Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1701 กลางแจ้ง
แน่นอนว่ามังกรเงินสามหัวนั้นไม่ยินยอมและต่อต้าน แต่แค่หลิงฮันปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังออกมาเล็กน้อย มันก็กลายเป็นหวาดผวาและยอมเป็นสัตว์ลากรถม้าให้อย่างว่าง่าย
เส้นทางไปยังปราสาทไม่ได้มีอยู่เส้นทางเดียวแต่มีถึงห้า ในขณะที่หลิงฮันกำลังควบคุมรถม้าไปยังปราสาท เขาพบเห็นรถม้ามากมายหยุดจอดอยู่หน้าปราสาท
ผู้คนมากมายไม่เข้าไปยังปราสาทแต่เลือกที่จะหยุดยืนราวกับกำลังรอคอยใครบางคน
“พี่ชายถงหลินมาแล้ว!” เมื่อเห็นรถม้ากำลังเคลื่อนที่เข้ามา คนสามคนก็ออกมาทักทาย บางทีทั้งสามคนนี้อาจจะเป็นสหายหรือไม่ก็ลิ่วล้อของถงหลิน
แต่เมื่อเห็นหลิงฮันกำลังควบคุมรถม้าอยู่ ใบหน้าของทั้งสามคนก็เผยถึงความประหลาดใจ
เมื่อใดกันที่มังกรเงินสามหัวจำเป็นต้องมีคนคอยบังคับ? ยิ่งกว่านั้นคนบังคับยังเป็นเพียงเซียนระดับกลางด้วย
ท่ามกลางสายตาของทั้งสาม หลิงฮันทำการจอดรถม้าและบอกให้จักรพรรดินีออกมา
ตอนนี้ชื่อเสียงของจักรพรรดินีกำลังเป็นที่รู้จัก เพราะงั้นเขาจึงต้องการปูทางให้ภรรยาของตนเฉิดฉายยิ่งขึ้นไปอีก
จักรพรรดินีก้าวเดินออกมา เรือนร่างผอมบางของนางถูกห่อหุ้มไว้ด้วยชุดกระโปรงยาวสีทองที่ทักทอมาจากวัสดุเซียนระดับสูง วัสดุเซียนที่ว่าก็ไม่ได้มาจากที่อื่นใดแต่ได้มาจากรังของกลุ่มโจรภูเขา
ด้วยกลิ่นอายอันสูงส่งและชุดที่งดงาม ส่งผลให้นางกลายเป็นจุดสนใจทันที ยิ่งการที่นางสวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้าเอาไว้ ก็ได้ทำให้เสน่ห์ของนางดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก
“โอ้!”
“พี่ชายถงหลินช่างโชคดียิ่งนักที่ได้ครอบครองสตรีงดงามเช่นนี้!”
“เจ้ายังไม่ทันเห็นใบหน้าของนางเลยแท้ๆ แล้วรู้ได้อย่างไรว่านางงดงาม?”
“ไร้สาระ ด้วยเสน่ห์ดึงดูดและเรือนร่างเช่นนั้น หากใบหน้าของนางไม่งดงามล่ะก็ ข้าขอตัดหัวตัวเองเอามาให้พวกเจ้าเตะเล่นเป็นลูกบอลเลย!”
ทั้งสามคนชะงักก่อนจะซุบซิบคุยกัน
คนอื่นๆรอบข้างเองก็ไม่ต่างกัน เสน่ห์ของจักรพรรดินีมีมากเกินไป เพียงพริบตาเดียวนางก็กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน
“นั่นมันแม่นางหล่วนซิง!”
“ว่าไงนะ สุดยอดอัจฉริยะที่ทดสอบแท่งเสาได้ถึงเก้าสิบสองแต้มเมื่อวานน่ะรึ?”
“ข้าเคยได้ยินชื่อของนางเหมือนกัน ไม่คาดคิดมาก่อนว่านอกจากพรสวรรค์แล้ว ความงดงามของนางก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน”
“นางจะต้องเป็นทายาทของขุมอำนาจที่ทรงพลังสักแห่งแน่ๆ ไม่เช่นนั้นสตรีที่ทั้งงดงามและแข็งแกร่งเช่นนางจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
“แต่ก็น่าแปลก รถม้าคันนั้นเป็นของตระกูลถงไม่ใช่รึ ด้วยอำนาจของตระกูลถง ไม่น่าจะดึงดูความสนใจของนางได้”
ทุกคนมึนงง ในหมู่คนที่อยู่ที่นี่มีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาติให้มาเกาะเมฆาเซียนผ่านการทดสอบแท่งเสา ในขณะที่คนอื่นๆเป็นรุ่นเยาว์จากขุมอำนาจต่างๆของเมืองจันทราหม่นแสงที่จ่างซุนเหลียงเป็นคนชวนมา
ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาด ถึงแม้พรสวรรค์ในวรยุทธของถงหลินจะไม่ถือว่าแย่ แต่ก็ไม่อาจเทียบเคียงได้แม้แต่เศษเล็บของจักรพรรดินี เพราะงั้นจึงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ถงหลินจะตีสนิทใกล้ชิดกับจักรพรรดินีได้
หลิงฮันเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ นิสัยขี้เล่นของเขาถูกจุดประกายขึ้นมาทันที
เขากระแอมเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “ข้าจะอธิบายให้ทุกคนฟังเอง… ในขณะกำลังเดินทางมายังปราสาท พวกข้าพบเจอกับถงหลินระหว่างทาง เพียงแต่ว่าถงหลินในตอนนั้นไม่สามารถหักห้ามเพลิงราคะของตนเองได้ จึงได้พาสตรีที่ติดตามมาด้วยเดินเข้าพุ่มหญ้าไปและมอบรถม้าให้พวกข้ายืมใช้ ทุกคนไม่ต้องกังวล อีกไม่นานเขาก็คงตามมาเอง”
หักห้ามเพลิงราคะของตัวเองไม่ได้และพาสตรีคู่ขาเข้าพุ่มหญ้า? ทุกคนที่ได้ยินเผยใบหน้าประหลาดใจ
“แต่ต่อให้จะอารมณ์พลุกพล่านขนาดไหน ก็ทำในรถม้าได้ไม่ใช่รึไง?” ใครบางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย รถม้าของพวกเขานั้นมีรูปแบบอาคมคุ้มกันถูกติดตั้งเอาไว้ แม้แต่การโจมตีที่ทรงพลังรูปแบบอาคมของรถม้าก็สามารถป้องกันได้ เพราะงั้นเรื่องเสียงครางหรือเสียงกระแทกย่อมไม่ต้องพูดถึง
“หรือบางทีถงหลินจะมีรสนิยมชอบทำกลางแจ้ง?”
“แบบนั้นจะได้ความรู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นไปได้ว่าจะถูกพบเจอตลอดเวลา ไม่เลว ไว้วันหลังข้าจะลองดูบ้าง”
เรื่องที่หลิงฮันเล่าถูกแพร่งพรายเข้าหูทุกคนอย่างรวดเร็ว
และในตอนนั้นเอง รถม้าอีกคันก็เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเดินลงมาพร้อมกับสตรีงดงาม สีหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนก่อนจะกล่าวอย่างเร่งรีบ “พวกเจ้าต้องคาดไม่ถึงแน่ว่าข้าพบเจออะไรระหว่างทาง!”
ชายหนุ่มผู้นั้นหยุดพูดไปครู่หนึ่งเพื่อดึงดูดความสนใจของฝูงชนก่อนจะกล่าวต่อ “มีคู่รักคู่หนึ่งกำลังพลอดรักกลางพุ่มหญ้า! ลองเดาดูสิว่าฝ่ายชายคือใคร?”
อะไรกัน เป็นเรื่องจริงหรือนี่!
“ถงหลิน!” ฝูงชนกล่าวแทบจะพร้อมกัน
ชายหนุ่มผู้นั้นชะงัก บ้าจริง… นี่พวกเจ้าก็เห็นด้วยรึ!
ก่อนหน้านี้ทุกคนยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เมื่อได้ฟังชายหนุ่มผู้นี้ซึ่งเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์กับตาแล้ว ต่อให้ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ
บ้าไปแล้ว หากจ่างซุนเหลียงรู้เรื่องนี้เข้า อีกฝ่ายคงเกรี้ยวกราดมาเป็นแน่
คิดว่าเจ้าของเกาะอย่างจ่างซุนเหลียงจะรู้สึกถูกเหยียดหยามขนาดไหนที่มีคนมาทำรักกันกลางแจ้งในที่ของเขา? ทุกคนตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตงหลินทันทีเพราะกลัวจะติดร่างแหไปด้วย
“ไปกันเถอะ ถึงเวลาแล้ว” ทุกคนล้มเลิกความคิดที่จะเรียกตงหลินว่าสหาย แม้แต่สามคนที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับตงหลินก็หันหน้าเดินเข้าปราสาทโดยทำเป็นไม่รู้จักถงหลิน
ปราสาทมีขนาดใหญ่โตเป็นอย่างมาก พวกเขาใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเดินจากประตูทางเข้ามาถึงห้องโถงที่มีโต๊ะถูกจัดวางเอาไว้
โต๊ะมีขนาดใหญ่พอให้คนสองคนนั่งใกล้ชิดกันเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมรุ่นเยาว์ส่วนใหญ่ถึงได้พาคู่มาเป็นสตรี
โต๊ะแต่ละตัวมีชื่อของทุกคนที่ได้รับเชิญเขียนเอาไว้เนื่องจากไม่อยากให้มีการแย่งที่กันเกิดขึ้น
หลิงฮันและจักรพรรดินีพบเจอโต๊ะของตัวเองโดยที่บนโต๊ะมีเพียงชื่อของจักรพรรดินีตั้งเอาไว้ หลิงฮันไม่คิดมาก เขานั่งไขว้ขาลงข้างโต๊ะและชวนจักรพรรดินีคุยเรื่อยเปื่อย
ด้วยการที่โต๊ะค่อนข้างเตี้ยจึงไม่จำเป็นต้องมีเก้าอี้ บนพื้นข้างโต๊ะมีเบาะรองนั่งวางเตรียมเอาไว้ให้
“หืม?” หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ตรงเบาะที่เขานั่งนั้นมีพลังงานความร้อนบางอย่างไหลเวียนอยู่ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยในการยกระดับปราณก่อเกิด แต่เนื่องจากพลังบ่มเพาะของเขาตอนนี้บรรลุเป็นเซียนระดับสูงขั้นสูงสุดแล้ว ความร้อนจากเบาะจึงไม่มีผลอะไรต่อตัวเขา
สมกับเป็นทายาทของขุมอำนาจสองดาว ทุกอย่างที่ใช้ต้อนรับผู้อื่นล้วนแต่เป็นสมบัติระดับสูง
“นี่พวกเจ้า ลองเดาสิว่าข้าเห็นอะไรระหว่างทาง!” ทันทีที่ชายผู้หนึ่งเข้ามายังห้องโถง เขาก็ตะโกนเรียกร้องความสนใจด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ถงหลินกำลังพลอดรักกลางแจ้ง!” ใครหลายคนกล่าวตอบอย่างพร้อมเพรียง
หืม?
ชายที่เพิ่งเข้าห้องโถงมาแสดงท่าทีสับสน เขาคิดว่าเหตุการณ์ที่เขาเห็นจะกลายเป็นข่าวใหญ่เสียอีก