Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1835 ก่อปัญหาเอาไว้มากมาย
หลังจากสังหารเป่ยเสวียนหมิง มีรึที่นิกายอาญาสิ้นแสงจะยอมปล่อยเรื่องนี้ไป?
ตัดเรื่องที่หลิงฮันมีสายสัมพันธ์อันดีกับปรมาจารย์นักปรุงยาสามดาวทั้งสองทิ้งไปได้เลย ต่อให้หลิงฮันเป็นหลานของหนึ่งในปรมาจารย์สองคนนั้น เขาก็ต้องชดใช้การตายของผู้ทอดนิกายอาญาสิ้นแสงด้วยชีวิต!
“ละ… หลิงฮัน!” ฟู่เกาหยุนและคนอื่นๆสั่นสะท้าน ใบหน้าของพวกเขาทุกคนเปลี่ยนเป็นสีเขียว
“ว่าไง มีอะไรรึ?” หลิงฮันหันไปมองพวกฟู่เกาหยุน เมื่อเขาเห็นว่าใบหน้าของทุกคน กำลังแสดงออกถึงความกระอักกระอ่วนเขาก็เข้าใจทันที “ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องคิดมาก หมอนี่ไม่ใช่ผู้สืบทอดคนแรกของนิกายอาญาสิ้นแสง ที่ข้าสังหารไปเสียหน่อย แต่จะว่าไปผู้สืบทอดคนก่อนนั้นมีชื่อว่าอะไรนะ?”
เขาทำท่าทางครุ่นคิด ถ้าหากหนานกงถิงรับรู้เรื่องนี้หลังความตายได้ล่ะก็ เขาคงตายตาไม่หลับเป็นแน่ ตัวเขามีสถานะเป็นถึงผู้สืบทอดของขุมอำนาจระดับสามดาวแท้ๆ แต่หลิงฮันกลับเจ้าไม่ได้แม้แต่ชื่อของเขา
พรวด! ฟู่เกาหยุนและคนอื่นๆสำลักออกมา คำพูดของหลิงฮันนั้น นอกจากจะไม่ทำให้พวกเขาสบายใจแล้ว ยังทำให้พวกเขาหวาดหวั่นยิ่งขึ้นไปอีก
เจ้าบอกว่าสังหารผู้สืบทอดอีกคนของนิกายอาญาสิ้นแสงไปแล้วงั้นรึ?
นิกายอาญาสิ้นแสงมีผู้สืบทอดในระดับโลกียนิพพานอยู่สองคนเท่านั้น นอกจากเป่ยเสวียนหมิงแล้ว อีกคนก็คือหนานกงถิง
“น้องชายหลิง คนคนนั้นชื่อว่าหนานกงถิงรึเปล่า?” ฟู่เกาหยุนกล่าวด้วยความหวังว่าจะไม่ใช่แบบนั้น
หลิงฮันทำท่าปรบมือและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมอนั่นแหละ!”
บ้าไปแล้ว!
ฟู่เกาหยุนและคนอื่นๆอุทานในใจ ก่อนจะมองไปยังหลิงฮันด้วยแววตาว่างเปล่า เนื่องจากไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาใช้บรรยายบุรุษผู้นี้ดี
“โอ้จริงสิ ที่ข้าบอกว่าสังหารจื่อเหอปิงอวิ๋นไปน่ะ ข้าไม่ใช่ล้อเล่นหรอกนะ” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกพวกหลินฟางทั้งสามคนเห็นแล้ว ต่อให้ปิดบังไปก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อได้ยินประโยคนี้ พวกฟู่เกาหยุนก็กลายเป็นหวาดผวา
จื่อเหอปิงอวิ๋นคือใครน่ะรึ?
นางคือผู้สืบทอดของตระกูลจื่อเหอ และเป็นราชาในหมู่ราชาที่สามารถตัดผ่านสวรรค์และปฐพีได้สำเร็จ!
การจะฝึกฝนให้อัจฉริยะระดับนั้นถือกำเนิดขึ้นมา มีเพียงแค่ขุมอำนาจระดับราชานิรันดณ์เท่านั้นที่ทำได้ แถมจำนวนก็ยังมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยอีกด้วย เจ้าจะบอกว่าอัจฉริยะที่ล้ำค่าขนาดนั้นถูกเจ้าสังหารไปแล้วงั้นรึ? นะ… นี่เจ้ายังสร้างปัญหาได้มากกว่านี้อีกรึเปล่า?
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “จริงสิ ลั่วจ่างเฟิงก็ถูกข้าสังหารไปด้วยเหมือนกัน!”
‘ตุบ’ ฟู่เกาหยุนและคนอื่นๆเข่าทรุดลงไปนั่งกับพื้น
หลิงฮันหัวเราะ “ตอนนี้ข้าคือตัวปัญญาอย่างแท้จริง พวกเจ้าอย่ามาใกล้ชิดข้าเกินไปจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นหากมีใครพบเห็น พวกเจ้าอาจจะติดร่างแหไปกับข้าด้วย”
หลังจากจ้องมองหลิงฮันอยู่นานสองนาน ฟู่เกาหยุนก็ถอนหายใจและกล่าว “น้องชายหลิง ข้ามองไม่ออกเลยจริงๆว่าในอนาคตเจ้าจะไปได้ไกลขนาดไหน”
เขาคิดว่าเป้าหมายในการได้ขึ้นครอง เป็นประมุขของขุมอำนาจสามดาวของเขานั้นสูงส่งมากแล้ว แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับหลิงฮัน
อีกฝ่ายสังหารผู้สืบทอดขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ทั้งสองคนไปแล้ว ซึ่งจะต้องถูกตระกูลจื่อเหอและตำหนักเมฆาอัสนีไล่ล่าแน่นอน เพียงแค่ความสามารถในการก่อปัญหาที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ เขาก็เทียบหลิงฮันไม่ได้แล้ว
“เก่าหยุน ไปกันเถอะ” เฉิงจงเร่งเร้า เนื่องจากไม่ต้องการติดต่อสัมพันธ์กับหลิงฮันอีกต่อไป
ฟู่เกาหยุนถอนหายใจ เขาพยักหน้าให้หลิงฮันก่อนจะเดินออกไปจากหุบเขา
กลุ่มของเขาคนอื่นๆก็ตามไปเช่นกัน ทางด้านฟู่เสี่ยวอวิ๋นนั้น นางอดไม่ได้ที่จะชำเลืองสายตามองไปยังหลิงฮันในขณะที่เดินสวนกัน หัวใจของนางรู้สึกบีบรัดเล็กน้อย ถ้าหากหลิงฮันยังอยู่กับตระกูลฟู่ต่อไปล่ะก็ บางทีเขากับนางอาจจะมีสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งต่อกันเหมือนอย่างที่เป่ยเสวียนหมิงว่าก็ได้
แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ เรื่องเช่นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว ถ้าให้นางยืนกรานจะติดต่อสัมพันธ์กับหลิงฮัน แต่ตระกูลฟู่ก็ไม่มีทางยินยอมแน่นอน หากตกเป็นเป้าหมายของขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ไปด้วยล่ะ ชะตากรรมของตระกูลฟู่คงมีอย่างเดียวคือ ถูกลบล้างหายไป
เมื่อพวกฟู่เกาหยุนจากไป หลิงฮันก็กวาดสายตามองไปยังเหอเส่าหลินและผู้ติดตามคนอื่นๆของเป่ยเสวียนหมิง เพียงแต่ว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนที่มีนิสัยชอบเข่นฆ่าอยู่แล้ว เขาจึงทำเพียงแค่ทำลายตันเถียนของคนเหล่านี้เท่านั้น อีกไม่กี่ปีพลังบ่มเพาะของคนเหล่านี้จะค่อยๆสลายไปจนกลายเป็นเพียงมนุษย์ทั่วไป
เมื่อไม่ธุระอะไรแล้ว เขากับจักรพรรดินีก็จับมือกันเดินเข้าไปในหุบเขา
เวลาผ่านไปไม่นาน เรื่องที่หลิงฮันสังหารเป่ยเสวียนหมิงก็แพร่กระจายไปทั่ว แถมยังมีข่าวลืออีกด้วยว่าเขาสังหารลั่วจ่างเฟิงกับจื่อเหอปิงอวิ๋นไปแล้ว เพียงแต่ว่าในเมื่อไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเองผู้คนจึงไม่เชื่อข่าวลือนี้ ทั้งสองคนที่เป็นถึงผู้สืบทอดขุมอำนาจระดับราชานิรันดร์ มีรึจะถูกสังหารง่ายๆ?
แต่จะอย่างไร ในตอนนี้ก็แทบจะไม่มีใครเลยที่กล้ายั่วยุหลิงฮันกับจักรพรรดินี
ถึงแม้พลังของเป่ยเสวียนหมิงจะไม่แข็งแกร่ง แต่เขาก็มีผู้ติดตามที่ทรงพลังคุ้มกันอยู่ข้างกาย ซึ่งทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแล้ว เขาก็ยังถูกหลิงฮันสังหารเอาได้
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าหลิงฮันไม่ได้มีแค่ความกล้าอย่างเดียว แต่ยังทรงพลังมากอีกด้วย
ยิ่งกว่านั้น ถ้าหากหลิงฮันสังหารลั่วจ่างเฟิงกับจื่อเหอปิงอวิ๋นไปแล้วจริงๆ มีรึที่อีกฝ่ายจะไม่กล้าสังหารพวกเขา?
ทุกเส้นทางที่หลิงฮันเดินผ่าน สายตาของทุกคนได้มองไปยังเขาราวกับเป็นเทพแห่งพาหะนําโรคและขยับตัวถอยห่าง ถึงแม้จักรพรรดินีจะงดงามขนาดไหนพวกเขาทุกคนไม่กล้าลงมือ
เพียงแต่ว่าก็ยังมีคนอยู่บางส่วนที่คิดว่า ตราบใดที่มีกำลังพลมากพอและร่วมมือกันลอบโจมตีในทีเผลอล่ะก็ พวกเขาก็ยังมีโอกาสที่จะสังหารหลิงฮันได้สำเร็จ และสามารถนำศพของหลิงฮันไปสร้างความดีความชอบได้
โดยเฉพาะหากเรื่องที่หลิงฮันสังหารลั่วจ่างเฟิงและจื่อเหอปิงอวิ๋นเป็นความจริง ความดีความชอบที่พวกเขาจะได้รับคงมากมายมหาศาล
ยิ่งเมื่อคิดว่าจะได้สตรีที่งดงามหาใครเปรียบ อย่างจักรพรรดินีมาเป็นสินสงครามด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้คนเหล่านี้ตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
คนที่มีความคิดเช่นนี้เริ่มเข้าหากันและไปโน้มน้าวหาแนวร่วมเพิ่ม ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมมีคนที่ส่วนหนึ่งที่ถูกชักจูงในที่สุด