Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1878 ผู้สืบทอดโอวข่าน
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ไม่ทราบว่าผู้สืบทอดโอวมีเรื่องอันใดกับข้างั้นรึ?”
โอวข่านก้าวเดินลงมาอยู่ไม่ห่างกับหลิงฮันมากนัก “เจ้าเป็นคนที่ไม่ว่างเอาเสียเลยนะ การจะได้พบเจอเจ้าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ”
หลิงฮุนอ้าปากอุทาน ‘โอ้’ ออกมาเบาๆ โอวข่านผู้นี้ทำตัวราวกับเป็นสหายเก่าที่ไม่ได้พบเขามานาน ทั้งๆที่เขากับอีกฝ่ายไม่เคยใช่คนคุ้นเคยกันเลยแท้ๆ แต่พูดก็พูดแล้ว เขากับหลู่เซียนหมิงเองก็ไม่ใช่คนคุ้นเคยกันเช่นกัน ที่เขายอมรับคำเชิญไปพักอาศัยในที่พักของอีกฝ่าย ก็เพราะอีกฝ่ายติดหนี้บุญคุณที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้
ด้วยสัมผัสสวรรค์อันแหลมคม หลิงฮันพบว่ามีสัมผัสสวรรค์ของใครอีกสี่คนเพ่งเล็งมายังเขา เพียงแค่เจ้าของสัมผัสสวรรค์ทั้งสี่เป็นเพียงนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานเท่านั้น เขาจึงไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว
ทั้งสี่คนสมควรเป็นผู้คุ้มกันของโอวข่าน เพราะงั้นระดับพลังถึงอยู่เพียงแค่ระดับโลกียนิพพาน
นักปรุงยาไม่จำเป็นต้องมีระดับพลังที่สูงส่ง เนื่องจากข้อกำจัดในการหลอมเม็ดยาระดับนิรันดร์ คือระดับโลกียนิพพานเท่านั้น
“หลิงฮัน เจ้าสนใจมาทำงานให้ข้ารึไม่?” โอวข่านกล่าวตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม
หลิงฮันส่ายหัวและตอบตรงๆ “ไม่สนใจ”
ใบหน้าของโอวข่านกลายเป็นบูดบึ้งเล็กน้อย ด้วยสถานะอันสูงส่งของเขา การที่จะมีใครบางคนปฏิเสธข้อเสนอของเขา นับว่าหาได้ยากยิ่งนัก โชคดีที่เขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้ จึงระงับความไม่พอใจเอาไว้ได้ทันท่วงที
“จะไม่ฟังข้อเสนอของข้าก่อนรึ?” เขาฝืนยิ้มและกล่าว
“ไม่จำเป็น” หลิงฮันส่ายหัว
เกรงว่าอีกฝ่ายคงเข้าใจอะไรบางอย่างผิดอยู่ ตัวเขาในตอนนี้ไม่ได้ทำงานให้กับหลู่เซียนหมิงเช่นกัน เขาเพียงแค่พักอาศัยอยู่ในตระกูลหลู่เท่านั้น
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ที่เมืองวิถีโอสถแห่งนี้นักปรุงยาถือว่าเป็นตัวตนที่ได้รับความเคารพที่สุด
เนื่องจากหลังจากที่บรรลุเป็นนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานแล้ว หากจอมยุทธไม่ได้รับการสนับสนุนจากเม็ดยานิรันดร์ ความเร็วในการบ่มเพาะพลังก็จะช้าเสียยิ่งกว่าเต่าคลาน และหากพลังบ่มเพาะไม่พัฒนาขึ้นอย่างทันท่วงที ชีวิตก็ดับสูญเพราะต้านทานบาปเคราะห์แห่งสวรรค์ไม่ไหว
หากมองในบางแง่แล้ว ชีวิตของจอมยุทธนั้นขึ้นอยู่กับนักปรุงยานั่นเอง
โอวข่านเผยสีหน้าไม่พอใจ ” หลิงฮัน เจ้าอย่าลืมว่าต่อให้เจ้าเป็นอัจฉริยะในศาสตร์วรยุทธ แต่เจ้าก็เป็นเพียงนิรันดร์ระดับโลกียนิพพานตัวจ้อยเท่านั้น อย่าได้หยิงทะนงคิดว่าตนเองสูงส่งเกินไป”
หลิงฮันถอนหายใจ เหตุใดข้าถึงต้องมาเจอตัวโง่งมเช่นนี้ระหว่างทางด้วย?
นี่ข้าไปทำบาปอะไรไว้รึไง?
ใบหน้าของหลิงฮันแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “หลบไปให้พ้น อย่ามาทำให้ข้าเสียเวลา”
“หลิงฮัน!” โอวข่านกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นยิ่งขึ้น “ข้าจะบอกให้ว่า ถึงแม้ในตอนนี้หลู่เซียนหมิงจะมีอำนาจอยู่เหนือใคร แต่ผู้สืบทอดคนอื่นๆก็ไม่ได้อ่อนแอ!”
“ในหมู่ผู้สืบทอดทั้งเก้าของเมืองวิถีโอสถ หากตัดพวกไร้ค่าออกไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้า เจียวปังหรือฉินกู่ยวี่ ก็ล้วนแต่มีคุณสมับิตที่จะรับมือกับหลู่เซียนหมิงได้ หากพวกข้าร่วมมือกัน คนที่จะถูกตัดสิทธิ์ผู้สืบทอดเป็นคนแรกก็คือหลู่เซียนหมิง”
“เจ้าคิดว่าการเลือกต้นไม้พักพิงที่ใกล้เหี่ยวเฉา เป็นความคิดที่ฉลาดรึไง?”
เจ้าตัวบัดซบตนนี้ ต้องหูหนวกตาบอดขนาดไหน ถึงเห็นว่าเขาทำงานให้กับหลู่เซียนหมิงกัน?
หลิงฮันส่ายหัว ด้วยสติปัญญาเช่นนี้เจ้ายังคิดจะแย่งชิงบัลลังก์ของเมืองวิถีโอสถอยู่อีกรึ?
แต่เดี๋ยวก่อน เป้าหมาของเขาก็คือการเป็นผู้ปกครองในอนาคตของเมืองวิถีโอสถเช่นกัน นั่นก็หมายความว่า ทั้งโอวข่านผู้นี้ หรือแม้แต่หลู่เซียนหมิงก็เป็นคู่แข่งของเขาน่ะสิ?
หลิงฮันเกาหัว ในฐานะจักรพรรดิปรุงยา เขามั่นใจทักษะหลอมเม็ดยาของตนเองเป็นอย่างมาก จึงไม่เคยเห็นหลู่เซียนหมิง หรือผู้สืบทอดคนอื่นๆอยู่ในสายตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ใบหน้าของหลิงฮันเผยรอยยิ้ม ในเมื่อโอวข่านผู้นี้เป็นคู่แข่งของเขา งั้นเขาจะยอมเล่นด้วยหน่อยก็ได้
“ถ้างั้น เจ้ามีข้อเสนออะไรให้ข้าล่ะ?” เขาเอ่ยถาม
โอวข่านเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจ เขากะอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
“ข้ามีทางเลือกให้เจ้าสองทาง หนึ่งคือตัดขาดกับหลู่เซียนหมิงและออกจากเมืองวิถีโอสถนี้ไป! หรือสอง เข้าร่วมกับข้าแล้วชีวิตของเจ้าจะรุ่งโรจน์!”
หลิงฮันส่ายหัว “ข้าขอเลือกข้อสาม”
ข้อสามอะไรของเจ้า? ไม่มีข้อสามให้เจ้าเลือกเสียหน่อย!
โอวข่านกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “งั้นรึ เจ้าอยากจะเพิ่มเงื่อนไขงั้นสินะ? ก็ได้ เชิญพูดมา”
หลิงฮันยิ้ม “ข้าจะเป็นผู้ยืนอยู่เหนือเจ้า ส่วนเจ้าก็ต้องเป็นฝ่ายที่ยอมศิโรราบต่อข้า!”
ถึงแม้คำพูดของเขาจะดูเหมือนล้อเล่น แต่คงมีเพียงหลิงฮันคนเดียวเท่านั้นที่มั่นใจและรู้ว่า ตนเองจะได้กลายเป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของเมืองวิถีโอสถในอนาคต เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นโอวข่าน หลู่เซียนหมิง หรือผู้สืบทอดคนอื่นๆก็ต้องยอมศิโรราบต่อเขา
“ฮ่าๆๆ!” ขวีขานระเบิดเสียงหัวเราะ คราวนี้เขารู้สึกเกรี้ยวกราดอย่างแท้จริง นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานตั้วจ้อยกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขางั้นรึ? ต่อให้เจ้ามีพรสวรรค์ในศาสตร์วรยุทธราวกับเป็นลูกรักของสวรรค์แล้วจะอย่างไร?
ที่นี่คือเมืองวิถีโอสถ!
หลิงฮันก้าวเดินขึ้นบรรไดและกล่าว “หลบไปได้แล้ว!”
โอวข่านคิดจะลงมือขัดขวาง แต่เมื่อนึกถึงพลังต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวของหลิงฮันเขาก็ต้องหยุดมือทันที หากเขาลงมือก็มีแต่จะเป็นการสร้างความอัปยศให้ตัวเองเท่านั้น ในฐานะผู้สืบทอดเขาจะยอมเสียหน้าได้อย่างไร?
เค้าเค้นเสียงและสะบัดแขนเสื้อเดินตามหลิงฮันไป “หลิงฮัน ข้าจะแสดงอำนาจของผู้สืบทอดแห่งเมืองวิถีโอสถให้เจ้าเห็น! เจ้ามาที่นี่เพื่อซื้อเม็ดยาสินะ? เหอะ มาดูกันว่าจะมีใครกล้าขายเม็ดยาให้เจ้ารึไม่!”
คนที่มีจิตใจเช่นนี้สมควรแล้วรึที่จะได้เป็นผู้สืบทอด?
หลิงฮันส่ายหัวในใจ เมื่อเทียบกันแล้วหลู่เซียนหมิงดูมีราศีกว่าโอวข่านผู้นี้มากนัก ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมหลู่เซียนหมิงถึงมีอำนาจมากกว่าผู้สืบทอดทุกคน ยิ่งกว่านั้นคือวันนี้ข้าไม่ได้มาเพื่อซื้อเม็ดยาเสียหน่อย เจ้ามั่นใจไปแบบนั้น ไม่กลัวว่าจะหงุดหงิดทีหลังงั้นรึ?
เมื่อพูดถึงเรื่องหงุดหงิดแล้ว หลิงฮันก็เผลอยิ้มเจ้าเล่ห์โดยไม่รู้ตัว ‘งั้นก็เล่นกับหมอนี่หน่อยแล้วกัน’