Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1793 เผาก้น
แน่นอนว่าจื่อเหอปิงอวิ๋นย่อมคิดไม่ถึงว่า แท้จริงแล้วอำนาจแห่งกฎเกณฑ์วารีของหลิงฮันนั้นไม่ได้มาจากแก่นกำเนิดนิรันดร์ แต่เป็นวารีบรรพบุรุษ
ในระดับราชานิรันดร์ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งหมดจะไม่มีระดับสูงหรือต่ำ เพราะงั้นการที่หลิงฮันคว้าจับหอกห้วงมิติเอาไว้ได้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
ดวงตาของหลิงฮันส่องประกายเย็นชาและไม่คิดจะยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว หลังจากที่พลังของหอกห้วงมิติสลายไป เขาก็พุ่งทะยานเข้าหาจื่อเหอปิงอวิ๋นและกวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ ปลดปล่อยตราประทับแห่งเต๋าอันไร้ที่สิ้นสุด
ผมสีดำของเขาสยายชี้ขึ้นฟ้า สีหน้าของเขามืดมนอย่างถึงที่สุดและปลดปล่อยจิตสังหารอันโหดเหี้ยม
ดูจากท่าทางของเขาในตอนนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาตั้งใจจะจัดการจื่อเหอปิงอวิ๋นให้ถึงตาย
คนอื่นๆที่มองดูอยู่จิตใจสั่นสะท้านและไร้คำพูดใดจะเอ่ยกล่าว
ช่างเป็นคนที่กล้าบ้าบิ่นอะไรเยี่ยงนี้!
เจ้าก็รู้ว่าจื่อเหอปิงอวิ๋นคือสมาชิกของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ แถมยังมีตำแหน่งเป็นถึงผู้สืบทอดอีกด้วย แต่ยังจะกล้าสังหารนางอีกรึ? หากหลิงฮันทำสำเร็จจริงๆ ทุกคนที่อยู่ในที่นี้จะต้องได้รับลูกหลงไปด้วย
เมื่อใดที่ราชานิรันดร์พิโรธ แม้แต่ท้องฟ้าก็ยังต้องร่วงหล่น
ทั้งๆที่รู้แบบนี้แล้ว แต่เจ้าก็ยังกวัดแกว่งดาบสะบั้นเข้าใส่นางอย่างไม่ลังเลรึ?
ธิดาโร๋วที่เพิ่งเคยเห็นมุมนี้ของหลิงฮันเป็นครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกลูกศรปักเข้าใส่
พลังคือหลักพื้นฐานของจอมยุทธก็จริง แต่จิตใจที่ห้าวหาญก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน
ภายในจิตใจของธิดาโร๋ว เงาของหลิงฮันค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น จนเข้ามาแทนที่เงาของลั่วจ่างเฟิง
นี่ไม่ได้หมายความว่านางตกหลุมรักหลิงฮันแล้ว แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเลือกคู่ครองจริงๆ นางคงเลือกหลิงฮันแทนลั่วจ่างเฟิง
จักรพรรดินีเผยรอยยิ้ม นี่คือบุรุษที่นางแสนภาคภูมิใจ
“โอหัง!” จื่อเหอปิงอวิ๋นเค้นเสียงและขยับมือกวัดแกว่งดาบยาว ชั้นมิติรอบกายของนางเกิดการบิดเบี้ยว
แก่นกำเนิดนิรันดร์ของนางมีความสามารถในการควบคุมห้วงมิติ ซึ่งเป็นอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายใต้ระดับราชานิรันดร์
หลิงฮันที่กำลังพุ่งทะยานร่างอยู่จู่ๆก็พบว่าความเร็วของตนเองลดลง ทั้งๆที่จื่อเหอปิงอวิ๋นอยู่เบื้องหน้าไม่เกินสิบไมล์แท้ๆ แต่เขาก็ไม่อาจเข้าใกล้นางได้ แม้เวลาจะผ่านไปแล้วครึ่งลมหายใจ
ในขณะเดียวกัน จื่อเหอปิงอวิ๋นได้ปลดปล่อยอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ออกมาอีกครั้ง และควบแน่นเป็นหอกโปร่งใสจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่หลิงฮันด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรรย์
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าความเร็วของหลิงฮันลดลงหรือความเร็วของจื่อเหอปิงอวิ๋นเพิ่มขึ้น แต่เป็นเพราะอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติที่นางควบคุมอยู่ ได้ส่งผลให้ระยะห่างระหว่างนางกับหลิงฮันไกลขึ้น แต่การโจมตีของนางกลับลดระยะลงแทน
เจ้าคิดว่ามีแค่เจ้าคนเดียวที่สามารถใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติได้?
มิติเอกเทศ!
หลิงฮันผลักฝ่ามือออกไปและโคจรทักษะมิติเอกเทศเพื่อลบล้างอำนาจห้วงมิติที่อยู่รอบกาย ‘พรึบ’ ภายในพริบตา ร่างของเขาก็มาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจื่อเหอปิงอวิ๋น
“อะไรกัน!” จื่อเหอปิงอวิ๋นตกตะลึง หลิงฮันก็สามารถใช้อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติได้!
หรือว่าอีกฝ่ายจะมีสายเลือดที่สืบทอดอำนาจห้วงมิติ?
ไม่ใช่ หากเป็นเพียงแค่พลังของสายเลือด ย่อมไม่มีทางเด็ดขาดที่จะสามารถต่อต้านอำนาจห้วงมิติจากแก่นกำเนิดนิรันดร์ได้ เหตุผลเดียวที่นางสามารถยกมาอธิบายได้คือ อีกฝ่ายจะต้องได้รับพลังมาจากการดูดซับสมุนไพรนิรันดร์ที่มีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ
“เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงได้ทำให้สมบัติล้ำค่าเช่นนั้นเสียของ!” จื่อเหอปิงอวิ๋นกัดฟันแค้น หากสมุนไพรนิรันดร์เช่นนั้นมาอยู่ในมือนางล่ะก็ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติของนางจะยกระดับสูงขึ้นกว่านี้ และพลังของแก่นกำเนิดนิรันดร์ก็จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
หลิงฮันเค้นเสียง “สมองของเจ้ามีปัญหารึไง?”
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ทั้งสองล้วนแต่เป็นราชาในหมู่ราชา ฝ่ายหนึ่งมีพลังบ่มเพาะสูงกว่า ในขณะที่อีกคนเป็นสัตว์ประหลาด ต่อให้จื่อเหอปิงอวิ๋นจะเป็นผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ เมื่ออยู่ต่อหน้าหลิงฮัน นางก็ไม่สามารถขึ้นเป็นฝ่ายได้เปรียบ
หลิงฮันผลักฝ่ามือออกไปด้วยทักษะควบคุมเปลวเพลิง “ครืนน’ เพลิงเก้าสวรรค์ถูกควบแน่นกลายเป็นคันศร และพุ่งทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง
เพลิงเก้าสวรรค์มีพลังทำลายที่น่าสะพรึงกลัวในในฐานะเพลิงบรรพบุรุษอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อหลิงฮันใช้พลังของมันออกไปด้วยทักษะควบคุมเปลวเพลิงระดับราชานิรันดร์ พลังของมันยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นไปอีก
จื่อเหอปิงอวิ๋นไม่ได้ระวังศรเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามา นางคิดว่าหลิงฮันฝึกฝนอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เชี่ยวชาญเพียงแค่อำนาจแห่งกฎเกณฑ์วารีเท่านั้น เพราะงั้นการโจมตีด้วยเปลวเพลิงของหลิงฮันจึงสมควรเป็นเพียงการโจมตีทั่วไป
นางกวัดแกว่งดาบในมือขวาปะทะกับหลิงฮัน และผลักฝ่ามือซ้ายออกไปเพื่อตอบโต้ศรเปลวเพลิง ซึ่งกว่านางจะรับรู้ถึงความอันตรายก็สายไปแล้ว
‘ตูม’ เพลิงเก้าสวรรค์ระเบิดพลังออกมากลายเป็นมหาสมุนเปลวเพลิงที่ทรงพลัง
จื่อเหอปิงอวิ๋นส่งเสียงคำรามและรีบโคจรอำนาจห้วงเวลาเต็มพลัง ‘พรึบ’ ห้วงมิติเกิดการบิดเบี้ยวและส่งตัวนางออกมาจากรัศมีเปลวเพลิงในทันที
สมกับที่เป็นผู้ครอบครองแก่นกำเนิดนิรันดร์ และเป็นผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ แม้แต่ในสถานการณ์เช่นนั้นก็ยังเอาตัวรอดได้!
只是……
เพียงแต่…
สายตาของทุกคนจดจ้องไปยังจื่อเหอปิงอวิ๋น และเพ่งมองบริเวณบั้นท้ายของนางที่กระโปรงถูกเผาไหม้ไปบางส่วน จนเผยให้เห็นก้นอันขาวเนียน
นางที่เป็นถึงผู้สืบทอดขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ ใครบ้างจะเคยเห็นก้นของนาง?
แน่นอนว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่าไม่ควรมอง แต่ก็อดที่จะละสายตาไม่ได้ ซึ่งลั่วจ่างเฟิงเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
จื่อเหอปิงอวิ๋นชะงักแข็งค้างไปในตอนแรก ก่อนที่ใบหน้าอันงดงามจะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน นางรีบนำเสื้อคลุมออกมาพันรอบเอวเพื่อปกปิดกระโปรงส่วนที่ถูกเผา และจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาอาฆาต
ถ้าหากสังหารบุรุษผู้นี้ไม่ได้ นางจะไม่ขอเป็นคนอีกต่อไป!