อาจมีพลังต่อสู้ที่เทียบเท่าหลิงฮัน จักรพรรดินีและจักรพรรดิพิรุณ ราวกับพระเจ้านั้นรับรู้ว่าพวกหลิงฮันสามารถผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของทั้งสองดินแดนได้ตั้งแต่โลกบรรพกาลจึงช่วยให้พวกเขาแข็งแกร่งกว่าใครๆ
เหล่าสหายที่ฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของดินแดนแห่งเซียนสำเร็จถูกนำตัวออกมาจากหอคอยทมิฬ ที่นี่มีพื้นที่รกร้างและป่าเขาอยู่มากมาย ซึ่งพวกเขาสามารถใช้เป็นที่พักอาศัยอันสันโดษได้
พวกเขาจะเริ่มตั้งตัวขึ้นใหม่จากที่นี่และสร้างจักรวรรดิต้าหลิงฮันขึ้นอีกครั้ง
ไม่สิ ในเมื่อดินแดนแห่งเซียนไม่มีจักรวรรดิ ขุมอำนาจที่สร้างขึ้นจึงสมควรเรียกว่านิกายต้าหลิง
หลิงฮันไม่สนใจก่อตั้งขุมอำนาจใดๆอยู่แล้ว เพราะงั้นเขาจึงยกหน้าที่นี้ให้กับคนอื่นๆทำตามใจต้องการ ตอนนี้สหายแทบทั้งหมดออกจากหอคอยทมิฬไปเป็นที่เรียบร้อย ที่ยังอยู่กับเหลือเพียงแค่สตรีนกอมตะคนเดียวเท่านั้น
จักรพรรดิพิรุณคือคนเดียวที่แยกตัวไปอย่างสันโดษ เขามีจุดประสงค์คือต้องการออกเดินทางฝึกตนและท้าประลองไปทั่วดินแดนแห่งเซียน
หลิงฮันบอกจักรพรรดิพิรุณถึงวิธีทั้งสองสำหรับทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพาน
อีกฝ่ายเป็นชายผู้คลั่งไคล้วิถีวรยุทธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงไม่สนใจว่าจะต้องตัดขาดความรู้สึกทางโลกหรือไม่ แต่ในเมื่อมีวิธีทะลวงผ่านที่สามารถทำให้แข็งแกร่งกว่าจอมยุทธระดับโลกียนิพพานทั่วไป เขาจะเลือกเป็นจอมยุทธระดับโลกียนิพพานทั่วไปได้อย่างไร?
หลิงฮันกลับมายังโรงเตี๊ยมอีกครั้งและพบว่าสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆกำลังรอเขาและจักรพรรดินีอยู่ สิทธิเข้าสู่เมืองหลักได้รับการอนุมัติแล้ว
“ไปกันได้แล้ว”
พวกเขามุ่งหน้ามายังบริเวณกึ่งกลางของเมืองรอง ที่นี่มีรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายติดตั้งเอาไว้และสามารถส่งคนจากเบื้องล่างขึ้นไปยังเมืองธุลีจันรทราบนท้องฟ้าได้โดยตรง
ล้งเกาเฟยแสดงเหรียญตราเข้าเมืองและจ่ายหนึ่งร้อยยี่สิบศิลาดวงดาว ค่าเข้าเมืองหลักคือสิบศิลาดวงดาวต่อคน เจ้าหน้าที่ควบคุมให้พวกเขาเข้ามาด้านในรูปแบบอาคมแต่ยังไม่กระตุ้นใช้งาน
กลุ่มของหลิงฮันสิบสองคนรอคอยอยู่นาน หลังจากคนมารวมกันมากพอสมควรแล้วในที่สุดรูปแบบอาคมก็ถูกกระตุ้นทำงาน
ดูเหมือนว่าเพื่อที่จะประหยัดพลังงานของรูปแบบอาคมเคลื่อนย้าย รูปแบบอาคมจึงจะไม่ทำงานจนกว่าคนจะเต็ม
ต่อหน้ากฎที่ถูกตั้งเอาไว้แบบนี้ ต่อให้นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานอย่างล้งเกาเฟยก็ไม่กล้าแสดงท่าทางไม่พอใจ ในเมืองสองดาวเช่นนี้ต่อให้จำนวนของนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานจะไม่ได้มากมายเหมือนปลาคาร์ฟที่แหวกว่ายอยู่ในบ่อน้ำ แต่จำนวนของนิรันดร์ระดับนี้ก็มีอยู่นับพัน
หากเขาทำตัวหยิ่งยโสคงถูกกำราบในเวลาไม่กี่นาที เหนือสิ่งอื่นใดคือเมืองจันทราหม่นแสงมีตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณพำนักอยู่
‘ครืนน’ รูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายส่องประกายแสงเจิดจ้า ผู้คนภายในรูปแบบอาคมรู้สึกราวกับกล้ามเนื้อของตนเองกำลังฉีกขาดก่อนจะถูกส่งมายังอีกสถานที่หนึ่ง
และแล้วพวกเขาก็มาถึงเมืองจันทราหม่นแสงที่แท้จริง
“พลังวิญญาณหนาแน่นมาก!” เม่าซูอวี่และคนอื่นๆตกตะลึงเนื่องจากไม่เคยมาเมืองจันทราหม่นแสงมาก่อน
ล้งเกาเฟยเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพียงแต่ในฐานะผู้อาวุโสเขาจำเป็นต้องทำหน้าตาให้นิ่งเข้าไว้และกล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ก่อนอื่นต้องไปยังที่ทำการเสียก่อน”
นิกายจันทราหม่นแสงสร้างที่ทำการขึ้นเพื่อเอาไว้ให้เหล่าเมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองจัดการธุระต่างๆได้สะดวก
ที่ทำการตั้งอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างปลีกวิเวก พวกเขาใช้เวลาเจ็ดวันเดินทางจากรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายไปยังที่ทำการ ณ เวลานี้ตัวแทนส่วนใหญ่จากเมืองต่างๆได้มาถึงแล้ว เมื่อล้งเกาเฟยพาพวกหลิงฮันมาถึงก็มีทั้งคนที่กล่าวทักทายหรือจ้องมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
ความสัมพันธ์ของเมืองที่อยู่ภายใต้นิกายจันทราหม่นแสงนั้นค่อนข้างซับซ้อน บางเมืองก็มีความบาดหมางต่อกัน บางเมืองก็เป็นมิตรกัน
หลังจากสะสางธุระเรื่องเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว ล้งเกาเฟยก็ได้บอกให้สมาชิกทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อนและอย่าได้สร้างปัญหาใดๆ
ที่นี่คือเมืองหลักของเมืองจันทราหม่นแสง ทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนแต่มีพื้นเพเป็นขุมอำนาจระดับโลกียสามนิพพานขึ้นไปหรือไม่ก็อาจจะเป็นถึงระดับแบ่งแยกวิญญาณ อย่าว่าแต่พวกหลิงฮันที่ยังเป็นเพียงจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งเลย ต่อให้เป็นล้งเกาเฟยก็อาจจะไม่ได้รับการไว้หน้า
สองวันต่อมา ในที่สุดตัวแทนจากเมืองตั้งสองร้อยกว่าเมืองก็มากันครบ
ล้งเกาเฟยนำข้อมูลบางอย่างกลับมาให้พวกเขา
ข้อมูลที่ว่าคืออัตราเดิมพันชัยชนะการประลองของตัวแทนแต่ละเมือง
ใช่แล้ว ทุกๆครั้งที่การประลองถูกจัดขึ้น ขุมอำนาจทั้งหมดจะสามารถเดิมพันล่วงหน้ากันได้ว่าตัวแทนจากเมืองใดจะเป็นผู้ชนะการประลอง
ยิ่งเดิมพันก่อนอัตราเดิมพันจะยิ่งสูง เหตุผลก็ง่ายๆอย่างที่รู้กัน เมื่อการประลองดำเนินไปเรื่อยๆจำนวนของกลุ่มตัวแทนจะน้อยลง อัตราเดิมพันก็ต้องถูกปรับ
มองอีกแง่หนึ่งแล้ว อัตราเดิมพันถือได้ว่าเป็นอันดับพลังของกลุ่มตัวแทนจากแต่ละเมือง
“อันดับของพวกเราอยู่ที่ 224” เม่าซูอวี่จ้องมองข้อมูลที่รับมาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ขุมอำนาจทั้งหลายดูถูกพวกเขาเป็นอย่างมากทำให้อัตราเดิมพันอยู่ที่ยี่สิบสองต่อหนึ่ง
เมืองหนึ่งดาวที่อยู่ใต้การปกครองของนิกายจันทราหม่นแสงมีอยู่ทั้งหมด237เมือง เมืองจันทราหม่นแสงของพวกเขานั้นรั้งท้ายเป็นอันดับที่สิบสี่
หลิงฮันส่ายหัว ทำไมเมืองของพวกเขาถึงไม่อยู่อันดับสุดท้ายกัน? หากเป็นเช่นนั้นอัตราเดิมพันก็จะสูงกว่านี้และเขาจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้น