Alchemy Emperor of the Divine Dao - ตอนที่ 1955 ซื๋อซิวเหวิน
ตอนที่ 1955 ซื๋อซิวเหวิน
“น้องชายหลิง เจ้าเป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ไต่อันจริงๆ งั้นรึ?” หลิวเจี๋ยถามออกไปโดยไม่ลังเล
หลิงฮันพยักหน้า “นั่นคือความจริง”
ดวงตาของหลิวเจี๋ยส่องประกาย และแน่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ “เมื่อเข้าสู่หุบเขาแล้ว พวกเราคงต้องเผชิญหน้ากัน ซึ่งข้าจะไม่ปรานี้เด็ดขาด”
ฮูหนิวเอ่ยแทรกทนที่ “อะไร เจ้าอยากมีเรื่องงั้นรึ?” ท่าทีของนางดูโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก
หลิวเจี๋ยอ้าปากอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เลือกที่จะปิดปากไม่พูดออกไป ต่อหน้าฮูหนิวแล้ว เขาไม่กล้าทําตัวโอหัง
เขาจ้องมองหลิงฮันอย่างลึกซึ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันหลังจากไป
“ดูเหมือนว่าจะถูกรังเกียจเข้าแล้วสินะ?” อู๋เซียนลู่กล่าว
หลิงฮันยิ้มและกล่าวตอบ “สําหรับเรื่องนี้คงทําอะไรไม่ได้ ปล่อยเขาไปเถอะ”
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” อู่เซียนสู่เอ่ยถามอีกครั้ง
หลิงฮันลูบคางและยิ้ม “ค่อนข้างจะพูดยากเสียหน่อย”
ในขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุยกันอยู่นั่นเอง จู่ๆ หลิวหานก็วิ่งเข้ามาและกล่าวกับฮูหนิว “ต่อให้เจ้าเป็นสตรี ข้าก็จะขออยู่กับเจ้า!”
“พรวด” เอี๋ยนเซียนลู่สําลักออกมาทันใด เขากระแอมหลายครั้งก่อนจะมองไป ยังฮูหนิวและหลิวหาน
นี่เขาไม่ได้ออกเดินทางฝึกตนนานไปแล้วรึไงกัน ถึงได้ไม่รู้ว่าป่านนี้โลกพัฒนาไปถึงไหนแล้ว?
“เจ้าช่างเป็นคนที่น่ารําคาญอะไรอย่างนี้!” ฮูหนวกล่าวออกไปอย่างไร้ความอดทน
“ข้ารู้มาว่าเม็ดยานิรันดร์บางชนิด สามารถทําให้เปลี่ยนแปลงเพศได้” หลิวหานกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ข้าครุ่นคิดมาหลายวันแล้ว ข้าชื่นชอบเจ้าจริงๆ และไม่อาจสลัดเจ้าออกจากหัวใจได้!”
“แต่หนิวไม่ได้ชอบเจ้า!” ฮูหนวกอดแขนข้างหนึ่งของหลิงฮันแน่น “หนิวชอบหลิงฮัน และจะชอบหลิงฮันเพียงแค่คนเดียว!”
หลิง..ฮัน!
สายตาของหลิวหานจ้องเขม็งไปยังใบหน้าของหลิงฮันอย่างเย็นชา พร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมา
หากเป็นเช่นนั้น นางก็จะสังหารหลิงฮันก่อน
“ตัวอัปลักษณ์ เจ้าอยากตายงั้นรึ?” ฮูหนิวกล่าวออกไปอย่างโหดเหี้ยมทันที นางมีสัมผัสที่รวดเร็วต่อจิตสังหารที่สุด การที่ตัวอัปลักษณ์ตนนี้กล้าปลดปล่อยจิตสังหารใส่หลิงฮันของนาง ปฏิกิริยาแรกของนางแน่นอนว่าต้องเป็นความรู้สึกอยากเข่นฆ่าอีกฝ่าย
หลิวหานรีบสงบอารมณ์ และยิ้มให้กับฮูหนิวก่อนจะหันหลังจากไป
นางจะสังหารหลิงฮันแน่นอน แต่คนที่ลงมือต้องไม่ใช่ตัวของนางเอง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไร ตราบใดที่จักรพรรดิสักคนลงมือ ซึ่งด้วยความงดงามของนางแล้ว ย่อมมีคนมาติดเบ็ดไม่ยาก
เอี๋ยนเซียนสู่ยิ้มและกล่าว “ข้าพลาดบางอย่างไปจริงๆ สินะ?” ไม่น่าแปลกใจที่ทําไมหลิงฮันถึงบอกว่าเรื่องนี้มันพูดยาก ดูเหมือนว่ามันจะซับซ้อนมากจริงๆ
เหลาซงและซานจี้ถงเองก็มาถึงแล้ว ตอนนี้จักรพรรดิของอาณาเขตสวรรค์ไม่อัน ต่างมาอยู่รวมกันพร้อมหน้า แต่สําหรับอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งนั้น ด้วยจํานวนของจักรพรรดิที่มากกว่า จักรพรรดิที่มาถึงจึงมีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และทุกคนต่างมีอันดับเกินกว่าสิบขึ้นไป
เหล่าจักรพรรดิของทั้งสองอาณาเขตสวรรค์ ยืนอย่างสุขุมอยู่ด้านหน้าทางเข้า โดยที่ไม่มีการปะทะใดๆ กัน
ครืนน!
เสียงสนั่นที่ราวกับเสียงคํารามของมังกรหรือพยัคฆ์ดังขึ้น หมู่เมฆที่ล่องลอยอยู่บนหุบเขาแหวกออก พร้อมกับร่างของรุ่นเยาว์ผู้นี้กําลังพุ่งทะยานมาจากระยะที่ห่างออกไป อีกสวมชุดที่ดูย้อนยุคเป็นอย่างมาก ร่างท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า ในขณะที่ร่างท่อนล่างถูกปกคลุมไว้เพียงผ้าคลุมที่ทําจากหนังสัตว์ เส้นผมของเขาถูกถักเป็นเปียหลายสิบเส้น และแต่ละเส้นมีกระดูกที่ดูราวกับหยกมัดเอาไว้
เขาพุ่งทะยานร่างมาดั่งสัตว์อสูร เกรงว่าใครก็ตามที่ขวางทางเขา จะต้องถูกชนทุกร่างแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ซื๋อซิวเหวิน!” เอี๋ยนเซียนลู่ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและกําหมัดแน่น ดวงตาทั้งสองของเขาลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงร้อนระอุ
คนผู้นี้คือซื๋อซิวเหวิน?
หลิงฮันมองไปยังคนเถื่อนที่พุ่งทะยานเข้ามา เพียงแต่ในขณะที่จ้องมอง ดวงตาของเขาก็ได้ส่องประกายยั่วยุไปยังอีกฝ่าย ทําให้ซื๋อซิวเหวินหันหน้ามามองที่หลิงฮันเช่นกัน ดวงตาของอีกฝ่ายระเบิดคลื่นดาบอันทรงพลังออกมาเข้าใส่หลิงฮัน
หลิงฮันไม่แยแส และระเบิดคลื่นดาบออกมาจากดวงตาเข้าตอบโต้อีกฝ่ายเช่นกัน
ตูม!
คลื่นดาบทั้งสองเข้าปะทะกันจนสลายไป การโจมตีนี้ทั้งสองฝ่ายเสมอกัน
ซื๋อซิวเหวินแสยะยิ้ม การโจมตีเมื่อครู่เขาใช้พลังไปเพียงหนึ่งส่วนเท่านั้น ซึ่งเขาเชื่อว่าหลิงฮันจะต้องใช้พลังมากกว่าเขาแน่นอน ฝ่ายที่เหนือกว่าจึงเป็นเขา
บุรุษผู้นี้เหมือนกับฮูหนิวเล็กน้อย ในเรื่องของความโหดเหี้ยม และกลิ่นอายแห่งบรรพกาล
ซานจี้ถงและเหลาซงชะงักแน่นิ่ง นี่น่ะจักรพรรดิของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง?
แข็งแกร่งมาก!
แม้แต่จักรพรรดิอย่างพวกเขาทั้งสองยังรู้สึกเช่นนี้ ไม่ต้องกล่าวเลยว่า จอมยุทธคนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร พวกเขาแต่ละคนหมดสิ้นจิตวิญญาณที่จะต่อสู้ และร่างกายสั่นเทิ้ม
กับศัตรูเช่นนี้ จะไปเอาชนะได้อย่างไร?
ยิ่งกว่านั้นซื๋อซิวเหวินยังแข็งแกร่งเป็นอันดับที่เก้า ของเหล่าอัจฉริยะในอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งเท่านั้น ถ้าเป็นแปดอันดับที่ต่ำกว่านี้ล่ะ จะแข็งแกร่งขนาดไหน? มีคํากล่าวว่าอัจฉริยะสามอันดับแรกนั้น แต่ละคนล้วนแต่เป็นสัตว์ประหลาด ที่หนึ่งฝ่ามือก็สามารถบดขยี้ท้องฟ้าได้ ความแข็งแกร่งของทั้งสามนั้นน่าอัศจรรย์เกินกว่าจะพรรณนา
“ข้ากําลังคันไม้คันมืออยู่พอดี ใครต้องการสู้กับข้าบ้าง?” ซื๋อซิวเหวินครามเสียงดัง แม้เขาจะกล่าวว่าใครที่ต้องการสู้กับเขาบ้าง แต่สายตาของเขากลับจดจ้องไปยังหลิงฮัน
ในมุมมองของเขา หลิงฮันนั้นเป็นคนที่มีพลังต่อสู้เกือบจะสู้กับเขาได้ ด้วยนิสัยที่ชอบเหยียบย้ำอัจฉริยะแล้ว
เขาจึงต้องการบดขยี้ความมั่นใจของอีกฝ่ายให้สิ้นซาก
“จ้าลิงป่า หนิวจะชัดเจ้าเอง!” ฮูหนิวกระโดดออกมา และโจมตีโดยไม่รีรอ
“พรึบ” ด้านหลังของนางปรากฏเงาของมัจฉาวายุภักษ์ ฮูหนิวเองก็มีนิสัยชอบบดขยี้เหยื่อและมองซื๋อซิวเหวินแข็งแกร่งพอจะเป็นคู่ต่อสู้
“แข็งแกร่ง!” ซื๋อซิวเหวินอุทานด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะส่งเสียงคํารามปลดปล่อยการโจมตีปะทะกับฮูหนิว ร่างของเขาสั่นสะท้าน พร้อมกับเงายักษ์อําพันได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง เงายักษ์กวัดแกว่งแท่งหินขนาดใหญ่โจมตีใส่มัจฉาวายุภักษ์
การโจมตีของเงาทั้งสองคืออํานาจที่เกิดขึ้นจากแก่นกําเนิดนิรันดร์ ตามหลักแล้วพวกมันคือตัวตนที่อยู่ในระดับราชานิรันดร์ ที่ในตอนนี้สามารถปลดปล่อยพลังออกมาได้เพียงเล็กน้อย
“ตูม” การโจมตีของยักษ์อําพันและมัจฉาวายุภักษ์เข้าปะทะกัน อํานาจแห่งเต๋ระเบิดคลื่นพลังที่เต็มไปด้วยตราประทับจํานวนนับไม่ถ้วนออกมา
ทั่วท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงสว่างสีขาว จนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้แม้แต่นิดเดียว